ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

วรวรรณ ธาราภูมิ

 

3 ชั่วโมงที่แล้ว

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

 

16 พฤศจิกายน 2555

 

General News

 

• GDP ประจำไตรมาส 3 ของยูโรโซนชะลอตัวลง 0.1% หลังจากที่ชะลอตัวลง 0.2% ใน ไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ยูโรโซนเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี เนื่องจากวิกฤตหนี้ได้ส่งผลกระทบไปยังประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในภูมิภาค โดย GDP ไตรมาส 3 ของเยอรมนีและฝรั่งเศสขยายตัวเพียง 0.2% ในขณะที่สเปนและอิตาลีชะลอตัวลง 0.3% และ 0.2% ตามลำดับ

 

• อ

ัตราเงินเฟ้อรายปีของยูโรโซนในเดือน ต.ค. อยู่ที่ 2.5% ลดลงเล็กน้อยจากเดือน ก.ย.ที่เป็น2.6% แต่เมื่อเทียบเป็นรายเดือนแล้วอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.2% โดยมีเหตุมาจากราคาพลังงานที่ลดลงประกอบกับอุปสงค์ของภาคเอกชนที่อยู่ในระดับต่ำ

 

• ผลผลิตอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือน ก.ย.ลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.ในขณะที่สหภาพยุโรป (EU) ปรับตัวลดลง 2.3% ในทุกประเภทผลผลิต โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค โดยไอร์แลนด์เป็นประเทศที่ผลผลิตลดลงสูงที่สุดถึง 12.6%

 

• คนงานทั่วทวีปยุโรปรวมตัวกันประท้วงแสดงความไม่พอใจต่อวิกฤติการเงินที่ยืดเยื้อและ ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ที่ลดเงินเดือน สวัสดิการ บำเหน็จบำนาญ และขึ้นภาษี ส่งผลให้สถานที่ราชการหลายแห่งต้องปิดทำการรวมถึงเที่ยวบินกว่า 700 เที่ยวต้องระงับการบิน

 

• ธ.กลางอังกฤษ (BOE) ลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2556 ลงมาอยู่ที่1% จากเดิม 2% โดยจะยังไม่สามารถกลับไปอยู่ในระดับก่อนเกิดวิกฤตได้จนกระทั่งปี 2558 ซึ่งเป็นผลมาจากความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกและปัญหาในยูโรโซน

 

• Moodys’ เตรียมลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษจาก Aaa ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เนื่องจากเศรษฐกิจมีทิศทางชะลอลงต่อเนื่อง และรัฐบาลมีแนวโน้มใช้นโยบายลดการขาดดุลงบประมาณต่อ

 

• ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือน ต.ค.ลดลง 0.8% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน ก.ย. เนื่องจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายอาหารและเสื้อผ้าเพราะกังวลเรื่องเศรษฐกิจ ทำให้ส่งผลลบต่อ GDP ในไตรมาส 4 ได้

 

• ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ย. เพิ่มขึ้น 78,000 ราย มาอยู่ที่ 439,000 ราย สูงที่สุดในรอบ 18 เดือน เนื่องจากผลกระทบของเฮอร์ริเคนแซนดี้ ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวอาจพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ และอาจใช้เวลา 3-4 สัปดาห์จึงจะเห็นผลของพายุที่มีต่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างเต็มที่

 

• ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยหากตัดราคาอาหารและพลังงานออกไปแล้วจะทำให้ขึ้น 0.2% อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ลดลงก็ช่วยหักลบกับราคาอาหารและค่าเช่าที่พักอาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นสัญญาณว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม

 

• รายงานการประชุม FOMC วันที่ 23-24 ต.ค. ระบุว่า คณะกรรมการเห็นควรให้ FED เพิ่มวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรในปีหน้าเพื่อทดแทนมาตรการ Operation Twist (การถือครองพันธบัตรระยะยาวแทนพันธบัตรระยะสั้นเพื่อกดให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ในระดับต่ำ) ที่กำลังจะสิ้นสุดในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ QE3 ได้ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ทางการเงินและสนับสนุนการฟื้นตัวในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาได้

 

