มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

Xinhua Middle East news summary: เหตุระเบิดมัสยิดในเยเมนมีผู้เสียชีวิต 30 ราย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 10:26:00 น.

เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายหนึ่งจากกระทรวงมหาดไทยของเยเมน เปิดเผยว่า มีประชาชนเสียชีวิต 30 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมากจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งที่มัสยิดในพื้นที่ควบคุมของกลุ่มฮูตีในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนเมื่อเย็นวานนี้

 

 

 

เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่มัสยิดในเขตอัล-จีราฟของกรุงซานาในขณะที่ประชาชนกำลังทำพิธีละหมาด และหลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดระเบิดจากรถบรรทุกระเบิดในระหว่างที่ประชาชนกำลังให้ความช่วยเหลือเหยื่อระเบิด

 

-- รายการโทรทัศน์ของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 รายและบาดเจ็บ 40 ราย ในเหตุระเบิดที่เมืองลาทาเกีย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย

 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อพาหนะติดระเบิดขับเคลื่อนเข้ามาในจัตุรัสอัล-ฮามาน ในเมืองลาทาเกีย

 

-- สำนักข่าวโดกันของตุรกีเปิดเผยว่า เกิดเหตุเรือ 2 ลำล่มในทะเลอีเจียน ทางตะวันตกของตุรกีเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้ผู้มีลี้ภัยชาวซีเรียเสียชีวิต 11 รายและสูญหาย 5 ราย

 

รายงานระบุว่า เรือลำหนึ่งซึ่งบรรทุกผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจำนวน 16 คนและมุ่งหน้าไปยังเกาะอิสตันคอยของกรีซนั้น ได้จมลงในทะเลอีเจียน บริเวณนอกชายฝั่งของเมืองโบดรัม จังหวัดมูลา

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2243026

 

คองเกรสสนับสนุน โอบามา เดินหน้าเจรจานิวเคลียร์กับอิหร่าน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 09:42:05 น.

สื่อสหรัฐรายงานว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้รับเสียงสนับสนุนมากเพียงพอในสภาคองเกรส เพื่อดำเนินการเจรจาประเด็นนิวเคลียร์กับอิหร่านต่อไป

 

 

 

นางบาร์บารา มิกัลสกี วุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่าจะสนับสนุนการทำข้อตกลงกับอิหร่าน ซึ่งทำให้ปธน.โอบามาได้รับคะแนนสนับสนุน 34 คะแนนในวุฒิสภา โดยเป็นคะแนนเสียงที่มากพอในการทัดทานมติใดๆ ของสภาคองเกรสที่ไม่เห็นด้วยกับการทำข้อตกลงดังกล่าว

 

นางมิกัลสกี วุฒิสภาจากรัฐแมรีแลนด์ระบุในแถลงการณ์ว่า "ไม่มีข้อตกลงใดสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะข้อตกลงที่เจรจาร่วมกับอิหร่าน ดิฉันตัดสินใจแล้วว่าแผนปฏิบัติการร่วมที่สมบูรณ์แบบในระยะยาว (JCPOA) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในการป้องกันการครอบครองระเบิดนิวเคลียร์ของอิหร่าน"

 

"ด้วยเหตุผลดังกล่าว ดิฉันจะลงคะแนนเสียงสนับสนุนข้อตกลงนี้" นางมิกัลสกีกล่าว

สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐมีเวลาลงมติไม่เห็นชอบต่อข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านจนถึงวันที่ 17 ก.ย. ขณะที่สมาชิกหลายราย โดยเฉพาะจากพรรครีพับลิกัน เชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นการยอมอ่อนข้อให้อิหร่านมากเกินไป และไม่สามารถหยุดยั้งอิหร่านจากการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้

 

ทั้งนี้ อิหร่านและกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหรัฐและเยอรมนี ได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

 

"ข้อตกลงนี้สกัดทุกแนวทาง ทุกวิถีทางที่อิหร่านอาจใช้เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์" ปธน.สหรัฐกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมให้คำมั่นว่าจะใช้อำนาจยับยั้งความพยายามขัดขวางการดำเนินข้อตกลงดังกล่าวจากสภาคองเกรส ซึ่งปธน.โอบามาจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 จากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจึงจะสามารถล้มล้างการวีโต้ได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2242980

 

*ธนาคารกลางยุโรปประกาศคงดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.05% ตามคาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 18:52:03 น.

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมาย

 

นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.2% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB

 

ทางด้านนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB จะจัดการแถลงข่าวหลังจากมีประกาศมติอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 45 นาที

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2243546

 

สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 19:42:06 น.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 282,000 ราย

 

 

 

การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.

 

อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 26 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 274,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

 

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น เพิ่มขึ้น 3,250 ราย สู่ระดับ 275,500 ราย แต่ยังใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี

 

สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องมีจำนวนลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 2,257,000 ราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ส.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2243552

[ginger 11,058]

เงินบาทปิด 35.84/86 แกว่งแคบ จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 17:27:45 น.

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.84/86 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.81 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยระหว่างวันเงินบาททำ low สุดที่ระดับ 35.81 บาท/ดอลลาร์ และ high สุดที่ระดับ 35.60 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามามีผลต่อตลาดมากนัก นักลงทุนรอดูคืนนี้ในการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ เช่น ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือน ก.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการ เดือนส.ค.

 

 

 

"วันนี้เงินบาทแกว่งในกรอบแคบๆ ช่วงเช้ามี flow ซื้อดอลลาร์เข้ามา แต่หลังจากนั้นช่วงบ่ายก็ไม่ค่อยมีปัจจัยอื่น" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 35.70 - 35.85 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.35/39 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.49 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโร ช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1224/1227 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1216 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,383.48 เพิ่มขึ้น 11.03 จุด (+0.80%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 41,351 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,659.38 ลบ.(SET+MAI)

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เตรียมเสนอมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในสัปดาห์หน้า

 

- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ว่า จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เพื่อช่วยแก้ปัญหากลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังประสบปัญหาประมาณ 2-3 กลุ่ม ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้

 

- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.อยู่ที่ 72.3 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และถือว่าต่ำสุดในรอบ 15 เดือนนับตั้งแต่มิ.ย.57 เนื่องจากผู้บริโภคกังวลต่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ ซึ่งมีผลกระทบในจิตวิทยาเชิงลบต่อการท่องเที่ยวไทย นอกจากนี้ยังกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปัญหาพืชผลเกษตรราคาตกต่ำ แต่ทั้งนี้ยังมีสัญญาณที่ดีจากที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นกับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ จึงมีแนวโน้มว่าการบริโภคจะเริ่มฟื้นตัวในกลางไตรมาส 4 ของปีนี้

 

