ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

วรวรรณ ธาราภูมิ

 

6 ชั่วโมงที่แล้ว

 

 

 

หนี้สาธารณะไม่ใช่เรื่องไกลตัว

-------------------------------

ทีมจัดการกองทุนบัวหหลวง โดย เศรณี นาคธน

30 ตุลาคม 2556

 

หลายคนต้องได้เคยยินข่าวหรือข้อถกเถียงเกี่ยวกับหนี้สาธารณะทั้งในบ้านเราและต่างประเทศกันมามากพอดูแล้ว ซึ่งก็มีทั้งคนเชียร์และคนแช่งในทุกประเทศ ดังนั้น การที่บ้านเราเห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องนี้จึงไม่ได้แปลกอะไรเลย

 

อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มักมองว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบาย จึงเป็นเรื่องห่างไกลตัวเราแต่ละคน แต่ Investopedia ระบุว่า “หนี้สาธารณะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงและมีผลกระทบกับชีวิตประจำวันของประชาชน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

 

Investopedia ชี้ว่า เมื่อรัฐบาลมีค่าใช้จ่าย เช่น เงินเดือนข้าราชการ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินนโยบายต่างๆ มากกว่ารายได้ซึ่งโดยหลักมาจากภาษี

 

นั่นก็คือรัฐบาลเลือกดำเนินงบประมาณขาดดุล และเมื่อรายได้ไม่พอ รัฐบาลก็ต้องเติมส่วนที่ขาดไปด้วยการกู้ยืมในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล กู้จากธนาคาร ซึ่งจะเป็นหนี้ของภาครัฐที่ใช้ชื่อเรียกว่า “หนี้สาธารณะ”

 

คำว่า “หนี้สาธารณะ” ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าสาธารณชนเป็นเจ้าของ เป็นผู้รับผิดชอบ จะเปลี่ยนรัฐบาลไปกี่ชุด กี่พรรค หนี้สาธารณะก็จะเป้นหนี้ของประชาชนทุกคนอยู่ดี ประชาชนทุกคนจึงต้องมีภาระในการชำระหนี้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนในรุ่นปัจจุบันหรือแม้แต่รุ่นลูกรุ่นหลาน

 

ดังนั้น การก่อหนี้สาธารณะที่ดีจึงต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศให้ เกิดผลดีในระยะยาว เช่น การลงทุนในระบบสาธารณูปโภค การศึกษา เป็นต้น ไม่ใช่เพื่อนำมาสนับสนุนการบริโภคในปัจจุบันด้วยการให้รัฐสวัสดิการในรูปแบบ ต่างๆ ซึ่งมีเพียงคนในรุ่นปัจจุบันเท่านั้นที่ได้รับผลประโยชน์

 

ด้วยเหตุผลดังกล่าว การวัดว่าเงินที่กู้มานั้นคุ้มค่าและมีระดับที่เหมาะสมหรือไม่จึงควรเทียบ กับผลประโยชน์ที่จะได้รับในอนาคตจากการก่อหนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินได้ยาก นักเศรษฐศาสตร์จึงนิยมใช้ GDP เป็นฐานในการวัดระดับหนี้สาธารณะแทน

 

เรื่องนี้ Investopedia ชี้ว่า ที่จริงแล้ว GDP อาจไม่ใช่ตัวแทนที่เหมาะสม เนื่องจาก

----------------------------------------------------------------------------------

1. GDP เป็นฐานที่กว้างเกินไป เนื่องด้วยหนี้สาธารณะเกิดขึ้นจากองค์ประกอบเพียงส่วนเดียวของ GDP ได้แก่ การใช้จ่ายภาครัฐบาล (G: Government Spending) เท่านั้น

 

2. ตัวเลข GDP อาจคลาดเคลื่อนจากการเก็บข้อมูลไม่ถูกต้อง นอกจากนั้น ตัวเลข GDP ยังไม่ได้รวมเอาผลกระทบอื่นๆ ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม เช่น ประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยี ผลจากการทำลายสิ่งแวดล้อม ผลจากการทำผิดกฎหมายของภาคธุรกิจ เข้าไปด้วย

 

3. เงินที่รัฐบาลนำมาชำระหนี้ ส่วนใหญ่มาจากรายได้ภาษี ไม่ใช่ GDP ถึงแม้ว่า GDP จะได้ชื่อว่าเป็นรายได้ประชาชาติก็ตาม

 

ทั้งนี้ มีบางกลุ่มเสนอวิธีการอื่นๆ ที่ควรนำไปวัดระดับหนี้สาธารณะได้ดีกว่า ได้แก่ การนำเอาหนี้ที่มีมาหารเฉลี่ยด้วยจำนวนประชากร เพื่อให้ประชาชนสามารถเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าตนเองมีภาระหนี้ที่ต้องร่วมรับ ผิดชอบอยู่เท่าไหร่

 

ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา รัฐบาลได้ก่อหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งอัตราการขยายตัวของหนี้สาธารณะสูงกว่าการเติบโตของประชากรไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าภาระหนี้ที่ประชาชนแต่ละคนต้องร่วมกันชดใช้ก็เพิ่มขึ้นเป็น เงาตามตัวเช่นเดียวกัน

 

นอกจากนั้นแล้ว Investopedia ยังระบุว่า หนี้สาธารณะยังเกี่ยวข้องและมีผลกระทบกับชีวิตของเราโดยตรงอย่างน้อย 5 ด้านด้วยกัน ได้แก่

 