• ไปรษณีย์สหรัฐซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีการจ้างงานมากที่สุดในภาครัฐ ประกาศผลขาดทุนในปีงบประมาณ 2555 รวม 15.9 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากปริมาณการส่งไปรษณีย์แบบเก่าลดลงและการแข่งขันจากภาคเอกชนสูงขึ้น ทำให้คาดว่าในปีหน้าจะประสบปัญหาสภาพคล่องจนไม่มีเงินจ้างพนักงานหรือไม่สามารถเปิดให้บริการต่อไปได้ เนื่องจากได้มีการกู้ยืมเงินจนเต็มเพดานแล้ว

 

• ที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ จีน มีมติให้ สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค และเตรียมขึ้นเป็น ปธน.ของจีนในเดือน มี.ค. 2556 ต่อจาก หู จิ่นเทา ซึ่งนับเป็นการถ่ายโอนอำนาจในรอบ 10 ปีของจีน

 

• ก.พาณิชย์ ยืนยันว่า โครงการรับจำนำข้าวไม่ขัดต่อหลักการ WTO และไม่ส่งผลกระทบด้านราคาจนทำให้ประเทศผู้ส่งออกข้าวรายอื่นสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากไทยไม่ได้ขายข้าวในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด แต่กลับส่งผลให้ประเทศเหล่านั้นสามารถขายข้าวได้มากขึ้นเนื่องจากราคาถูกกว่าโดยเปรียบเทียบ

 

Equity Market

 

• SET Index ปรับตัวอยู่ในแดนลบตามตลาดต่างประเทศจากการที่นักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อปัจจัยต่างประเทศเรื่อง Fiscal Cliff ของสหรัฐ การแก้ปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงปัจจัยทางการเมืองในประเทศที่ จะมีการชุมนุมทางการเมือง โดยไปปิดที่ 1,274.02 จุด ลดลง 5.27 จุด หรือ -0.41% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35,355.86 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,331.01 ล้านบาท

 

Fixed Income Market

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลง -0.03% ถึง -0.01% จากการเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นและยาวของต่างชาติ สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. 14 วัน 35,000 ล้านบาท

 

Gold Corner

 

• สภาทองคำโลก รายงานว่า อุปสงค์ทองคำทั่วโลกในไตรมาส 3 ลดลง11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จนมาอยู่ที่ 1,084.6 ตัน โดยมีเหตุหลักจากปริมาณการใช้ทองคำในจีนที่ลดน้อยลงท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในทองคำของจีนมีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองซึ่งจีนนิยมให้ทองเป็นของขวัญแก่กัน

 

Guru Corner : Marc Faber

 

ทุกรัฐบาลในประวัติศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้ควบคุมประชาชนได้ด้วยการทำให้คนต้องพึ่งการให้อย่างใจกว้างของรัฐ รัฐบาลจึงเพิ่มจำนวนคนที่ต้องพึ่งพาผลประโยชน์ที่รัฐให้ ด้วยการให้ที่มากขึ้นไปเรื่อยๆ และขยายการให้ไปยังกลุ่มคนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น

 

ของฟรีพวกนี้แหละที่ทำให้ประชาชนถูกมอมเมาจนยอมให้รัฐบาลมีขนาดใหญ่ขึ้นทุกทีเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจทั้งหมด (หมายถึงสัดส่วนการใช้จ่ายภาครัฐ)

 

คนรับเชื่อในเรื่องของฟรี และนักธุรกิจใหญ่ๆ คนระดับบนๆ ก็รู้ว่าจะทำกำไรได้มหาศาล เพียงใดจากการเติบโตของรัฐบาล แล้วในที่สุดมันก็จะถึงจุดที่ระบบพี่เลี้ยงเด็กจะเลี้ยงทารกไม่ไหวแล้ว และการจะขึ้นภาษีเพื่อนำเงินมาแจกของฟรีอีกก็เป็นปัญหา

 

แต่โชคดีของหลายๆ รัฐบาล ที่มีกระทรวงการคลัง และ/หรือ ธนาคารกลางที่พิมพ์เงินออกมาช่วย

 

ผมคิดว่าในที่สุดระบบการเงินของทั้ง โลกจะต้องถูก Reset ใหม่ ซึ่งไม่ใช่โดยธนาคารกลาง แต่จะโดน Reset ด้วยตลาดอัตราแลกเปลี่ยน หรือตลาดพันธบัตร หรือตลาดหุ้น ที่แตกระเบิด มันจะเกิดขึ้นแน่ๆ ในวันหนึ่งข้างหน้า และเมื่อถึงเวลานั้นเราจะโชคดีเอามากๆ ถ้ามูลค่าของสินทรัพย์ที่เราถืออยู่นี้มีค่าเหลือถึงครึ่งหนึ่งของมูลค่ามันในวันนี้ แล้วจะมีความเจ็บปวดเกิดขึ้น มันจะเจ็บปวดมาก