อย่างไรก็ดี จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.3 แสนล้านบาทที่รัฐบาลออกมานั้น ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยหนุน GDP ปีนี้ได้ 0.7-1% และหากไม่มีมาตรการนี้อาจทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ไม่ถึง 2.5%

 

- นักลงทุนหันไปจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมถึงถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ในการแถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม โดยรอดูว่าจะมีการส่งสัญญาณใดถึงการขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ซึ่งทาง ECB ดำเนินการอยู่หรือไม่ ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์และตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแรง

 

- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 54.4 จากระดับ 54.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งถือว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงมีความยืดหยุ่น ท่ามกลางปัจจัยลบที่มีอยู่ต่อเนื่อง โดยกิจกรรมทางธุรกิจเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี

 

- นายทาคาฮิเดะ คิอุจิ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประเมินว่าเป็นเรื่องยากที่ญี่ปุ่นจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2243494

 

ราคาน้ำมัน WTI อ่อนตัววันนี้ รายงานสต็อกน้ำมันสหรัฐกดดันตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 19:08:09 น.

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI อ่อนตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ โดยถูกกดดันจากรายงานที่ระบุว่าสหรัฐมีสต็อกน้ำมันมากกว่าที่คาดไว้

 

ณ เวลา 18.31 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลบ 6 เซนต์ หรือ 0.13% สู่ระดับ 46.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

ตลาดปรับตัวในกรอบแคบ โดยไม่แกว่งตัวมากนัก เนื่องจากตลาดการเงินของจีนปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันหยุด ขณะที่ตลาดโลกปรับตัวอย่างมีเสถียรภาพ

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 455.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล

 

สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 388,000 บาร์เรล สู่ระดับ 57.3 ล้านบาร์เรล

 

ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 271,000 บาร์เรล สู่ระดับ 214.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล

 

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 115,000 บาร์เรล สู่ระดับ 150 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล

 

สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.7% สู่ระดับ 92.8% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.5%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดในไตรมาส 2 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2243548

[ginger 11,058]

 

"Our home Our country Stronger Together"

"เราจะเข้มแข็งและเดินหน้า ก้าวข้ามผ่านทุกปัญหาไปด้วยกัน"

 

ดีจ้า วันศุกร์ต้นแรกของดือน โชดดี สุขกาย สบายใจนะคะ

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 07:45:41 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ก.ย.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) หลังจากมีการเปิดเผยว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในเดือนก.ค. ก่อนที่จะมีการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 23.38 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 16,374.76 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.27 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 1,951.13 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 16.48 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,733.50 จุด

 

 

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งแรงเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) รับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งระบุว่า ธนาคารพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หากเห็นว่าจำเป็น

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 2.4% ปิดที่ 362.24 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 98.87 จุด หรือ 2.17% ปิดที่ 4,653.79 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน เพิ่มขึ้น 269.79 จุด หรือ 2.68% ปิดที่ 10,317.84 จุด ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 110.79 จุด หรือ 1.82% ปิดที่ 6,194.10

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากการชะลอตัวในประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาขนาดใหญ่และภาวะผันผวนในตลาดการเงินเป็นอุปสรรคต่อการผลักดันอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนให้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ระดับใกล้ 2% โดยประธาน ECB แย้มว่าอาจขยายโครงการซื้อพันธบัตรออกไปจากกำหนดการเดิมที่จะสิ้นสุดลงในเดือนก.ย.2559 หากเห็นว่ามีความจำเป็น

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 110.79 จุด หรือ 1.82% ปิดที่ 6,194.10 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) ขณะที่การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ช่วยหนุมมุมมองบวกของนักลงทุน และยังมีปัจจัยบวกจากท่าทีของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่พร้อมจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดบวก 50 เซนต์ แตะที่ 46.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดปรับขึ้น 18 เซนต์ ที่ 50.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวมีเสถียรภาพ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับลง 9.10 ดอลลาร์ ที่ 1,124.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดขยับขึ้น 4 เซนต์ ที่ 14.707 ดอลลาร์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วง 3.50 ดอลลาร์ ที่ 1,010.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลดลง 1.80 ดอลลาร์ ที่ 581.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดช่องสำหรับการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาค

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1121 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1240 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5305 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.00 เยน จาก 120.23 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9736 ฟรังก์ จาก 0.9692 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7017 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7034 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,374.76 จุด เพิ่มขึ้น 23.38 จุด +0.14%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,733.50 จุด ลดลง 16.48 จุด -0.35%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,951.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.27 จุด +0.12%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,194.10 จุด เพิ่มขึ้น 110.79 จุด +1.82%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,317.84 จุด เพิ่มขึ้น 269.79 จุด +2.68%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,653.79 จุด เพิ่มขึ้น 98.87 จุด +2.17%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,095.95 จุด เพิ่มขึ้น 60.66 จุด +0.75%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,182.39 จุด เพิ่มขึ้น 86.99 จุด +0.48%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,915.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.31 จุด +0.02%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,048.60 จุด ลดลง 70.80 จุด -1.38%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,027.80 จุด ลดลง 73.70 จุด -1.44%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,098.76 จุด เพิ่มขึ้น 26.30 จุด +0.37%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,433.11 จุด เพิ่มขึ้น 31.82 จุด +0.72%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,602.75 จุด เพิ่มขึ้น 12.56 จุด +0.79%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,906.43 จุด เพิ่มขึ้น 28.30 จุด +0.98%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,764.78 จุด เพิ่มขึ้น 311.22 จุด +1.22%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2243596

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 23.38 จุด รับข้อมูลศก.สดใส ก่อนเผยตัวเลขจ้างงาน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 06:31:52 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) หลังจากมีการเปิดเผยว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในเดือนก.ค. ก่อนที่จะมีการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 23.38 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 16,374.76 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.27 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 1,951.13 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 16.48 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,733.50 จุด

 

 

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 7.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 4.186 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศสำหรับรถยนต์และสินค้าด้านอุตสาหกรรมของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.

