มือใหม่หัดวิเคราะห์

[moddang 3,625]

สำหรับท่านที่อยากรู้เกี่ยวกับ moving average

 

โพสต์ 19 February 2011 - 16:19

การลงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในกราฟครับ MOVING AVERAGE (MA)

 

ดูตามรูปแลัวลองลงดูครับ ถ้ายังลงไม่ได้จะอธิบายให้ครับ

 

http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/473-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AD/page__st__195

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้ดูแล้วกำลังจะกลับตัวขึ้น จะได้หรือเปล่าต้องมาลุ้น เพราะเส้น 5 วันยังไม่ยอมลงนะคะ

...

ถูกแก้ไข สิงหาคม 4, 2011 โดย moddang..

[ginger 11,058]

กูรูหุ้นเงินล้าน โดย คุณ วิชัย วชิรพงค์

 

 

 

 

 

ตอนที่ 9 อย่ารีบซื้อความสุข

 

คนเราต้องตั้งเป้าหมายให้สูงๆเข้าไว้ และในระหว่างที่ต้นไม้กำลังโต คุณอย่ารีบไปเด็ดยอดทิ้ง อย่าด่วนเอาเงินมาซื้อความสุข ใจเย็นๆ ไว้ก่อน "คนฟุ่มเฟือย แม้จะรวยก็มักขัดสน คนประหยัด แม้จะจนก็มักมีเหลือเก็บ" วิชัย วชิรพงศ์ ฝากถึงนักลงทุนรุ่นใหม่ว่า ช่วงที่พอร์ตหุ้นของเรายังไม่โตมาก อย่าด่วนเอากำไรไปซื้อความสุข เพราะนั่นคุณยังไม่ประสบความสำเร็จเลย คุณต้องใจเย็นๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เก็บเอากำไรไปลงทุนต่อ ซึ่งภาษาการลงทุนเรียกว่า.."Reinvestment" "ผมเห็นมาเยอะ พอได้กำไรหุ้นมา 5-6 ล้านบาท บางคนซื้อนาฬิกาเรือนละ 7-8 แสนมาใส่ มองดูแล้วคนอย่างนี้โอกาสที่จะชนะในระยะยาว "ยาก" แค่เริ่มต้นก็เห็นจุดอ่อนแล้ว" วิชัยบอกว่า วันที่ตัวเองมีเงินถึง 100 ล้านบาท ถึงได้ให้รางวัลชีวิต ไปซื้อรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น S 280 มาขับ สมัยนั้นรถรุ่นนี้ราคาคันละกว่า 4 ล้านบาท "ชีวิตผมแม้จะสำเร็จ..ได้กำไรหุ้นมาตลอด แต่ก็ยังทนใช้รถยนต์คันเก่าไม่ยอมเปลี่ยน บ้านที่อยู่ก็ไม่ใช่บ้านของตัวเอง อาศัยบ้านพ่อตา-แม่ยายอยู่ จำได้ว่าช่วงก่อนหน้าที่ดัชนี SET จะขึ้นมา 1,700 จุด ก่อนหน้านั้น ผมไปขออนุญาตภรรยาว่า..ถ้าวันไหนผมมีเงินถึง 100 ล้านบาทนะ..ขอซื้อรถ Benz มาขับสักคัน" ...แฟนก็บอกว่าเอาเลย ถ้าเธอแน่จริงก็ทำให้ได้ซิ! แล้ววันที่ผมมีเงินถึง 100 ล้านบาท (ช่วงดัชนี 1,700 จุด) ก็ไปซื้อ S 280 มาขับ แต่ก่อนจะซื้อ ช่วงนั้นก็ยังอยู่บ้านพ่อตา-แม่ยาย อยู่ตึกแถวย่านประตูน้ำ ก็ให้แฟนไปบอกพ่อแม่เขาว่า ผมขออนุญาตซื้อรถ Benz นะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราเป็นคน "โอเวอร์" กลัวเขาจะมองว่าเป็นพวกอวดร่ำอวดรวย" เมื่อพอร์ตโตขึ้น..มีเงินระดับ 300-400 ล้านบาท วิชัยถึงได้เปลี่ยนมาใช้รถเบนซ์สปอร์ต และเมื่อมีเงินถึงระดับ "พันล้าน" ถึงได้สัมผัสรถยนต์ในฝัน "เฟอร์รารี่" ราคาคันละ 22 ล้านบาท ซึ่งเหมาะสมกับฐานะที่พึงมี

