ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

รองนายกฯ คาดจัดเลือกตั้งได้กลางปี 60 หลังต้องยกร่าง รธน.ใหม่

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 11:17:27 น.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) มีมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญว่า ในส่วนการสรรหาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่ 21 คน ไม่จำเป็นต้องครบทั้ง 21 คนก็ได้ แต่ต้องมีความรู้ในการร่างรัฐธรรมนูญ และไม่จำเป็นต้องเป็นนักกฎหมาย แต่ต้องเข้าใจสภาพบ้านเมืองไทยในทุกมิติ และมีแนวคิดไม่ตรงข้ามกับรัฐบาล ถ้าเป็นแนวคิดเดียวกับรัฐบาลได้คงดี ซึ่งคงหาได้ยาก

 

 

 

ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนนี้ และไม่ทราบว่ารายชื่อจะออกมาภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ เนื่องจากเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบได้ รวมถึงยังไม่มีการเตรียมการใดๆ เพราะยังคงมีเวลาอีก 30 วัน เข้าใจว่ามีคนที่ทำหน้าที่เลือกคณะกรรมการฯ อยู่แล้ว แต่คนที่ได้รับการทาบทามบางคนอาจติดขัดในการทำงานส่วนอื่น เช่นเดียวกับการทาบทามรัฐมนตรีที่ติดภาระ ที่ไม่สามารถลาออกจากตำแหน่งเดิมได้ ซึ่งสุดท้ายจะต้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นผู้ตัดสินใจ

 

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) ตนจะรายงานโรดแมพต่อจากนี้ให้ที่ประชุมครม.รับทราบ โดยระยะเวลาต่อจากนี้ ตั้งแต่เดือนต.ค.58 จะอยู่ในสูตร 6+4+6+4 คือ 6 เดือนแรกให้คณะกรรมการฯ ร่างรัฐธรรมนูญขึ้น 4 เดือนต่อมา คือการทำประชามติ และหากประชามติผ่าน อีก 6 เดือนจะต้องทำกฎหมายลูก ก่อนจัดการเลือกตั้ง และหาเสียงอีก 4 เดือน ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวยังไม่ได้ระบุหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการทำประชามติอีกครั้ง เพราะตนเองไม่ได้คิดในแง่ร้าย และคิดไปไกล แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จำเป็นต้องหามาตรการมารองรับ

 

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะหยิบยกรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งขึ้นมา แต่ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการยกร่างฯ ชุดใหม่ เป็นผู้พิจารณา เพราะถ้าพูดไปตอนนี้ก็อาจมองได้ว่าเป็นใบสั่ง ส่วนคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) จะอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่นั้น นายวิษณุ มองว่า คณะกรรมการยกร่างฯ ชุดใหม่จะต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้นจะใช้มาตรการอะไรมารองรับ ซึ่ง คปป.ก็ถือเป็นมาตรการหนึ่งที่จะนำมาใช้แทนมาตรา 44 ที่บางคำสั่งอาจจะสิ้นสุดลงภายหลังจากที่มีรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะกรรมการยกร่างฯ จะต้องสร้างความมั่นใจแก่ทุกฝ่ายว่าจะไม่มีการสืบทอดพฤติกรรมแบบเก่าที่เคยทำ

 

สำหรับการที่ สปช.ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายวิษณุ เชื่อว่ามีหลายสาเหตุ แต่ไม่ทราบรายละเอียด ต้องขอรอการประเมิน ซึ่งเชื่อว่ามีหลายสาเหตุที่ต่างกัน และยังเร็วเกินไปที่จะมีการพูดคุยเรื่องนี้

 

รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีถอดยศนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรีว่า คสช.เห็นว่าการใช้มาตรา 44 ย่อมดีกว่า เนื่องจากบางฝ่ายพยายามจ้องที่จะยกประเด็นนี้ขึ้นมา จะได้ไม่เป็นการรบกวนพระองค์ท่านมาเกินไป

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2245498

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ภาวะตลาดอนุพันธ์: ผันผวนอิงลบท่ามปัจจัยกดดันใน-นอก คว่ำรธน.ส่งผลต่างชาติ

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 07 กันยายน 2558 โดย YLG

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 17:40:01 น.

กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 07 กันยายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,124.10-1,126.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,200 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,270 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,360 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.13 น.ของวันที่ 07/08/15)

แนวโน้มวันที่ 08 กันยายน 2558

การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ (จี20) ที่กรุงอังการาของตุรกีช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน นายโจว เสี่ยวชวน การปรับฐานของตลาดหลักทรัพย์จีนใกล้จะสิ้นสุดแล้วและเศรษฐกิจจีนไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เนื่องจากราคาหลักทรัพย์ในช่วงก่อนหน้าเพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็วจนเกิดเป็นฟองสบู่ การร่วงลงและการปรับฐานจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามยังคงเห็นแรงเทขายหุ้นจีนหลังจากวันหยุดยาวติดต่อตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยหุ้นจีนปิดตลาดดิ่งลงในวันจันทร์หลังจากมีการซื้อขายระหว่างผันผวนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดดิ่งลง 2.55% มาที่ 3,079.70 ส่วนดัชนี CSI300 ของหุ้น A-share ในตลาดเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นปิดดิ่งลง 3.43% มาที่ 3,250.49 ความผันผวนยังคงเป็นแรงหนุนตลาดทองคำ ซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำกำลังจับสถานการณ์ในตลาดหลักทรัพย์และทิศทางเศรษฐกิจจีนที่จะส่งผลกระทบต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ นักลงทุนกำลังรอดูรายงานเศรษฐกิจของจีนในสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่ข้อมูลการค้าเดือนสิงหาคมในวันอังคารนี้เพื่อดูว่าภาวะเศรษฐกิจของจีนกำลังชะลอตัวมากขึ้นหรือไม่ ขณะที่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเพียง 173,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคมซึ่งลดลงจาก 245,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้าซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน แต่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปีครึ่งและค่าจ้างเพิ่มขึ้น ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้หรือไม่ ซึ่งยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นอย่างจำกัด ทำให้การลงทุนระยะสั้นจำเป็นต้องมีจุดตัดขาดทุนหรือจุดขายทำกำไรให้ชัดเจน

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,117 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับสำคัญ 1,110 หรือ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,135 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,142 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,117 (19,070บาท) 1,110 (18,950บาท) 1,100 (18,780บาท)

แนวต้าน 1,135 (19,380บาท) 1,142 (19,500บาท) 1,150 (19,640บาท)

GOLD FUTURES (GFV15)

แนวรับ 1,117 (19,250บาท) 1,110 (19,130บาท) 1,100 (18,960บาท)

แนวต้าน 1,135 (19,560บาท) 1,142 (19,680บาท) 1,150 (19,820บาท)

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2245914

 

 

ดอลลาร์ดีดตัวเทียบเยน ขณะนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 18:29:28 น.

