ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในความหมายมองขึ้นนะคะ

 

 

 

ก่อนจะขึ้น .. ต้องลงมาก่อนนะคะ ก็ตามแนวรับที่บอกไป ( บางท่านเรียกย้ำฐาน มดแดงไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่มุมมองจากการมอง เฝ้าดู พฤติกรรมซ้ำๆ นะคะ มันเป็นแบบนั้น ) จึงจะขึ้น มักจะเป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่เสมอไป

 

ทำนองเดียวกัน ก่อนจะลง ต้องขึ้นให้สุด แล้วจึงจะลงได้

 

 

 

วันนี้น่าทดสอบ แถวๆ 1613

 

 

ณ..ตอนนี้ราคามันขึ้นเกือบทุกเฟรมแล้ว...ยืนยันการขึ้นเร็วๆนี้ ถ้ารายวันขยับด้วยล่ะก็ไปโลด

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณสำหรับข่าวสารพร้อมการวิฯให้กับเพื่อนๆ สนุกกับทองและมีกำไรกันทุกคนนะจ๊ะ :wub: :wub: :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพื่อนๆมีข่าวพายุจะพัดเข้าถล่มที่ไหนบ้างไหมครับ

บ้านเราช่วงนี้ฝนตกจังเลย afd371da.gif

 

ลองเข้าไปดูครับ

 

http://www.tmd.go.th/index.php

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:) สวัสดีจ้า ตังเม น่าจะทำหนังแบนี้ให้เด็กดูกันเค้าจะได้ฉุกคิดได้บ้าง

โฆษณาเจ้าทำได้ดีทุกชุด บทพูดก็กินใจ น่าชมฝีมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทความ :wub:

อ่าน ๆ.....เรื่องเล่น....อ่านสาระ.....อ่าน... :lol:

 

 

 

post-2581-042328300 1312277854.jpg

 

 

 

ข้อความที่ซ่อนเร้น

 

โดย สาระ

๑๕ พ.ค. ๔๙

 

 

เรื่องดีหรือร้ายที่เราพานพบ มีความหมายซ่อนเร้นอยู่

 

โดยทั่วไปการพูดน้อยและการทำใจให้สงบอยู่เสมอ จะช่วยให้คุมสติง่ายและปัญญาดี เข้าใจเหตุและผลของเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดี

 

เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เราเจอ ถ้าสังเกตให้ดี อย่าเพิ่งไปมีอารมณ์ยินดียินร้าย

พูดแต่น้อย ฟังให้มาก จะพบว่ามีความหมายหรือเรื่องราวที่น่าสนใจรอให้เราล่วงรู้

บางเหตุการณ์ก็เป็นผลจากการกระทำที่เราหรืออีกฝ่าย ได้เคยทำไว้ เรียกว่าเป็น

กฎแห่งกรรม มันเป็นสุขเวทนาหรือทุกขเวทนา

 

บางเหตุการณ์ทำให้เราได้รู้เกี่ยวกับตัวเขา ได้แก่ เป้าหมาย ความคิด ความต้องการ จุดแข็ง จุดอ่อน ฯลฯ

 

บางเหตุการณ์ก็เป็นวังวน ให้เราหรือเขาผู้นั้น ยังวนอยู่

การรู้ข้อความที่ซ่อนเร้นของตนนี้ มีประโยชน์อยู่มาก เพื่อการแก้ไขปัญหาในขณะนั้น และเพื่อการปรับปรุงตนเอง

เราจะค้นพบว่าอะไรบังเราไว้ไม่ให้ประสบความสำเร็จ หรือไม่ให้มีความสุข

การจะค้นพบคำตอบได้นี่เกี่ยวข้องหลายองค์ประกอบ แต่หลัก ๆ ก็คือกฎแห่งกรรม บาป บุญ สติปัญญา และกัลยาณมิตร

บาปขัดขวาง ส่วนบุญ สติปัญญา และกัลยาณมิตร เป็นผู้สนับสนุน

การจะค้นพบคำตอบได้เร็วขึ้น ต้องมีเป้าหมายที่ถูกต้องเสียก่อน แล้วมุ่งสู่เป้าหมายนั้น

และลำดับต่อ ๆ ไปจะรู้ว่าอะไรที่ถูกทางและไม่ถูกทาง

พยายามทำสิ่งที่ถูกทาง ตัดลดหรือทำสิ่งที่ไม่ถูกทางให้มีประสิทธิภาพ ใช้เวลาน้อย

เพื่อจะได้มีเวลามาให้กับสิ่งที่ถูกทาง

 