ชีวิตคนเราจะก้าวหน้าต่อไปได้ วิชัยให้แง่คิดว่า คนเราต้องตั้งเป้าหมายให้สูงๆเข้าไว้ ในระหว่างที่ต้นไม้กำลังโต คุณอย่ารีบไปเด็ดยอดทิ้ง คุณกำไรมา 10-20 ล้านบาท อย่ารีบเอามาใช้จ่าย ใจเย็นๆ ไว้ก่อน "ผมอยากให้คนเล่นหุ้น ไม่ใช่ว่าได้กำไรมาแล้วคุณเอาเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ผมทนใช้รถคันเก่า โดยตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง เราต้องรู้จักอดทนเพื่อรอวันที่ประสบความสำเร็จก่อน" ประสบการณ์ตลอด 20 ปีในตลาดหุ้น..ย้ำสอนกูรูหุ้นท่านนี้ว่า ความสำเร็จในตลาดหุ้นเพียงชั่วขณะใดขณะหนึ่ง เราต้องไม่หลงระเริง เพราะนั่นยังไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง..คุณต้องพิสูจน์เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ต้องทำให้ได้เสียก่อน "...เพราะ "เงิน" จะเติบโตก็เฉพาะกับคนที่รู้จักใช้มัน ในเวลาที่เหมาะสม" เขาเชื่อเช่นนั้น วิชัยเล่าว่า การตัดสินใจหันเหชีวิตมาเอาดีด้านการเล่นหุ้นเป็นอาชีพ ช่วงแรกโดนดูถูกมาก สุดท้ายถึงได้ล้มล้างภาพให้เห็นว่าคนเล่นหุ้น ก็สำเร็จได้ "ภรรยาผมเป็นหลานอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ครอบครัวเขามีหน้ามีตา มีฐานะ คุณพ่อ-คุณแม่ภรรยาก็เป็นหมอ (อยู่โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลเด็ก) เขามีพี่น้อง 4 คน อนาคตดีๆกันทั้งนั้นเลย มีแต่ผมเป็นคนจีนต่างด้าว ไม่มีอะไรเลย ห่วยที่สุด ไม่น่าไว้วางใจที่สุด แล้วไปอาศัยอยู่บ้านเขาอีกต่างหาก"

ก่อนจะมาเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ วิชัยบอกว่า ก่อนหน้านั้นสิ่งที่รู้สึกมากก็คือ ไม่รู้ว่าคนรอบข้างจะมองตัวเองอย่างไร ซึ่งก็คิดไปในแง่ร้ายว่า เขาคงมองเราว่าไอ้คนนี้ท่าทางมันจะแย่ที่สุด ปัจจัยที่จะทำให้เรามีเครดิตจากสังคมรอบข้าง ดีที่สุดเราต้องพิสูจน์ตัวเอง วิชัยมีคติประจำใจว่า หนึ่ง..เราต้องเป็นคนดี สอง..ถ้าเราทำอะไรไว้ต้องได้สิ่งนั้น และสาม..เครดิตสำคัญที่สุด ต้องรักษาไว้ นอกจากนี้เขายังชักจูงคนใกล้ชิด นำเงินมาฝากเพื่อบริหารพอร์ตให้ ถ้าไม่มั่นใจก็รับประกันการขาดทุนให้ด้วย เล่นไม่นานก็ได้กำไรเป็นเท่าตัว วิชัยบอกว่า บางคนอยากจะเข้ามาเล่นหุ้นเอง แต่ต้องบอกกลับไปว่า.."อย่าเล่นเลย ให้ผมบริหารพอร์ตให้ดีกว่า" ตามปกติการบริหารพอร์ตให้คนอื่น สมมติเอาเงินมาฝาก 100 บาท ถ้าเล่นหุ้นได้กำไรจะต้องได้ส่วนแบ่ง 30% ถ้าขาดทุนต้องช่วยออกด้วย 20% ในวงการทำกันอย่างนี้ แต่สำหรับวิชัย ถ้ากำไรให้คืนไปหมดเลย ถ้าพอร์ตเล็กๆ 1-2 ล้านบาท ก็จะรับประกันการขาดทุนให้ด้วย "ผมมีความเชื่อว่า การช่วยเหลือคนอื่นมันเป็นตัวส่งเสริมให้เราเล่นหุ้นได้กำไรมาตลอด...คือเราไม่ได้ไปเอาเล็กๆ น้อยๆ จากเขา มันเป็นบุญคุณที่ส่งเสริมให้เราสำเร็จ เพราะใครรู้ข่าวอะไรก็มาบอกเรา มีคนฝากผมตอนนี้ไม่ต่ำกว่า 50-60 ล้านบาท" เขากล่าว วิชัยสรุปตอนท้ายว่า คนเรานั้น การรักษาเครดิตสำคัญมากๆ อย่าให้เสีย อีกอย่าง เราอย่าไปเอาเปรียบคนอื่น อยู่ในวงการนี้ถึงจะมีพรรคพวกมีคนนับถือ 2 ข้อนี้ จะส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จ..จำไว้!

 

 

ขอบคุณผู้เขียน

 

[ginger 11,058]

ดัชนีตลาดรวมต่างประเทศ เงิน ทอง โลหะ น้ำมัน ตลาดหุ้น โภคภัณฑ์ เรือขนส่ง

การเงิน-หลักทรัพย์ - ตลาดหลักทรัพย์

Thursday, 04 August 2011 15:28

Share this

Twitter Yahoo Googlize this Facebook

Hear this text

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค : ดาวโจนส์ดีดตัวทางเทคนิคปิดบวก 0.25%

 

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันพุธ โดยดัชนี S&P 500 ยุติการร่วงลง 7 วันติดต่อกัน แต่นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน

 

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 29.82 จุดหรือ 0.25% สู่ 11,896.44, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 6.29 จุดหรือ 0.50% สู่ 1,260.34 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 23.83 จุดหรือ 0.89% สู่ 2,693.07

 

ปริมาณการซื้อขายหนาแน่นที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. โดยมีปริมาณการซื้อขายราว 1.05 หมื่นล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยต่อวันที่ราว 7.48 พันล้านหุ้น

 

จำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบ 1,725 ต่อ 1,274 ในตลาดนิวยอร์ค และ 1,511 ต่อ 1,054 ในตลาด Nasdaq

 

นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะยังคงระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคการผลิตที่ซบเซาในช่วงที่ผ่านมาและยังมีความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรป

 

เทรดเดอร์ระบุว่า มีแรงซื้อบางส่วนกลับเข้าตลาดหลังนายโดนัลด์ คอห์นอดีตรองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยกับวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่าเฟดอาจพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

 

ตลาดถูกถ่วงลงในช่วงเช้าจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐร่วงลงในเดือนก.ค.สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2010 ขณะที่ยอดสั่งซื้อของโรงงานร่วงลงในเดือนมิ.ย. เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอสำหรับอุปกรณ์ด้านการขนส่ง (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค : ตัวเลขสต็อกน้ำมันกดน้ำมันดิบดิ่งลง 1.86 ดอลล์

 

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX รูดลงในวันพุธ โดยได้รับแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันและความกังวลเรื่องอุปสงค์ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างเชื่องช้า

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 1.86 ดอลลาร์ หรือ 1.98 % มาปิดตลาดที่ 91.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดต่ำสุดของสัญญาเดือนใกล้นับตั้งแต่ปิดที่ 90.61 ดอลลาร์ในวันที่ 27 มิ.ย. หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 91.22-93.75 ดอลลาร์ โดยจุดต่ำสุดของวันพุธถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่แตะ 90.44

 

ดอลลาร์ในวันที่ 28 มิ.ย. ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนรูดลง 3.23 ดอลลาร์ สู่ 113.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ปิดที่ 111.39 ดอลลาร์ในวันที่ 4 ก.ค. หลังจากแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 112.84 ดอลลาร์

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 950,000 บาร์เรล สู่ 355.0 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 ก.ค., สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สู่ 152.3 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ 215.2 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมัน heating oil เพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สู่ 37.3 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.0 % สู่ 89.3 %

 

ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบในสหรัฐลดลง 706,000 บาร์เรล สู่ 9.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค : กังวลศก.หนุนทองพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่

 

ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,672.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่นักลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนในตลาดหุ้น, ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการที่สหรัฐดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นเวลายาวนาน

 

วอลุ่มการซื้อขายสัญญาทองเดือนธ.ค.อยู่ที่ระดับสูงกว่า 200,000 สัญญา ในขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่สินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นและตลาดสกุลเงิน

 

ราคาทองปรับขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ภาคบริการของสหรัฐเติบโตในเดือนก.ค. ในอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2010 และการจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐชะลอตัวลงเช่นกันในเดือนก.ค.

 

ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้ว 13 % นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. โดยนักวิเคราะห์บางคน กังวลว่าราคาทองอาจจะปรับฐานลงอย่างรุนแรงในอนาคต แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าการปรับฐานจะกินเวลาเพียงสั้นๆ เพราะราคาทองจะยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

 

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันพุธมีดังต่อไปนี้

 

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

 

ทองเดือนธ.ค. 1,666.30 + 21.80

 

เงินเดือนก.ย. 41.758 +166.60 (เซนต์)

 

พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,785.00 - 8.50

 

พัลลาเดียมเดือนก.ย. 795.10 - 31.80 (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดเงินนิวยอร์ค : ฟรังก์สวิสร่วงหลังธนาคารกลางลดดอกเบี้ย

 

ฟรังก์สวิสร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธหลังธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่การร่วงลงจะเป็นเพียงชั่วคราวเมื่อพิจารณาจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 77.030 เยน เทียบกับระดับปิดวันอังคารที่ 77.060 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4313 ดอลลาร์ และ 110.27 เยน เทียบกับระดับปิดวันอังคารที่ 1.4192 ดอลลาร์ และ 109.38 เยน

 

SNB ระบุว่า ฟรังก์มีค่ามากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเข้าแทรกแซงตลาด และทำให้ตลาดมุ่งความสนใจไปที่เจ้าหน้าที่ด้านการเงินของญี่ปุ่นซึ่งเตือนอีกครั้งว่า พวกเขากังวลกับเยนที่แข็งค่าขึ้น

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า SNB จะระมัดระวังในการเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อถ่วงฟรังก์ลง หลังจากที่เคยใช้เงินเกือบ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในความพยายามที่จะสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของฟรังก์ระหว่างเดือนมี.ค. 2009-

 

เดือนมิ.ย. 2010

 

ยูโรและดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส หลังธนาคารกลางสวิสประกาศลดอัตราดอกเบี้ย

 

ยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าแรงกดดันในตลาดตราสารหนี้ของอิตาลีและสเปนมีแนวโน้มที่จะสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของยูโร

 

ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเยน หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 76.78 เยน (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดเงิน Emerging Asia : วอนร่วงต่ำสุด 2 สัปดาห์ ขณะนักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง

 

วอนและริงกิตร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และกองทุนหลายแห่งได้ลดสัดส่วนการถือครองสกุลเงินเอเชีย เนื่องจากมีความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ของยูโรโซน และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

 

นักลงทุนต่างประเทศ อาทิ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์เข้าซื้อคืนดอลลาร์ ส่งผลให้วอนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ขณะที่การหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกเป็นปัจจัย

 

ฉุดหุ้นเกาหลีใต้ดิ่งลง

 

นักลงทุนต่างชาติทำสถิติเทขายหุ้นเกาหลีใต้มากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ซึ่งกดดันค่าเงินวอนมากขึ้น

 

ริงกิตอ่อนค่าลงแตะ 2.9820 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. ขณะที่กองทุนเข้าซื้อคืนดอลลาร์

