ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เอาลิ้งค์มาฝากครับอ่านสนุกดีจังเรื่อง

หนี้สาธารณะของสหรัฐ และการปรับมุมมองให้เป็นลบจาก S&P

http://www.pantip.co.../I10462951.html

 

(ภาษาไทยนะครับ)

พี่หมอ เข้าไม่ได้อ่ะ web ล่มป่าว คนเข้าเยอะเกิน อิอิอิ :wacko:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พี่หมอ เข้าไม่ได้อ่ะ web ล่มป่าว คนเข้าเยอะเกิน อิอิอิ :wacko:

ก็อปมาให้เลยงั้น

 

เมื่อคืนที่ผ่าน S&P บริษัทจัดอันดับ credit rating ชั้นนำของสหรัฐได้ปรับมุมมอง (Outlook) Sovereign Credit Rating ในตราสารหนี้ระยะยาวของสหรัฐเป็น NEGATIVE หรือเชิงลบนะครับ แต่ยังคงระดับไว้ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด สหรัฐได้รับ AAA มา 70 ปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกท้าทาย โดยบริษัทหนึ่งที่อยู่ในประเทศเดียวกันนี่เอง (ส่วน Dagong ซึ่งเป็น credit rating agency ของจีน ไม่รู้ถล่มสหรัฐไปถึงไหนแล้ว)

 

คำว่า NEGATIVE ในที่นี้นั้นหมายถึง มีโอกาสราวๆ 30% ที่สหรัฐจะถูกลดอันดับภายใน 2 ปี อ่านดีๆอีกทีนะครับ

 

ใช่แล้วครับ ปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่ม PIIGS นั้น “Clear and Present Danger” มากกว่าเป็นไหนๆ เวลาพูดถึงปัญหาพวกนี้รวมๆจะใช้คำว่า Sovereign Debt Crisis แต่ไม่มีใครพูดประเทศ ก. มี Sovereign Debt กี่ดอลลาร์นะครับ มีแต่ Public Debt ขอให้รู้ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ในรายงานต่างๆบ่อยครั้งจะใช้คำว่า Gross Debt ในที่นี้ผมก็จะใช้คำว่า Gross Deb สลับกับ Public Debt/Government Debt นะครับ เพราะมีหลายรูปใช้ Gross Debt บางทีเค้าก็ใช้ Total Public Debt Outstanding (จริง Gross <> Publicเป๊ะๆ)

 

ทีนี้คำว่า Government Debt นั้นจริงๆแล้วเราจะไม่ Serious มาก สิ่งที่เราควรกลัวคือ Government Debt held by Public (ในบาง report ใช้คำว่า Public Debt ซึ่งผมไม่ชอบเลยทำให้งงเปล่าๆ) มันหมายถึงหนี้สาธารณะที่เจ้าหนี้เป็นไม่ใช่หน่วยงานรัฐบาล อาจจะเป็นสถาบันการเงิน ธนาคาร บริษัทต่างๆ หรือแม้แต่ต่างชาติ เพราะหนี้ก้อนหนี้ต้องใช้คืนผิดนัดไม่ได้ (เดี๋ยวจะกลับมาตรงนี้ใหม่)

 

เรามาดูภาพรวมของหนี้สาธารณะในประเทศต่างๆทั่วโลกนะครับ ทั่วโลกมีหนี้รวมกัน 42 ล้านล้าน US$ ประมาณ 1 ใน 4 เป็นของสหรัฐ เข้าใจว่านี่คือ Government Debt held by Public เพราะตัวเลขของสหรัฐในปี 2010 ค่อนข้างใกล้เคียง สีแดงสูง เขียวต่ำนะครับ ใครว่าบ้านเราไม่ดีก็ดูสีนะครับ หรือใครว่า สีแดงไม่ดีก็ขอสังเกตว่า ประเทศเจริญๆจะมีสีแดงเยอะเหมือนกันครับ

 

ก่อนจะอ่านต่อ : กระทู้นี้เกี่ยวกับสหรัฐ ไม่เกี่ยวกับการเมืองไทยนะครับ ผมประกาศตัวอีกทีว่า ไม่ได้ชอบพรรคใดทั้งสิ้น