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเทียบเยนในวันนี้ หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นและยุโรปปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ดอลลาร์

 

ณ เวลา 18.00 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.32% สู่ระดับ 119.39 เยน ขณะที่ยูโรดีดตัว 0.32% เช่นกัน สู่ระดับ 133.13 เยน และทรงตัวที่ 1.1149 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% สู่ระดับ 96.206

 

 

 

อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดจะมีการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นและตลาดการเงินของสหรัฐปิดทำการวันนี้ (7 ก.ย.) เนื่องในวันแรงงานสหรัฐ และจะเปิดทำการตามปกติในวันพรุ่งนี้

 

การเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนส.ค.ไม่ได้บ่งชี้ทิศทางชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. จากระดับ 245,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 จาก 5.3% ในเดือนก.ค.

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.2%

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 245,000 ตำแหน่งจากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 231,000 ตำแหน่ง

 

ข้อมูลดังกล่าวนับว่ามีความสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดในการประเมินตลาดแรงงานสหรัฐ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายในช่วงกลางเดือนนี้ หรือจะชะลอเวลาออกไป

 

ยูโรดีดตัวขึ้นเทียบเยนในวันนี้ โดยฟื้นตัวขึ้น หลังจากดิ่งลงก่อนหน้านี้ จากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าอาจมีการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2245930

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงวันนี้ เหตุดอลล์แข็ง,วิตกน้ำมันล้นตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 18:55:14 น.

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

 

ณ เวลา 18.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 56 เซนต์ หรือ 1.22% สู่ระดับ 45.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นจีนก็ได้เป็นปัจจัยถ่วงราคาน้ำมันเช่นกัน

คาดว่าการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI จะค่อนข้างเบาบางในวันนี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดในสหรัฐเนื่องในวันแรงงาน

 

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเทียบเยนในวันนี้ หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นและยุโรปปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ดอลลาร์

 

ณ เวลา 18.00 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.32% สู่ระดับ 119.39 เยน ขณะที่ยูโรดีดตัว 0.32% เช่นกัน สู่ระดับ 133.13 เยน และทรงตัวที่ 1.1149 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% สู่ระดับ 96.206

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ร่วงลง ภายหลังจากที่ปิดทำการหลายวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตลาดหุ้นร่วงลง แม้ว่าทางการจีนจะออกมาประกาศนโยบายเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดก็ตาม

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลง 79.75 จุด หรือ 2.52% ปิดที่ 3,080.42 จุด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2245931

 

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงวันนี้ เหตุดอลล์แข็ง,วิตกน้ำมันล้นตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 18:55:14 น.

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

 

ณ เวลา 18.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 56 เซนต์ หรือ 1.22% สู่ระดับ 45.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นจีนก็ได้เป็นปัจจัยถ่วงราคาน้ำมันเช่นกัน

คาดว่าการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI จะค่อนข้างเบาบางในวันนี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดในสหรัฐเนื่องในวันแรงงาน

 

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเทียบเยนในวันนี้ หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นและยุโรปปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ดอลลาร์

 

ณ เวลา 18.00 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.32% สู่ระดับ 119.39 เยน ขณะที่ยูโรดีดตัว 0.32% เช่นกัน สู่ระดับ 133.13 เยน และทรงตัวที่ 1.1149 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% สู่ระดับ 96.206

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ร่วงลง ภายหลังจากที่ปิดทำการหลายวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตลาดหุ้นร่วงลง แม้ว่าทางการจีนจะออกมาประกาศนโยบายเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดก็ตาม

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลง 79.75 จุด หรือ 2.52% ปิดที่ 3,080.42 จุด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2245931

 

แบงก์ชาติจีนเผยทุนสำรอง FX ลดลงมากเป็นประวัติการณ์ในเดือนที่แล้ว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 17:46:11 น.

ธนาคารกลางจีนรายงานในวันนี้ว่า ปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศได้ลดลงสู่ระดับ 3.557 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งแตะระดับ 3.99 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.2014 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

 

 

ทั้งนี้ เงินทุนสำรองของจีนลดลงถึง 9.39 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนมากเป็นประวัติการณ์ และสะท้อนถึงการแทรกแซงตลาดของธนาคารกลางจีนเพื่อหนุนค่าเงินหยวน หลังจากการปรับลดค่าเงินในเดือนที่แล้ว

 

อย่างไรก็ดี การลดลงของเงินทุนสำรองดังกล่าวยังน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าอาจลดลงมากถึง 2 แสนล้านดอลลาร์

 

การไหลออกของเงินทุนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น จากความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน และแนวโน้มที่สหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ก่อนหน้านี้ เงินทุนสำรองของจีนลดลง 4.25 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ขณะที่สถิติการลดลงรายเดือนมากเป็นประวัติการณ์ครั้งก่อนหน้าที่เกิดขึ้นในเดือนพ.ค.2012 ซึ่งมีการลดลง 9.28 หมื่นล้านดอลลาร์

 

ทุนสำรองส่วนใหญ่ของจีนอยู่ในรูปพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2245919

 

 

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 7 กันยายน 2558

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 17:00:00 น.

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เปิดเผยว่า CSRC ได้เตรียมที่จะเดินหน้าการปฏิรูป ปรับปรุงกรอบการทำงานด้านกฎหมาย และยกระดับการกำกับดูแลตลาด โดยอาจจะใช้กลไกต่างๆ เช่น ระบบ circuit breaker สำหรับดัชนีหุ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผันผวนอย่างผิดปกติ

 

ขณะเดียวกัน CSRC ระบุว่า ตลาดหุ้นจีนมีเสถียรภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเห็นได้จากราคาหุ้นที่อยู่ในระดับเหมาะสม หลังจากร่วงลงอย่างหนักนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.

 

 

 

--โตชิบา กรุ๊ป เปิดเผยผลประกอบการประจำปีงบการเงิน 2557 ที่สิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยกลุ่มบริษัทมียอดขาดทุนสุทธิ 3.78 หมื่นล้านเยน

 

--สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนได้ปรับทบทวนอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำปี 2557 ลง 0.1% สู่ระดับ 7.3%

 

--หนังสือพิมพ์เดอะ ซันเดย์ ไทม์สของอังกฤษรายงานว่า อังกฤษเตรียมให้ที่พักพิงผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 15,000 คน และอยู่ในระหว่างพิจารณาดำเนินมาตรการทางทหารเพื่อปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ภายใน 1 เดือน

 

--โจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่า การปรับฐานของตลาดหุ้นจีนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าตลาดการเงินจะกลับมานิ่งและมีเสถียรภาพมากขึ้น

 

--นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกโรงเตือนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น เฟดควรจะต้องมั่นใจว่าตลาดแรงงานและเงินเฟ้อนั้นแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการดำเนินการดังกล่าวได้

 

--รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปรับตัวลงในเดือนก.ค.

 

ดัชนีพ้องเศรษฐกิจ เช่น ผลผลิตอุตสาหกรรม การค้าปลีก และการจ้างงานใหม่ ปรับตัวลง 0.1 จุด จากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 112.2 เปรียบเทียบกับฐานปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 100

 

--กรมการคลังฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์เผยยอดขาดดุลงบประมาณในเดือนก.ค.ที่ระดับ 3.22 หมื่นล้านเปโซ (691 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่ายอดขาดดุลงบประมาณในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 1.8 พันล้านเปโซ เนื่องจากรัฐบาลใช้งบดังกล่าวเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

 

--กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุคสาหกรรมเยอรมนีเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากอานิสงส์การผลิตรถยนต์และการก่อสร้างที่ปรับตัวสดใส

 

--รายงานอย่างเป็นทางการของเมียนมาร์ระบุว่า การปรับค่าแรงขั้นต่ำครั้งใหม่ในเมียนมาร์ได้ส่งผลให้มีการเลิกจ้างแรงงานไปแล้วราว 500 รายในเบื้องต้น

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2245878

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

11988562_482507845242174_8388474913759824573_n.jpg?oh=1f3786caba936d0d124c51f31bf218d3&oe=5662B4A5&__gda__=1450754010_45601cb35bb8ef428b8f6eeab4ac0a4c

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ ๑๕

 

วันนี้อัตราการเต้นของพระหทัยเป็นปรกติ อัตราการหายพระทัยยังมีเร็วบ้างเป็นครั้งคราว ความดันพระโลหิตเป็นปรกติ พระปรอท(ไข้)ลดลงเกือบเป็นปรกติ

 

#ทรงพระเจริญ

 

#NOW26 #ktnews

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

found on Wanderful Place in the World

 

229814_383608215035625_1585198381_n.jpg?oh=f0a22e6bcc4e36f46665dc66d0bc945e&oe=56ABD166&__gda__=1453904823_29ec533c52118c752eb0c531a3383dca

 

สวัสดีเพื่อน พี่น้อง นักลงทุน หัวใจใสใส สมองใส จิตใจดีอะไรก็ดีตาม

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 8 กันยายน 2558 06:54:12 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ก.ย.2558

 

-- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 7 ก.ย.เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ

 

-- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 7 ก.ย.เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ

 

-- ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 7 ก.ย.เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ

 

 

 

-- ตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 7 ก.ย.เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนไปได้บางส่วน และหันมาให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.70 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 354.81 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 26.56 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 4,549.64 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ดีดตัวขึ้น 70.57 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 10,108.61 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน บวก 31.60 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 6,074.52 จุด

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยหุ้นเกลนคอร์หนุนตลาดพุ่งขึ้น หลังบริษัทระบุถึงแผนที่จะปรับลดหนี้สิน ขณะตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน จากถ้อยแถลงผู้ว่าการแบงก์ชาติจีน

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 31.60 จุด หรือ 0.52% ที่ 6,074.52 จุด

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,074.52 จุด เพิ่มขึ้น 31.60 จุด +0.52%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,108.61 จุด เพิ่มขึ้น 70.57 จุด +0.70%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,549.64 จุด เพิ่มขึ้น 26.56 จุด +0.59%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,986.56 จุด ลดลง 14.04 จุด -0.18%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,860.47 จุด เพิ่มขึ้น 68.31 จุด +0.38%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,883.22 จุด ลดลง 2.82 จุด -0.15%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,051.00 จุด ลดลง 9.80 จุด -0.19%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,030.40 จุด ลดลง 10.20 จุด -0.20%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,080.42 จุด ลดลง 79.75 จุด -2.52%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,926.82 จุด ลดลง 124.96 จุด -1.77%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,583.52 จุด ลดลง 257.09 จุด -1.23%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,301.37 จุด ลดลง 113.97 จุด -2.58%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,852.41 จุด ลดลง 11.40 จุด -0.40%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,582.85 จุด ลดลง 6.31 จุด -0.40%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,893.81 จุด ลดลง 308.09 จุด -1.22%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขณะคลายวิตกศก.จีน-จับตาประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 8 กันยายน 2558 06:28:32 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนไปได้บางส่วน และหันมาให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.70 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 354.81 จุด

 

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 26.56 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 4,549.64 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ดีดตัวขึ้น 70.57 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 10,108.61 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน บวก 31.60 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 6,074.52 จุด

 

ตลาดมีมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน หลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ระบุว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นจีนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าตลาดการเงินจะกลับมานิ่งและมีเสถียรภาพมากขึ้น

 

ถ้อยแถลงสร้างความเชื่อมั่นของผู้ว่าแบงก์ชาติจีนมีขึ้นในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ที่ประเทศตุรกี ในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินของจีนได้จุดชนวนให้เกิดการปรับฐานหลายระลอกในช่วงที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกน ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ปรับตัวขึ้นก็ช่วยหนุนมุมมองบวกของนักลงทุนด้วย โดยกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตภาคอุคสาหกรรมเยอรมนีเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากอานิสงส์การผลิตรถยนต์และการก่อสร้างที่ปรับตัวสดใส

 

หุ้นกลุ่มเหมืองนำตลาดทะยานขึ้น โดยหุ้นเกลนคอร์ พุ่ง 7% ขณะที่หุ้นอันโตฟากัสตา ทะยานขึ้น 7.5% หลังราคาโลหะต่างๆปรับตัวสูงขึ้น

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐยังไม่ได้แสดงถึงความชัดเจนเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2245970

 

ปิดถนนพหลโยธิน8จุดสร้างรถไฟฟ้าพร้อมเส้นทางเลี่ยง

แจ้ง ปิดถนนพหลโยธิน 8 จุดเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้า พร้อมแนะนำเส้นทางเลี่ยง

POSTTODAY.COM|BY POSTTODAY

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝ่ายค้านเยอรมันตำหนิชาติตะวันตก ชี้เป็นต้นตอวิกฤตผู้อพยพ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 16:14:04 น.

นักการเมืองฝ่ายค้านของเยอรมนีกล่าวโทษประเทศตะวันตกว่าเป็นต้นเหตุหลักของวิกฤตผู้อพยพที่ยุโรปกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

 

ทั้งนี้ เยอรมนีกำลังเตรียมพร้อมรองรับคลื่นผู้ลี้ภัยกว่า 800,000 คนในปีนี้ ในขณะที่ยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤตผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยผู้อพยพจำนวนมากที่เดินทางมายังเยอรมนีนั้น มาจากประเทศที่ประสบภัยสงครามและจากภูมิภาคที่เกิดวิกฤต

 

 

 

นางซาห์รา วาเกนเนชท์ และนายดีทมาร์ บาร์ทช์ รองแกนนำในรัฐสภาของพรรค Die Linke ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของเยอรมนี ระบุในเอกสารแสดงจุดยืนว่า "กลุ่มประเทศตะวันตกภายใต้การนำของสหรัฐ ได้ทำลายเสถียรภาพของทั้งภูมิภาค โดยทำให้องค์กรก่อการร้ายต่างๆถือกำเนิดขึ้นและแสวงหาผลประโยชน์จากองค์กรเหล่านั้น" พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า บรรดาแก๊งอาชญากร เช่น กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ยังได้รับการสนับสนุนทางอ้อม รวมถึงได้รับเงินและอาวุธจากประเทศต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรกับเยอรมนี ซึ่งได้นำพาประชาชนหลายล้านคนเข้าสู่สงครามกลางเมืองและสงครามอันโหดร้าย