 

คำถามก็คือ เราจะยอมรับความเจ็บปวดที่น้อยกว่าในวันนี้ด้วยการรัดเข็มขัด หรือเราจะขอเสี่ยงต่อด้วยการเลื่อนปัญหาออกไปเพื่อไปเจอกับสภาพที่ทั้งสังคมจะล่มสลายอย่างสมบูรณ์ แบบภายใน 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า

 

แต่น่าเศร้าใจที่ด้วยระบอบประชาธิปไตยนั้น คนไม่ยอมรับความเจ็บปวดในวันนี้ เขาจะปัดสวะไปให้พ้นๆ แล้วเราก็จะพบกับปัญหาที่มีแต่จะสะสมจนใหญ่ขึ้นไปทุกที และหนักหนาสาหัสจนเกินจะแก้ไขได้

 

ผมไม่คิดว่าที่ตลาดหุ้นตกในช่วงนี้เป็นเพราะปัญหากรีซหรือ Fiscal Cliff เพราะมันจะไม่เกิด Fiscal Cliff ที่หุ้นตกเป็นเพราะว่าผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเริ่มแย่ลงกว่าที่คนคาดไว้ เศรษฐกิจ โลกปีหน้าจะขยายตัวได้ยากหรืออาจจะถึงขั้นติดลบ นั่นละคือเหตุผลที่ผมมองว่าดัชนี S&P จะตกจากจุดสูง 1,470 จุดในเดือนกันยายนปีนี้ลงมาได้อีกอย่างน้อย 20%”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองลงเหรอ งั้นโซรอสก็ติดดอยสิ เพราะซื้อเพิ่ม :53

 

 

November 15, 2012 • 11:36:02 PST

George Soros Recently Increased His Gold Holdings-AGAIN ! - According To 13F Filings

 

Billionaire investor George Soros, who as recently as late 2011 said gold was an asset bubble, now appears quite bullish

 

http://www.bloomberg...uXDKF89NCA.html

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณส้มโอมือ คุณwcg คุณMor Lekและทุกท่านมากๆค่ะ :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณMOR LEK คุณJohncm คุณKungdy คุณwcg คุณส้มโอมือ คุณpromin และเพื่อนๆทุกคนครับ

ขอบคุณทุกข้อมูลข่าวสารครับ...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอามาเตือนขายาวให้ระวังนะคะ ขา B อาจจะยังไม่จบค่ะ

post-2539-0-13653000-1353079194_thumb.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การเงิน - การลงทุน

 

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 08:25

'วีรพงษ์'คิดบวก สหรัฐผงาดผู้นำพลังงาน ปาฎิหาริย์เศรษฐกิจฟื้น

 

 

 

"วีรพงษ์"มองมุมบวก เศรษฐกิจไทยปีนี้อาจโตถึง 6% สหรัฐผงาดผู้นำพลังงาน ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจฟื้น-เอเชียผงาด ศก.จีนไม่ชะลอตัว ไทยได้อานิสงส์

นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศไทย กล่าวบรรยายเรื่อง WFIRST QUARTER 2013 ECONOMIC OUTLOOKW ที่จัดโดย บลจ.กรุงไทย ว่า เศรษฐกิจของไทยปัจจุบันถือว่าดีกว่าเมื่อ 3 ปีก่อนค่อนข้างมาก โดยล่าสุด ธนาคารโลก ได้ปรับประมาณการเติบโตเศรษฐกิจของไทยขึ้นแล้ว

"ผมมองเศรษฐกิจไทยน่า จะเติบโตได้ดีกว่าที่คาดกันไว้ โดยน่าจะโตได้มากกว่า 4.5% อาจจะเป็น 5.5% หรือ 6.0% ก็ได้ และปีหน้าก็ยังดีต่อเนื่อง เพราะข่าวที่เข้ามาในช่วงนี้ ส่งผลดีกับไทยทั้งสิ้น"