1. ผลกระทบต่อมาตรฐานการดำรงชีวิต

----------------------------------------

การที่รัฐบาลก่อหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความเสี่ยงที่รัฐบาลจะผิดนัดขึ้นชำระหนี้ก็เพิ่มขึ้นในสายตาของเจ้าหนี้และ นักลงทุน ดังนั้น การที่รัฐบาลจะกู้ยืมต่อไปได้อีก รัฐบาลก็ต้องเสนออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพื่อชดเชยความเสี่ยงให้แก่เจ้าหนี้

 

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเงินภาษีที่เราต้องจ่ายให้รัฐบาลทุกปีกลับต้องนำไปจ่าย ดอกเบี้ยให้กับเจ้าหนี้ แทนที่จะถูกนำมาพัฒนาประเทศหรือลงทุนในด้านอื่นๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตของคนในประเทศ

 

2. อาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ

------------------------------

เมื่ออัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมของรัฐบาลที่ถือว่าเป็นองค์กรที่มั่นคงที่สุดในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบรรดาธุร

 

 

 

1385307_10202036411539077_1716188466_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น

 

6 ชั่วโมงที่แล้ว

นิทานเรื่องจริง เรื่องจิ๊กโก๋ปากซอย

 

ตอนที่ 14 เด็กในคาถา (Good Boy!)

ตอน 14/1

 

เล่าเรื่องชาวบ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านที่เคารพจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง

 

จิกโก๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี 1978 ก็จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่

เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิกโก๋ต่างถิ่นมาขัดคอ

มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิกโก๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อคุณน้านัน จำได้ใช่ไหม

 

พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน

ยัง เป็น รัฐบาลที่ออกกฏหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมท้ังการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่านโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอ ๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่าง ๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา

 

เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแพ๊ลบ ๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม

 

แล้วไง จิกโก๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่าสมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ

 

พ.ศ. 2540 (1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ

อ้ายน้อยธารินทร์ รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิกโก๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้

 

เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิกโก๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5

 

 

นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น

 

6 ชั่วโมงที่แล้ว

นิทานเรื่องจริง เรื่องจิ๊กโก๋ปากซอย

 

ตอนที่ 14 เด็กในคาถา (Good Boy!)

ตอน 14/2

 

เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิดปรากฎการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้า

จะต้องไปตามอ่านจากเพจ คุณ Thanong Fanclub น่าจะดีกว่า!)

เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริมทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขาย

แซนวิชดีกว่า

 

อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริง ๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริง ๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส นะ

ภาระกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้าง ว่ามันวางไลน์กันอย่างไร

 

ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี 2505-2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฎิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย

แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ. 2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นเสียอธิปไตยทางธุรกิจและการเงิน ให้แก่ต่างชาติ

จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดี คลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน!

 

ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่างชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือเกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับย้อมผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ

 

แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว

ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน

พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงห์โตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์

 

คนไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกล้วภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงห์โตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ

 

เขาว่าโชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิกโก๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล

พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด

 

สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวัน ๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน

 

แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดี ๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหมจ๊ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

.... อุดมการณ์ ฤๅจะสู้อำนาจ และลาภยศ ....

 

...คนที่มีอิทธิพลต่อมวลชน ถ้าไม่เปลี่ยนอุดมการณ์ไปเสียก่อน ก็มักจะอายุไม่ยืน ...

 

... เลนนอน ... มาร์เลย์ ... เกวารา ...

 

ดูเล่นๆครับ

 

....

 

ยังไม่มีเวลาดู แต่เห็นพาดหัวคลิปแล้ว ลุงจิมนี่ถ้าไม่มั่นใจจริง ก็คงเริ่มอายุมากแล้วเพ้อ... เอาใจช่วยให้เป็นอย่างแรก

 

* * * * * * * * * * * * * * *

post-2564-0-56114400-1383221824.jpg

นึกว่าอ่านสคริปต์ของตลกซักคณะหนึ่ง :: รมว. คุยกับ สส.

 

สส : .... ผู้ชายจะต้องถูกบังคับให้ซื้อประกันสุขภาพ ที่ให้ความคุมครองเวลามีครรภ์ด้วยหรือ?

 

รมว : กรมธรรม์มีสิทธิประโยชน์ให้ไม่ว่าคุณจะใช้มันหรือเปล่า และสิทธิประโยชน์หนึ่งก็คือเวลาตั้งครรภ์, ปัญหาทางจิต และ การทำร้ายในครอบครัว

 

สส : และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเบี้ยประกันมันถึงแพงขึ้น ... เพราะว่าเราบังคับให้คนซื้อในสิ่งที่เขาไม่มีทางที่จะได้ใช้ ขอบคุณมากท่านรมว.

 

รมว : กรมธรรม์รายบุคคลนั้นครอบคลุมถึงครอบครัว ผู้ชายมักต้องการความครอบคลุมในด้านการตั้งครรภ์เพื่อครอบครัวของเขา

 

สส : ชายโสด อายุ ๓๒ ปี ไม่ต้องการความครอบคลุมในเรื่องการตั้งครรภ์ ... เอาตามเท่าที่คุณรู้นะ ... ผู้ชายเคยคลอดลูกหรือเปล่า

 

รมว : ไม่

 

พื้นเรื่อง :: โอบามาแคร์ หรือระบบประกันสุขภาพราคาประหยัดนั้น บังคับให้ทุกคนในเมืองลุงแซม มีประกันสุขภาพ ไม่เช่นนั้นจะโดนปรับ โดยเบี้ยปรับแต่ละปีจะค่อยๆแพงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อบีบให้คนซื้อประกัน

 

ระบบโอบามาแคร์ มีการระบุไว้ด้วย ว่า กรมธรรม์ ที่ได้มาตรฐานกฏหมายใหม่ จะต้องครอบคลุมเรื่องนั้น เรื่องนี้ ฯลฯ ซึ่งรวมไปถึงเรื่องที่เจาะจงเพศด้วย เช่น การทำแท้ง, ยาคุม, และการตั้งครรภ์ เป็นต้น ...