 

ดอลลาร์สิงคโปร์ร่วงลงจากการซื้อคืนดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นบ้างหลังจากนั้น

 

เปโซอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์จากคำสั่งขายของธนาคารต่างชาติ ท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจโลก

 

บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายกลับมาแข็งค่า แม้สกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่อ่อนค่าลง โดยดีลเลอร์ คาดว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแรงขายดอลลาร์จากผู้ค้าทองหลังราคาทองพุ่งขึ้นแรงในช่วงนี้ บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.70/77 จาก 29.79/84 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 29.73/75 จาก 29.80/82 ช่วงเช้า (รอยเตอร์)

 

 

 

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index)

ปิดวานนี้ (3 ส.ค.) บวก 7 จุด หรือ 0.56% สู่ระดับ 1260

 

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

 

ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-

 

วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)

 

2 ส.ค. 1253 -3

 

1 ส.ค. 1256 -8

 

29 ก.ค. 1264 -14

 

28 ก.ค. 1278 -18

 

27 ก.ค. 1296 -14 (รอยเตอร์)

 

[ginger 11,058]

ดัชนีปิดเช้าวันนี้ 1,135.19 จุด เพิ่มขึ้น 1.73 จุด ซื้อขาย 14,798.28 ล้านบาท

การเงิน-หลักทรัพย์ - ตลาดหลักทรัพย์

Thursday, 04 August 2011 16:48

Share this

Twitter Yahoo Googlize this Facebook

Hear this text

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย : ปิดเช้าบวก 1.73 จุด แกว่งไซต์เวย์คล้ายภูมิภาค, ยังอิงปัจจัยหลักนอกปท.

 

ตลาดหลักทรัพย์ ดัชนีปิดเช้าวันนี้ 1,135.19 จุด เพิ่มขึ้น 1.73 จุด ซื้อขาย 14,798.28 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,137.12 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,130.77 จุด

 

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซต์เวย์คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งปัจจัยจากต่างประเทศช่วงนี้มีมาก โดยเฉพาะเรื่องสหรัฐฯที่เริ่มมีความคาดหวังมาตรการ QE 3 แต่ยังต้องรอดูความชัดเจน อีกทั้งนักลงทุนยังให้ความกังวลเศรษฐกิจอยู่เหมือนเดิม

 

อย่างไรก็ดี เม็ดเงินไหลเข้าในภูมิภาคเอเชียมากเป็น รวมถึงตลาดบ้านเราด้วย ซึ่ง Fund Flow ได้เข้ามาหนุนตลาดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา แต่หลังจากนี้เชื่อว่าตลาดฯคงต้องเริ่มดูปัจจัยพื้นฐานกันมากขึ้น เพราะราคาหุ้นเริ่มมี upside เหลือน้อยแล้ว

 

สำหรับการเข้ามาเล่นเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 2/54 ของบริษัทจดทะเบียนก็ยังคงมีอยู่เป็นรายตัวไป ซึ่งในระหว่างทางอาจมีแรง take profit บ้าง เพราะราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมามากแล้ว

 

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งไซต์เวย์ และมีโอกาสที่จะเจอ take profit ระหว่างทาง พร้อมให้แนวรับ 1,120 จุด แนวต้าน 1,138-1,140 จุด โดยแนะ"ขาย"เมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้น

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 564.32 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

SCB มูลค่าการซื้อขาย 550.58 ล้านบาท ปิดที่ 124.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

SAMART มูลค่าการซื้อขาย 546.59 ล้านบาท ปิดที่ 10.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

JAS มูลค่าการซื้อขาย 544.80 ล้านบาท ปิดที่ 3.18 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 477.57 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นเทคนิคเคิลรีบาวน์ตามภูมิภาค, ปัจจัยในประเทศหนุน

 

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีการเทคนิคเคิลรีบาวน์ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังปรับตัวลงค่อนข้างแรงในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ถ้าพิจารณาจากปัจจัยในประเทศขณะนี้ถือว่าค่อนข้างนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ผลประกอบการและการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนก็ยังดีอยู่ เม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มไหลเข้า น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดฯรีบาวน์ขึ้นมาได้

 

ขณะที่ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงปัญหาหนี้สินในยุโรปที่ขณะนี้เริ่มขยายตัวไปในอิตาลี ก็ถือเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่ตลาดรับรู้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ต้องรอติดตามดูว่าจะประเด็นใหม่เข้ามาเพิ่มเติมหรือไม่

 

พร้อมให้แนวรับ 1,120 จุด แนวต้าน 1,136 และ 1,150 จุด

 

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

 

- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(3 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,896.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.82 จุด (+0.25%)ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,260.34 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด(+0.50%)ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,693.07 จุด เพิ่มขึ้น 23.83 จุด (+0.89%)

 

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 32.00 ล้านบาทเมื่อวานนี้

 

- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.86 ดอลลาร์ หรือ 1.98%

 

- แบงก์ชาติห่วงส่งออกไทยอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯเหตุไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯคิดเป็น11% ส่วนตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบชัดเจน หนุนปรับตัวส่งออกไปยังประเทศเกิดใหม่ในเอเชียมากขึ้น

 

- สบน.อัดแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยถี่ ถีบช่องว่างคนจน-คนรวยยิ่งห่าง แนะรัฐบาลใหม่จูนนโยบายการเงิน-การคลังให้สอดคล้องกัน