นายวีรพงษ์ กล่าวอีกว่า ข่าวที่จะส่งผลกระทบต่อไทยมีหลายเรื่องด้วยกัน ได้แก่ 1.การที่สหรัฐก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกพลังงานสุทธิรายใหญ่ของโลกเทียบเคียง กับซาอุดีอาระเบียในอนาคต จากการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากหินน้ำมัน ที่จะพัฒนามาเป็นเชิงพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้ประเทศที่สนใจจะซื้อก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐไปทำสัญญา ซื้อแล้ว โดยราคาต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน 7 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งการจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐให้กลับขึ้นมาได้ ต้องมีปาฏิหาริย์เช่นเดียวกับยุคไอที ซึ่งเคยพลิกฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐ

หากสหรัฐลดการพึ่งพิงแหล่งพลังงานจากตะวันออกกลาง และก้าวมาเป็นผู้ส่งออกพลังงานสุทธิได้ จะมีกำลังเข้มแข็งเพียงพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ เช่นกัน และหากทำได้จะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจโลก และโครงสร้างทางการเมืองครั้งสำคัญ ข่าวนี้จะทำให้ราคาน้ำมันลดลง ซึ่งเป็นข่าวดีกับไทย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ เมื่อเงินเฟ้อต่ำแรงกดดันที่จะต้องให้ดอกเบี้ยสูงก็ลดลงไปด้วย

"ข่าวที่ว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะไม่ชะลอตัว และยังรักษาระดับการเติบโตเอาไว้ได้ ถ้าเป็นจริงย่อมจะส่งผลในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยเช่น เดียวกัน ไม่เพียงเท่านี้ผลจากน้ำท่วมปลายปีก่อน มีน้อยกว่าที่คาดไว้มาก อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังเติบโตดี อุตสาหกรรมส่งออกยังคงเติบโต ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมก็พลิกฟื้นกลับมาเร็วกว่าที่คาด ไว้เช่นกัน"

ขณะที่ ญี่ปุ่น ค่าเงินเยนยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์และยูโร ส่วนการต่อต้านโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิที่ผ่านมา เป็นประเด็นร้อนที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญในการมองหาแหล่งพลังงานใหม่มาทดแทน พลังงานนิวเคลียร์ในระยะสั้นนี้

ส่วนคนจีนที่ต่อต้านบริษัทญี่ปุ่นที่ไปลง ทุนในจีน ทำให้บริษัทญี่ปุ่นที่มีแผนจะขยายการลงทุนไปในจีน ต้องทบทวนแผนงานกันใหม่ และไทยก็เป็นเป้าในการลงทุนของญี่ปุ่นเช่นกัน ถือเป็นข่าวดีอีก สิ่งเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยที่จะกระทบไทย และจะเกิดขึ้นเร็วด้วย

"ขั้วเศรษฐกิจโลกจะย้ายจากสหรัฐและยุโรป มายังเอเชีย โดยเฉพาะจีน อินเดีย และรัสเซีย รวมทั้งอาเซียนด้วย และในอาเซียน ไทยก็เป็นศูนย์กลางของอาเซียนที่น่าจะได้รับประโยชน์ แต่ต้องรู้จักใช้ประโยชน์ที่มี"

นายวีรพงษ์ กล่าวอีกว่าหลายคนกังวลและมองภาพเศรษฐกิจไทยปี หน้าอาจจะเป็นลบ ก็อาจจะไม่แน่เสมอไป จากปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวที่ได้กล่าวถึงไป ไทยฟื้นตัวจากน้ำท่วมได้เร็วกว่าคาด และยังมีงบลงทุนในโครงการจัดการลุ่มน้ำเจ้าพระยา 3 แสนล้านบาท โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.27 ล้านล้านบาท ซึ่งงบลงทุนเหล่านี้ จะทยอยออกมาปี 2556 และปี 2557 เป็นต้นไป

เงินลงทุนเหล่านี้ จะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทย โดยเม็ดเงินลงทุนเหล่านี้ยังไม่ถึง 50% ของเงินออมในระบบของไทยที่เก็บสะสมมาตลอด 15 ปี อาจกล่าวได้ว่าเงินออมในไทยมีเพียงพอ มีความเข้มแข็งมาก ถือเป็นปัจจัยบวกอีกหนึ่ง นอกเหนือจากเรื่องท่องเที่ยวและส่งออก อีกทั้งราคาน้ำมันก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะกลับขึ้นมาสูง ถ้าเศรษฐกิจจีนไม่ชะลอตัว เศรษฐกิจไทยน่าจะได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เก็งกำไรราคาทองคำ ดูตัวเลขอะไรประกอบดี blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2555 19:59 น.