ถ้าเป็นข้อความของคนอื่น เห็นวังวนของเขา ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะต้องพูดบอก

ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่เขาจะสามารถหลุดจากวังวนนั้นได้

ขอบคุณผู้เขียน

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กูรูหุ้นพันล้าน โดยวิชัย วชิรพงค์

 

ตอนที่ 7 ไปจ่ายตลาด

การตีกอล์ฟไกลๆลงหลุม "โฮลอินวัน" นั่นคือ...โชคชะตา แต่การที่คุณตีกอล์ฟไปตกให้ห่างจากธง 2 ฟุต นั่นคือ...ฝีมือ ในสนามรบที่เรียกว่า "ตลาดหุ้น" วิชัย วชิรพงศ์ มีความเชื่อลึกๆว่า คนที่จะประสบความสำเร็จยืนอยู่บนสังเวียนนี้ได้ยาวนาน จะต้องอาศัย "ฝีมือ" 70% ...อีก 30% เป็นหน้าที่ของ "โชคชะตา" "การตีกอล์ฟไกลๆลงหลุม (โฮลอินวัน) นั่นคือ โชคชะตา นั่นคือ ฟ้าลิขิต แต่การที่คุณตีกอล์ฟไปตกให้ห่างจากธง 2 ฟุต นั่นคือ ฝีมือ"

 

เขาบอกว่า การเล่นหุ้นก็เหมือนกัน ทุกคนจะมีจังหวะฟ้าลิขิต...ทุกคนต้องเคยได้รับโอกาสนั้น แต่คุณจะตักตวงมันได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง วิชัย เปรียบคนเล่นหุ้นเหมือนการเปิดร้าน "โชห่วย" เราต้องหาสินค้าเข้ามาขายทำกำไร เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้ได้กำไร...เราต้องอย่าใจร้อน ต้องเลือกสินค้าที่ดีๆ ซื้อเข้าร้านใน Timing (จังหวะ) ที่เหมาะสม "ในตลาดหุ้นเขาพูดกันว่า มันมีอันตราย "ผีดุ" ถ้าช่วงไหนที่โบรกเกอร์ หรือนักวิเคราะห์ออกมาเตือนว่า มันเป็นช่วงอันตราย เราก็อย่าเพิ่งไปซื้อมัน อย่าเล่นแบบ "ทุ่มสุดตัว" คนที่มีฝีมือจะต้องรู้จัก Timing หรือเวลาไปจ่ายตลาด ใครเก่ง-ไม่เก่ง วัดกันตรงนี้" จากประสบการณ์ 20 ปี ในวงการนี้ จะซื้อหุ้นให้ได้กำไร เราต้องกล้าไปจ่ายตลาด "ตอนประมาณ ตี 5" หรือ อีก 1 ชั่วโมงฟ้าจะสว่าง...ผีไม่มี ใครซื้อหุ้นได้จังหวะนี้...ดีแน่! คุณได้เลือกของดี ได้ซื้อของสด ราคาไม่แพง ได้เลือกของก่อนคนอื่น รถไม่ติด คุณจะได้เปรียบเรื่อง "ต้นทุน" แต่คนที่จะเข้าใน "จังหวะ" นี้ได้ จะรู้ว่าตอนนี้กี่โมงต้องอาศัยเครื่องมือทาง "เทคนิเคิล" มาช่วยในการคลำหาตำแหน่งเวลาร่วมกับ "ประสบการณ์" ของแต่ละคน

"ถ้าตลาดหุ้นอยู่ในทิศทางขาลง หรือ มีภาวะอึมครึมมาแล้วพักใหญ่ ในขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค อาทิเช่น RSI, MACD ยืนยันสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม เช่น การเกิด Divergence หรือ สัญญาณขัดแย้ง เราต้องเตรียมตัวซื้อหุ้น เพราะฉะนั้น ช่วงตี 5 ถึงตี 5 ครึ่ง...คุณต้องกล้าซื้อ" เซียนหุ้นพันล้าน อธิบายว่า ถ้าเราไปจ่ายตลาดตอน 8 โมงเช้า คนก็เยอะ สินค้าก็ไม่สด หุ้นมันขึ้นไปตั้งนานแล้ว คุณเพิ่งจะมาซื้อตอนคนอื่นเขากำลังจะกลับบ้าน รายใหญ่เขารอ "ออกของ" กันแล้ว สิ่งที่เซียนหุ้นรายนี้ เน้นย้ำก็คือ "จุดซื้อ" คุณอาจจะใช้ "เทคนิเคิล" ช่วย แต่การขึ้นของหุ้นรอบใหญ่ๆ หรือ Major Up Trend (ทุกครั้ง) หลักการวิเคราะห์หุ้น เราต้องใช้ปัจจัยพื้นฐานมาเลือกหุ้น