 

นั่นหมายความว่า ชาวมะกันโดนปธน.เล่นละครแหกตา .... เพราะก่อนหน้านี้ เขาได้สัญญาไว้ว่า ถ้าคุณมีประกันอยู่แล้ว คุณจะสามารถใช้กรมธรรม์เดิมได้ต่อไป ... แต่หลังจากกฏหมายเริ่มมีการบังคับใช้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ๑)กรมธรรม์ราคาประหยัดที่หลายๆคนมีอยู่แล้ว ถูกยกเลิก เพราะไม่ได้มาตรฐานโอบามาแคร์, ๒)ถ้าอยากได้กรมธรรม์ที่ให้ความคุมครองแบบเดิม ต้องควักเงินมากขึ้น, ๓)รัฐบานขู่บริษัทประกันว่า ถ้ากระโตกกระตาก ทำให้ข้าเสียหน้า เอ็งจะโดนไล่กระทืบ

 

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: ถ้า เจอแมงป่อง เจอเสือ เจองู เจอแขก เจอนักการเมือง พร้อมๆกัน ควรเลือกแพ่นกบาลนักการเมืองก่อน เพราะพิษร้ายสุด

 

"ถ้าคุณชอบกรมธรรม์ของคุณอยู่แล้ว คุณก็ใช้กรมธรรม์นั้นต่อไป" -- ปธน.

 

http://www.foxnews.c...ents-on-dollar/

http://www.zerohedge.com/news/2013-10-30/obama-administration-forcing-insurance-companies-keep-quiet-about-obamacare-problems

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

 

2 ชั่วโมงที่แล้ว

 

 

 

อียูห้ามสหรัฐฯเข้าถึงข้อมูลการเงินผ่านระบบ SWIFT

 

ในอดีต ประเทศใดก็ตาม ไม่ว่าอิหร่าน หรือเกาหลีเหนือโดนแซงค์ซั่นทางการเงิน คือปิดก๊อกระบบSWIFTถือว่าเหมือนกับโดนฆ่าทั้งเป็น เพราะว่าจะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับระบบแบงค์ระหว่างประเทศไทย ระบบSWIFTนี้บริษัทเบลเยี่ยมดูแลอยู่

 

ภายหลังมีข่าวจากจอมแฉ Edward Snowdenว่าสหรัฐฯมีการสอดแนมประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งผ่านInternet โทรศัพท์ มือถือ ทำให้ยุโรปยั่วสหรัฐฯมาก โดยเฉพาะข่าวที่ว่าNational Security Agency มีการดักฟังผู้นำโลก35ประเทศ รวมทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส ล่าสุดสหภาพยุโรปโหวจลงโทษสหรัฐไม่ให้เข้าถึงระบบฐานข้อมูลทางการเงิน ของSWIFTเพื่อเป็นการลงโทษ เพราะมีข่าวว่าสหรัฐฯโจรกรรมเข้าไปในระบบSWIFTด้วย

 

แสดงว่าสหรัฐฯกำลังโดนโดดเดี่ยวออกมาเรื่อยๆ ยักษ์กำลังจะโดนล้ม

 

thanong

31/10/2013

 

 

https://www.transcend.org/tms/2013/10/eu-parliament-votes-to-suspend-us-from-financial-databank-to-avoid-spying/

 

 

 

1384022_170042399858809_1496579285_n.jpg

 

 

 

 

 

 

 

ตุรกีเข้าอ้อมกอดหมีขาวแล้ว

 

ตุรกีได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นเขตปลอดภาษีร่วมกับรัสเซีย คาร์ซัคสถานและเบลารุซ (Custom Union of Russia, Kazakhstan and Belarus) แล้ว สะท้อนให้เห็นว่า ตุรกีเห็นว่าอนาคตของประเทศอยู่ที่การเชื่อมสัมพันธ์กับรัสเซียมากกว่าการเข้าร่วมกับสหภาพยุโรป หรือเป็นพันธมิตรนาโต้

 

นอกจากนี้ ตุรกีกำลังพิจรณาซื้ออาวุธจากจีน มีมูล$3.4พันล้านเป็นระบบขีปนาวุธป้องกันประเทศ ทั้งๆที่เป็นสมาชิกของนาโต้ ข่าวนี้ทำให้สหรัฐฯและนาโต้ยั่วตุรกีมาก แต่มันแสดงให้เห็นว่าตุรกีกำลังหันเหทั้งเศรษฐกิจ การเมื่อง ความมั่นคง และการทหาร ตุรกีมาอยู่ฝั่งรัสเซียและจีน เพื่อความอยู่รอด

 

เรียกได้ว่าเป็นการเลี้ยวกลับลำ180องศาเลยทีเดียว

 

thanong

31/10/2013

 

http://blogs.the-american-interest.com/wrm/2013/10/28/turkey-mulls-buying-missiles-from-china-snubbing-nato/

 

 

 

 

581058_170040239859025_582091799_n.jpg

 

 

 

 

 

 

 

 

ปูตินเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก

 

Forbes ให้ผู้นำรัสเซียปูตินเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ส่วนโอบามารั้งอันดับสอง

 

ปูตินกำลังก้าวขึ้นเวทีโลก เพราะสามารถสร้างอิทธิพลในตะวันออกกลางได้ และกำลังจะแทนที่สหรัฐฯ ล่าสุดซาอุฯต้องการทบทวน ความสัมพันธ์ทุกอย่างกับสหรัฐฯ เพราะว่าสหรัฐฯไม่ยอมจัดการซีเรียและอิหร่าน มีผลคืซาอุฯอาจล้มระบบเปโตรดอลล่าร์ ไม่ขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์และไม่ถือบอนด์สหรัฐฯอีกต่อไป

 

ผู้นำอันดับสามคือฉี จิ้นผิงของจีน ตามมาด้วยโป๊ปฟรานซิส แองเจลลา เมอร์เคิลของเยอรมัน Bill Gates, Ben Bernanke..