 

- อคส.พร้อมรับนโยบายจำนำข้าว เห็นด้วยหากรัฐจะให้ขายข้าว เชื่อลดปัญหาข้าวเสื่อมสภาพ แนะหากจัดเก็บนานเกิน 1 ปี ต้องมีไซโลจัดเก็บ คาดใช้งบลงทุนขั้นต่ำ 1,200 ล้านบาท

 

- ธปท.เล็งขยายเพดานถือทองคำในทุนสำรองให้มากกว่า 3% ล่าสุดตุน 30 ตันเป็น 130 ตัน พร้อมลดถือดอลลาร์ ยูโร เยน หันถือหยวน 7 พันล้านหยวน เพื่อกระจายเสี่ยง รองรับธุรกรรมแบงก์พาณิชย์ ด้านนายกสมาคมค้าทองเผยธนาคารกลางเอเชีย แห่ตุนทอง ดันราคาพุ่งสถิติใหม่ 1,664 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลุ้นแตะ 1,700 ดอลลาร์ วิตกสหรัฐถูกหั่นเครดิต

 

- โผ รมต.คนนอกส่อป่วน "วิชิต" ถอนตัวนั่ง รมว.คลัง เหตุ "ทักษิณ" เบี้ยวข้อตกลง "ประเสริฐ" รับถูกทาบร่วม ครม.แบไต๋พร้อมนั่ง รมว.พลังงาน "พล.อ.ยุทธศักดิ์" ลาออกจากบอร์ดไดนาสตี้ เซรามิค ลุ้นเก้าอี้กลาโหม แกนนำ พท.ล็อกโควตาภาค"คุณหญิงพจมาน"ดอดบินถก"ทักษิณ"เขย่าโผ เพื่อไทยให้แคนดิเดท รมต.กรอกประวัติ พร้อมทั้งส่งซองคุณสมบัติ รมต. 3 พรรคร่วม 5 ตำแหน่ง

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังจากญี่ปุ่นแทรกแซงเงินเยน

 

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังจากที่ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราในวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ หุ้นต่างๆปรับตัวลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,685.50 จุด เพิ่มขึ้น 48.36 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,019.92 จุด เพิ่มขึ้น 27.20 จุด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.18% แตะที่ระดับ 2,683.19 จุด สำหรับดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,472.37 จุด เพิ่มขึ้น 15.51 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 2,067.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,546.87 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,336.50 จุด เพิ่มขึ้น 3.70 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,129.44 จุด ลดลง 0.90 จุด

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific อ่อนตัว 0.2% แตะ 133.37 จุด เมื่อเวลา 10.14 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว

 

หุ้นแคนนอนพุ่ง 2% ในตลาดหุ้นโตเกียว หลังจากที่รมว.คลังญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงเงินเยน หุ้นฮิตาชิและมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ ดีดตัวอย่างน้อย 3% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บวก 0.6% ในตลาดหุ้นออสเตรเลียหลังจากที่ราคาน้ำมันและทองแดงดีดตัวขึ้น

 

นายโยชิฮิโกะ โนดะ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนในวันนี้ ขณะเดียวกันนายโนดะยืนยันว่า การแทรกแซงตลาดครั้งล่าสุดเป็นการแทรกแซงโดยญี่ปุ่นเพียงประเทศเดียว

 

รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่าจะยังคงจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด เพราะที่ผ่านมามีข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเยนแข็งค่าเพียงด้านเดียว

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเทขายสกุลเงินเยนและทุ่มซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐของทางการญี่ปุ่นในวันนี้ มีขึ้นหลังจากดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 77 เยนในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดโตเกียว

 

เงินเยนร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ (4 ส.ค.) หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการเทขายเงินเยนและซื้อสกุลเงินดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งการแข็งค่าของเงินเยนซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในเวลานี้

 

ทั้งนี้ ณ เวลา 10.46 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ เงินเยนร่วงลงสู่ระดับ 78.36 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 77.06 เยนต่อดอลลาร์ในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ เงินเยนร่วงลงสู่ระดับ 112.19 เยนต่อยูโร จากระดับ 110.38 เยนต่อยูโร

 

[ginger 11,058]

จับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก-ราคาน้ำมันดิบร่วงลง

การเงิน-หลักทรัพย์ - หุ้นเด่นวันนี้

Thursday, 04 August 2011 16:23

Share this

Twitter Yahoo Googlize this Facebook

Hear this text

 

SET : ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก-ราคาน้ำมันดิบร่วงลง

 

กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--รอยเตอร์

 

**ต่างประเทศ

 

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันพุธ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.25% ขณะที่ดัชนี S&P

 

500 ยุติการร่วงลง 7 วันติดต่อกัน แต่นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน

 

*วานนี้ ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรในหุ้นไฟแนนซ์และหุ้นขนาดใหญ่ ท่ามกลางความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ,

 

ปัญหาในยูโรโซน และการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์,

 

อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ต่างปิดในแดนลบ

 

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้ ร่วงลง 1.86

 

ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจาก

 

การเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมัน และความกังวลเรื่องอุปสงค์ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจ

 

บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างเชื่องช้า

 

*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ บวก 7 จุด หรือ 0.56% สู่ระดับ

 

1260 โดยระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

 

*ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด 1.14แสนตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 แสนตำแหน่ง

 

*สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ(ISM) เผยดัชนีภาคบริการร่วงลงสู่ระดับ 52.7

 

ในก.ค.ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ก.พ.53 จากระดับ 53.3 ในมิ.ย. และต่ำกว่าที่

 

นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ระดับ 53.6 ในเดือนก.ค.