 

ขณะเดียวกัน บริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 55.2 ขณะที่ปรับตัวขึ้นจากระดับ 55.7 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 56.0 โดยตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3

 

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขาขึ้นของตลาดได้ถูกสกัดไว้ เนื่องจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 282,000 ราย โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. แม้ว่าตัวเลขล่าสุดยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 26 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระบุเมื่อวานนี้ว่า ECB พร้อมที่จะเพิ่มการอัดฉีดเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร (1.2 ล้านล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อให้ฟื้นตัวจากระดับต่ำไปสู่เป้าหมายที่ระดับใกล้ 2% และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

การแสดงความเห็นของนายดรากีมีขึ้นหลังจากที่ ECB ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมาย

 

ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดต่างรอดูการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2% จากระดับ 5.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2243587

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร หลัง ECB ส่งสัญญาณกระตุ้นศก.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 07:44:01 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดช่องสำหรับการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาค

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1121 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1240 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5305 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.00 เยน จาก 120.23 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9736 ฟรังก์ จาก 0.9692 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7017 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7034 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์ปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ระบุเมื่อวานนี้ว่า ECB พร้อมที่จะเพิ่มการอัดฉีดเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร (1.2 ล้านล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อให้ฟื้นตัวจากระดับต่ำไปสู่เป้าหมายที่ระดับใกล้ 2% และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

การแสดงความเห็นของนายดรากีมีขึ้นหลังจากที่ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมาย

 

ขณะเดียวกัน ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.2% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใสก็เป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 7.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 4.186 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศสำหรับรถยนต์และสินค้าด้านอุตสาหกรรมของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.

 

ทางด้านบริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 55.2 ขณะที่ปรับตัวขึ้นจากระดับ 55.7 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 56.0 โดยตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3

 

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐ ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2% จากระดับ 5.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2243594

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $9.1 เหตุดอลล์แข็ง,ตลาดหุ้นฟื้นตัว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 07:26:30 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวมีเสถียรภาพ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับลง 9.10 ดอลลาร์ ที่ 1,124.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดขยับขึ้น 4 เซนต์ ที่ 14.707 ดอลลาร์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วง 3.50 ดอลลาร์ ที่ 1,010.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลดลง 1.80 ดอลลาร์ ที่ 581.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ตลาดทองคำเผชิญแรงกดดัน หลังจากดอลลาร์ที่แข็งค่าและตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้สกัดความต้องการของนักลงทุนสำหรับสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสเป็นปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 7.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 4.186 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศสำหรับรถยนต์และสินค้าด้านอุตสาหกรรมของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.

 

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างรอดูการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2% จากระดับ 5.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2243593

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 50 เซนต์ หลัง ECB มีท่าทีพร้อมกระตุ้นศก.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 06:55:03 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) ขณะที่การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ช่วยหนุมมุมมองบวกของนักลงทุน และยังมีปัจจัยบวกจากท่าทีของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่พร้อมจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดบวก 50 เซนต์ แตะที่ 46.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดปรับขึ้น 18 เซนต์ ที่ 50.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ราคาน้ำมันปิดในแดนบวก หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ระบุเมื่อวานนี้ว่า ECB พร้อมที่จะเพิ่มการอัดฉีดเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร (1.2 ล้านล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อให้ฟื้นตัวจากระดับต่ำไปสู่เป้าหมายที่ระดับใกล้ 2% และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

การแสดงความเห็นของนายดรากีมีขึ้นหลังจากที่ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมาย

 

ขณะเดียวกัน ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.2% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2243589

[ginger 11,058]

 

นายกฯ เผยแผนยุทธศาสตร์ชาติสอดคล้องโรดแมพ เร่งแก้มั่นคง-ศก.-สังคม

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 19:22:05 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการรับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร พ.ศ.2559-2563 ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 57(นศ.วปอ.รุ่นที่ 57) วิทยาลัยเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 56 วิทยาลัยการทัพบก ชุดที่ 60 วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 47 และวิทยาลัยการทัพอากาศ รุ่นที่ 49 ว่า ดีใจที่ยุทธศาสตร์ชาติในวันนี้ตรงกับที่เราวางไว้เป็นโรดแมพระยะที่ 1 ส่วนระยะยาวก็อยู่ระหว่างดำเนินการ

 

 

 

"เรื่องของความเข้าใจเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็มีบางคนอยู่ในห้องไม่พูด ไม่ถาม แต่พอออกนอกห้องก็มาบอกว่าไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ได้พูด ไม่ได้ถาม หัวใจสำคัญวันนี้คือการขับเคลื่อนโยบาย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ นโยบาย การขับเคลื่อน และผู้ปฏิบัติ"

 

เรื่องยุทธศาสตร์จะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ในปีนี้เพราะคิดไว้อยู่แล้ว แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เสนอมา เรื่องใดอะไรที่ตรงใจตนเองก็ให้รัฐบาลสานต่อ ไม่ใช่ว่าจะไปกำชับให้ต้องทำแบบไหน และตนเองไปเสนอเองไม่ได้ จะกลายเป็นว่ามากล่าวหาว่าตนเองอยากอยู่ในอำนาจ อยู่เพื่อผลประโยชน์

 

"วันนี้มาบอกว่าผมอยากอยู่ จะอยู่เท่าโน้นเท่านี้ อยู่กี่วันกี่เดือนกี่ปี ผมไม่ได้อยากอยู่สักวันจะบอกให้ เห็นใครบอกว่าเป็นนายกฯ จะดี เป็นรัฐมนตรีแล้วสนุก แต่สำหรับผมกลับบ้านก็มีแต่ความทุกข์ เดี๋ยวก็ไลน์มาแล้ว ต้องสั่งโน่นนี่น่นสารพัด คนใต้บังคับบัญชาก็ทำไป ผมยอมรับว่าไม่มีความสุขเลยจริงๆ ดังนั้นวันนี้เราจะต้องฟันฝ่าท้าทายสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงให้ได้ ดูว่าวันนี้สังคมโลกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน เราต้องไปให้ทันเขาให้ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลหน้าที่ต่อสังคมโลก ทำหน้าที่ต่ออาเซียน ทำหน้าที่ต่อประเทศไทย วันนี้เราจะทำอย่างไรให้คนไทยมีรอยยิ้ม มีความสุขและไม่โง่ ไม่ใช่มีความสุขแล้วโง่ ซึ่งขณะนี้เรากำลังเร่งรัดการศึกษาที่จะทำให้คนมีความสุข ต้องมีการวางโรดแมพทุกเรื่อง ตามกรอบระยะเวลาว่าปัญหาแต่ปัญหาจะใช้เวลาเท่าไหร่ แก้ปัญหาได้กี่เปอร์เซ็นต์ ต้องมีความชัดเจน

 

ส่วนการเร่งรัดเรื่องพลังงาน ซึ่งเราจำเป็นต้องโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ที่ จ.กระบี่ เพราะมีโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว และเป็นพื้นที่ติดทะเล สามารถขนส่งถ่านหินได้สะดวก แต่ก็มาบอกว่าทำไม่ได้ เพราะจะทำชาวบ้านเดือดร้อน เลยบอกว่าจะไปสร้างที่ไหนก็ไป ก็ให้รัฐมนตรีไปดูอยู่แต่จะไปสร้างที่ไหนยังไม่รู้เลย ให้ทุกคนเข้าใจเรื่องไฟฟ้าเป็นเรื่องความมั่นคง เพราะเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานทั้งหมด ที่ผ่านมาราชการก็รับนโยบายไปปฏิบัติต่อก็ทำไม่ได้ วันนี้เรากำหนดอนาคตของประเทศให้ประชาชนเห็น ทุกคนจะได้รู้อนาคตของตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครมาชักนำ ไม่ใช่มารวมกลุ่มต่อต้านขัดขวางทุกอย่าง แล้วใครจะทำอะไรให้ได้