 

นักการเมืองทั้งสองได้เรียกร้องรัฐบาลเยอรมนีกดดันสหรัฐให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการก่อให้เกิดวิกฤตดังกล่าว และร่วมมีส่วนในค่าใช้จ่ายในการรับผู้อพยพ

 

ในส่วนของการจัดการกับสาเหตุที่ทำให้ผู้อพยพลี้ภัยออกจากประเทศของตนเองนั้น ทั้งสองคนได้เรียกร้องให้เยอรมนียุติการส่งออกอาวุธในทันที และเพิ่มความช่วยเหลือด้านการพัฒนา รวมถึงการมีส่วนร่วมในโครงการอาหารโลก สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2245828

 

สองเกาหลีเริ่มหารือประเด็นการจัดงานรวมญาติแล้วในวันนี้

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 13:58:00 น.

เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เริ่มการเจรจาจัดงานรวมครอบครัวที่พลัดพรากจากกันในช่วงสงครามเกาหลีปี 2493-2496 หลังทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางการทหาร

 

เจ้าหน้าที่กาชาด 3 รายจากแต่ละฝ่าย อยู่ระหว่างประชุมกันที่หมู่บ้านปันมุนจอม ภายในเขตปลอดทหาร (DMZ) เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ เช่น กำหนดเวลาและสถานที่จัดงานรวมญาติดังกล่าว

 

 

 

ทั้งนี้ งานรวมญาติคือการทำให้ครอบครัวจากทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้พบปะกันเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง และหากมีการจัดงานรวมญาติในครั้งนี้ ก็จะนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนก.พ.2557

 

ชาวเกาหลีจำนวนมากยังคงถูกแยกจากญาติพี่น้อง เนื่องจากการแบ่งส่วนคาบสมุทรเกาหลี นับตั้งแต่สงครามเกาหลียุติลงด้วยการพักรบ ไม่ใช่เพราะสนธิสัญญาสันติภาพ

 

หลังการเจรจามาราธอนเสร็จสิ้นลงในวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลง 6 ประการ ซึ่งรวมถึงการจัดงานรวมญาติในเทศกาลชูซอก ที่จะตรงกับวันที่ 27 ก.ย.

 

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า งานรวมญาติดังกล่าวมีแนวโน้มจัดขึ้นที่เทือกเขาคัมกัง ที่อยู่บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของเกาหลีเหนือในเดือนต.ค. เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เวลาในการเตรียมงาน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2245658

 

‘ยูซูฟู’เปิดปากซัดไอ้โม่ง ชื่อ‘อิซาน’ถือสัญชาติจีน บงการบึม!

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9 -- อังคารที่ 8 กันยายน 2558 06:00:00 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

‘ยูซูฟู’เปิดปากซัดไอ้โม่ง

ชื่อ‘อิซาน’ถือสัญชาติจีน

บงการบึม!

อ้างเพื่อนร่วมแก๊งมี6คน

หมายจับตามเช็คบิลอีก2

ร้องตำรวจสากลล่าวรรณา

เมื่อวันที่ 7 กันยายน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทรว่าการสืบสวนสอบสวนยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หาก มีหลักฐาน พยานเกี่ยวข้องเชื่อมโยง ถึงกลุ่มหรือบุคคลใดชัดเจพนักงานสอบสวนก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาคนที่ 10 หรือ ผู้เกี่ยวข้องอื่นๆหากพยานหลักฐานชัดเจนเชื่อว่าจะขออนุมัติหมายจับได้ ไม่มีปัญหา

 

 

 

ยังไม่เชื่อคำให้การเร่งหาหลักฐาน

ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหา ที่อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งบางคนให้ความชัดเจนเรื่องชายเสื้อเหลืองนั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องยืนยันในคำให้การของผู้ต้องหาโดยการพิสูจน์ทราบจนชัดเจน ไม่ฟังคนใดคนหนึ่ง ต้องมีหลักฐานหรือประจักษ์พยานมาสนับสนุน ให้สอดคล้องกันทั้งหมด รวมถึงการสืบสวนสอบสวนที่เจ้าหน้าที่จะขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ การตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านจำหน่ายเคมีภัณฑ์ย่านมีนบุรี พิสูจน์ทราบภาพชายต้องสงสัยที่ปรากฏตัวที่ลานอเนกประสงค์ ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ติดตามตัวชายต่างชาติ 2 คน มาสอบปากคำ กรณีที่ซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์โดยใช้หนังสือเดินทางปลอม ย่านหนองจอก นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการวางระเบิดให้รอบด้าน พร้อมเร่งติดตามตัวน.ส.วรรณา สวนสัน และนายอิมห์ระ ดาวูโตกลู สามี ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้

 

ยันผู้ต้องหาให้การยอมรับข้อหา

“ในรายละเอียดการสืบสวนไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เช่นเดียวกับกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่จับกุมชาวอินเดียไว้ได้ ต่อให้เป็นเรื่องจริงก็ไม่สามารถเปิดเผยสื่อมวลชนได้ แต่ยืนยันเจ้าหน้าที่มีข้อมูลครอบคลุมทั้งหมด จากการสอบสวนจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง

 

ในการสอบปากคำผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวไว้สอบสวนก่อนหน้านี้ ก็ยอมรับและให้การเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ไม่เปิดเผยข้อมูลถึงบุคคลอื่นเลย ถือว่าถูกฝึกมาอย่างดี” ผบ.ตร.กล่าว

 

ขันน๊อตตม.เข้มตปท.เข้าออกด่าน

วันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศเป็นประธานประชุม มอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยสั่งการเน้นย้ำให้ตำรวจ ตม.ทั่วประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคง การเคลื่อนย้ายเข้า-ออกของชาวต่างชาติแบบผิดปกติ ที่ผ่านมาเป็นเหตุให้มีการลักลอบของชาวต่างชาติเข้ามา ก่อเหตุร้ายในประเทศไทย ซึ่งในส่วนตำรวจ ตม.สระแก้ว ที่ผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดแยกราชประสงค์ให้การพาดพิงว่าจ่ายเงินให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจเอกสารเดินทางเข้าไทย อยู่ระหว่างสอบสวนของจเรตำรวจ หากไม่มีหลักฐานชัดเจน คงไม่มีคำสั่งให้มาช่วยราชการ พร้อมกันนี้ ได้ย้ำตำรวจ ตม.ทุกด่านทั่วประเทศ เข้มงวดตรวจบุคคลเข้า-ออกทุกกลุ่ม อีกทั้ง เตือนตำรวจ ตม.ที่ปล่อยปละละเลยให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่เข้มงวด ทั้งนี้ ได้ส่งต่อนโยบายให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ดำเนินการต่อ

 