 

ให้ดูlistได้

 

thanong

31/10/2013

 

http://www.forbes.com/powerful-people/list/

 

 

 

563085_170043623192020_1355596170_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อะไรเอ่ย : ลงทุน ๑๐๐ เหรียญ (อาจจะ) ได้คืน ๑๖ เหรียญ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เฉลย : กองทุนบำนาญของเมืองดีทรอยท์

 

ตอนนี้เมืองดีทรอยท์กำลังปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีแผนที่จะจ่ายเจ้าหนี้คืน ๑๖ เซนต์ ต่อ หนี้ ๑ ดอลล่าร์

ซึ่งผู้รับเงินบำนาญจากเมืองดีทรอยท์ ถือว่าเป็นเจ้าหนี้ที่เข้าข่ายนี้เหมือนกัน

 

http://www.foxnews.com/us/2013/10/30/detroit-bankruptcy-proposal-would-leave-pensioners-with-16-cents-on-dollar/

http://www.zerohedge.com/news/2013-10-27/detroit-pensioners-face-miserable-16-cent-dollar-recovery

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

.....

อียูห้ามสหรัฐฯเข้าถึงข้อมูลการเงินผ่านระบบ SWIFT

.....

 

ถ้าจำกันได้ สมัยที่ลุงแซม พยายามบีบอิหร่านช่วงปีสองปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ลุงแซมทำ คือการตัดอิหร่านออกจากระบบสกุลเงิน ยูโร และ ดอลลาร์ ... นอกจากนั้น ลุงแซมยังตัดอิหร่านออกจากระบบสวิฟท์อีก จนทำให้ต้องมีการแลกความมั่งคั่งด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือสินค้าต่างๆ

 

ระบบสวิฟท์ เป็นระบบการโอนเงินที่มีความครอบคลุมทั่วโลก เวลาจะโอนเงินข้ามประเทศ เกือบร้อยทั้งร้อย ก็ต้องผ่านระบบสวิฟท์ โดนตัดออกจากสวิฟท์ ก็เหมือนโดนตัดแขนขา ทางการเงิน

 

ต่อไปไม่ว่าจะมีความมั่งคั่งมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่เป็นที่ถูกใจของมาเฟีย ก็ไม่สามารถขยับความมั่งคั่งของคุณไปไหนได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินกระดาษ ทองคำ ฯลฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :: ถ้า เจอแมงป่อง เจอเสือ เจองู เจอแขก เจอนักการเมือง พร้อมๆกัน ควรเลือกแพ่นกบาลนักการเมืองก่อน เพราะพิษร้ายสุด

ก่อนจะถูกลากไปสุดซอย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านครับสำหรับทุกข้อมูลข่าวสาร :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก่อนจะถูกลากไปสุดซอย

 

:17 :17

 

ถ้าเป็นนักการฯในประเทศที่เจริญแล้ว แค่ถามคำถามไม่ถูกใจ/ไม่มีมารยาทกับเขา เขาก็ชิงแพ่นกบาลเราก่อนแล้วครับ

 

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดูเล่นๆครับ

 

 

ลุงจิม ::

  • ภายในปี ๒๐๑๖ - ทองจะไปที่ ๓,๒๐๐-๓,๕๐๐ เหรียญ
  • ภายในปี ๒๐๒๐ - ถ้าทองได้รับการปลดปล่อย จะอยู่ที่ ๕๐,๐๐๐ เหรียญ

ถ้าถึงเป้าเวลาทั้งสอง แล้วราคาที่ว่าเกิดมาจริงๆ

ข้าวแกงข้างถนนมันจะจานละกี่ร้อย/กี่พันกันน๊าาา

:17

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น

 

13 ชั่วโมงที่แล้ว

นิทานเรื่องจริง เรื่อง จิ๊กโก๋ปากซอย

 

ตอนที่่ 15 สันดานจิ๊กโก๋

 

ทบทวนสันดานจิ๊กโก๋กันหน่อย สันดานจิ๋กโก๋รุ่นใหม่ คือต้องการคุมไปให้สุดซอย (สำนวนใครนะ คุ้นจัง)

คุมมันให้อยู่หมัด จึงมีคำว่า "ระเบียบโลก" โผล่ขึ้นมา

 

ระเบียบโลก หรือ ทฤษฏี New World Order คืออะไร มี นักวิชาการ เขียนกันยาวเหยียด หลายแบบ หลายคำแปล

 

แต่ สรุปสั้นๆ New World Order คือทฤษฏีสมคบคิด( Conspiracy Theory) ที่พยายามจะให้โลกนี้มีระบบเดียว คือ ระบบทุนนิยม และมีรัฐบาล

เดียว หรือมีผู้มีอำนาจควบคุมอยู่กลุ่มเดียว ส้ันๆ แบบนี้ แต่ความหมายมันกว้าง และลึก