 

I10462951-0.png

 

 

ระดับของหนี้สาธารณะ (Debt Level) นั้นจริงๆมันคือการสะสมของการขาดดุลงบประมาณ (Budget Deficit) นั่นเอง ถ้าขาดดุลต่อเนื่อง หนี้ก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ทาง IMF ได้ทำ chart สถานะการเพิ่มของระดับหนี้ และระดับการขาดดุลงบประมาณของประเทศต่างๆให้ดูดังรูป มุมบนขวาหมายถึงไม่ดีทั้งสองด้านนะครับ ส่วนมุมซ้ายบนหมายถึงระดับของการขาดดุลลดลงแล้ว แต่หนี้ยังสูงขึ้น (หนี้จะไม่ลดลงจนกว่าจะเกินดุลงบประมาณนะครับ)

 

 

 

I10462951-1.png

ประเด็นเรื่องหนี้สาธารณะ (Public Debt) หรือหนี้ที่รัฐบาลสหรัฐเป็นผู้ก่อหรือผู้กู้ กลับเข้ามาอยู่ในจอเรดาร์ของนักลงทุนตั้งแต่ต้นปี การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงหลังก็มาจากสาเหตุนี้ สิ่งที่ปรากฏในข่าวก็มีอยู่สองสามประเด็นด้วยกัน เริ่มตั้งแต่การหั่นงบประมาณที่จะผ่านสภาซึ่งหากไม่ผ่านก็จะนำไปสู่การหยุดกิจการของรัฐบาล (Government Shutdown) เพราะไม่มีเงินไปจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆเหมือนกันที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 1995 แต่ในที่สุดก็ผ่านไปได้ด้วยการที่ Democrat ยอมหั่นเงินออกไปจากงบประมาณจำนวน 38 พันล้าน US$ น้อยจริงๆเมื่อเทียบกับงบประมาณทั้งหมดของประเทศ

 

ประเด็นต่อไปคือ ทั้ง Democrat และ Republican แข่งกันเสนอแผนลดการขาดดุลงบประมาณในระยะยาว เป้าหมายเดียวกันแต่เงินเยอะมาก ล่าสุดที่ท่าน Obama เสนอมาเมื่อสัปดาห์ก่อนคือ 4 ล้านล้าน US$ ภายในเวลา 12 ปี ดังนั้นไม่มีใครยอมใคร ทั้งสองฝ่ายน่าจะยึดเส้นตายที่หนี้ของสหรัฐจะชนเพดานการก่อนหนี้ภายในกลางเดือนหน้าเป็นตัวประกัน หากตกลงกันไม่ได้ หนี้สาธารณะของสหรัฐจะขึ้นไปถึง 14.3 ล้านล้าน US$ โดยที่ไม่สามารถกู้เงินจากการออกพันธบัตรเพิ่มได้อีกต่อไป หนี้ที่ครบกำหนดชำระก็จะไม่เงินจ่ายก็จะผิดชำระหนี้ หรือ default นะครับ อะไรๆก็ default

 

เนื่องจากรัฐบาลยังสามารถใช้วิธีหยิบยืมองค์กรของรัฐเพื่อประวิงเวลาไปได้อีกหน่อย แต่ถ้าท่าน Obama และท่าน Ryan ยังตกลงกันไม่ได้ ต้นเดือนสิงหาคมนี้สหรัฐจะเป็นประเทศที่ล้มละลายทางเทคนิค (Technical Default) ไม่ใช่ด้าน Credit แบบ Greece กำลังจะโดน

 

ผมเชื่อว่าในที่สุดแล้วเพดานการก่อหนี้ (Debt Ceiling) จะถูกสภาอนุมัติให้ขยายขึ้นไปแน่นอน เค้าทำเป็นประจำครับไม่ใช่ครั้งแรก แต่กว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถตกลงกันได้ถึงรายละเอียดของแผนลดการขาดดุลงบประมาณได้ น่าจะยื้อกันสุดๆจริง