พบเบาะแสชายเสื้อเหลืองที่ชายแดน

ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงยืนยันว่า ตำรวจ

 

ดำเนินการแกะรอยผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร เดินมาถูกทาง คาดว่ายังมีคนร้ายที่เหลือกบดานในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนหาตัวคนร้ายพบความเคลื่อนไหวของชายเสื้อเหลือง ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอยู่บริเวณแนวชายแดนติดต่อประเทศเพื่อนบ้าน จึงส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเฝ้าติดตามอยู่ ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชายชาวอินเดีย 2 คนเพิ่มเติมนั้น ตนยังไม่ได้รับรายงาน

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการสอบปากคำ นายยูซูฟู ไมไรลี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมที่ชายแดน จ.สระแก้ว รับสารภาพหรือไม่ว่าเป็นผู้ประกอบระเบิด และนำระเบิดไปส่งให้ผู้ร่วมขบวนการที่สถานีรถไฟหัวลำโพง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า คงเป็นไปตามที่ปรากฏเป็นข่าว

 

ยูซูฟูซัดทอด“อิซาน”ผู้บงการ

รายงานข่าวชุดสืบสวนสวนความมั่นคงเผยว่า จากการสอบปากคำนายยูซูฟู ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่ชายแดนจ.สระแก้วให้ความร่วมมือและให้การเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี เบื้องต้นให้การซัดทอดถึงผู้บงการก่อเหตุระเบิดครั้งนี้ ทราบชื่อคือ นายอิซาน ที่มีสัญชาติจีน พร้อมชี้ภาพถ่ายยืนยัน โดยระบุว่านายอิซานเดินทางไปยังประเทศจีน ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ก่อนวันเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร

 

นายยูซูฟูยังให้การอีกว่า ก่อนเกิดเหตุนายอิซานสั่งการให้ตนไปหาซื้อสารเคมีผ่านอินเตอร์เน็ต มาประกอบระเบิด หลังจากประกอบเสร็จจึงแจ้งให้นายอิซานทราบ จากนั้นทางนายอิซานได้สั่งการให้ตนนำระเบิดที่บรรจุในเป้มาวางไว้ใต้ม้านั่งริมคลองผดุงกรุงเกษมใกล้สถานีรถไฟหัวลำโพง ก่อนให้คนร้ายเสื้อสีเหลืองมารับแล้วนำกระเป๋าเป้ใบเล็กอีกใบมาสลับไป โดยทั้งคู่ไม่เจอหน้ากันแต่อย่างใด

 

เพื่อนร่วมแก๊ง6รายติดต่อผ่านแอพ

นายยูซูฟูให้ข้อมูลต่อว่า หลังนำกระเป๋าเป้ไปเปลี่ยนกับคนร้ายเสื้อสีเหลืองแล้ว ผู้บงการยังสั่งให้นายยูซูฟูเดินทางไปที่แยกราชประสงค์ เพื่อบันทึกเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นแล้วส่งภาพผ่านแอพพลิเคชั่น “วอทแอพ”ให้นายอิซานดู แต่นายยูซูฟูไม่กล้า เนื่องจากอาจเป็นที่สนใจกลัวมีคนจับได้ จึงรีบเดินทางหลบหนีผ่านลานน้ำพลุห้างเซ็นทรัลเวิลด์ดังกล่าว

 

สำหรับขบวนการระเบิดราชประสงค์ และท่าเรือสาทรนั้น นายยูซูฟูระบุว่า มีทั้งหมด 6 คน คือ นายอิซาน คนร้ายเสื้อสีเหลือง คนร้ายเสื้อสีฟ้า นายอาเดม ชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ และนายยูซูฟู ซึ่งแต่ละคนที่ทำหน้าที่จะไม่รู้จักกัน ในการประสานงานนั้น นายอิซานจะติดต่อข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่น “วอทแอพ”ในการติดต่อสื่อสารกันแบบตัวต่อตัว

 

คุมตัวยูซูฟูส่งตร.สารภาพทุกข้อหา

ต่อมาเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารนำตัวนายยูซูฟู ไมไรลี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลมีนบุรี ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร หลังเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจตามมาตรา 44 ควบคุมตัวไว้ครบกำหนด 7 วัน ไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยให้แพทย์ตรวจร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ เก็บหลักฐานดีเอ็นเอ และสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนการแจ้งข้อหา ร่วมกันมีซึ่งยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ใช้ล่ามแปลภาษา 3 ภาษา ทั้งภาษาตุรกี ฮิบรู อังกฤษ และให้ผู้ต้องหาสาบานต่อหน้าคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งนายยูซูฟูรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาตามหมายจับ และยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของเจ้าหน้าที่

 

ปูพรมหาเบาะแสย่านมีน-หนองจอก

รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนกองปราบปรามลงพื้นที่ตรวจสอบหลังพบข้อมูลนายยูซูฟูขึ้นรถโดยสารประจำทางมาลงที่ตลาดมีนบุรี จากนั้นเดินเข้าไปในตลาด ก่อนหายตัวไป หลังจากนั้นจึงสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในตลาดมีนบุรีว่า วันเกิดเหตุนายยูซูฟูเดินมากับใครหรือไม่ ทั้งนี้ แนวทางสืบสวนเชื่อว่านายยูซูฟูเดินเข้าไปตลาดมีนบุรี เพื่อเป็นทางผ่านไปพักที่ย่านหนองจอก รวมทั้งสั่งการให้ปูพรมหาเบาะแสในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งมีนบุรี หนองจอก นิมิตใหม่ อีกทั้ง ยังพบข้อมูลคนร้ายนำหนังสือเดินทางปลอม 5 เล่ม ไปขอซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ 7 หมายเลขในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ โดยในหนังสือเดินทางมีรูปภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 เล่ม ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทางเทคนิคพบช่วงเวลาหลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ติดต่อกันในพื้นที่มีนบุรี หนองจอก อยู่ระหว่างการไล่เรียงลำดับเหตุการณ์หาความเชื่อมโยง เพื่อกำหนดแนวทางสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

 

ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม2ราย

ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรับตัวนายยูซูฟูไว้เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นนายยูซูฟูรับทราบข้อกล่าวหา และรับสารภาพทุกประเด็น ส่วนรายละเอียดเจ้าหน้าที่จะสอบสวนก่อน ขณะเดียวกัน ศาลมีนบุรีอนุมัติหมายจับบุคคลที่พักในห้องเลขที่ 414 และ 412 ที่พลูอนันต์อพาร์ทเมนต์ เพิ่ม 2 ราย ได้แก่ นายอัลดุลเลาะห์ อัลดุลเลาะห์มาร์ ออกหมายจับตามภาพสเก็ต ลักษณุสูงประมาณ 180 เซนติเมตร เป็นบุคคลตามหมายจับที่ 10 และมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้ที่อยู่อาศัย หรือไปมาหาสู่ในพลูอนันต์อพาร์ทเมนต์ และชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ สูงประมาณ175 เซนติเมตร บุคคลตามหมายจับที่ 11 ซึ่งภาพได้จากกล้องวงจรปิดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้กับอพาร์ทเมนต์ดังกล่าว ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่เจ้าพนักงานไม่สามารถออกในอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง

 

ประสานตร.สากลล่าตัว“วรรณา”

พล.ต.ท.ประวุฒิยังยืนยันว่ายังไม่มีการจับกุมมือระเบิดที่สวมเสื้อเหลือง ขณะที่น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเหราะ ผู้ต้องหาตามหมายจับอีกรายยังไม่ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว ซึ่งเตรียมประสานตำรวจสากล และจะตรวจสอบว่าไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศตุรกีหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ติดต่อไปยังสถานฑูตไทยในตุรกี ซึ่งได้รับคำยืนยันว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากน.ส.วรรณาแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนสอบนายยูซูฟูครบ 48 ชั่วโมงแล้วจะควบคุมตัวส่งศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป

 

ค้นหอพักไมมูณารวบ2อินเดียต้องสงสัย

ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา พล.ต.ท.ประวุฒิ และพ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบก.น. 3 รรท.ผกก.สน.มีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร 20 ราย เข้าตรวจค้นหอพักไมมูณา การ์เด้นโฮม ซอยราษฎร์อุทิศ 25/8 หลังหน่วยสืบสวนสอบสวนของกองปราบปรามได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอาคารหอพัก พบภาพชายชาวอินเดียต้องสงสัย 2 คน พักอาศัยอยู่ที่ห้องเลขที่ 9105 ติดกับห้องเลขที่ 9106 ของน.ส.วรรณา สวนสัน ที่เช่าห้องดังกล่าวให้ผู้ต้องหาตามภาพสเก็ตช์พักอาศัยอยู่ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดพบพฤติกรรมของชายชาวอินเดียทั้ง 2 คนเดินเข้า-ออก และพูดคุยกับผู้พักอาศัยในห้องพักดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังไม่สามารถระบุว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และสะพานสาทรหรือไม่ เพียงเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดสองจุดดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจควบคุมตัวไปยังค่ายทหารแห่งหนึ่งเพื่อสอบสวนต่อไป

 

ผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ถึงความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ว่า การสืบสวนคดีคืบหน้าต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในการสอบสวนนายอาเดม และนายยูซูฟู รวมทั้งพยานบุคคลอื่นอีกหลายราย เริ่มให้การที่เป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยงไปสู่เครือข่ายกลุ่มบุคคลทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร อย่างไรก็ตาม จากการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในการรักษาความปลอดภัยและดูแลนักท่องเที่ยว พบว่าสถานการณ์ทั่วไปกลับสู่สภาวะปกติ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ส่วนการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจนถึงปัจจุบัน รวมจ่ายเงินช่วยเหลือจากส่วนราชการ มูลนิธิและองค์กรต่างๆให้ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแล้ว 10,780,000 บาท ทั้งนี้ มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 11 แห่ง รวม 23 คน

 

ราชทัณฑ์ดูแลผู้ต้องหาใกล้ชิด

นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายอาเดม คาราดัก ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์ ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีว่า ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรีว่า ทางเรือนจำยังสามารถควบคุมตัวและดูแลผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่จำเป็นต้องย้ายไปเรือนจำอื่น อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เรือนจำดูแลนายอาเดมเป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้ต้องหาคดีสำคัญ โดยทางเรือนจำจัดเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด 24 ชั่วโมง และส่งนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุย ให้ผ่อนคลายจากอาการเครียด ส่วนการคุมขัง ทางเรือนจำจัดให้นายอาเดมอยู่รวมกับผู้ต้องขังรายอื่น ซึ่งนายอาเดมเริ่มปรับตัวได้ และอาการเครียดก็ลดลงแล้ว

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/ryt9/2245967

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 31.60 จุด นำโดยหุ้นเหมือง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 8 กันยายน 2558 06:47:39 น.

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยหุ้นเกลนคอร์หนุนตลาดพุ่งขึ้น หลังบริษัทระบุถึงแผนที่จะปรับลดหนี้สิน ขณะตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน จากถ้อยแถลงผู้ว่าการแบงก์ชาติจีน

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 31.60 จุด หรือ 0.52% ที่ 6,074.52 จุด

ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นเกลนคอร์ ซึ่งพุ่งขึ้น 7% หลังบริษัทเปิดเผยว่าจะขายสินทรัพย์และหุ้นเพื่อลดภาระหนี้สินของบริษัท

 

 

 

ขณะเดียวกัน ตลาดได้คลายวิตกเกี่ยวกับจีนไปได้บ้าง หลังจากนายนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ระบุว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นจีนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าตลาดการเงินจะกลับมานิ่งและมีเสถียรภาพมากขึ้น

 

ถ้อยแถลงสร้างความเชื่อมั่นของผู้ว่าแบงก์ชาติจีนมีขึ้นในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ที่ประเทศตุรกี ในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินของจีนได้จุดชนวนให้เกิดการปรับฐานหลายระลอกในช่วงที่ผ่านมา

 

ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองอื่นๆก็ปรับตัวในแดนบวก นำโดยหุ้นอันโตฟากัสตา พุ่ง 7.5% และหุ้นแองโกล อเมริกัน บวก 1.4%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2245972

 

 

 

ช็อก! โพลชี้ คนอังกฤษอยากแยกจากอียูเสียแล้ว ถ้าลงประชามติวันพรุ่งนี้

 

http://www.thairath.co.th/content/523607

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น่าจะยังทรงตัวโดยเผื่อกรอบล่างเพิ่มเติมเล็กน้อย และยัง Bias Short

ในสัปดาห์นี้ตัวเลขไม่สำคัญนัก ก่อนจะเข้าสู่สัปดาห์หน้าที่สำคัญอยู่บนทางเลือกว่าเฟดจะดำเนินนโยบายต่อไปอย่างไร 1. ตามแผนเดิม 2. ปรับ มาก 3. ปรับน้อย

มองกลางๆ คือปรับน้อย หรือเปลี่ยนแผนแบบมีฟอร์ม

สำหรับในสัปดาห์นี้ยังมองกรอบเดิม โดยกรอบล่างอยู่ที่ 1102 - 1105 และ 1115 บริเวณ 1102 - 1105 ถือเป็นจุดได้เปรียบของกรอบล่างได้เห็นก็น่าซื้ออย่างน้อยเล่นสั้น

กรอบบน ของโซนล่าง มีแข็งๆ ที่ 1128 1135

ในภาพสั้นๆ แล้ว 1124 1126 เป็นจุดเปลี่ยนระยะสั้นๆผ่านได้ขึ้นเทสต์ต้าน 1128 1135 ไม่ผ่านยังซึมลงได้อีกหน่อย

กรอบไม่กว้าง ยังอยู่ในโหมด Swing trade ตลาดหุ้นยังไม่ดีนักการปรับตัวขึ้นหลังจากนี้ของทองยังเป็นไปได้ ปรับพอร์ตพร้อมตามในทุกสถานการณ์

by Facebook.com/Wealthstation

8/9/58

11986317_942665839105225_8898857143475283159_n.png?oh=51871e1a91e9e1212027508e6da0b1cf&oe=566FC84E&__gda__=1450903746_6d47064512917a37cb4647c3809e5034