 

"ทุกอย่างมันต้องมาจากพื้นฐานก่อน แต่การดูพื้นฐานอย่างเดียวถ้าไม่ใช้เทคนิเคิลช่วย...เปรียบเสมือนคุณขึ้นรถเมล์ คุณจะไปสะพานตากสิน คุณกลัวร้อนคุณก็ไปนั่งรอในรถเมล์คันที่มันสตาร์ทเครื่องเอาไว้แล้ว แต่มันไม่ออกจากท่า (รถ) สักที... "...ที่มันไม่ออกเพราะจังหวะมันผิด มันเร่งเครื่องบรื้อๆแต่ไม่ออก คันข้างๆออกไปแล้วเว้ย! คันเราก็ไม่ไป นั่งรอมีแต่กระเป๋ารถขึ้นมาเขย่าตั๋ว แต่ก็ไม่ออก เราจะคิดทันทีว่า "ต้องลง" ไม่ใช่คันนี้แน่...ขึ้นผิดคัน ...พอเราลง เปลี่ยนคันไปขึ้นคันใหม่ คันเดิมของเราดันออก" วิชัย บอกว่า คนเล่นหุ้นทุกคน โดนกรณีอย่างนี้มาหมด เพราะฉะนั้นการหาจังหวะเข้าลงทุน...ต้องใช้เทคนิเคิลมาช่วย

"เวลาเลือกหุ้นให้ใช้พื้นฐาน แต่จังหวะซื้อต้องใช้เทคนิเคิล" เขาเน้นย้ำ ยิ่งตอนขายหุ้นเทคนิเคิลไม่เคยหลอกเลย ถ้าเราถอยหลังย้อนกลับไปได้ เราต้องกลับไปทบทวนตัวเองให้ดีๆ

 

"ผมขอแนะนำให้จดไดอารี่ทุกวัน นั่นคือการทบทวนตัวคุณเอง คุณจะได้เก็บเอาไว้อ่าน คุณเจ็บตรงไหน วันนี้คุณโดน (เทคนิเคิล) หลอกอย่างไร?" เขาอธิบายว่า ข้อผิดพลาดของนักลงทุน มักมาจากความ "ดื้อรั้น" ของตัวเอง เทคนิเคิลมันตัดลงมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าเรายังดื้อ ยังเล่นอยู่ แสดงว่า "คุณผิดเอง ตลาดไม่ผิด" ที่ผ่านมา ชีวิตพวกเราคนเล่นหุ้นทุกคน ถ้าใครเคยผ่านมาในระยะ 10 ปีนี้ (2540-2549) วิชัยกล้าพูดได้ว่า "เฉียดรวย" ทุกคน...เฉียดรวยมาหมด

...เมื่อก่อนหุ้นธนาคารเกียรตินาคิน (KK) สมัยที่ยังเป็น บงล.เกียรตินาคิน ราคาหุ้นขึ้นมาประมาณ 40 เท่า (จาก 2 บาทขึ้นไป 80 บาท) นักลงทุนรายใหญ่เคยเล่นหุ้นตัวนี้มาแล้วทุกคน วิชัยยืนยันว่า ทุกครั้งที่ดัชนี SET ขึ้นรอบใหญ่ๆ หรือ Major Up Trend จะต้องมีหุ้น "ดาวเด่น" ของมันอยู่ เราจะต้องคลำหาให้เจอ ต้องไขว่คว้าให้เจอ ในรอบที่ผ่านมาเท่าที่จำได้มีหุ้น อะโรเมติกส์ (ATC) จาก 3 บาท ขึ้นไป 75 บาท พวกรายใหญ่ทุกคนซื้อหมดแถวๆ 3 บาทมาขายที่ 4 บาท คนที่ขายก่อน ก็แค่ "เฉียดรวย" "ตรงนี้จะวัดผลแพ้-ชนะ วัดว่าใครฝีมือจริง" วิชัยย้ำว่า นักลงทุนรายย่อยทุกคน มีสิทธิรวยได้...เชื่อผม! แต่ต้องขยัน ต้องทุ่มเท ต้องเป็นมืออาชีพจริงๆ "...คุณต้องพยายามเข้ากลุ่มให้ได้ พยายามเกาะกลุ่มจะได้รู้ว่าคนอื่นเขาคิดยังไง เราจะเชื่อหรือไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่มันทำให้เรามีมุมคิดที่หลากหลาย ไม่เชื่อมั่นในตัวเองมากจนเกินไป เพราะจะนำเราไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ง่าย"

