ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ข่าวจากเวบลุงจิม (ต้นเรื่องมาจาก เอเชีย ไทมส์)

  • ทรานส์แปซิฟิค พาร์ทเนอร์ชิพ ที่ โอบามาพยายามมาขายชาติต่างๆในเอเชีย (ยกเว้นจีน) ไม่ได้รับความสนใจจากชาติต่างๆ
  • ในขณะที่วันที่ ๒๐ ที่ผ่านมา มีการประกาศจากที่ประชุมในกรุงพนมเปญว่า ประเทศต่างๆในตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ จะมีโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาค (โดยที่อเมริกาไม่ได้อยู่ในโครงการนี้ด้วย)

อีกข่าวที่อยากให้คนที่ถือสินทรัพย์ต่างๆในรูปกระดาษอ่าน

  • ซีเอ็มอี (บริษัทเจ้าของบ่อนไครม์เม็กซ์) ออกมาประกาศว่า บริษัทไม่สามารถส่งมอบทองคำจากคลังแห่งหนึ่งได้ เนื่องจากแซนดี้พิโรธ

มีประเด็นน่าสนใจดังนี้
  • แซนดี้มันเป็นเรื่องผ่านมาตั้งเดือนกว่าแล้ว ไม่มีปั๊มน้ำหรือไง?
  • คลังที่มีปัญหา เป็นคลังเก็บทองคำแท่งนะ ไม่ใช่เก็บใบหุ้นที่เป็นกระดาษ
  • คลังแห่งนี้ อยู่ติดกับเฟดที่นิวยอร์ค ซึ่งทางเฟดได้ออกมาประกาศว่าไม่ได้รับผลกระทบจากแซนดี้

ที่มา :

http://anonym.to/?ht...y/NK27Dj02.html

 

http://anonym.to/?ht...s-mailbox-1111/

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

• Warren Buffett ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเชื่อว่าในที่สุด ปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) จะผ่านพ้นไปได้ แต่อาจจะไม่ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นจุดสิ้นสุดของโลก (The End of The world) แต่อย่าง ใดถ้าการเจรจาไม่เสร็จสิ้นภายในปลายปีนี้ ซึ่งปัญหา Fiscal Cliff นี้ไม่ได้มีผลต่อมุมมองการลงทุนของเขาเลย และเขายังคงเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะยาว

วรวรรณ ธาราภูมิ

4 ชั่วโมงที่แล้ว ·

 

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

 

29 พฤศจิกายน 2555

 

-----------------------------------------------------------------------

 

General News

 

• อัตราเงินเฟ้อเป็นรายปีของเยอรมนีอยู่ที่ 1.9% ในเดือนพ.ย. ชะลอตัวลงจาก 2.0% ในเดือนต.ค. เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลงสามารถชดเชยราคาอาหารที่สูงขึ้นได้ และด้วยแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ไม่รุนแรงโดยยังอยู่ต่ำกว่าเป้าอัตราเงิน เฟ้อที่ 2.0% อาจทำให้นโยบายอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีความต่อเนื่องยาวนานมากขึ้น

 

• ยอดค้าปลีกของสเปนในเดือนต.ค. ปรับตัวลงต่อเนื่อง 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวลง 11.5% และฟื้นขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก.ย.ที่ยอดค้าปลีกหดตัวแรงถึง 11% แสดงถึงเศรษฐกิจสเปนที่ยังคงย่ำแย่ แม้ว่าอัตราการหดตัวจะชะลอลง ด้านองค์การความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ได้คาดการณ์ว่าจีดีพีของสเปนจะหดตัวลง 1.3% ในปี 55 และลดลงอีก 1.4% ในปี 56

 

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ อยู่ที่ 73.7 จุด ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 72.2 จุดในเดือนก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องจากประชาชนสหรัฐฯ มีมุมมองที่เป็นบวกเพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มในอนาคตของตลาดแรงงาน

 

• ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐลดลง 0.3% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 368,000 ยูนิต ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะหดตัวลง 0.8% และเพิ่มขึ้นมากกว่า 17% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ S&P’s/Case-Shiller ได้รายงานดัชนีราคาบ้านในสหรัฐฯ สำหรับเดือนก.ย.ที่ปรับเพิ่มขึ้น 3.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐนั้นเป็นไปอย่างค่อยเป็น ค่อยไป

 

• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รายงานยอดสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารกลางในช่วงสิ้นสุดเดือนกันยายน อยู่ที่ 149.9 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 8.9% จากปีก่อน และเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และในช่วงระหว่างเดือนเม.ย.ถึงก.ย. BOJมียอดขาดทุนสุทธิ 2.33 แสนล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับช่วงครึ่งปีงบประมาณแรก ส่วนใหญ่เป็นเพราะการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนที่แข็งค่า และมูลค่าสินทรัพย์ลดลง

• เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัว 7.1% ในไตรมาส 3/55 เป็นผลมาจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้ จากการส่งออกที่สูงขึ้น และในช่วง 9 เดือนแรกของปี เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ขยายตัวขึ้น 6.5% ซึ่งดีกว่าตัวเลขเป้าหมายของทั้งปีที่ 6%

 

• สหพันธ์อุตสาหกรรมเกาหลีใต้ (FKI) รายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (BSI) ในเดือนธ.ค.อยู่ที่ระดับ 82 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 52 และปรับตัวลดลงจากระดับ 92.5 จุดในเดือนพ.ย.เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภาย ในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 100 แสดงว่าบริษัทที่มีมุมมองเป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าบริษัทที่ มีมุมมองเป็นบวก จากกลุ่มสำรวจที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า 600 แห่ง

 

• การประชุม กนง. ครั้งสุดท้ายของปี 55 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% เนื่องจากปัจจัยด้านความต้องการสินค้าและการลงทุนในประเทศนั้นยังขยายตัวได้ ดี อีกทั้งแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกนั้นมีสัญญาณการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนที่ออกมาดีกว่าที่คาด เป็นผลให้ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลดลง ในขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อนั้นยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่ง กนง.ได้ชี้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไตรมาส 3 และเดือนต.ค.นั้นมีแนวโน้มดีกว่าที่ประเมินไว้แต่ยังไม่มีการประกาศปรับ เพิ่มการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ

 

Equity Market

 

• SET Index ปิดที่ 1,299.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.91 จุด หรือ +0.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31,073 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 84 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยนั้นสามารถปิดบวกได้ท่ามกลางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซียที่ปรับ ตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่แม้ว่าจะไม่ได้มีประเด็นด้านลบต่อตลาด จึงน่าจะเป็นการขายทำกำไรของนักลงทุนหลังจากที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นตลอดใน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หุ้นไทยกลุ่มที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ (Big cap) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เป็นส่วนใหญ่

 

• Warren Buffett ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเชื่อว่าในที่สุด ปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) จะผ่านพ้นไปได้ แต่อาจจะไม่ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นจุดสิ้นสุดของโลก (The End of The world) แต่อย่างใดถ้าการเจรจาไม่เสร็จสิ้นภายในปลายปีนี้ ซึ่งปัญหา Fiscal Cliff นี้ไม่ได้มีผลต่อมุมมองการลงทุนของเขาเลย และเขายังคงเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะยาว

 

Fixed Income Market

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ โดยรุ่นที่มีอายุคงเหลือระหว่าง 8 ถึง 40 ปี มีอัตราผลตอบแทนลดลงในช่วงระหว่าง -0.03% ถึง 0.00% ส่วนรุ่นอื่นๆ มีอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

 

(แทน)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Fiscal Cliff) จะผ่านพ้นไปได้ แต่อาจจะไม่ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม ไม่ทัน31ธันวาคม(เข้าทางขาใหญ่) ราคาหุ้นและสินทรัพย์ต่างๆจะผันผวนอย่างมาก ราคาผันผวนอย่างมากเข้าทางขาใหญ่ ในการแสวงหากำไร ยิ่งใครถือสัญญาอนุพันธ์ซึ่งเป็นการวางเงินจำนวนน้อยในการซื้อของจำนวนที่ มากกว่า เมื่อราคาผันผวนมากคนที่ไม่มีเงินสำรองมากพอสำหรบการถูกเรียกเงินสำรองเพิ่ม ก็จะถูกบังคับขาย

 

ไม่ ทัน31ธันวาคม จะมีบริษัทไหนกล้าDOWN GRADE อเมริกามั้ย เพราะบริษัทพวกนี้มีแผลต่างๆอยู่เยอะและมีสำนักงานใหญ่ในอเมริกา ถ้ากล้ารัฐบาลอเมริกาเอาคืนแน่ แต่ถ้ามีการDOWN GRADE อเมริกา ทองคำคงพุ่งแรงๆ