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจต้องมีความเข้มแข็งจากภายในก่อน ทั้งจากท้องถิ่นและภูมิภาค การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หรือคนไทยไปลงทุนต่างประเทศ เพราะเราต้องแชร์กันทั้งหมด ส่วนอาเซียนต้องเป็นไทยบวกหนึ่ง พม่าบวกหนึ่ง เพราะเรานำคนเดียวไม่ได้ เราต้องนำด้วยกัน เพราะบางอย่างเขาทำไม่ทันเรา ถ้าไม่ยกเขาขึ้นมาก็จะเป็นบ่อเกิดความขัดแย้ง รวมทั้งการจัดเขตเศรษฐกิจต้องพึ่งพาศักยภาพชายแดนและเพื่อนบ้าน

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ไทยได้เปรียบหลายประเทศคือความเป็นไทย ประเทศมีความสวยงาม ยิ้มแย้มแจ่มใส แม้ค่าแรงจะสูง แต่รอยยิ้มก็พอทำให้อยู่ได้ แม้กำไรจะน้อย แต่เราจะต้องปรับแก้เรื่องแรงจูงใจและสิทธิภาษี ไม่เช่นนั้นนักลงทุนเขาย้ายฐานการผลิตหนีหมด

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงยุทธศาสตร์ด้านการต่างประเทศว่า ต้องรีบสร้างแผน ต้องทำงานเชิงรุก เพราะวันนี้กระทรวงต่างประเทศต้องทำงานเชิงรุกต้องขายของให้ด้วย ทุกสถานทูตต้องมีความรู้ด้านเศรษฐกิจ การค้าการส่งออก การเกษตร การแปรรูป ไม่ใช่ทำแค่งานพบปะหาหรือเยี่ยมเยือน

 

ปัญหาของประเทศมีมากมายเป็นร้อยเรื่องซึ่งสามารถแก้ไขได้พอสมควร ทั้งปัญหาความรุนแรง ปัญหาความไม่เป็นธรรม ปัญหาการทุจริต ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาการศึกษา แม้จะแก้ปัญหาไปแล้ว แต่ปัญหาเดิมๆ พร้อมจะกลับมาตลอดเวลา

 

ส่วนความเชื่อมโยงและพลังการผลิตทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งหมดต้องไปด้วยกัน เพราะทั้งหมดคือยุทธศาสต์ที่ทำให้ประเทศชาติมั่นคง เมื่อมั่นคงก็ทำให้การค้าการลงทุนไปได้ดีจนไปสู่การมั่งคั่ง และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนก็ต้องสร้างทายาทไว้เช่นการสร้างจิตสำนึก การสร้างค่านิยม 12 ประการ ดังนั้นคนที่อยู่ปัจจุบันจะต้องคิดว่าในอนาคตจะทำให้ลูกหลานอยู่ได้อย่างไรเพื่อสร้างทายาทที่เป็นคนดีมีคุณธรรมและศีลธรรม และสุดท้ายการมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามอบอำนาจเด็ดขาดให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมานาน แต่วันนี้เมื่อเข้ามาทำงานก็ไม่เคยต่อต้านความเป็นประชาธิปไตย แต่บทบาทที่ต้องทำวันนี้คือต้องเดินหน้าประเทศไปให้ได้ สร้างความไว้วางใจและเชื่อใจซึ่งกันและกัน วันนี้มีปัญหาว่าร่างรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับในวันที่ 6 ก.ย.58 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนว่าจะรับหรือไม่รับ รัฐธรรมนูญของประเทศต้องเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล วันนี้จะรับหรือไม่รับก็ต้องรอดู

 

"วันนี้เรื่องรับหรือไม่รับก็มีข่าวเข้ามาสองสาย สายหนึ่งบอกนายกฯรับ อีกสายบอกว่านายกฯไม่รับ ซึ่งยังไม่รู้เลยว่าสองสายนี้มาจากใครยังไม่รู้เลย สรุปว่าผมเหยียบเรือสองแคมอย่างนั้นหรือ ซ้ายก็ได้ ขวาก็ได้ ผมไม่ได้มีอะไรกับใครอยู่แล้วและไม่เคยไปขอหรือสั่งอะไรกับใคร ขอแค่ 5 ปีให้เดินยุทธศาสตร์ชาติได้ แค่นี้ก็ยังให้กันไม่ได้ วันนี้ถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อ คือการทำประชามติ ออกกฎหมายลูก และเลือกตั้งในปี 2559 ยืนยันว่า คสช.และผมไม่ได้ประโยชน์อะไร ที่ผ่านมามีแต่ปวดหัวตลอดเวลา มีการเสนอโครงการต่างๆเข้ามาตลอดเวลา ถ้าได้ทำมาตั้งแต่เดิมป่านนี้ประเทศไทยเจริญไปไกลถึงดาวไหนๆแล้ว แต่วันนี้ยังเป็นแค่บ้องไฟอยู่เลย วันนี้การขับเคลื่อนสำคัญที่สุดทั้งภาครัฐ เอกชน ตำรวจ ประชาชน และมีการเมืองที่สร้างสรรค์ ซึ่งถือว่าวันนี้การเมืองเราสร้างสรรค์แล้ว มีคนบอกว่าผมเป็นนักการเมืองแล้วแต่ยืนยันว่าไม่ใช่ ผมยังเป็นนักการทหาร เพียงแต่เข้ามาทำหน้าที่นัการเมืองบริหารงานของภาครัฐเท่านั้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนนโยบายเร่งรัดการปฏิบัติและบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อาจจะเป็นเพราะประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีพรรคการเมืองเข้ามาแบ่งแยกกระทรวงกันบริหาร ทำให้การทำงานทับซ้อนกันต่อไปไม่ได้ อย่างงบประมาณปี 2557-2558 ก็ต้องบูรณาการร่วมกันโดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้การทำงานครอบคลุมชัดเจน ซึ่งปัญหาก่อนหน้านี้ที่พบ คือไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง และฝ่ายการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว ซึ่งเป็นห่วงส่วนราชการ หากตนเองไม่อยู่จะทำกันอย่างไร ข้าราชการเองก็ต้องเตรียมตัว เช่น การแต่งตั้งวางตัวบุคคลให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องกฎหมายก็ต้องมีความขัดเจนอย่าให้คลุมเครือ อย่าทำให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์ ต้องยึดกฎหมายเดียวกัน ข้าราชการเป็นส่วนสำคัญเราสามารถช่วยได้ในการสร้างจริตสำนึกให้ประเทศชาติมั่นคง