 

 

 

I10462951-2.png

ในปัจจุบันระดับของการขาดดุลในปี 2011 คาดว่าจะอยู่ที่ 10.8% ของ GDP ดูเหมือนจะไม่เยอะมากเหมื่อเทียบกับเพื่อน ตอนแรกๆเค้าไม่ได้อยู่ตรงนี้หรอกครับ เพิ่งจะมีมาหลังจากท่านบุชส่งทหารไปไล่จับตั๊กแตนแถวตะวันออกกลาง แต่จะว่าท่านก็ไม่ถูกเพราะพระเอกในปีหลังๆกลับเป็นบรรดากองทุนสุขภาพและสวัสดิการสังคมต่างๆ

 

ในกราฟแรกส่วนที่เป็นสีจางๆหมายรายจ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว เช่น เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

 

 

I10462951-3.jpg

 

หลายคนคงเริ่มอยากดูงบการเงินของรัฐบาลสหรัฐ ข้อมูลนี้มาจากรายงาน USA Inc. ของ BusinessWeek นะครับ ออกไปตั้งแต่สองเดือนก่อน เป็นข้อมูลของปี 2010 เคยคิดจะเอามาเขียน แต่ไม่ชอบเรื่องการคลังเท่าไหร่ดังที่เคยบอก

 

รัฐบาลสหรัฐในปี 2010 มีหนี้ทั้งหมด 14 ล้านล้าน US$ หรือประมาณ 62% ของ GDP ในปีนั้น

เป็นหนี้ที่อยู่ในมือสาธารณะ 9 ล้านล้าน US$ หรือประมาณ 94% ของ GDP

 

ตอนนี้ขาดไม่กี่ร้อยล้านจะชนเพดาน 14.3 ล้านล้าน

 

ในปี 2010 รัฐมีรายได้ 2.2 ล้านล้าน US$ ส่วนมาจากภาษีเงินได้ของประชาชน และ Social Insurance Tax (โปรดสังเกตว่า ตัวหลังนี่ใกล้เคียงกับตัวแรกมากเลย ซักวันประเทศเราก็อาจจะเป็นแบบนี้เหมือนกันเวลาเรามีคนแก่เยอะๆ) สำหรับรายจ่ายมีจำนวน 3.5 ล้านล้าน US$ กระเป๋าฉีกไป 1.3 ล้านล้านหรือประมาณ 10% ของ GDP ต้องไปกู้เขา ซึ่งในปี 2010 ช่วงปลายๆ ท่าน Obama ก็ได้ท่าน Bernanke ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีเงิน ร่วมปล่อยให้กู้ด้วย

 

ประเด็นสำคัญสำหรับหน้านี้ คือค่าใช้จ่ายทางการทหารของเค้าค่อนข้างสูง อาจเป็นเพราะต้องช่วยจับแมลงทั้งโลก เวลามีมนุษย์ต่างดาวบุกก็ต้องช่วยไล่ (ไม่ตลกนะครับ นี่เป็นวิธีคิดของคนประเทศนี้) แต่ที่หนักหนามากกว่าคือ รายจ่ายที่เรียกว่า Entitlement Program ซึ่งประกอบด้วย เงินประกันการว่างงาน+อื่นๆ ประกันสังคม และตัวแสบ Medicare+Mediaid ซึ่งเป็นการสนับสนุนทางด้านสุขภาพแก่ประชาชน บ้านเราก็มี

 

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือรายจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ หรือ net interest payment พวกพันธบัตรรัฐบาลที่มี coupon rate เค้าจะจ่ายผ่านทางช่องนี้ ปีที่แล้วสหรัฐจ่ายไป 196 พันล้าน ดูเหมือนไม่เยอะ แต่มันหมายถึงเค้าเก็บภาษีได้ 100 US$ ต้องจ่ายดอกเบี้ย 9 US$

 

โดยรวมๆ แล้วในปี 2010 เงินทุก 100 US$ ที่เค้าจ่ายไป 37 US$ มาจากการกู้ครับ

 

 

 