12003916_942665852438557_7031104165802751034_n.png?oh=5eb4ca422991c8c0f640022f69d279b1&oe=56717BB9

 

11204417_942665845771891_1449563177121385267_n.png?oh=bd67a575847732b7d5d3fd5012fe7864&oe=5663201C

11988380_942665835771892_4879786235389135045_n.png?oh=1dfa07f82f0f8ce03cc4006f094aa522&oe=5661EEF9&__gda__=1453783408_483eb806f24e9330faacc057eae7fff4

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

นายกฯ เผยรัฐบาลจะคิกออฟใส่เงินผ่านกองทุนหมู่บ้านตั้งแต่ต้นสัปดาห์หน้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 8 กันยายน 2558 14:58:33 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินเข้าสู่ระบบผ่านกองทุนหมู่บ้านตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะแรกได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ก.ย.เป็นต้นไป โดยยืนยันว่ารัฐบาลต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และไม่ใช่โครงการประชานิยม

 

"ในการประชุม ครม.วันนี้ ในประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ ในส่วนของมาตรการต่างๆ จะเริ่มเข้าสู่การเดินหน้าการขับเคลื่อนการปฏิบัติ ซึ่งจะมีการคิกออฟในส่วนของกองทุนหมู่บ้านในวันจันทร์หน้า และอยากให้ประชาชนรับรู้ว่ารัฐบาลต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและไม่ใช่ทำประชานิยม"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนี้ หากการทำงานเรื่องใดติดขัดก็อาจจะจำเป็นต้อง ม.44 ขับเคลื่อนงานบางส่วนบ้าง

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ว่าอยากให้เพิ่มความเข้มแข็งภาคการเกษตร โดยอยากให้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อให้รัฐบาลสามารถสนับสนุนการช่วยเหลือเรื่องพันธุ์พืช ปุ๋ย หรือความช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อให้ไปถึงเกษตรกรเหล่านี้โดยตรงและรวดเร็วมากขึ้น

 

สำหรับเรื่องการบริหาจัดการทรัพยากรน้ำ ได้สั่งให้ตรวจสอบโครงการที่ยังคงค้างอยู่ตั้งแต่ช่วงปี 57-59 และให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนหมดฤดูฝนโดยเร็ว

 

"อยากให้มีการกักเก็บน้ำจากลำน้ำสาขาต่างๆ ก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยอยากให้จัดหาที่ทำทะเลสาบ 3-4 แห่งเพื่อช่วยกักเก็บน้ำโดยอาจจะใช้พื้นที่หลวงหรือพื้นที่ราชพัสดุมาใช้ประโยชน์"นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/นิศารัตน์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2246646

 

KBANK ปรับคาดการณ์เงินบาทปีนี้ลงเป็น 36.75 จากเดิม 36.25 บาท/ดอลลาร์

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 8 กันยายน 2558 14:49:56 น.

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับประมาณการณ์ค่าเงินบาทในปีนี้อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 36.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิมประเมินไว้ที่ 36.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

 

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่ามาจากปัจจัยภายนอกที่ได้รับผลกระทบเป็นปัจจัยหลัก โดยเฉพาะปัจจัยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สร้างผลกระทบของความผันผวนของค่าเงิน ประกอบกับ ปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ชะลอตัวตาม ทำให้มีผลต่อการอ่อนตัวของค่าเงินบาท โดยในช่วง 5 วันที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าลงไป 5%

 

ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อค่าเงินบาทมากนัก แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัว แต่ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยมีเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังมองแนวโน้มค่าเงินบาทยังมีการอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องไปถึงปี 59

 

อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/จำเนียร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2246632

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีจ้าเพื่อน พี่น้อง ดีใจกะบอลไทย เทใจเชียร์

11907763_10153667600667450_7706232530039872232_n.jpg?oh=e2140695b22cf347be1695418a534af0&oe=5669F20B

 

 

12003951_10153667601527450_6554478666089065922_n.jpg?oh=9c6a9f0983173cb1723af00c7e7a3f16&oe=56600A6F&__gda__=1449813422_cab2e4cfd25a7d3ae524f3de6d21be98

 

11954729_10153667602002450_3462045289685339628_n.jpg?oh=dae54d8b509952d93a7c5a942bcd1003&oe=566D4178&__gda__=1449465287_c13756172dd6fda4b6e1f81e2b10bba7

แฟนบอลไทยดีใจ หลังทีมชาติไทยตีเสมอทีมชาติอิรัก 2-2 ในครึ่งหลังของการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอิรัก เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน / ‪#‎นรินทร์เครือคล้าย‬‪#‎ChalineeThirasupa‬,‪#‎NationPhoto‬

 

11896122_10153667680967450_7817299154076153996_n.jpg?oh=b597460e2ef464c661469069473f58f3&oe=56683F45&__gda__=1453888951_553fe7828229008587f327cbd73b43a9

นักฟุตบอลทีมชาติไทยและสต๊าฟโค้ช ถ่ายรูปร่วมกับแฟนบอลไทย หลังจบเกมทีมชาติไทย เสมอ ทีมชาติอิรัก 2-2 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน

‪#‎ChalineeThirasupa‬ ‪#‎NationPhoto

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 กันยายน 2558 07:49:58 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ก.ย.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) หลังจากวันหยุดยาว เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากราคาร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ตลาดมีมุมมองบวกว่าทางการจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นในประเทศ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่ง 390.30 จุด หรือ 2.42% ปิดที่ 16,492.68 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 48.19 จุด หรือ 2.51% ปิดที่ 1,969.41 จุด และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 128.01 จุด หรือ 2.73% ปิดที่ 4,811.93 จุด

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่งเกินคาดของเยอรมนีช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกไปได้บางส่วน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นจีน จากกระแสคาดการณ์ที่ว่ามาตรการสนับสนุนของรัฐบาลอาจจะช่วยสกัดภาวะปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นจีนและทั่วโลกช่วงที่ผ่านมา

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 4.19 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 359 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 48.62 จุด หรือ 1.07% ปิดที่ 4,598.26 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี พุ่งขึ้น 162.75 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 10,271.36 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน บวก 71.58 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 6,146.10 จุด

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างเกลนคอร์ และอังโกล อเมริกัน โดยภาวะการซื้อขายเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคและทั่วโลก หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการค้าของเยอรมนีที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง ประกอบกับยูโรสแตทปรับเพิ่มตัวเลขขยายตัวทางเศรษฐกิจยูโรโซนช่วงครึ่งปีแรก

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 71.58 จุด หรือ 1.18% ที่ 6,146.10 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาดโลก ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการค้าที่ย่ำแย่