 

"ให้นักการเมืองคิด ผมไม่ใช่นักการเมือง คนที่อยู่กับผมก็ไม่ใช่นักการเมือง ทั้งที่เป็นพลเรือน ทั้งข้าราชการ ตำรวจ ทหาร และบางอย่างที่สร้างความขัดแย้งสร้างความสุดโต่ง พวกที่คิดว่าว่ามันต้องแบบนั้นต้องแบบนี้การคิดแบบนี้คือการสร้างวัฒนธรรมที่ผิด ผมไม่ได้บอกว่าต้องเชื่อทุกอย่าง แต่เราต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ที่ผ่านมาเคยเห็นนักการเมืองมาพูดแบบนี้หรือไม่ ผมพูดได้ทุกเรื่องเพราะผมไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ใครที่จะอยู่เบื้องหลังอยู่ใต้เท้า ผมไม่มี จำไว้ว่าทุกคนในนี้ถ้าอยากเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในอนาคตอย่าทำในที่สิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าทำวันนี้ วันหน้าทุกคนจะเสียความภาคภูมิใจ ไปเป็นนายเขาก็ไม่มีใครนับถือ เพราะเขาก็รู้เช่นเห็นชาติกันหมด ถึงมีตำแหน่งก็ยังไม่มีอะไร แล้วสุดท้ายวันหน้าเราจะเป็นคนที่สร้างประวัติศาสตร์อันเลวร้ายให้ประเทศ ให้ลูกหลาน วันนี้มีปัญหาเราต้องช่วยกันแก้ ส่วนยุทธศาสตร์รัฐบาลจะเร่งเดินหน้ายุทธศาสตร์เหล่านี้ 20 ปี แต่พอผมจะทำแค่ 5 ปีก็บ่นกันแล้ว ที่ผมบอกว่าจะทำยุทธศาสตร์ 20 ปีเขาก็ไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้ที่จะมีความขัดแย้งเขาบอกว่าต้องปฏิรูปต้องปรองดอง วันนี้เขากลับมาถามว่าเราปฏิรูปอะไร บอกว่าวันนี้รัฐบาลเข้ามาไม่ปฏิรูปอะไรเลย เขาไม่ได้ทำกับผมนี่ ผมยอมรับว่าเหนื่อย เหนื่อยกันทั้งรัฐบาล เหนื่อยกันทุกคนไม่เคยได้หยุดพัก ใครที่มาอ้างว่าได้เงินมากมาย ไปหามาแล้วมาบอกผม วันนี้ไม่ใช่เวลาที่มันจะมาทะเลาะกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มีปัญหาเรื่องงบประมาณภาครัฐ เรื่องภาษี และการทุจริตคอร์รัปชั่น โครงสร้างเศรษฐกิจอ่อนแอ ความสามารถแข่งขันน้อย ก่อนเข้ามาตนเองไม่เคยรู้ว่ามีปัญหา เพราะเห็นรัฐบาลบริหารมีเงินทองเยอะ ใช้ในส่วนที่ผิดกฎหมายก็เยอะ สิ่งที่รั่วไหลออกไปทำให้ประเทศติดกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ส่วนคนรวยก็ไปอยู่ต่างประเทศตั้งหลายคน แต่ใช้เงินไม่ได้ทั้งหมดนี้ต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึกต่อต้านการโกง

 

"วันนี้มีการใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อทำร้ายกันมาก ผมไม่ยอมอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเขาอยู่ต่างประเทศ ตอนนี้กำลังหามาตรการอยู่ ถ้าอยู่ต่างประเทศแล้วยังทำอยู่ต่อไป ทั้งคลิปหรืออะไร อยู่ได้อยู่ไปวันนี้ก็ถอนพาสปอร์ตแล้วก็ยังทำอยู่ พวกนี้คิดจะไม่กลับมาแล้ว คิดทำลายให้หมดประเทศไทย อย่าอยู่เป็นสุขกันเลย ก็คิดกันแบบนี้พวกวางระเบิดทั้งหลายในช่วงก่อนหน้านี้ ไอ้คนเหล่านี้เป็นคนใจร้าย แสดงว่าบ้านเมืองเรายังไม่สงบ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกจึงต้องขอความร่วมมือกับทุกท่าน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2243549

[ginger 11,058]

 

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ประจำวันที่ 4 กันยายน 2558

ราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,125 ลงมามีโอกาสลงต่อ

แนะนำ เปิด Short เมื่อดีดตัวขึ้น โดยมีจุด Stop loss ที่ 1,135

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 8.80 ดอลลาร์ปิดที่

1,124.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,122.50 - 1,134.10 เช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,123 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงและแกว่งตัวแรงระหว่างวันในช่วงการแถลงนโยบายการเงินของ ECB แม้ว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินเหมือนเดิม แต่ปธ.ECB ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อลง เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศเกิดใหม่และราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้นักลงทุนคาดว่า ECB อาจมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้เงินเฟ้อสูงขึ้น มีผลทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง และเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก เป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ ส่วนภาพทางเทคนิคที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดแนวรับ 1,125 ลงมามีโอกาสลงไปที่ 1,115

แนะนำ : เปิด Short เมื่อดีดตัวขึ้น โดยมีจุด Stop loss ที่ 1,135

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy0409201590220256…

___________________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

 

 

 

[ginger 11,058]

 

 

 

[ginger 11,058]

 

 

เงินบาทปิด 35.86 จับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ มองกรอบสัปดาห์หน้า 35.80-35.90

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 17:45:38 น.