ท่านที่ตามอ่านนิทานมาถึงตอนนี้ คงพอนึกออก

 

คุมให้สุดซอย หมายความว่า ต้องไม่มีอะไรมาปิดกั้น แม้แต่พรมแดน และกฏ กติกา ต้องออกแบบมา เพื่อรองรับให้ทุนนิยม ขยายได้อย่างไม่มีขอบเขต ขจัดอุปสรรคทั้งปวง พูดง่ายๆ เหมือนกำหนอให้แต่ซอยวันเวย์ รถสวนไม่ได้ จอดไม่ได้ ไม่มีไม้กั้น ไม่มีกรวยวาง ไม่มีแม่ค้ามาขายของข้างถนน ถ้ามี

ต้องขายเฉพาะ สินค้าที่จิ๊กโก๋ ผลิต หรือได้ค่าหัวคิวเท่านั้น ที่สำคัญ ใครอย่าสะเอาะมาเป็นจราจรเด็ดขาด

ถ้ามี ของแท้ต้องติดตรา UN เท่านั้น เพราะจิ๊กโก๋ คุมจราจรอีกต่อ ฮา

 

ทุนนิยม ไม่ต้องการชาตินิยม ทุนนิยมไม่สนใจความเป็นชาติ ไม่ต้องการขนบธรรมเนียม

ประเพณี ไม่ต้องการประมุขรัฐที่เข้มแข็ง

ทุนนิยมเห็นว่า การเป็นชาตินิยม การภักดีต่อประเทศตนเอง ต่างๆเหล่านี้ จะสร้างให้เกิดความหวงแหน และ ความสามัคคี (ทำให้ขะโมย ยาก ฮา )

 

เอ๊ะ นี่ข้าพเจ้ากำลังเขียนเรื่องจิ๊กโก๋ปากซอยหัวทองตาฟ้านะคร้าบ แหม แต่สันดานมันคล้ายกับใครคนหนึ่งจังเลยนะ

ก็มันเรื่องทุน เหมือนกันนี่นะ ทุนนิยม ทุนนิยมเสรี ทุนสามานย์

มันก็เรื่องเดียวกันทั้งน้ัน แล้วแต่ว่า จะเรียกชื่ออย่างไร

 

 

ปี คศ 1990 วันที่ 1 ตุลาคม ประธานาธิบดี George Bush คนพ่อ เสนอนโยบายจัดระเบียบโลกใหม่ ( New World Order) ในที่ประชุมสหประชาชาติ ซึ่งทำให้เห็นธาตุแท้ของนักล่าอาณานิคม หรือจิ๊กโก๋ปากซอย อย่างชัดเจนที่สุด และนโยบายนี้ก็ใช้มาตลอดในทุกรัฐบาลจิ๊กโก๋ ไม่ว่าจะเป็นพรรค Liberal หรือ Democrat

 

แล้วงั้นใครล่ะที่คุมทั่ง จิ๊กโก๋น้ำเงิน จิ๊กโก๋แดง

 

ก็เหล่าบรรษัทข้ามชาติ ที่มีทุน สร้างทุน อาศัยทุน เป็นตัวนำ ไงล่ะ

เมื่อทุนหนา ก็กำหนด กติกา เพื่อให้ทุนเดินไปทางไหนก็ได้ ผ่านประเทศไหน ผ่านรัฐบาลไหน ผ่านองค์กรไหน หรือผ่านบุคคลใดก็ได้ ทั้งหมดทั้งปวง ก็เพื่อให้แน่ใจว่า ทรัพยากร ดินแดน แรงงาน ตลาดทุน ตลาดโลก ฯลฯ ได้อยู่ในการครอบครอง หรืออยู่ในอำนาจ

ควบคุม ของพวกเขา ท้ังหมด หรือเกือบหมด

 

จำได้ไหม คาถา ของคนเล่านิทาน ทุน คือ อำนาจ และ อำนาจ คือ ทุน

คาถานี้ ใช้ได้ทุกแห่ง ทุกสมัย โปรดจำ

 

 

นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น

 

12 ชั่วโมงที่แล้ว

นิทานเรื่องจริง เรื่องจิ๊กโก๋ปากซอย

 

ตอนที่ 16 Return of จิกโก๋

 

จิกโก๋ประกบติดไทยแลนด์สยามเมืองยิ้ม ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

จนถึงสงครามเวียตนามเลิก (1950-1976)

เพราะแผนของจิกโก๋ ฉากหน้า ฉันเป็นจิกโก๋ใหญ่ ปกป้องชาวซอย ที่ถูกจิกโก๋ตาตี่หน้าเหลือง คือระบอบคอมมิวนิสต์ แผ่ขยายมากลืนกินประชาชาติแถบนี้

แต่ฉากของจริง คือจิกโก๋กลัวว่าไอ้ตาตี่มันจะมาชิงลูกค้าเราไป เราจะยอมมันได้ไง

 

หมดสงครามเวียตนาม ความต้องการใช้ไทยแลนด์ แดนสยามก็หยุดลงชั่วคราว

 

จิ๊กโก๋ จำเป็นต้องไปหากินซอยอื่น เพราะว่าการใช้น้ำมันทั่วโลกกำลังพุ่งแรงจากการขยายตัวของอุตสาหกรรม หรือพูดให้ชัด จากทุนนิยมที่เร่งขยายตัว