 

**เศรษฐกิจทั่วไป

 

*กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เตรียมเสนอรมว.พลังงานคนใหม่ เดินหน้าพัฒนาแหล่งสำรวจ และผลิตปิโตรเลียม พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาอีกครั้ง หลังทั้งสองประเทศ มีความ

 

พยายามที่จะพัฒนาปิโตรเลียมพื้นที่ดังกล่าว มาเป็นเวลานับ 10 ปี

 

*ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยอาจจะได้รับผลกระทบเล็กน้อย จากแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสาเหตุที่ทำให้ไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากไทย

 

มีการกระจายการส่งออก ไปยังตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น

 

*ธปท.มองหลังจากสหรัฐสามารถปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันตามกำหนดที่วางไว้ ก็ช่วย

 

ผ่อนคลายความกังวลในระยะสั้นต่อตลาดการเงิน แต่มองว่า ปัญหาระยะยาวด้าน

 

โครงสร้างของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีอยู่

 

*บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส มองราคาทองคำระยะสั้น มีความเสี่ยงที่จะร่วงลง

 

หลังพุ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา จนมาทำจุดสูงสุดครั้งใหม่

 

เหนือระดับ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยที่ยังไม่มีการปรับฐานอย่างจริงจัง

 

*คลาสสิก โกลด์ฯ มองว่า ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ และยุโรป รวมถึงการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางในเอเชีย จะเป็นปัจจุบันหนุนให้ราคาทองคำในระยะต่อไป ปรับขึ้นได้อีก โดยมีเป้าหมายในปีนี้ที่ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

*บลจ.กสิกรไทย มองอัตราผลตอบแทน(yield) พันธบัตรรัฐบาลไทยระยะสั้นถึงกลาง

 

อาจจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนักในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เริ่มเข้าใกล้ระดับที่เหมาะสมแล้ว รวมทั้งมีแรงซื้อพันธบัตรจากต่างชาติด้วย

 

*กรมบัญชีกลาง สนองรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"ชงแผนขึ้นเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท เพิ่ม

 

ค่าครองชีพปีละ 1.5 พันบาท เผยต้องใช้เงิน 3 หมื่นลบ.(นสพ.มติชน)

 

*ธปท.เผยยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินในการดูแลปัญหาเงินเฟ้อ เพราะหากปล่อยให้ลุกลามออกไป จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง และในระยะยาวจะเป็นผลลบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ (นสพ.โพสต์ทูเดย์)

 

*โผ รมต.คนนอกส่อป่วน "วิชิต" ถอนตัวนั่ง รมว.คลัง เหตุ "ทักษิณ" เบี้ยวข้อตกลง

 

"ประเสริฐ"จากปตท.รับถูกทาบร่วม ครม.แบไต๋พร้อมนั่ง รมว.พลังงาน

 

(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)

 

*อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ระบุตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทุกด่านตรวจคนเข้า

 

เมือง เดือนก.ค.มี 1.52 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18.8% จากก.ค.ปีก่อน โดยนักท่องเที่ยว

 

จากประเทศในเอเชียตะวันออก เป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุด ส่วนกลุ่มโอเชียเนีย ได้แก่ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและกลุ่มตะวันออกกลาง เดินทางลดลง(นสพ.มติชน)

 

**การเมือง

 

*"อภิสิทธิ์"จะแถลงอำลาตำแหน่งผ่านสถานีโทรทัศน์ รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในวันนี้ เวลา 20.30 น. พร้อมรายงานสถานะเศรษฐกิจการเงินการคลัง ด้านสังคม

 

และความมั่นคง ให้ประชาชนรับทราบ

 

*นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รักษาการโฆษก ปชป.ระบุว่า ปชป.จะเดินหน้าทำหน้าที่

 

ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ โดยจะตั้งสถาบันนโยบายและติดตามการทุจริตคอรัปชั่น เป็น

 

กลไกการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน คู่ขนานกับการตั้งรัฐมนตรีเงา เพื่อติดตามการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่

 

*เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนฯได้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. เพื่อลงมติเลือก

 

นายกรัฐมนตรี

 

*ผู้จัดทำนโยบายการศึกษา พรรคเพื่อไทย เผยว่านโยบายแจกแท็บเล็ตนักเรียน ป.1

 

จะส่งผลกระทบต่อการผลิตตำราเรียนอย่างแน่นอน เพราะจะผลิตตำราเรียนน้อยลงไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับสิ่งพิมพ์อื่นๆ ดังนั้น ผู้ที่ผลิตตำราเรียนจะต้องปรับตัว รองรับความ

 

เปลี่ยนแปลง ไปสู่การเรียนการสอนผ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรืออีบุ๊ก(นสพ.โพสต์ทูเดย์)จบ--

 

(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร เรียบเรียง--บร--)

 

(( wirat.buranakanokthanasan@thomsonreuters.com;โทร.0-2648-9756;

 

ReutersMessaging:wirat.buranakanokthanasan.thomsonreuters.com@reuters.net))

 

 

 

ถูกแก้ไข สิงหาคม 4, 2011 โดย ginger

[ginger 11,058]