 

เพิ่ม เพดานนี้ไตรมาส3ปีที่แล้ว กว่าจะตกลงกันได้ก็อัดกันเละ S&P เล่นบทหมูไม่กลัวน้ำร้อน ลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐลง ทำให้ทองพุ่งแรงอยู่ช่วงใหญ่ๆแต่S&P ก็โดนทางการหาเรื่องเข้าตรวจสอบ

 

 

 

 

 

โพสต์ 18 สิงหาคม 2011 - 12:13

Martin Armstrong เคยบอกว่าบริษัทจัดอันดับทั้งหลายจะไม่ลดอันดับเครดิตสหรัฐ เพราะมีชนักติดหลังเรื่องวิกฤต sub-prime ในปี 2008 อยู่ทุกราย

 

หลังจาก S&P เล่นบทหมูไม่กลัวน้ำร้อน ลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐลง วันนี้ S&P โดนแล้วครับ

 

 

 

http://www.cnbc.com/id/44184348

 

 

กระทรวง ยุติธรรมของสหรัฐแจ้งว่ากำลังสอบสวน S&P ที่มีความน่าสงสัยในการจัดอันดับหลักทรัพย์ CDO สูงผิดปกติ เป็นต้นเหตุทำให้เกิดวิกฤต sub-prime

 

 

ปล. อย่าลืมไปสอบสวน Moody's กับ Fitch ด้วยหละ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

August 26, 2011

Posted by KOBSAK (ADMIN)

ผลกระทบจากการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

 

คอลัมน์ ไขปัญหาเศรษฐกิจกับดร. กอ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางสถาบันจัดลำดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) ของสหรัฐ ลงจาก AAA เป็น AA+ ส่งผลให้เกิดความผันผวนรอบใหญ่ขึ้นในตลาดการเงินโลก หลายคนจึงอยากรู้ว่า “ทำไมต้องมีการปรับลดอันดับลง” “นัยคืออะไร” และ “ทำไมสหรัฐจึงถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง ทั้งที่ได้ผ่านกฎหมายเพิ่มระดับเพดานหนี้ เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขอเริ่มจากสิ่งที่ S&P ประกาศออกมาก่อน ซึ่งประกอบด้วย (1) การประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาว ของสหรัฐลงมา 1 อันดับจาก AAA เป็น AA+ (2) คงอันดับความน่าเชื่อถือในระยะสั้นของสหรัฐไว้ตามเดิม ที่ A-1+ ซึ่งนับเป็นระดับที่ดีที่สุด และ (3) เตือนว่าจะติดตามการดำเนินนโยบายภาครัฐของสหรัฐอย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งหากสหรัฐยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายอย่างน่าพอใจ ก็อาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีกรอบ เป็น AA ในช่วง 2 ปีข้างหน้า

หลายคนบอกว่า “ไม่แปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น” เพราะรัฐบาลสหรัฐได้ก่อหนี้ไว้เป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา จากการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน การช่วยให้สวัสดิการสังคมแก่ผู้ที่ตกงาน และจากการเร่งใช้จ่าย ลดภาษีเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้หนี้ภาครัฐของรัฐบาลกลางสหรัฐอยู่ที่ประมาณ 74% ของ GDP และจะเพิ่มขึ้นเป็น 85% ในอีก 10 ปีข้างหน้า และยิ่งถ้าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวได้ไม่ดี การลดการใช้จ่ายภาครัฐมีอุปสรรค ไม่สามารถเป็นไปตามที่คาด ไว้ หนี้ของรัฐบาลสหรัฐอาจจะพุ่งขึ้นไปถึง 101% สูงกว่าประเทศอื่น ๆ อาทิ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และ อังกฤษ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA เช่นกัน

เมื่ออ่านรายละเอียดต่าง ๆ จะพบว่าเหตุผลที่ S&P ใช้ในการตัดสินใจครั้งนี้ มาจากปัญหาทางการเมืองในสหรัฐ โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่การทะเลาะกันในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างประธานาธิบดีโอบามากับพรรครีพับลิกัน (ซึ่งมีเสียงข้างมากในสภาล่าง) เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งกว่าจะผ่านไปได้ ก็ต้องรอจนถึงวันสุดท้าย