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.86 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.85/87 บาท/ดอลลาร์

 

"ระหว่างวัน High ที่ 35.87 บาท/ดอลลาร์ Low ที่ 35.82 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทในสัปดาห์หน้าน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 35.80 - 35.90 บาท/ดอลลาร์ รอรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ คือ การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non Farm Pero) และอัตราการว่างงาน

 

 

 

"ช่วงนี้ Range อยู่ประมาณ 35.80-35.90 บาท/ดอลลาร์"นักบริหารเงิน กล่าว

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.70/75 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 120.35/39 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1127/1130 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1224/1227 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,370.75 จุด ลดลง 12.73 จุด, -0.92% มูลค่าการซื้อขาย 34,133.90 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,249.98 ลบ.(SET+MAI)

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมที่จะเสนอมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า โดยเบื้องต้นการช่วยเหลือจะแบ่งเป็น 2 ระยะ ซึ่งระยะแรกจะให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยให้ธนาคารออมสินพิจารณาเรื่องการปล่อยสินเชื่อ โดยให้ส่งรายละเอียดมายังกระทรวงการคลังในวันที่ 7 ก.ย. ก่อนจะนำเสนอต่อที่ประชุมครม.ในวันที่ 8 ก.ย.ต่อไป

 

- นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับแผนการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ที่จะนำเสนอต่อนายสมคิด คาดว่าจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1.04 แสนล้านบาท

 

- ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ขานรับแพ็กเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งรวมถึงการปล่อยวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมและการพัฒนาโครงสร้างระบบพื้นฐาน ซึ่งรมว.คลังเตรียมสรุปข้อมูลก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในสัปดาห์หน้า ซึ่งผู้ประกอบการเชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณที่ดีขึ้น

 

- พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) ในวันที่ 7 กันยายนนี้ จะมีการพิจารณาราคาก๊าซแอลพีจีประจำเดือนกันยายน โดยอาจปรับลดลง เนื่องราคาแอลพีจีในตลาดโลกเดือนนี้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 334 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เทียบจากเดือนที่แล้วอยู่ที่ 379 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ดังนั้นอาจพิจารณาราคาขายปลีกแอลพีจีลดลง จากปัจจุบันอยู่ที่ 22.96 บาทต่อกิโลกรัม

 

- นายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนิอาโพลิส ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดภายในปีนี้ เพราะเมื่อพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นในปีนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับขึ้นไปสู่ระดับเป้าหมายช้าลง"

 

- นายวิลเลียม เมอร์เรย์ รองโฆษกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ความผันผวนในตลาดในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่เหตุผลที่ต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับจีน และการพิจารณาทบทวนเพื่อรวมเงินหยวนไว้ในตะกร้าสกุลเงิน SDR

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2244404

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 4 กันยายน 2558

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 17:15:00 น.

-สมาคมผู้นำเข้ารถยนต์ของญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่นำเข้าในญี่ปุ่น รวมทั้งรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ผลิตในต่างประเทศ ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 22,339 คัน

 

-- ศูนย์วิจัยสังคมวิทยาของสเปน (CIS) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสเปนในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 0.3 จุด แตะที่ 105.9 จุด ซึ่งสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อสภาวะเศรษฐกิจของสเปน

 

 

 

-- นายวิลเลียม เมอร์เรย์ รองโฆษกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ความผันผวนในตลาดในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่เหตุผลที่ต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับจีน และการพิจารณาทบทวนเพื่อรวมเงินหยวนไว้ในตะกร้าสกุลเงิน SDR

 

-- คณะรัฐมนตรีจีนประกาศแผนส่งเสริมการให้บริการโทรคมนาคม วิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายบรอดแบนด์เดียวกัน ภายใต้โครงการชื่อ "Three-Network Convergence"

 

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PSA) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ลดลงแตะที่ 0.6% ในเดือนส.ค. ในขณะที่ราคาอาหาร พลังงานและน้ำมันปรับตัวลดลงเช่นกัน

 

-- นางเฟเดอริกา โมเกอห์รินี ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวภายหลังการประชุมอย่างไม่เป็นทางการร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมหลายประเทศในวันนี้ว่า EU จะจับกุมเรือลักลอบขนส่งแรงงานผิดกฎหมายในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

 

-- สำนักงานสถิติเยอรมนีเผยยอดสั่งซื้อภาคการผลิตเดือนก.ค.ปรับตัวลง 1.4% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 1.8% เนื่องจากความต้องการในต่างประเทศที่ซบเซา

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

รองโฆษกรัฐบาล เผยนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถอดยศทักษิณแล้ว

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 14:05:53 น.

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ทูลเกล้าฯ เรื่องถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว และไม่อยากให้มองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง แต่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน

 

"เป็นไปตามขั้นตอนได้มีการทูลเกล้าฯ ก็รอว่าจะลงมาเมื่อไหร่ อย่างไร...อย่าไปมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ต้องมองว่าเรื่องนี้มีสาเหตุมาจากอะไร มีขั้นตอนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องอย่างไร มีพฤติกรรมความผิดแบบนี้ต้องดำเนินการอย่างไร อย่าไปมองว่าคนนั้นเป็นใคร ชื่ออะไร เอาเป็นว่ามองที่กติกาก่อน" พล.ต.วีรชน กล่าว

 

ส่วนการยืดเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้น พล.ต.วีรชน กล่าวว่า ทุกอย่างดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนทีละเรื่อง

 

 

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2244164

 

ปธน.กัวเตมาลายอมลาออกจากตำแหน่ง พร้อมมอบตัว หลังพัวพันคดีทุจริต

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 10:02:12 น.

นายออตโต เปเรซ โมลินา ประธานาธิบดีกัวเตมาลา ประกาศลาออกจากตำแหน่งและยอมมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการ หลังรัฐสภาลงมติเพิกถอนความคุ้มกันจากการถูกฟ้องร้องของนายโมลินา อันเนื่องมาจากปธน.กัวเตมาลาต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตภายในกรมศุลกากรของประเทศ

 

รัฐสภากัวเตมาลาลงมติด้วยคะแนนเสียง 116 ต่อ 42 ให้นายเปเรซ โมลินา เผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาดังกล่าว

 

ทั้งนี้ อัยการกัวเตลามาระบุว่า ประธานาธิบดีเปเรซ โมลินา และนางโรซานา บัลเดตตี อดีตรองประธานาธิบดี รับเงินสินบนจำนวน 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในช่วงเวลา 1 ปี โดยเงินดังกล่าวเป็นเงินค่าสินบนที่บริษัทนำเข้าสินค้ามายังกัวเตมาลา จ่ายเพื่อเลี่ยงการถูกเก็บภาษีศุลกากร สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2243977

 

 

 

ภาวะตลาดอนุพันธ์: ไหลลงขายลดเสี่ยงกลับมากังวลศก.โลก จับตารับร่างรัฐธรรมนูญ-

 

 

นายกฯอังกฤษยอมรับผู้อพยพเพิ่มอีกหลายพันคน หลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 18:10:24 น.

นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศในวันนี้ว่า อังกฤษจะรับผู้อพยพเพิ่มเติมอีกหลายพันคน ขณะที่มีแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากนักการเมืองและประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาลอังกฤษเปิดรับผู้อพยพจำนวนมากขึ้น หลังมีการเผยแพร่ภาพเด็กน้อยอายุ 3 ขวบที่เสียชีวิตอยู่บนชายหาดจากเหตุการณ์เรืออพยพได้อับปางลง

 

นายคาเมรอนระบุว่า ผู้อพยพที่อังกฤษจะรับเข้าประเทศจะมาจากค่ายผู้อพยพของสหประชาชาติ (UN) ที่ชายแดนประเทศซีเรีย ไม่ใช่มาจากผู้อพยพที่ขณะนี้อยู่ในยุโรปแล้ว

 

เขากล่าวเสริมว่า รัฐบาลจะเปิดเผยรายละเอียดมากขึ้นในสัปดาห์หน้า หลังการหารือกับหน่วยงานต่างๆที่กำลังปฏิบัติงานในภูมิภาค

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2244418

 

 

 

ศาลฯพิพากษาประหาร 4 ผู้ต้องหายิง M79 บิ๊กซีราชดำริ สารภาพเหลือจำคุกตลอดชีวิต

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 14:33:03 น.

ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาประหารชีวิต 4 ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันก่อเหตุยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่พื้นที่การชุมนุม กปปส. บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

 

 

 

วันนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีของนายชัชวาล ปราบบำรุง จำเลยที่ 1, นายสมศรี มาฤทธิ์ จำเลยที่ 2, นายสุนทร ผิผ่วนนอก จำเลยที่ 3 และนายทวีชัย วิชาคำ จำเลยที่ 4 โดยจำเลยทั้ง 4 คน ซึ่งอัยการยื่นฟ้องว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยใช้เครื่องยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ยิงกระสุนระเบิดขนาด 40 มม.ตกลงไปที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 ก.พ. 2557 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีก 21 คน

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี สามารถควบคุมตัวได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2557 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่ได้ออกให้ และข้อหาอื่น ๆ รวม 8 ข้อหา ซึ่งขณะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังนั้น พนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์

 

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำให้การและหลักฐานที่จำเลยได้นำมาอ้าง ไม่สามารถหักล้างกับหลักฐานที่โจทก์ได้ พิพากษาประหารชีวิต จำเลยทั้ง 4 คน แต่จำเลยได้ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมให้จำเลยชดใช้เงินให้ผู้บาดเจ็บ

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2244183

 

ปธน.ตุรกีออกโรงเรียกร้องให้ยุโรปรับผิดชอบผู้อพยพ

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 11:15:10 น.

นายเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ได้เรียกร้องให้กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในทวีปยุโรป มีความเห็นอกเห็นใจต่อวิกฤตผู้อพยพ

นายเออร์โดกันกล่าวในพิธีเปิดการประชุมสุดยอด Business 20 หรือ B20 ณ กรุงอังการาว่า "ประเทศในตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรปกลับเพิกเฉยอย่างเย็นชาต่อวิกฤตด้านมนุษยชนเกี่ยวกับผู้อพยพ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องของเด็กผู้ชายวัยสามขวบเพียงคนเดียว แต่เป็นเรื่องของมนุษยธรรมที่เลือนลางลงไปจากเขตเมดิเตอเรเนียน"

 

 

ในช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมา ร่างของเด็กชายวัย 3 ขวบชาวซีเรียถูกสังหารบนชายหาดตุรกี ซึ่งกลายเป็นชนวนสร้างความโกรธแค้นเกี่ยวกับความเพิกเฉยในการเข้าช่วยเหลือผู้อพยพของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

นายเออร์โดกันกล่าวว่า "บรรดาประเทศในยุโรปได้จัดประเภทของกลุ่มผู้อพยพตามคุณวุฒิ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไร้ความปราณี ผมขอเรียกร้องให้ทั่วโลก รวมถึงสื่อมวลชนทั่วโลกเข้ารับผิดชอบเรื่องนี้"

ในการแถลงการณ์ครั้งนี้ นายเออร์โดกันระบุด้วยว่า ขณะนี้ แถบเมดิเตอเรเนียนได้กลายเป็นเส้นทางสำหรับผู้อพยพที่เสี่ยงชีวิตเพื่อการอพยพเข้าสู่ยุโรป สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

"ปปง."พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงบึ้มราชประสงค์-สาทร

วันนี้(4 ก.ย.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าจากกรณีเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และสะพานท่าน้ำสาทรนั้น พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์...

THAIPOST.NET

ธปท.แจงทุนสำรองระหว่างประเทศ 28 ส.ค. อยู่ที่ US$ 155.8 พันล้าน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 14:33:13 น.

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย

วันที่ 28 ส.ค.58 อยู่ที่ 155.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 21 ส.ค.58 ที่ 157.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ขณะเดียวกันฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 28 ส.ค.58 อยู่ที่ 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบ

 

กับวันที่ 21 ส.ค.58 อยู่ที่ 15.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

เงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 28 ส.ค.58 อยู่ที่ 5,581.0 พันล้านบาท จาก 5,612.4 พันล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.58

21 ส.ค. 28 ส.ค.

 

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ(พันล้านบาท) 5,612.4 5,581.0

 

(พันล้านดอลลาร์ สรอ.) 157.3 155.8

 

ฐานะสุทธิ Forward(พันล้านดอลลาร์ สรอ.) 15.6 14.8

 

สินเชื่อสุทธิที่ให้กับรัฐบาล(พันล้านบาท) -27.8 -19.6

 

สินเชื่อสุทธิที่ให้กับสถาบันการเงิน(พันล้านบาท) -3,973.3 -3,910.0

 

ฐานเงิน(พันล้านบาท) 1,455.5 1,518.4

(billions of baht)

อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2244184

ศาลฎีกาฯ ยกฟ้องคดีนพดลหนุนเขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 16:00:28 น.

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีมติ 6 ต่อ 3 พิพากษายกฟ้องในคดีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

 

 

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.51 ขณะที่นายนพดลดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้ประเทศกัมพูชานำปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไทย

 

รายงานข่าว แจ้งว่า นายนพดลได้หลั่งน้ำตาออกมาทันทีหลังจากศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษายกฟ้อง โดยก่อนหน้าที่จะเข้าฟ้องพิจารณาคดีนายนพดลไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชนเมื่อถูกถามถึงความมั่นใจ เพียงแค่หันมายิ้มให้สื่อมวลชนเท่านั้น

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2244290

[deb99 290]

ขอบคุณครับ คุณ ginger วันหยุด พักผ่อน มีความสุขมากๆครับ

[ginger 11,058]

ขอบคุณครับ คุณ ginger วันหยุด พักผ่อน มีความสุขมากๆครับ

ขอบคุณคับ deb อยู่ดี มีสุข โชคดี ลงทุนถูกทาง

 

[ginger 11,058]

found on Amazing&WanderWorld

o__o ิ้มใสๆๆ

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 06:18:00 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 กันยายน 2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) หลังจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนส.ค.ส่งผลให้มีความไม่แน่นอนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วง 272.38 จุด หรือ 1.66% ปิดที่ 16,102.38 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับลง 29.91 จุด หรือ 1.53% ปิดที่ 1,921.22 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 49.58 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 4,683.92 จุด