จิกโก๋ก็ต้องหาทางเอาน้ำมัน มาเป็นของตนเองให้มากที่สุด ก็เลยไปขุดเผือกขุดน้ำมันแถวบ้านคุณอาที่มีน้ำมัน จำได้ไหม แล้วก็เผ่นไปยุ่งถึงอเมริกาใต้ เกิดเรื่องอิหร่าน คอนทร้า (Iran Contra) จนวุ่นไปหมด

 

มันไปหมดทุกแห่งที่จะล้วงกระเป๋าเขาได้ มาจนถึงปี ค.ศ. 1997 จิกโก๋เองขนาดล้วงกระเป๋าเขามา 50 ปี ก็จนเป็นเหมือนกัน เกิดภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด การเพ่นพ่านของ

จิ๊กโก๋ ก็สงบลงเล็กน้อย เพราะมัวแต่จัดระเบียบบ้านตัวเอง

 

ขณะเดียวกันประเทศที่ได้เอกราชใหม่ ๆ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น อินเดีย หรือประเทศที่เปลี่ยนแปลงวิธีบริหารประเทศของตัวเอง เช่น ประเทศจีน ก็ก้มหน้าก้มตาพัฒนาประเทศตัวเองอย่าง เร่งรีบ แต่ เงียบเชียบ

 

สหรัฐไม่เคยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา จับมืออยู่กันแต่ในกลุ่มหัว 3 เกลอหัวแข็งเท่านั้น บวกเอาญาติโยม และพวกฝ่ายผมทองเข้าไปด้วยเฉพาะที่ เห็นว่าพอจะคุยกันรู้เรื่อง ถึงได้เกิด EU สหภาพยุโรป G7, G8 อะไรนู่น เอาญี่ปุ่นตาตี่ไปรวมด้วย (เพราะเป็นภาระของสหรัฐโดยตรง ก็ทะลึ่งไปบอมบ์เขานี่นะ ก็เลยต้องพ่วงเป็นลูกบุญธรรมไปด้วยตลอดเวลา) ที่เหลือ มันเหยื่อนักล่านักล้วงทั้งนั้นแหละ

 

สหรัฐเมินภูมิภาคแถบนี้ไปนาน เพราะคิดว่าเหลือแต่ซากหลังสงครามเวียตนาม

เหมือนแถบยุโรปตะวันออกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

หันมาอีกที ต๊กกะใจ ว้าย ตาเถร ไอ้ตาตี่ทำไมมันโตเร็วกลายเป็น อาเฮียพุงพลุ้ยเดินโปรยเงินไปทั่ว จีนโตเร็วและทำท่าจะโตไปเรื่อย ๆ บวกกับอินเดียและที่รวมตัวกันเรียกว่ากลุ่มประเทศที่เกิดใหม่ทางเศรษฐกิจ คือกลุ่ม BRICS บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน อาฟริกาใต้

คิดง่าย ๆ แค่จีนกับอินเดียรวมกันมีประชากร 3 พันกว่าล้านคน ทั้งโลกนี้มีประชากร 7 พันกว่าล้านคน แค่ 2 ประเทศ ก็เกือบครึ่งโลกแล้ว กำลังซื้อมันจะขนาดไหน แค่นัดกระทืบเท้าพร้อมกัน โลกก็เอียงแล้ว (น่าลองดูนะ ซ่ามาก ๆ ก็ถล่มมันชะเลย)

 

จิกโก๋คิดแล้วก็หัวหมุนกลับ หันมาไทยแลนด์แดนสยามอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2542 /ค.ศ. 1999 ตรงกับปีที่เศรษฐกิจจีนเริ่มโตอย่างชัดเจน

 

แล้วทำไงดีล่ะ ตัวทิ้งเค้าไปตั้งนาน อยู่ ๆ จะกลับมา จ้ะ ๆ จ๋า ๆ เหมือนเดิมกันง่าย ๆ แบบนั้น เค้าไม่ใช่ หญิงคนชั่วเร่ขายชาตินะยะ แล้วตัวจำได้มั้ย ตอนเค้าตูดขาดเหลือแต่คลัง เงินไม่มีให้คงไว้น่ะ เพราะรัฐบาลน้าจิ๋ว กะรัฐบาลปี๋ชวนทำซะบักโกรกน่ะ เขาส่ง

อ้ายน้อยไปหาตัว ตัวทำอะไรกับเขา เขาจำได้นะ ให้ไอ้ IMF มันโหดกะเค้ายังไง ไปถามพวกเจ้าของธนาคาร หวั่งหลี ล่ำซำ หรือคุณป๋าประชัยแห่ง TPI หรือเฮียหวัดเจ้าของวลี ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ดูก็แล้วกันว่าหายช้ำหรือยัง

 

สหรัฐจะกลับมาภูมิภาคนี้ใหม่ ก็ต้องกลับมาแบบไม่ให้เสียเชิง ไม่เสียฟอร์มนักทฤษฎี นักสร้างฉาก

ลองทายดูซิ จิกโก๋จะกลับมาแบบไหน กลับมาแบบเท่ห์ๆ น่ะ ฮา

 

 

นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น

 

7 ชั่วโมงที่แล้ว

นิทานเรื่องจริง เรื่องจิ๊กโกปากซอย

 

ตอนที่ 16 Return of จิ๊กโก๋

ตอน 16/2

 

ช่วงสงครามเวียตนาม สหรัฐคบกับทหารไทย นักวิ่งผลัดจนรู้เช่นเห็นชาติ ว่าชอบกินอาหารจานด่วนแบบไหน หลอกล่อ ต่อรอง เห่กล่อม อย่างไร ถึงจะไม่งอแง