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 11 เซนต์ แตะที่ 45.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนหันมาให้ความสนใจกับการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 40 เซนต์ ที่ 1,121.0 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 20.6 เซนต์ ที่ 14.755 ดอลลาร์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดปรับขึ้น 10.50 ดอลลาร์ ที่ 1,002.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 9.40 ดอลลาร์ ที่ 586.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสจากยูโรโซน ขณะที่มีกระแสคาดกการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1187 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1170 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5384 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5277 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.99 เยน จาก 119.28 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9814 ฟรังก์ จาก 0.9751 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7030 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6924 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,492.68 จุด เพิ่มขึ้น 390.30 จุด +2.42%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,811.93 จุด เพิ่มขึ้น 128.01 จุด +2.73%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,969.41 จุด เพิ่มขึ้น 48.19 จุด +2.51%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,146.10 จุด เพิ่มขึ้น 71.58 จุด +1.18%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,271.36 จุด เพิ่มขึ้น 162.75 จุด +1.61%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,598.26 จุด เพิ่มขึ้น 48.62 จุด +1.07%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,001.50 จุด เพิ่มขึ้น 14.94 จุด +0.19%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,427.08 จุด ลดลง 433.39 จุด -2.43%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,878.68 จุด ลดลง 4.54 จุด -0.24%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,133.50 จุด เพิ่มขึ้น 82.50 จุด +1.63%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,115.20 จุด เพิ่มขึ้น 84.80 จุด +1.69%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,170.45 จุด เพิ่มขึ้น 90.03 จุด +2.92%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,891.30 จุด ลดลง 35.52 จุด -0.51%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,259.04 จุด เพิ่มขึ้น 675.52 จุด +3.28%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,318.59 จุด เพิ่มขึ้น 17.22 จุด +0.40%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,587.12 จุด เพิ่มขึ้น 4.27 จุด +0.27%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,885.32 จุด เพิ่มขึ้น 32.91 จุด +1.15%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,317.87 จุด เพิ่มขึ้น 424.06 จุด +1.70%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2246936

 

ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ หลังนักลงทุนคลายวิตกตลาดหุ้นจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 กันยายน 2558 08:32:47 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ดีดตัวขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนก็มีมุมมองบวกว่า จีนจะประสบความสำเร็จในการรักษาเสถียรภาพในตลาดหุ้น

ดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 1.2% แตะ 125.64 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,758.13 จุด เพิ่มขึ้น 331.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,097.22 จุด เพิ่มขึ้น 95.72 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,903.28 จุด เพิ่มขึ้น 24.60 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,901.07 จุด เพิ่มขึ้น 15.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,597.90 จุด เพิ่มขึ้น 10.78 จุด

 

 

ทั้งนี้ นักลงทุนมีมุมองบวกเกี่ยวกับตลาดหุ้นจีน หลังจากที่มีข่าวว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เตรียมที่จะเดินหน้าการปฏิรูป ปรับปรุงกรอบการทำงานด้านกฎหมาย และยกระดับการกำกับดูแลตลาด โดยอาจจะใช้กลไกต่างๆ เช่น ระบบ circuit breaker สำหรับดัชนีหุ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผันผวนอย่างผิดปกติ

ขณะเดียวกัน โจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่า การปรับฐานของตลาดหุ้นจีนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าตลาดการเงินจะกลับมานิ่งและมีเสถียรภาพมากขึ้น

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร หลังข้อมูลศก.ยูโรโซนแกร่ง,คาดเฟดยังไม่ขึ้นดบ.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 กันยายน 2558 07:46:37 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสจากยูโรโซน ขณะที่มีกระแสคาดกการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1187 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1170 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5384 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5277 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.99 เยน จาก 119.28 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9814 ฟรังก์ จาก 0.9751 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7030 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6924 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ตัวเลขเกินดุลการค้าของเยอรมนีพุ่งแตะ 2.5 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ทำการปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงครึ่งปีแรก โดยปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.1% สำหรับไตรมาส 1 และไตรมาส 2 สู่ระดับ 0.5% และ 0.4% ตามลำดับ

 

การปรับตัวเลขดังกล่าว ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีนี้มีการขยายตัวสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2554 และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ในกรีซได้

 

ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญจากสหรัฐเมื่อคืนนี้ นักลงทุนจึงหันมาสนใจการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า

 

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แต่ความปั่นป่วนในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐที่ไม่บ่งชี้ทิศทางที่ชัดเจน ได้บดบังกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าว ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2246935

 

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดพุ่ง รับตัวเลขการค้าเยอรมนีแกร่งเกินคาด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 กันยายน 2558 06:55:26 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่งเกินคาดของเยอรมนีช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกไปได้บางส่วน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นจีน จากกระแสคาดการณ์ที่ว่ามาตรการสนับสนุนของรัฐบาลอาจจะช่วยสกัดภาวะปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นจีนและทั่วโลกช่วงที่ผ่านมา

 

 

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 4.19 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 359 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 48.62 จุด หรือ 1.07% ปิดที่ 4,598.26 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี พุ่งขึ้น 162.75 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 10,271.36 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน บวก 71.58 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 6,146.10 จุด

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ตัวเลขเกินดุลการค้าของเยอรมนีพุ่งแตะ 2.5 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

การเกินดุลการค้าดังกล่าวได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของยูโร ซึ่งช่วยหนุนการส่งออกนอกยูโรโซน โดยเฉพาะสหรัฐ

 

สำนักงานสถิติระบุว่า การส่งออกพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. แตะ 1.034 แสนล้านยูโร ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2% สู่ระดับ 8.06 หมื่นล้านยูโร

 

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท ได้ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงครึ่งปีแรก โดยปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.1% สำหรับไตรมาส 1 และไตรมาส 2 สู่ระดับ 0.5% และ 0.4% ตามลำดับ

 

การปรับตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีนี้มีการขยายตัวสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2554 และยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ในกรีซได้

 

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ชี้ว่า ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ แต่ตลาดมองว่ารัฐบาลจีนน่าจะออกมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนลงได้บ้าง โดยตลาดหุ้นจีนปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการในวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากมีข่าวว่ากองทุนของรัฐบาลได้เข้าช้อนซื้อหุ้น ภายหลังทางการจีนเผยยอดส่งออกและนำเข้าอ่อนแอ

 

สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยวานนี้ว่า การค้าต่างประเทศของจีนในเดือนส.ค.ปรับตัวลง 9.7% เมื่อเทียบรายปี โดยการส่งออกลดลง 6.1% และการนำเข้าร่วงลง 14.3%

 

หุ้นทั้ง 19 กลุ่มในตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มยานยนต์และเหมืองแร่ เดมเลอร์ บีเอ็มดับเบิลยู และโฟล์คสวาเกน บวกกว่า 2.5% หุ้นริโอ ทินโต เพิ่มขึ้น 2.6% หลังบริษัทให้มุมมองบวกเกี่ยวกับอุปสงค์เหล็กและทองแดงจากจีน

 

หุ้นคอมเมิร์ซ แบงก์ พุ่ง 6.8% หลังเจพี มอร์แกน อัพเกรดหุ้นเป็น overweight จาก neutral

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2246927

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...