กรณีนี้ทำให้หลายคนเริ่มเห็นถึงปัญหาของ สหรัฐ โดยเฉพาะความไม่ลงรอยระหว่างฝ่ายต่าง ๆ รวมถึงความดึงดันของพรรครีพับลิกันที่จะไม่ยอมโอนอ่อน ไม่ยอมขึ้นภาษี แม้การกระทำดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศได้รับความเสียหายอย่างมาก และเริ่มขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของนักลงทุน

หากการเมืองสหรัฐยังเป็นเช่นนี้ โอกาสที่จะสามารถผ่านกฎหมายเพื่อลดการใช้จ่าย ลดหนี้ของตนเองลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2 ปีข้างหน้าคงมีไม่มากนัก ไม่น่าแปลกใจว่า หลายฝ่ายจึงกังวลใจ และได้ถูกใช้เป็นข้ออ้างหลักของทาง S&P ในการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐครั้งนี้ (คิดแล้วก็น่าเสียดายแทนสหรัฐ เพราะเหมือนกับว่าสหรัฐทำร้ายตนเอง ด้วยการทะเลาะกันทางการเมือง จนถูกโจมตีได้)

ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้น สำหรับในระยะสั้น ตลาดการเงินโลกจะมีความผันผวน โดยตลาดหุ้นหลายแห่งในช่วงต้นสัปดาห์ ได้ปรับตัวลดลงในช่วงเปิดตลาด รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐ แต่การที่ S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงในวันเสาร์ นับเป็นโชคดี เพราะทำให้ทุกคนมีเวลามาสร้างความชัดเจนกับประเด็นต่าง ๆ รวมไปถึงใช้ช่วงดังกล่าวในการประเมินผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น และวางกลยุทธ์

โดยรวม ผลกระทบน่าจะอยู่ในระดับ ที่รับได้ โดย (1) กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Money Market Fund) จะไม่กระทบมาก เพราะใช้อันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นที่ยังดีอยู่เป็นเกณฑ์ในการเข้าลงทุน (2) กองทุนและธนาคารกลางที่ลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐ เนื่องจากเป็น AAA นั้น อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากสถาบันจัดอันดับอื่น ๆ คือ Moody’s และ Fitch ยังไม่ปรับลดอันดับของสหรัฐลง หมายความว่า 2 ใน 3 ยังคิดว่าเป็น AAA ทำให้พอถูไถ กล้อมแกล้ม ลงทุนต่อไปได้

(3) สภาพคล่องในระบบก็ได้รับผลกระทบไม่มาก เนื่องจากทางธนาคารกลางสหรัฐ ออกมาชี้แจงเรียบร้อยแล้วว่า จะไม่กระทบต่อการใช้พันธบัตรสหรัฐเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันในตลาด Repo นอก จากนี้ ธนาคารพาณิชย์ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ก็ไม่ต้องมีเงินทุนเพิ่ม

เมื่อความผันผวนในระยะสั้นจบไป ผลกระทบในระยะยาวนั้นขึ้นอยู่กับว่า ดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะกระทบไปถึงธนาคารและบริษัทเอกชนที่ออกตราสารหนี้ ทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม แต่จากประสบการณ์ของญี่ปุ่นที่ถูกลดอันดับลงจาก AAA เมื่อปี 2000 พบว่า นักลงทุนก็ยังมีความต้องการที่จะลงทุนต่อไป ทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรญี่ปุ่นก็ปรับลดลง สหรัฐรอบนี้ก็คงเช่นกัน เพราะท้ายที่สุด พันธบัตรสหรัฐก็ยังเป็นที่ต้องการ และเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องที่สูงที่สุดของโลก

ก็หวังว่า การถูกปรับลดอันดับครั้งนี้ จะทำให้นักการเมืองของสหรัฐ ตื่นจากโลกของความฝัน มาสู่โลกของความเป็นจริง และไม่ดันทุรังอีกต่อไป ไม่เช่นนั้น การลดอันดับครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของสหรัฐ ก็ขอเอาใจช่วยให้ทุกคนผ่านความผันผวนรอบนี้ไปให้ได้ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เท่าที่อ่านเจอมานะครับรู้สึกว่าจีนจะประกาศว่าจะยังไม่มีแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งใหม่ เลยทำให้หุ้นร่วง

ปล.หาลิ้งค์ที่อ่านยังไม่เจอครับเลยยังไม่ได้เอามาแปะให้ :17

ปล.2 หาอันที่อ่านยังไม่เจอ เอาลิ้งค์นี้ไปแทนก็แล้วกันครับ เรื่องเดียวกัน

 

Bye, bye China ‘stimulus put’. Hello long term commodity correction.