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพิ่งกลับเข้าบ้านค่ะ

 

 

แล้วก็ขึ้นไปนิดหน่อย...ติดเทรนแล้ว..ไม่ใช่พูดผิด.. ติดแนวต้าน รอรวบรวมกำลังใหม่........คาดว่าจะลงไปทดสอบแนวรับที่เท่าไรดีล่ะ

 

ตอนนี้สัญญาน 4 ขึ้นหมดแล้วชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม

 

 

post-21-061343000 1312279180.gif

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กูรูพันล้านชอบมากเลยค่ะ คุณjinger ขอบคุณค่ะวันนี้รอเก็บนะคะคุณModdang-ขอบคุณค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพิ่งกลับเข้าบ้านค่ะ

 

 

แล้วก็ขึ้นไปนิดหน่อย...ติดเทรนแล้ว..ไม่ใช่พูดผิด.. ติดแนวต้าน รอรวบรวมกำลังใหม่........คาดว่าจะลงไปทดสอบแนวรับที่เท่าไรดีล่ะ

 

ตอนนี้สัญญาน 4 ขึ้นหมดแล้วชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม

 

 

post-21-061343000 1312279180.gif

ติดแนวต้าน ก็รอดูจะทดสอบตรงไหน ที่แข็งๆ :D

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กูรูพันล้านชอบมากเลยค่ะ คุณjinger ขอบคุณค่ะวันนี้รอเก็บนะคะคุณModdang-ขอบคุณค่ะ

raty เราก็ชอบ อ่านครั้งตอนดีแล้วจำได้สนุก

 

เห็นสีม่วงแล้วคิดถึงอยู่ 555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ ginger news chez tanusg gold of course !Hi

 

คุณน้อย ตังเม เด็กสยาม และเพื่อนๆ

 

วันนี้มอง ขึ้น แล้ว เตรียมกระโดดแล้วค่ะ รอโอกาสนี้มานาน จะเชื่อดีใหมเนี่ย ..

 

ขอบอกว่าเป็นความเชื่อส่วนตัว จะได้พิสูจน์ทฤษฎี ...

 

แต่ถ้าสายๆ บ่ายๆ มันเปลี่ยนก็คงไม่ใช่

 

:D แต่ระยะนี้..เตรียมพร้อมได้เลย :upstrong:

 

แหม มีลูกเล่นใหม่แล้ว อาจารย์กัมพล..ขอบคุณค่ะ

 

 

post-21-061343000%201312279180.gif

 

แนวรับ 1613 1611 1607 1605

แนวต้าน 1621 1626 1632 1638 1644 1657

 

 

เอามาเทียบดูค่ะ ...1644 อยู่ไม่ไกล เฮ้อ.. ไม่ยอมลงมารับเพิ่มเลย

 

 

post-21-061718100 1312288718.gif

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

SET พรุ่งนี้ ผันผวน หลังนลท.ผวาศก.โลก

การเงิน-หลักทรัพย์ - หุ้นเด่นวันนี้

Tuesday, 02 August 2011 18:27

Share this

Twitter Yahoo Googlize this Facebook

Hear this text

 

วงการฯ มอง SET พรุ่งนี้ ผันผวน หลังนลท.ผวาศก.โลก

 

วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,139.61 จุด ลดลง 4.53จุด หรือ 0.40 % มูลค่าการซื้อขาย 33,963.71ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่

1.IVL ปิดที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,905.50 ลบ.

2.SCB ปิดที่ 125.00 บาท ลดลง 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,670.11 ลบ.

3.KTB ปิดที่ 20.50 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,081.70 ลบ.

4.KBANK ปิดที่ 139.50 บาท ลดลง 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,071.83 ลบ.

5.PTT ปิดที่ 348.00 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,067.73 ลบ.