 

 

blank.gif blank.gif 555000014855201.JPEG blank.gif

นักลงทุนและนักเก็งกำไรราคาทองคำมักจะพยายามหาข้อมูลตัวเลขต่างๆ นานาๆเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจการคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำ ส่วนใหญ่เราก็มักจะดู ดอลลาร์สหรัฐ กองทุน SPDR ราคาน้ำมัน ราคาซิลเวอร์หรือโลหะเงิน ฯลฯ อ่านข่าวนักวิเคราะห์คนนู้นบอกทองขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น มาอีกวันน้ำมันลงแต่ทองขึ้นอยู่ นักวิเคราะห์คนเดิมก็บอกว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้หลายคนอาจจะงงๆว่าตัวเองอ่านไม่เข้าใจหรือนักวิเคราะห์เค้างงๆอยู่แล้ว มาเขียนให้เราอ่านกันแน่ วันนี้จึงอยากนำตัวเลข Correlation ระหว่างราคาทองคำกับตัวแปรอื่นๆมาให้ดูกันเพื่อจะช่วยให้ท่านตัดสินใจง่าย ขึ้นว่า ราคาทองคำกำลังมีความสัมพันธ์กับอะไร

 

ค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ คือความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างตัวแปร 2 ตัวมาเทียบกัน ซึ่งค่าที่คำนวณได้จะอยู่ในช่วง -1 ถึง 1 โดยค่าลบ (-) แสดงถึงความสัมพันธ์ทางลบหรือตรงข้ามกัน ส่วนค่าบวก (+) แสดงถึงความสัมพันธ์ทางบวกหรือทางเดียวกัน

 

หากค่าที่ได้ = 0.50 ถึง 1.00 หรือ r = -0.50 ถึง -1.00 ถือว่าข้อมูลมีความสัมพันธ์ในระดับสูง

 

r = 0.30 ถึง 0.49 หรือ r = -0.30 ถึง -0.49 ถือว่าข้อมูลมีความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง

 

r = 0.10 ถึง 0.29 หรือ r = -0.10 ถึง -0.29 ถือว่าข้อมูลมีความสัมพันธ์ในระดับต่ำ

 

r = .00 ถือว่าข้อมูลไม่มีความสัมพันธ์กัน

 

เรามักจะได้ยินเสมอว่า ถ้าดอลลาร์อ่อน ราคาทองคำจะขึ้น หรือถ้าน้ำมันขึ้น ราคาทองคำจะขึ้น หรือท่านอาจจะเคยได้ยินว่าตลาดหุ้น ทองคำจะขึ้น อะไรประมาณนี้ ซึ่งจากที่เราลองแยกการหาข้อมูลเป็น 2 ชุดเพื่อหาความสัมพันธ์ของราคาทองคำกับตัวแปรเหล่านี้ เราก็พบว่ามันทั้งถูกและผิด

 

ที่ว่าถูกก็คือ ถ้าน้ำมันขึ้นแล้วทองต้องขึ้นด้วย แต่เป็นช่วงก่อนเกิด Subprime ความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันและราคาทองคำอยู่ที่ 0.9135 เรียกว่าความสัมพันธ์เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมาก (เพราะตัวเลขเป็นบวกและเกือบมีค่าเท่ากับ 1) และก็ถูกอีกที่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆของโลก ราคาทองคำก็จะปรับขึ้น เรียกว่ามีความสัมพันธ์ตรงข้ามกัน เพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่ที่ -0.7588 (ยิ่งดอลลาร์อ่อน ราคาทองคำจะยิ่งขึ้น แต่ถ้าดอลลาร์แข็ง ราคาทองคำก็จะลง) แต่หลัง Subprime ค่าเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะทีเดียว

 

ที่นักลงทุนควรจะสนใจคือ ราคาทองคำมีความสัมพันธ์กับตัวแปรตัวไหนมากหลัง Subprime ตามตารางที่ท่านเห็น ตัวที่มีค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์มากๆคือ ราคาโลหะเงิน, ปริมาณฐานเงินของสหรัฐ, ดัชนีผู้บริโภคของสหรัฐ, ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์, และปริมาณทองคำสุทธิของกองทุน SPDR ซึ่งหากท่านมองดูในตาราง จะเห็นว่าค่าที่ได้ใกล้เคียง +1 ทุกตัว แสดงว่าตัวเลขเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับราคาทองคำค่อนข้างมาก หากเราเหลือบหันไปดูค่าที่ได้จากราคาน้ำมัน ปรากฏว่าหลัก Subprime เป็นต้นมา ความสัมพันธ์เหลือแค่ประมาณ +0.4565 เท่านั้น และหันไปดูตัวดอลลาร์สหรัฐค่าที่ได้ก็เหลือแค่ -0.2413 เท่านั้นเอง ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจน์สที่เคยมีค่าความสัมพันธ์เป็น +0.4819 ก่อนหน้า Subprime แต่หลังจากนั้นกลับกลายมามีความสัมพันธ์กับราคาทองคำถึง 0.8196