 

http://www.macrobusi...a-stimulus-put/

 

ถ้าอย่างนี้ หุ้นจีนหักขึ้นเมื่อไรก็น่าซื้อมากซิครับ ไม่ได้ถูกปั๊มลมอย่างดาวโจน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
อีกข่าวที่อยากให้คนที่ถือสินทรัพย์ต่างๆในรูปกระดาษอ่าน
  • ซีเอ็มอี (บริษัทเจ้าของบ่อนไครม์เม็กซ์) ออกมาประกาศว่า บริษัทไม่สามารถส่งมอบทองคำจากคลังแห่งหนึ่งได้ เนื่องจากแซนดี้พิโรธ

มีประเด็นน่าสนใจดังนี้
  • แซนดี้มันเป็นเรื่องผ่านมาตั้งเดือนกว่าแล้ว ไม่มีปั๊มน้ำหรือไง?
  • คลังที่มีปัญหา เป็นคลังเก็บทองคำแท่งนะ ไม่ใช่เก็บใบหุ้นที่เป็นกระดาษ
  • คลังแห่งนี้ อยู่ติดกับเฟดที่นิวยอร์ค ซึ่งทางเฟดได้ออกมาประกาศว่าไม่ได้รับผลกระทบจากแซนดี้

ที่มา :

http://anonym.to/?ht...y/NK27Dj02.html

 

http://anonym.to/?ht...s-mailbox-1111/

วันที่28/11/2012 เป็นวันปิดFUTURE ของโลหะมีค่า

http://www.heritagew...ns-calendar.pdf

 

ปกติถึงทุบราคาลง แต่ถึงวันปิดสัญญาFUTUREตลาดCOMEX ผู้ซื้อLONGสามารถเลือกรับเป็นของจริงได้ โดยการเพิ่มเงินให้ครบตามจำนวนของที่LONG ซึ่งจะทำให้ขาใหญ่ทุบสัญญากระดาษได้ไม่เต็มที่ เพราะถึงทุบหนักแต่ถ้าราคาของจริงไม่ลงและผู้LONGเลือกที่จะเพิ่มเงินตามราคากระดาษ

 

แต่ครั้งนี้มีเหตุอ้างว่าส่งมอบทองคำไม่ได้เนื่องจากน้ำท่วม หาเหตุทุบราคาและใช้ราคาปิดในการชำระราคาโดยไม่ต้องส่งมอบของจริง(เดานะ สำหรับการปิดสัญญาครั้งนี้จะมีการส่งมอบทองจริงมั้ย ใครมีข่าวช่วยเฉลยหน่อยครับ) เพราะถ้าไม่ต้องส่งมอบของจริง ขาใหญ่ทุบสบายแน่เพราะเงินหน้าตักเขามหาศาล

 

รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆตั้งแต่ http://news.goldseek.../1353961800.php ไม่ประกาศการเปลี่ยนแปลงของสัญญากระดาษ ปกติเช้าวันเสาร์ก็ดูได้แล้ว แต่ครั้งนี้ดูได้เช้าวันอังคารหรือเช้าวันพุธ สงสัยปิดFUTUREของเดือนนี้ขาใหญ่เตรียมการมาสำหรับทุบราคาแล้วชำระราคาผลต่างโดยไม่มีการส่งมอบของมั้ง(ส่วนนี้เดานะ ใครมีข่าวช่วยเฉลยด้วยครับ)

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แสดงว่าขาใหญ่ เก็บทองคำจริงๆแล้ว เลยกดราคาให้ต่ำๆ แสดงว่าทองคำจริงๆนั้นเป็นที่ต้องการ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับที่ซีเอ็มอีส่งมอบทองคำไม่ได้ จาก ดาวโจร นิวส์ ไวร์ ดังนี้ครับ

  • มีคลังทองคำทั้งหมด ๕ คลัง ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งมอบทองคำจากซีเอ็มอีได้ มีเพียง ๑ คลังเท่านั้นที่มีปัญหาตามข่าว
  • ซีเอ็มอี บอกว่าใครก็ตามที่ต้องการรับทองคำ สามารถขอให้บริษัทบริงคส์ ในนิวยอร์คส่งมอบให้ได้ โดยคลังทองคำที่มีปัญหาจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • จากข่าว คลังที่มีปัญหา มีทองคำอยู่ในคลัง ๓๐,๐๐๐ ออนซ์ ส่งมอบได้เพียง ๓๐๐ สัญญาเท่านั้น