 

สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,059.79 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ655.34 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,712.14 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 2.98 ล้านบาท

 

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันพรุ่งนี้(3 ส.ค.54) น่าจะแกว่งตัวผันผวน หลังจากนักลงทุนยังมีความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งนั้นในช่วงที่ดัชนีฯอ่อนตัวลง ถือเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2554 ออกมาดี

ส่วนดัชนีฯในวันนี้ปรับตัวลดลง หลังจากการปรับเพิ่มเพดานหนี้มีความชัดเจน ท่ามกลางความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯอ่อนแอ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/2554 เข้ามาประคองการอ่อนตัวของดัชนีฯ

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดผันผวน หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ หักล้างผลบวกจากเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ

เศรษฐกิจ - พลังงาน

Tuesday, 02 August 2011 17:15

Share this

Twitter Yahoo Googlize this Facebook

Hear this text

 

ตลาดผันผวน หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ หักล้างผลบวกจากเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ

 

ไทยออยล์คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ยังคงผันผวน โดยราคาน้ำมันดิบ

เบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 112-120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 92 - 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ติดตามผลการลงมติเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ของวุฒิสภาในคืนนี้ หลังร่างดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนฯ ไปแล้วเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีตลาดรวมต่างประเทศ เงิน ทอง โลหะ น้ำมัน ตลาดหุ้น โภคภัณฑ์ เรือขนส่ง

การเงิน-หลักทรัพย์ - ตลาดหลักทรัพย์

Tuesday, 02 August 2011 10:47

Share this

Twitter Yahoo Googlize this Facebook

Hear this text

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค : ดาวโจนส์ปิดลบ 0.09% รอข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้

 

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลงในวันจันทร์ โดยดัชนี S&P 500 ลดลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ขณะที่ใกล้หมดเวลาสำหรับรัฐบาลสหรัฐที่จะบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และเศรษฐกิจแสดงสัญญาณการชะงักงัน

 

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 10.75 จุดหรือ 0.09% สู่ 12,132.49, ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 5.34 จุดหรือ 0.41% สู่ 1,286.94 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 11.77 จุดหรือ 0.43% สู่ 2,744.61

 

ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 8.3 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยต่อวันที่ 7.48 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบประมาณ 9 ต่อ 8 ในตลาดนิวยอร์ค และมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกประมาณ 5 ต่อ 4 ในตลาด Nasdaq

 

ตลาดลดช่วงติดลบลงก่อนสภาคองเกรสลงมติข้อตกลงหนี้ที่ได้รับการสนับสนุนโดยทำเนียบขาวซึ่งรวมถึงการปรับลดค่าใช้จ่าย 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปี

 

กำหนดเส้นตายของข้อตกลงซึ่งรวมถึงการเพิ่มเพดานการกู้ยืมของสหรัฐนั้นได้แก่เวลาเที่ยงคืนของวันอังคารนี้

 

ตลาดปรับตัวลงหลังสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เปิดเผยว่าภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวที่สุดในรอบ 2 ปีในเดือนก.ค.

 

การขู่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐยังคงถ่วงตลาดหลังจากปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค : ตัวเลขภาคการผลิตอ่อนแอกดน้ำมันดิบปิดลบ 81 เซนต์

 

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน โดยราคาน้ำมันปรับขึ้นในช่วงแรก ก่อนจะร่วงลงในช่วงต่อมาหลังจากสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่อ่อนแอ

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.อ่อนลง 81 เซนต์ หรือ 0.85 % มาปิดตลาดที่ 94.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 93.42-98.60 ดอลลาร์ โดยระดับปิดวันจันทร์ถือเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ปิดที่ 93.46 ดอลลาร์ ในวันที่ 28 มิ.ย.เป็นต้นมา และปิดตลาดใต้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 94.94 ดอลลาร์ด้วย ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนขยับขึ้น 7 เซนต์ สู่ 116.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในช่วงแรกจากการที่นักการเมืองสหรัฐบรรลุข้อตกลงในการปรับขึ้นเพดานหนี้สหรัฐ

 

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกใกล้หมู่เกาะเลสเซอร์ แอนทิลลีสมีโอกาส 80 % ที่จะกลายเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 ก.ค.ในวันพุธนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจทรงตัว และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจทรงตัว (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค : ทองร่วงลง,จับตาสภาคองเกรสโหวตเพดานหนี้

 

ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากการบรรลุข้อตกลงในการปรับขึ้นเพดานหนี้ของสหรัฐกดดันราคาทองให้ดิ่งลงจากสถิติสูงสุด อย่างไรก็ดีราคาทองได้รับแรงหนุนเข้ามาบ้างจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการเติบโตอย่างเชื่องช้าในภาคการผลิตของสหรัฐ โดยความกังวลดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเข้า