I10462951-5.png

เอามาให้เป็นน้ำจิ้มครับ ไปเปิดอ่านต่อเองtongue.gifมันยาว

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เห็นของไทยสีส้มอ่อนถึงไม่ดีนักแต่ก็ดีกว่าแดงแปร๊ดเลยแน่ ขอบคุณค่ะคุณmor lek :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดูเหมือนตรงแถว "ขั้วโลก" เค้าจะไม่มีหนี้กันเลยนะครับ !17 !17

ถูกแก้ไข โดย leo_attack

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ คุณหมอเล็ก

เป็นบทความที่ดีมากๆ เลยครับ

 

ขออนุญาต copy เพิ่มเติมความเห็นที่คุณ Crazy Rabbit เขียนคอมเมนท์ไว้นะครับ

เห็นใช้สำนวน "เป่านกหวีด" แถมให้กรอบเวลาเป็นเมือน มิ.ย. ด้วย เลยสะกิดใจเป็นพิเศษ

ญี่ปุ่น - ตัวเองตายแล้วครับ เคยบอกตั้งแต่แผ่นดินไหวใหม่ๆว่า จบแล้ว

สหรัฐ - หมดกระสุน แล้วกลายเ้ป็น New Normal ศัตรูก็ยังไม่ตาย รู้ว่าไม่ตายแต่ไม่รู้จะทำอะไร

ยุโรป - เก็บอาวุธเร็วเกินไป ศัตรูยังกระโดดเหย็งๆ PIIGS บอกให้ส่งอาวุธ ไม่ส่งแถมขึ้นดอกเบี้ย

จีน - Overheating

 

QE3 อาจจะมาจากทางญี่ปุ่น เพื่อจะให้่ตัวเองตายสนิทจริงๆ

 

หุ้นที่ขึ้นทุกวันนี้ เพราะเงินหาที่ลงอยู่ ไม่ sustainable

อย่านั่งเก้าอี้เป็นคนสุดท้าย เพลงจะจบ คงไม่ต้องรอให้จบ ค่อยๆนั่งก็ได้ นกหวีดดัีงจะนั่งไม่ทัน

เพลงแรกคงจบสิ้นเดือนมิถุนา กรรมการจะบอกวันที่ 27 เดือนนี้

เพลงต่อไปจะมีหรือเปล่า ไม่รู้ ถ้ามีเก้าอี้คงหายไปตัวนึง

ถูกแก้ไข โดย JohnCM

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถามหน่อยน๊ะครับ ทองแท่ง 99.99 นี่เห็นส่วนต่างซื้อขายมันต่ำกว่า 96.5 ทำไมคนไม่ค่อยเล่นกันครับ

ถ้าเอาจริงๆ คุณเน๊ก และ หมอเล็กคิดว่าเก็บเป็นอะไรดีกว่าอ้ะครับ

 

แล้วตัวแท่ง 99.99 มันขายขั้นต่ำน้ำหนักแท่งละกี่บาทครับ มีค่าอะไรพิเศษมั้ย (คิดว่าน่าจะเหมือน 96.6 เน๊าะ)

 

:lol: :lol: :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถามหน่อยน๊ะครับ ทองแท่ง 99.99 นี่เห็นส่วนต่างซื้อขายมันต่ำกว่า 96.5 ทำไมคนไม่ค่อยเล่นกันครับ

ถ้าเอาจริงๆ คุณเน๊ก และ หมอเล็กคิดว่าเก็บเป็นอะไรดีกว่าอ้ะครับ

 

แล้วตัวแท่ง 99.99 มันขายขั้นต่ำน้ำหนักแท่งละกี่บาทครับ มีค่าอะไรพิเศษมั้ย (คิดว่าน่าจะเหมือน 96.6 เน๊าะ)

 

:lol: :lol: :lol:

 

ซื้อขาย ครั้งละ 1 กก ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ซื้อขาย ครั้งละ 1 กก ครับ

 