ดัชนีเช้าลุ้นเทคนิคเคิลรีบาวน์ตามภูมิภาค, ปัจจัยในประเทศหนุน

การเงิน-หลักทรัพย์ - หุ้นเด่นวันนี้

Thursday, 04 August 2011 16:45

Share this

Twitter Yahoo Googlize this Facebook

Hear this text

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นเทคนิคเคิลรีบาวน์ตามภูมิภาค, ปัจจัยในประเทศหนุน

 

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีการเทคนิคเคิลรีบาวน์ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังปรับตัวลงค่อนข้างแรงในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ถ้าพิจารณาจากปัจจัยในประเทศขณะนี้ถือว่าค่อนข้างนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ผลประกอบการและการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนก็ยังดีอยู่ เม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มไหลเข้า น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดฯรีบาวน์ขึ้นมาได้

 

ขณะที่ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงปัญหาหนี้สินในยุโรปที่ขณะนี้เริ่มขยายตัวไปในอิตาลี ก็ถือเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่ตลาดรับรู้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ต้องรอติดตามดูว่าจะประเด็นใหม่เข้ามาเพิ่มเติมหรือไม่

 

พร้อมให้แนวรับ 1,120 จุด แนวต้าน 1,136 และ 1,150 จุด

 

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

 

- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(3 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,896.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.82 จุด (+0.25%)ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,260.34 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด(+0.50%)ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,693.07 จุด เพิ่มขึ้น 23.83 จุด (+0.89%)

 

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 32.00 ล้านบาทเมื่อวานนี้

 

- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.86 ดอลลาร์ หรือ 1.98%

 

- แบงก์ชาติห่วงส่งออกไทยอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯเหตุไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯคิดเป็น11% ส่วนตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบชัดเจน หนุนปรับตัวส่งออกไปยังประเทศเกิดใหม่ในเอเชียมากขึ้น

 

- สบน.อัดแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยถี่ ถีบช่องว่างคนจน-คนรวยยิ่งห่าง แนะรัฐบาลใหม่จูนนโยบายการเงิน-การคลังให้สอดคล้องกัน

 

- อคส.พร้อมรับนโยบายจำนำข้าว เห็นด้วยหากรัฐจะให้ขายข้าว เชื่อลดปัญหาข้าวเสื่อมสภาพ แนะหากจัดเก็บนานเกิน 1 ปี ต้องมีไซโลจัดเก็บ คาดใช้งบลงทุนขั้นต่ำ 1,200 ล้านบาท

 

- ธปท.เล็งขยายเพดานถือทองคำในทุนสำรองให้มากกว่า 3% ล่าสุดตุน 30 ตันเป็น 130 ตัน พร้อมลดถือดอลลาร์ ยูโร เยน หันถือหยวน 7 พันล้านหยวน เพื่อกระจายเสี่ยง รองรับธุรกรรมแบงก์พาณิชย์ ด้านนายกสมาคมค้าทองเผยธนาคารกลางเอเชีย แห่ตุนทอง ดันราคาพุ่งสถิติใหม่ 1,664 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลุ้นแตะ 1,700 ดอลลาร์ วิตกสหรัฐถูกหั่นเครดิต

 

- โผ รมต.คนนอกส่อป่วน "วิชิต" ถอนตัวนั่ง รมว.คลัง เหตุ "ทักษิณ" เบี้ยวข้อตกลง "ประเสริฐ" รับถูกทาบร่วม ครม.แบไต๋พร้อมนั่ง รมว.พลังงาน "พล.อ.ยุทธศักดิ์" ลาออกจากบอร์ดไดนาสตี้ เซรามิค ลุ้นเก้าอี้กลาโหม แกนนำ พท.ล็อกโควตาภาค"คุณหญิงพจมาน"ดอดบินถก"ทักษิณ"เขย่าโผ เพื่อไทยให้แคนดิเดท รมต.กรอกประวัติ พร้อมทั้งส่งซองคุณสมบัติ รมต. 3 พรรคร่วม 5 ตำแหน่ง

 

 

[ginger 11,058]

ผู้นำซีเรียเห็นชอบร่าง ก.ม.จัดตั้งพรรคการเมืองหลายพรรค

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2554 16:53 น.

 

Share

 

 

 

สำนักข่าวซานารายงานว่า วันนี้ ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซัด แห่งซีเรีย ได้ประกาศให้ร่างกฎหมายระบบการเมืองแบบหลายพรรค ที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลซีเรียเป็นกฤษฎีกาแล้ว ส่งผลให้นับจากนี้ไป กลุ่มบุคคลนั้นสามารถจัดตั้งพรรคการเมืองได้ นอกเหนือไปจากพรรคบาสก์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ทำหน้าที่บริหารประเทศมาตลอด ตั้งแต่ปี 2506

ทั้งนี้รัฐบาลซีเรียเพิ่งให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายระบบจัดตั้งระบบการเมืองแบบหลายพรรคไป เมื่อเดือนที่แล้ว ตามคำเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วง และการที่ประธานาธิบดีประกาศเป็นกฤษฎีกา ทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาอีก

[ginger 11,058]

เชือกกับปัญหา

 

 

 

 

 

ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยหัวเสียกับเชือกที่พันกันยุ่งเหยิง

ยิ่งแก้ยิ่งอารมณ์เสีย

ฉันร้องห่มร้องไห้ โทษดินฟ้าอากาศ

แล้วคิดว่าทำไมฉันต้องทนกับเจ้าเชือกไร้สาระพวกนี้ด้วย

เลยใช้มีดตัดๆ ตัดจนเชือกขาดเป็นชิ้นๆ (สะใจจริง)

พอหายโมโห

ฉันนั่งมองกองเชือกขาดๆ ที่ไร้ประโยชน์

(โถช่างน่าสงสารจริงๆ ทั้งตัวเองและเชือก)

 

แต่แล้วครั้งต่อมา พอเชือกพันกันอีก...