พอเลิกใช้บริการนักวิ่งผลัด พี่เบิ้มก็ไปใช้พวก เด็กในคาถา good boy technocrat

ดังนั้นเวลาจะกลับ มันก็ไม่พ้นประตู 2 ช่องนี่แหละ จะพูดกับใครรู้เรื่อง ไปกว่าพวก

ที่เคยมือ รู้ใจกัน

 

ว่าแล้วจิกโก๋ก็เรียก good boy มาสัมภาษณ์ทีละคน โดยทำเป็นเชิญมาทานข้าว บ้าง ดื่มน้ำชาบ้าง ไล่ไปต้ังกะใหญ่โต ระดับ องคมนตรี ข้าราชการ นักวิชาการ นักการเมืองทุกค่าย นักธุรกิจ จนถึงสื่อ

ถาม ทุกเรื่องลับ แบบเจาะลึก ท่านต่างๆ ก็ช่างตอบกันดีนัก อย่างกะขึ้นสังกัดกับเขา บางเรื่องเป๊นเรื่องในบ้านเราแท้ๆ ไม่เห็นเกี่ยวกับคนนอกเลย ก็ตอบเขาเอา ตอบเอา

 

นอกจากนี้ ก็ ให้พวกซี ในคราบเจ้าหน้าที่สถานทูต เดินไปตามงานเลี้ยงไฮโซต่าง ๆ เก็บข่าวทุกวัน ใครกำลังขึ้น ใครกำลังลง พระราชวงศ์จะเป็นอย่างไร ใบไม้ใบไหนกำลังออกใหม่ ใบไหนกำลังจะร่วง ถามมันไปหมดทุกเรื่องนะแหละ

 

เขาเล่ากันว่าสถานทูตสหรัฐในไทยนะใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อันดับ 1 อยู่ที่อียิปต์ ที่ประเทศไทยนี้มีพนักงานประจำการอยู่ กว่า 2 พันคน และที่ไม่ประจำอีกกว่า 2 พันคน โว้ย! มันเอามาทำไรแยะขนาดนี้ กะจะนับใบไม้ทุกใบหรือไงวะ ก็คงตกค้างตั้งกะสมัยรบสงครามเวียตนามน่ะนะ ตอนนั้นใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบัญชาการรบ ก็จะให้พวกพี่เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ แถบนี้ ใครมันจะเจริญ แถมแสงสีเสียงครบแบบไทยแลนด์ล่ะ

 

หลังจาก ทั้งซัก ทั้งฟอก เด็กในคาถา เดินสำรวจตามงานหรู ไม่ว่าของราชการ ไฮโซ สปอร์ตคลับ ฯลฯ หลายรอบ พี่เบิ้มก็ถอนใจ

อู้ย จากไปไม่เท่าไหร่ ไม่คุมเอง ทำไม ไทยแลนด์ มันไม่ใช่แดนสยามเมืองยิ้ม อย่างเมื่อก่อนนะ นี่มันดันกลายเป็นสนามประลองกีฬาสีนี่นา แต่กีฬาสีนี้มันหนักน่ะ ใครจะอยู่ใครจะไป ไอยังไม่แน่ใจ

 

อย่ากระนั้นเลย เอาที่แน่ ๆ กลับไปที่นักกีฬาวิ่งผลัดดีกว่า เออ! เพิ่งนึกออก บ้านเรานี่มันนักกีฬาแยะนะ ไม่วิ่งผลัดก็กีฬาสี 5 5 5

 

สหรัฐส่งแม่ทัพเรือภาคที่ 7 ที่ประจำอยู่ที่โอกินาวาของลูกกะเป๋ง มาเยี่ยมไทยแลนด์ ทบทวนความสัมพันธ์ที่มีมานานกว่า 50 ปี เรียกว่าเป็นมิตรรักระดับเดียวกับ พวก NATO ร่วมซ้อมรบด้วยกัน ทุกปีในนามของ Cobra Gold ขึ้นบกทีไร น้องหนูแถวพัทยาภูเก็ตก็แฮปปี้กระดี้กระด้า นอกจากนั้นในช่วงเกิดเหตุการณ์ ซึนามิ ไทยแลนด์ก็ใจดีให้ใช้อู่ตะเภาเป็นสนามบินที่ใช้ในการช่วยบรรเทาทุก แต่ข่าวที่ไม่เปิดเผยคือช่วงรัฐบาลทักษิณ ไทยเราอนุญาตให้เครื่องบินอเมริกัน บินขึ้นลงจากอู่ตะเภาเพื่อไปปฎิบัติการรบในอิรักและอาฟกานิสถานด้วยนะ (สมันน้อยไม่เข็ด!)

 

แล้วสหรัฐทำไมถึงอยากกลับมายุ่งในภูมิภาคนี้ใหม่ โดยเฉพาะเข้ามาเดินกร่างใน

ไทยแลนด์เหมือนเดิม แค่เรื่องอาเฮีย จากนั่งแทะเม็ดกวยจี๋ กลายเป็นเจ้าสัวกระเป๋าหนัก มันเกี่ยวอะไรกะสมันน้อยด้วยล่ะ

 

 

นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น

 

53 นาทีที่แล้ว

 

 

แจ้งความ

 

ในตอนที่ 16 ผมเขียนปี พศ และ คศ ช่วงที่จิ๊กโก๋หันมาเกี้ยวสมันน้อย ผิด โดยไประบุว่า

เป็นปี พศ 2542/คศ1999

ความจริงต้องเป็น ปี พศ 2552/คศ2009

 