กรี๊ดดดดดด 1 กิโล แม่เจ้าาาาา ใช้ตังค์เท่าไหร่กันล่ะนั่น :blink:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แต่ก่อนใครจะไปลงทุนในจีนต้องเอาเงินสกุลของตัวเองหรือโดยทั่วไปจะใช้ us$ ไปแลกเป็นหยวนแล้วถึงจะลงทุนในจีนได้ แต่กฎที่กำลังจะเปลี่ยนใหม่นี้แสดงว่าจีนเริ่มไม่อยากได้ us$ แล้ว

 

แต่การปฎิเสธดอลล่านั้นต้องทำแบบไม่ให้ใครรู้ตัวเพราะยังมีดอลล่าอยู่ในคลัง จีนอีก แปดแสนล้านดอลล่าการจะทำให้มันลดลงอย่า่งมีนัยต้องใช้เวลา ต่อไปนี้จะเห็นข่าวแบบนี้อีกเป็นระยะ

 

จีนกำลังเล่นบทปากอย่างใจอย่างให้กะโลกใบนี้ดู

 

 

 

xBT> CHINA:สื่อเผยจีนเตรียมไฟเขียวให้บ.ต่างชาติทำ FDI สกุลหยวนในปีนี้

เซี่ยงไฮ้--19 เม.ย.--รอยเตอร์

 

ธนาคารกลางจีน (PBOC) กำลังพิจารณาเรื่องการอนุญาตให้บริษัท

ต่างประเทศสามารถใช้สกุลเงินหยวนในการลงทุนโดยตรง (FDI) ในจีนปีนี้

หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตีส์ เจอร์นัลของทางการจีนรายงานในวันนี้

ว่า นายหลี่ โป เจ้าหน้าที่นโยบายปริวรรตเงินตราของ PBOC กล่าวว่า ขณะนี้

PBOC กำลังประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์และสำนักตลาดปริวรรตเงินตราของ

รัฐบาลจีนในการอนุญาตให้มีการใช้สกุลเงินหยวนที่อยู่ภายนอกประเทศจีนในการ

ลงทุนโดยตรงในจีน

นายหลี่กล่าวว่า "เราได้ดำเนินการวิจัยสองรอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

และพบว่าภาคเอกชนมีความต้องการอย่างมากต่อ FDI ในรูปหยวน"

"เราได้กำหนดกรอบการทำงานสำหรับ FDI หยวนแล้ว แต่จำเป็นต้อง

บรรลุความเห็นที่ตรงกันกับภาคธนาคารและวิสาหกิจ ก่อนที่จะยื่นเสนอนโยบายให้

กระทรวงที่เกี่ยวข้องทำการอนุมัติ ซึ่งถ้าหากทุกสิ่งดำเนินไปได้อย่างราบรื่น นโยบาย

ใหม่ก็อาจจะได้รับการประกาศใช้ภายใน 1-2 ไตรมาสข้างหน้า"

ทั้งนี้ จะมีการทดสอบโครงการใหม่เป็นเวลาระยะหนึ่ง โดยจะอนุญาต

ให้บริษัทเพียงบางแห่งเท่านั้นที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้ในขั้นเริ่มต้น

บริษัทบางแห่งที่ใช้หยวนในการทำการค้ากับต่างชาติหรือใช้ในการประกอบ

ธุรกิจในตลาดสกุลหยวนในฮ่องกงได้เก็บสะสมเงินหยวนไว้ในช่วงที่ผ่านมา และปัญหา

เรื่องการอนุญาตให้ส่งเงินหยวนกลับคืนมาในจีนหรือนำมาลงทุนในจีนได้กลายเป็นปัญหา

ที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงนี้ เนื่องจากจีนมีนโยบายควบคุมบัญชีทุน

จีนอนุญาตให้บริษัทต่างๆสามารถใช้หยวนในการชำระบัญชีการค้าได้เมื่อราว

4 ปีก่อน และตลาดหยวนในฮ่องกงก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่รัฐบาลจีนยกเลิก

มาตรการควบคุมหยวนในฮ่องกงในเดือนก.ค.2010

ปริมาณเงินฝากสกุลเงินหยวนในฮ่องกงพุ่งขึ้น 4 เท่า สู่ 3.706 แสนล้าน

หยวน (5.676 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนม.ค.ปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว--จบ--