 

ซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง

 

ราคาทองสปอตทำสถิติสูงสุดที่ 1,632.30 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันศุกร์ที่ผ่านมาก่อนจะดิ่งลงสู่ 1,620.49 ดอลลาร์ในวันจันทร์

 

วอลุ่มการซื้อขายลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่เทรดเดอร์บางรายออกไปรอดูท่าทีอยู่นอกตลาด ในขณะที่ผู้นำสภาคองเกรสพยายามรวบรวมเสียงโหวตให้ได้มากพอเพื่อผ่านข้อตกลงในการปรับขึ้นเพดานหนี้สหรัฐ

 

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันจันทร์มีดังต่อไปนี้

 

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

 

ทองเดือนธ.ค. 1,621.70 - 9.50

 

เงินเดือนก.ย. 39.309 - 79.70 (เซนต์)

 

พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,794.60 + 9.30

 

พัลลาเดียมเดือนก.ย. 829.50 + 1.80 (รอยเตอร์ )

 

 

 

ตลาดเงินนิวยอร์ค : ฟรังก์สวิส,ดอลล์แข็งค่าขณะตลาดวิตกศก.โลกชะลอตัว

 

ฟรังก์สวิสพุ่งขึ้นในวันจันทร์ และดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่ยังคงมีอุปสงค์สำหรับสกุลเงินที่ปลอดภัยจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และแนวโน้มการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 77.260 เยน เทียบกับระดับปิดวันศุกร์ที่ 76.730 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4246 ดอลลาร์ และ 110.06 เยน เทียบกับระดับปิดวันศุกร์ที่ 1.4395 ดอลลาร์ และ 110.50 เยน

 

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เปิดเผยว่า การผลิตของสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวที่สุดในรอบ 2 ปีในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการคาดการณ์ที่ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนร่วงลงในเดือนก.ค.สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และดัชนี PMI ของจีนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีด้วยเช่นกัน

 

ปัจจัยบวกจากการที่สภาคองเกรสของสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ได้จางหายไป ขณะที่นักลงทุนวิตกว่า สหรัฐอาจจะยังคงถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงจากระดับ AAA แม้ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ลดน้อยลงแล้วก็ตาม

 

ยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีอและสเปนยังคงปรับตัวขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่ายังคงมีความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงของการลุกลามของวิกฤติหนี้ยูโรโซน และทำให้มีการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมากขึ้น

 

ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเยนสู่ระดับต่ำถึง 76.29 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการร่วมแทรกแซงตลาดในช่วงกลางเดือนมี.ค.เพื่อถ่วงเยนลง เยนพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร, ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์ นิวซีแลนด์ ส่วนดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบตะกร้าเงินปรับตัวขึ้น 0.6% สู่ 74.314 (รอยเตอร์)

 

 

ตลาดเงิน Emerging Asia : วอน,เปโซพุ่งนิวไฮ 3 ปีรับข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ

 

วอน และเปโซพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่กองทุนเฮจด์ฟันด์ยังคงเข้าซื้อสกุลเงินเอเชียจากความหวังที่ว่าวิกฤติหนี้สหรัฐได้คลี่คลายลงแล้ว และเศรษฐกิจเอเชียมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง

 

วอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ในประเทศ และนักลงทุนต่างประเทศบางส่วนเข้าซื้อวอน

 

บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายทรงตัวจากช่วงเช้า แต่ยังคงอยู่ในทิศทางแข็งค่าจากสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินภูมิภาค ที่ได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้ของสหรัฐ ธปท. ระบุว่า เงินบาทเคลื่อนไหวไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูความชัดเจนของแผนการปรับเพิ่ม เพดานหนี้ของสหรัฐ

 

บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.70/73 จาก 29.70/75 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 29.70/72 จาก 29.71/74 ช่วงเช้า (รอยเตอร์)

 

 

 

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index)

ปิดวานนี้ (1 ส.ค.) ลบ 8 จุด หรือ 0.63% สู่ระดับ 1256

 

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

 

ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-

 

วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)

 

29 ก.ค. 1264 -14

 

28 ก.ค. 1278 -18

 

27 ก.ค. 1296 -14

 

26 ก.ค. 1310 -7

 

25 ก.ค. 1317 -6 (รอยเตอร์)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...