 

ฐานเงินคืออะไรกัน Monetary Base นี้ประกอบด้วยเงินหมุนเวียนในมือประชาชนและธนาคารพาณิชย์ทั้งพันธบัตรและ เหรียญกษาปณ์ รวมถึงเงินฝากของสถาบันการเงินที่อยู่กับธนาคารกลาง ซึ่งฐานเงินตัวนี้แหละจะสามารถสร้างเงินหมุนเวียนในระบบได้ทวีหลายเท่าตัว เหมือนที่เราเคยได้ยินว่าเงินกำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป

 

ฐานเงินของสหรัฐเกิดจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดนั่นเอง โดยเฉพาะนโยบายเชิงปริมาณหรือ QE เราจึงมักจะเห็นได้ว่าราคาทองคำพุ่งขึ้นแรงเสมอเมื่อมีการพูดถึงมาตรการชนิด นี้

 

สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช

ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก

http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9550000140872&utm_source=twitterfeed&utm_medium=twitter

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announce เขากำลังเตรียมที่จะรื้อเพดานทิ้ง

 

 

 

Treasury Secretary Geithner: Lift Debt Limit to Infinity

 

 

http://cnsnews.com/news/article/treasury-secretary-geithner-lift-debt-limit-infinity

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฮือฮา! “จอร์จ โซรอส” ทุ่มเงินกว้านซื้อทองคำครั้งใหญ่ หลายฝ่ายเชื่อปีหน้าราคาพุ่งกระฉูด blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2555 15:49 น.

 

 

blank.gif 555000014945001.JPEG จอร์จ โซรอส blank.gif เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-แนวโน้มการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มของราคาทองคำครั้งที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า “9 ทศวรรษ” จะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2013 โดยล่าสุดพบความเคลื่อนไหวของพวกนักลงทุนและพ่อมดการเงินทั่วโลก รวมถึง “จอร์จ โซรอส” ที่เริ่มทุ่มเงินซื้อทองคำมากักตุนไว้มหาศาล

 

บรรดานักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างลงความเห็นว่า ราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้น ในทุกๆไตรมาสของปีหน้าและราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 1,925 ดอลลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี ซึ่งหมายความว่า ราคาทองคำจะปรับสูงกว่าขณะนี้ถึง 12 เปอร์เซ็นต์

 

ขณะเดียวกันมีรายงานซึ่งอ้างข้อมูลจาก คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และซื้อขายหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ว่า กองทุน “โซรอส ฟันด์ แมเนจเมนท์” ของนายจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อก้องชาวอเมริกัน เชื้อสายฮังการี วัย 82 ปี ได้เพิ่มการถือครองทองคำ 49 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ถือเป็นความเคลื่อนไหวของโซรอสในการกว้านซื้อทองคำครั้งใหญ่ที่สุดนับ ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา เช่นเดียวกับนักลงทุนอีกหลายรายทั่วโลก

 

อย่างไรก็ดี ไมเคิล วาชอน โฆษกส่วนตัวของโซรอสปฏิเสธที่จะยืนยันข่าวการกว้านซื้อทองคำล็อตใหญ่ดัง กล่าว และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ ต่อสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกเช่นกัน

 

ด้านทอม เคนดัลล์ นักวิเคราะห์จาก “เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี” ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นผู้คาดการณ์ราคาทองคำที่มีความแม่นยำที่สุดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำเฉลี่ยในช่วงไตรมาสสุดท้าย ของปีหน้าอาจอยู่ที่ราว 1,880 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะที่ยอเคน ฮิตซ์เฟลด์ แห่ง “ยูนิเครดิต” คาดว่า ราคาทองคำในช่วงดังกล่าวจะอยู่ที่ราว1,950 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

555000014945002.JPEG blank.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวังว่าไม่ใช่ "จอร์จ โซรอส" จะปั่นข่าวปั่นราคานะครับ

 

กลัวๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...