 

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถามหน่อยน๊ะครับ ทองแท่ง 99.99 นี่เห็นส่วนต่างซื้อขายมันต่ำกว่า 96.5 ทำไมคนไม่ค่อยเล่นกันครับ

ถ้าเอาจริงๆ คุณเน๊ก และ หมอเล็กคิดว่าเก็บเป็นอะไรดีกว่าอ้ะครับ

 

แล้วตัวแท่ง 99.99 มันขายขั้นต่ำน้ำหนักแท่งละกี่บาทครับ มีค่าอะไรพิเศษมั้ย (คิดว่าน่าจะเหมือน 96.6 เน๊าะ)

 

:lol: :lol: :lol:

 

 

กรี๊ดดดดดด 1 กิโล แม่เจ้าาาาา ใช้ตังค์เท่าไหร่กันล่ะนั่น :blink:

 

ผมซื้อขายที่ต่างจังหวัด ได้ทอง 96.5บ้าง 99.99บ้างแล้วแต่ว่าเขามีของแบบใหน

99.99 แถวบ้านผมเขาคิดกันง่ายๆแบบนี้ครับ 1 กก.ของทอง 99.99=68 บาททอง 96.5(คิดมาแล้วราคาไกล้เคียงกัน ต่างกันไม่มาก)

ดังนั้นราคา 1 กก.ก็จะเท่ากับ ราคาทอง96.5ที่ประกาศในวันนนั้น*68 ก็ราวๆล้านสามกว่าๆเกือบล้านสี่ครับ

ไม่มีค่าอะไรพิเศษครับ จะเก็บแบบใหนก็ได้ครับ อิอิ ที่สำคัญก็คือมีเก็บให้มากๆเป็นใช้ได้tongue.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาลิ้งค์มาฝากครับอ่านสนุกดีจังเรื่อง

หนี้สาธารณะของสหรัฐ และการปรับมุมมองให้เป็นลบจาก S&P

http://www.pantip.co.../I10462951.html

 

(ภาษาไทยนะครับ)

 

ขอบคุณ คุณหมอครับ

 

:) :) :)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แต่ก่อนใครจะไปลงทุนในจีนต้องเอาเงินสกุลของตัวเองหรือโดยทั่วไปจะใช้ us$ ไปแลกเป็นหยวนแล้วถึงจะลงทุนในจีนได้ แต่กฎที่กำลังจะเปลี่ยนใหม่นี้แสดงว่าจีนเริ่มไม่อยากได้ us$ แล้ว

 

แต่การปฎิเสธดอลล่านั้นต้องทำแบบไม่ให้ใครรู้ตัวเพราะยังมีดอลล่าอยู่ในคลัง จีนอีก แปดแสนล้านดอลล่าการจะทำให้มันลดลงอย่า่งมีนัยต้องใช้เวลา ต่อไปนี้จะเห็นข่าวแบบนี้อีกเป็นระยะ

 

จีนกำลังเล่นบทปากอย่างใจอย่างให้กะโลกใบนี้ดู

 

 

 

xBT> CHINA:สื่อเผยจีนเตรียมไฟเขียวให้บ.ต่างชาติทำ FDI สกุลหยวนในปีนี้

เซี่ยงไฮ้--19 เม.ย.--รอยเตอร์

 

ธนาคารกลางจีน (PBOC) กำลังพิจารณาเรื่องการอนุญาตให้บริษัท

ต่างประเทศสามารถใช้สกุลเงินหยวนในการลงทุนโดยตรง (FDI) ในจีนปีนี้

หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตีส์ เจอร์นัลของทางการจีนรายงานในวันนี้

ว่า นายหลี่ โป เจ้าหน้าที่นโยบายปริวรรตเงินตราของ PBOC กล่าวว่า ขณะนี้

PBOC กำลังประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์และสำนักตลาดปริวรรตเงินตราของ