 

ถ้าว่ากันตามเนื้อข่าว การที่คลังทองทำแห่งนี้ไม่สามารถส่งมอบทองคำได้ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อย่างที่มีการคาดการจากเวบลุงจิม

แต่อย่างไรก็ตาม กูรูนอกหลายๆคนก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้ และตั้งข้อสังเกตุไว้ตามที่ผมได้นำเสนอไว้ในด้านบน

 

นาทีนี้ คนที่ต้องการรับของจริงๆเท่านั้น จะเป็นคนที่ตอบได้ว่า รับของได้จริงเหมือนกับราคาคุยหรือไม่

 

แหล่งข่าว : http://anonym.to/?http://www.foxbusiness.com/news/2012/11/26/cme-declares-force-majeure-at-manhattan-gold-depository/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตือนสหรัฐอาจก่อหนี้ชนเพดาน-เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้

 

รายงาน ของศูนย์นโยบายร่วมของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน (Bipartisan PolicyCenter) ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังสหรัฐมีเครื่องมือสำหรับใช้ในการหลีกเลี่ยงการผิดนัด ชำระหนี้น้อยกว่าในฤดูร้อนปี 2554 โดยการผิดนัดชำระหนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐก่อนสิ้นปีนี้

 

บท วิเคราะห์ดังกล่าวชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐมีแนวโน้มที่จะมียอดการก่อหนี้พุ่งขึ้นชนเพดานตามกฎหมายที่ระดับ 16.4 ล้านล้านดอลลาร์ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม และมีกำหนดจะต้องชำระเงินครั้งใหญ่ในวันที่ 31ธันวาคม ซึ่งรวมถึงเงินสำหรับกองทุนทรัสต์ของโครงการประกันสุขภาพคนชราและโครงการ สวัสดิการสังคม

รายงานของศูนย์นโยบายร่วม ระบุว่า ถึงแม้กระทรวงการคลังสหรัฐมีอำนาจในการโยกย้ายเงินในบางกองทุนเพื่อนำมาชำระ ค่าใช้จ่ายที่สำคัญ เช่น ดอกเบี้ยตราสารหนี้ แต่มาตรการเหล่านี้ก็จะช่วยต่อเวลาได้ไม่นานเท่ากับในฤดูร้อนปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงที่ความขัดแย้งเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้เกือบส่งผลให้สหรัฐ เผชิญกับภาวะผิดนัดชำระหนี้

รายงานยังวิเคราะห์กระแสเงินสดรายวันและราย เดือนของกระทรวงการคลังสหรัฐ และได้ข้อสรุปว่า หากการปรับเพิ่มเพดานหนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาต่อรองในปีนี้ ผู้กำหนดนโยบายก็จะเหลือเวลาเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ในการรับประกันว่า รัฐบาลกลางสหรัฐจะยังคงปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงินทั้งหมดได้อย่างครบ ถ้วนและตรงต่อเวลา

ขณะที่เครื่องมือของกระทรวงการคลังสหรัฐอาจช่วยต่อ เวลาได้เพียง 4-8 สัปดาห์เท่านั้นในครั้งนี้ หรือต่อเวลาได้จนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 เท่านั้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มันคล้ายกันจังเลย ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมหรือเปล่าน๊อ

 

Nov+2012+gold.PNG

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announce ผู้สนับสนุนให้รื้อเพดานหนี้ทิ้งไปเลย :57

 

 

Nancy Pelosi: Give Obama dictatorial power to raise debt limit to infinity

 

0877f72619e3b664f7b2aaefafaa2df3.jpg

 

http://www.examiner....mit-to-infinity

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announce ผู้สนับสนุนให้รื้อเพดานหนี้ทิ้งไปเลย :57

 

 

Nancy Pelosi: Give Obama dictatorial power to raise debt limit to infinity

 

0877f72619e3b664f7b2aaefafaa2df3.jpg

 

http://www.examiner....mit-to-infinity

 

 

น่าจะเชิญอดีตรัฐมนตรีคลังของซิมบับเวย์ มาเป็นที่ปรึกษานะครับ ประชาชนอเมริกันจะได้เป็นเศรษฐีพันล้านกันทุกๆคน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...