ฉันก็ใช้มีดตัดมันอีกอย่างไม่คิดอะไร

จนวันหนึ่ง...

ฉันเห็นแม่นั่งแก้เชือก ที่พันกันกองโต

มันยุ่งชนิดที่ว่า

ชาตินี้คงไม่สามารถกลับมาเป็นเส้นตรงได้เหมือนเดิม

ฉันเห็นแม่นั่งแก้ทุกวัน วันละนิดละหน่อย

พอเบื่อก็ไปทำอย่างอื่น

ทิ้งกองเชือกกองไว้ แล้วก็กลับมานั่งแก้อีก

จนฉันรำคาญ และคิดว่า

ทำไมแม่ต้องทนกับกองเชือกไร้สาระพวกนี้

เลยบอกแม่ว่าเอามีดตัดมันออกเถอะ...

นั่นแหละฉันถึงได้เข้าใจเมื่อแม่ตอบว่า...

“เวลาที่เชือกพันกัน เขาห้ามใช้มีดตัด ต้องแก้ออกให้ได้

เพราะเชือกเป็นเส้นเดียวต่อให้พันกันยุ่งแค่ไหนก็แก้ได้

ถ้าแค่เชือกพันกันแค่นี้ลูกแก้ไม่ได้

แล้วต่อไปจะแก้ปัญหาอะไรในชีวิตได้

ลูกก็จะแก้ปัญหาสุ่มๆ เหมือนที่ใช้มีดตัดเชือกนั่นแหละ

…ถ้าลูกไม่อดทนแก้เชือกด้วยมือตัวเอง

ค่อยๆ แกะวันละนิดละหน่อย

แค่นี้ทำไม่ได้แล้วจะไปทำอะไรได้

ไม่มีอะไรยากไปกว่าความอดทนของคนหรอก...”

หลังจากนั่นอีก 3 วัน

ฉันเห็นขดเชือกเส้นสวยเป็นระเบียบแขวนอยู่

ฉันมองอย่างทึ่ง แม่ยิ้มอย่างภูมิใจ

เรื่องนี้ทำให้ฉันรู้ว่า

ปัญหาของคนเรา จริงๆ แล้วคือการหนีปัญหานั่นแหละ

เพราะถ้าเราตั้งใจแก้มัน มีหรือจะไม่มีทางออก

แพ้บ้าง ชนะบ้างเป็นเรื่องปกติ

จะได้ “ล้มเป็นลุกเป็น”

โลกสร้างปัญหา สร้างความทุกข์

ให้เราผ่านไปให้ได้...

ฉันไม่เคยซ้ำเติม คนที่ฆ่าตัวตายว่าเขาโง่

เพียงแต่เขาก้าวผ่านปัญหาบนโลกไปไม่ได้

เขาเลยเลือกที่จะหนีไปจากโลกนี้แทน

ด้วยความขาดสติ ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ

พอวันวัยผ่านมา ตอนนี้ฉันได้รู้ว่า

ชีวิตคนเราผิดพลาดได้ ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติ

ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไรเลย...

ไม่ว่าจะเหนื่อยจะท้อแค่ไหน อย่าหนีปัญหาไปเฉยๆล่ะ

แค่บอกปัญหาว่าพักสักเดี๋ยว แล้วค่อยมาเจอกันใหม่

 

ขอบคุณผู้แต่งไม่ทราบชื่อ จาก FW

 

ขอบคุณภาพ จาก คุณ เจม

[moddang 3,625]

 

ตอนนี้ดูแล้วกำลังจะกลับตัวขึ้น จะได้หรือเปล่าต้องมาลุ้น เพราะเส้น 5 วันยังไม่ยอมลงนะคะ

...

 

 

ตามคาด กราฟ 4

.....

 

 

[ginger 11,058]

http://www.posttoday.com/วิเคราะห์/ต่างประเทศ/103140/ดอลลาร์หมดเสน่ห์เงินหยวนจีนเตรียมผงาด

[moddang 3,625]

สุดเทรนหรือยังนะ ดูเหมือนสุด แต่...!uu ....

 

กราฟ 4

 

 

 

 

กราฟรายวัน...ยังไม่สุดเทรนย่อย

 

 

ถูกแก้ไข สิงหาคม 4, 2011 โดย moddang..

[samonpapat 26]

+1 ให้คุณมดแดงค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ทุกวัน

[นายธนันชัย 3]

+1 ให้คุณมดแดงเช่นกันครับ

[happy-go-lucky 5]

!thk !thk !thk

[เด็กสยาม 172]

!gd ขอบคุณน้ำใจและความขยันของคุณมดแดง ginger news มีทั้งกราฟ ทั้งข่าวสาร ที่สำคัญนิ่งมากๆเวลาใจสั่น หวิวๆ เข้ามาห้องนี้แล้วอบอุ่นหัวใจทำให้คลายความเกร็งไปได้มาก ตอนนี้ขอลุ้นกราฟสวยๆของคุณมดแดงต่อแล้วกัน(สุดๆไปเลย) !gd !gd !gd