รัฐบาลจีนในการอนุญาตให้มีการใช้สกุลเงินหยวนที่อยู่ภายนอกประเทศจีนในการ

ลงทุนโดยตรงในจีน

นายหลี่กล่าวว่า "เราได้ดำเนินการวิจัยสองรอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

และพบว่าภาคเอกชนมีความต้องการอย่างมากต่อ FDI ในรูปหยวน"

"เราได้กำหนดกรอบการทำงานสำหรับ FDI หยวนแล้ว แต่จำเป็นต้อง

บรรลุความเห็นที่ตรงกันกับภาคธนาคารและวิสาหกิจ ก่อนที่จะยื่นเสนอนโยบายให้

กระทรวงที่เกี่ยวข้องทำการอนุมัติ ซึ่งถ้าหากทุกสิ่งดำเนินไปได้อย่างราบรื่น นโยบาย

ใหม่ก็อาจจะได้รับการประกาศใช้ภายใน 1-2 ไตรมาสข้างหน้า"

ทั้งนี้ จะมีการทดสอบโครงการใหม่เป็นเวลาระยะหนึ่ง โดยจะอนุญาต

ให้บริษัทเพียงบางแห่งเท่านั้นที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้ในขั้นเริ่มต้น

บริษัทบางแห่งที่ใช้หยวนในการทำการค้ากับต่างชาติหรือใช้ในการประกอบ

ธุรกิจในตลาดสกุลหยวนในฮ่องกงได้เก็บสะสมเงินหยวนไว้ในช่วงที่ผ่านมา และปัญหา

เรื่องการอนุญาตให้ส่งเงินหยวนกลับคืนมาในจีนหรือนำมาลงทุนในจีนได้กลายเป็นปัญหา

ที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงนี้ เนื่องจากจีนมีนโยบายควบคุมบัญชีทุน

จีนอนุญาตให้บริษัทต่างๆสามารถใช้หยวนในการชำระบัญชีการค้าได้เมื่อราว

4 ปีก่อน และตลาดหยวนในฮ่องกงก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่รัฐบาลจีนยกเลิก

มาตรการควบคุมหยวนในฮ่องกงในเดือนก.ค.2010

ปริมาณเงินฝากสกุลเงินหยวนในฮ่องกงพุ่งขึ้น 4 เท่า สู่ 3.706 แสนล้าน

หยวน (5.676 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนม.ค.ปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว--จบ--

 

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

 

นอกจากนี้แล้ว นายแบ๊งค์ใหญ่ชาติจีนยังบอกว่าจีนต้องลดเงินทุนสำรองลงอีกด้วย(ความหมายก็คือเปลี่ยนดอลล์ในมือไปเป็นทรัพย์สินอย่างอื่นๆ)

Zhou Says $3 Trillion China Reserves Have Risen Beyond ‘Reasonable’ Level

 

http://www.bloomberg.com/news/2011-04-18/china-must-cut-foreign-exchange-reserves-pboc-s-zhou-says-1-.html

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตามข่าวจากลิงค์ข้างล่างนี้ จีนลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล US ตั้งแต่เดือนกุมภาที่ผ่านมาครับ

China Reduce Ownership of U.S. Government Bonds

us-treasury-bonds1-253x300.jpg

http://www.newsandnet.com/china-reduce-ownership-of-u-s-government-bonds/939/

 

สถานการณ์พันธบัตรรัฐบาล US เปราะบางขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ

จีนขายแล้ว ญี่ปุ่นคาดกันว่าหลังซึนามิอาจขายเพื่อนำเงินกลับไปพัฒนาประเทศ

PIMCO กองทุนที่ใหญ่ที่สุด ก็ขายออกจนเกลี้ยง

 

งบที่ออกมาก็ขาดดุลบานเบอะ

ความต้องการใช้เงินก็ยังมีอีกเยอะ

แล้วจะหาเงินมาจากไหนหละเนี่ย

 

แม้จะปากแข็ง แต่ QE3 คงหนีไม่พ้นจริงๆ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอโทษครับ โพสท์ซ้ำ

ขออีดิทลบครับ

ถูกแก้ไข โดย JohnCM

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...