โปรดรับทราบ และ ขออภัยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นอกจากนี้ ตุรกีกำลังพิจรณาซื้ออาวุธจากจีน มีมูล$3.4พันล้านเป็นระบบขีปนาวุธป้องกันประเทศ ทั้งๆที่เป็นสมาชิกของนาโต้ ข่าวนี้ทำให้สหรัฐฯและนาโต้ยั่วตุรกีมาก แต่มันแสดงให้เห็นว่าตุรกีกำลังหันเหทั้งเศรษฐกิจ การเมื่อง ความมั่นคง และการทหาร ตุรกีมาอยู่ฝั่งรัสเซียและจีน เพื่อความอยู่รอด

 

ส่วนตัวมองว่า...งานนี้ตุรกีอาจจะไม่เสียสักแดง

จีนกับรัสเซีย support เต็มที..แลกกับการแหกคอกนาโต้

ถ้าอเมริกาและนาโต้กลัวเสียหน้า...โดดลงมาเล่นกับตุรกี

ดีไม่ดีอาจจะเป็นการปิดฉากเงินยูโรและดอลล่าร์ก็ได้

และในส่วนตัวก็ยังเชื่ออีกว่า....

งานนี้อเมริกาและนาโต้ก็ได้แต่มองตาปริบๆ...

อาจจะมีเสียงเห่า เสียงครางออกมางี๊ดๆ...แล้วก็ทำอะไรไม่ได้

เพราะรู้ว่า....เกมส์นี้เป็นหมากล่อ....(เหมือนซีเรียนั่นแหละ)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

งานนี้เป็นหนามหยอกอกอเมริกาและนาโต้...

 

ถ้าไม่ทำอะไร...ชาติเล็กๆก็จะปลีกตัวออกจากนาโต้เรื่อยๆ...

 

แต่ถ้าจะใช้กำลัง..หรือมาตรการเข้าจัดการงานนี้ก็ต้องเหนื่อยและใช้ทุนมหาศาลแน่

 

และสถานการณ์ตอนนี้...ยูโรและดอลล่าร์จะกล้าพิมพ์ออกมาเพื่อทำสงครามหรือ...

 

ดูดีดี...งานนี้เหมือนสถานการณ์มันมาจวบประเหมาะ....

 

หรือถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี....

 

หรือถูกฉกฉวยจากสถานการณ์ก็ไม่รู้...555

 

เหมือนถูกเซาะฐานที่มั่น...และพันธมิตรยังไงก็ไม่รู้

 

ต้องติดตามดูกันต่อไปละครับ

ถูกแก้ไข โดย Phormaew

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

 

วันนี้ เวลา 10:00

 

 

 

จีนน่าจะซื้อJP Morganไปเรียบร้อยแล้ว

 

ข่าวของDavid Wilcockที่รายงานว่า บุชบอกกับพ่อมดเบนว่า จีนได้ซื้อJP MorganจากตระกูลRockefeller ไปเรียบร้อยแล้ว

 

ข่าวนี้มีน้ำหนัก น่าจะเป็นจริง

 

เพราะว่าเดือนตุลาคม มีรายงานว่าFosun International ของจีนได้ซื้อ One Chase Manhattan Plaza ของตะกูล Rockefeller และเป็นสำนักงานใหญ่ของJP Morgan Chase ไปแล้วด้วยราคา$725ล้าน ถ้าขายสำนักงานใหญ่ ก็ต้องขายหุ้นแบงค์ทิ้งไปด้วย

 

แสดงว่าRockefellerรู้ตัวดีว่าระบบการเงินสหรัฐฯไปไม่รอด หลังจากระบบการเงินล่มมาแล้วปี2008 เฟดทำคิวอี อุ้มมาได้ถึง2013 แต่ต่อไปเฟดคงจะพิมพ์เงินอุ้มต่อไปเรื่อยๆไม่ได้ เพราะมีแรงกดดันมากมายจากภายนอกและภายในที่จะล้มทั้งเฟดและเงินดอลล่าร์

 

Rockefeller คงต้องขายหนีตาย ก่อนที่จะเจอแบงค์รัน คือคนแห่ถอนเงิน มาตรการห้ามคนโอนเงินออกนอกเกิน$50,000ที่JP Morganออกมาเมื่อเร้ซๆนี้ อาจจะเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นใหม่Fosun International เพราะว่าอย่างน้อยbank run ไม่สะดวกโยธิน

 

การที่จีนเข้ามาซื้อJP Morgan ซึ่งถือได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงาม crown jewelของระบบการเงินสหรัฐฯได้ แสดงว่าต้องมีการตกลงอะไรกันระหว่างผู้มีอำนาจสูงสุด ที่ไม่เอาพวกRockefellerอีกแล้ว คือโอบามาต่อไปจะไม่อุ้มแบงค์อีก

 

หลังประชุมมหาสมาคมจีนกลางเดือนตุลาคม ทางจีนคงประกาศนโยบายสำคัญๆ ที่เกี่ยวโยงกับบทบาทหยวน เมื่อหยวนขึ้น ดอลล่าร์ก็ต้องไปเป็นของธรรมดา Rockefellerขายแบงค์หนี ตอนนี้ก่อนจะหนีไม่ทัน แต่จะหนีไปใหน? จีนกำลังtake overสหรัฐฯ หลังจากสหรัฐฯเตะถ่วง ไม่ยอมให้take overหลังระบบการเงินล่มปี2008 เพราะว่าสหัฐฯล้มละลายแล้ว ต้องปรองดองหนี้อย่างเดียว ลากไปอีกนานๆ จะไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ

 

thanong

1/11/2013

 

http://money.cnn.com/2013/10/18/news/china-jpmorgan-real-estate/

 

 

 

75508_170235183172864_1567373262_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...