 

 

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วง 2 วันก่อนหน้า เนื่องจากมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ขณะที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 รูดลง 9.13 จุด หรือ 2.52% ปิดที่ 353.11 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ลดลง 130.71 จุด หรือ 2.81% ปิดที่ 4,523.08 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ร่วงลง 279.80 จุด หรือ 2.71% ปิดที่ 10,038.04 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปรับลง 151.18 จุด หรือ 2.44% ปิดที่ 6,042.92 จุด

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) หลังจากตัวเลจจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐไม่ได้ทำให้มีความชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หรือไม่

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 151.18 จุด หรือ 2.44% ที่ 6,042.92 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) ตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่อัตราว่างงานลดลง

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 70 เซนต์ แตะที่ 46.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดร่วงลง 1.07 ดอลลาร์ ที่ 49.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับลดลงเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐแสดงให้เห็นถึงภาพรวมที่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับลง 3.10 ดอลลาร์ ที่ 1,121.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลดลง 15.8 เซนต์ ที่ 14.549 ดอลลาร์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วง 17.70 ดอลลาร์ ที่ 992.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 4.40 ดอลลาร์ ที่ 577.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1148 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1121 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5183 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5259 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.93 เยน จาก 120.00 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9730 ฟรังก์ จาก 0.9736 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.6924 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7017 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,102.38 จุด ลดลง 272.38 จุด -1.66%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,921.22 จุด ลดลง 29.91 จุด -1.53%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,683.92 จุด ลดลง 49.58 จุด -1.05%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,042.92 จุด ลดลง 151.18 จุด -2.44%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,038.04 จุด ลดลง 279.80 จุด 2.71%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,038.04 จุด ลดลง 279.80 จุด -2.71%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,000.60 จุด ลดลง 95.35 จุด -1.18%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,792.16 จุด ลดลง 390.23 จุด -2.15%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,886.04 จุด ลดลง 29.49 จุด -1.54%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,060.80 จุด เพิ่มขึ้น 12.10 จุด +0.24%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,040.60 จุด เพิ่มขึ้น 12.80 จุด +0.25%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,051.78 จุด ลดลง 46.98 จุด -0.66%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,840.61 จุด ลดลง 94.33 จุด -0.45%

 

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 556.81 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด +0.45%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,415.34 จุด ลดลง 17.77 จุด -0.40%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,863.81 จุด ลดลง 42.62 จุด -1.47%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,589.16 จุด ลดลง 13.59 จุด -0.85%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,201.90 จุด ลดลง 562.88 จุด -2.18%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2245031

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังเยนแข็งค่าฉุดหุ้นญี่ปุ่นร่วง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 08:33:53 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าได้ฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง ขณะเดียวกันนักลงทุนก็วิตกกังวลเรื่องความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 0.5% แตะ 124.17 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,674.82 จุด ลดลง 117.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,683.31 จุด ลดลง 157.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,990.76 จุด ลดลง 9.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,883.36 จุด ลดลง 2.68 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,842.28 จุด ลดลง 21.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,578.50 จุด ลดลง 10.66 จุด

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2245210

[ginger 11,058]

 

 

 

 

 

 

[ginger 11,058]

(เพิ่มเติม) เงินบาทเช้านี้แตะ 36.01 บาท จากเปิด 35.95/97 แนวโน้มยังอ่อนค่าต่อ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 11:20:50 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.95/97 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.85 บาท/ดอลลาร์

 

ช่วงเช้าที่ผ่านมาเงินบาทลงไปอ่อนค่าสุดแตะที่ระดับ 36.01 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งนอกจากทิศทางเงินบาทจะอ่อนค่าไปตามสกุลเงินในภูมิภาคแล้ว แนวโน้มยังมีโอกาสอ่อนค่าได้จากปัจจัยที่เศรษฐกิจของจีนยังไม่ค่อยดี ขณะเดียวกันยังต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ในระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรเรื่องอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ด้วยเช่นกัน

 

 

 

"บาทวันนี้ยังมีโอกาสอ่อนค่า ซึ่งวันนี้นอกจากจะอ่อนค่าตามภูมิภาคแล้ว ยังมีปัจจัยจากที่เศรษฐกิจจีนยังไม่ค่อยดี ตลาดก็จับตาประชุม FED ซึ่งคาดว่า FED อาจจะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยไปเป็น ธ.ค. ส่วนในบ้านเราก็ดูประชุม กนง. รวมทั้งดูว่าทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะ drive นโยบายตัวไหนออกมา" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90- 36.10 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.9750 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(4 ก.ย.) อยู่ที่ 1.76514% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(4 ก.ย.) อยู่ที่ 1.70958%

 

*ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.31/34 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 119.70/75 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.1150/1152 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1127/1130 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.840 บาท/ดอลลาร์

 

- สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โหวตคว่ำร่าง รธน. 135 เสียง รับ 105 งดออกเสียง 7 นักวิเคราะห์ชี้ สปช.ไม่รับร่าง รธน. ทำเลือกตั้งล่าช้า เชื่อกระทบต่อตลาดหุ้นน้อยกว่าผลลบจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดต่างประเทศ ให้แนวรับสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,350 จุด แนะเข้าซื้อเมื่อดัชนีปรับลดลง คาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80-36.10 บาทต่อดอลลาร์

 

- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) กล่าวถึงกรณีสปช.มีมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่ส่งผลต่อการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมมากนัก เชื่อว่า ต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ภายใน 180 วัน ตามโรดแมป ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย(SME) ยังคงต้องติดตามทิศทางนโยบายของรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง

 

- คลังเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี เล็งปรับลดภาษีเงินได้จาก 15% เหลือ 10% ชั่วคราว ตั้งเงื่อนไขต้องทำบัญชีถูกต้อง พร้อมงัดมาตรการช่วยอุตฯ ยานยนต์ แย้มคืนภาษีผู้ประกอบการรถมือสองส่งขายเพื่อนบ้าน

 

- นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า จากการประเมินผลการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz สำหรับการให้บริการโทรศัพท์มือถือ 4จี ในเดือน พ.ย.นี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนของเอกชน และทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้มากถึง 5 แสนล้านบาท ภายในปี 2560

 

- นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมในปี 2559 ว่า จากการประเมินภาวะเศรษฐกิจ หรือ GDP ปัจจุบัน และปัจจัยที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ทำให้ สอท. มองว่า ในปี 2559 จะสามารถขยายตัวได้ดีกว่าในปี 2558 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าจะขยายตัวได้ 3% เพิ่มขึ้นจาก 2.5% ในปี 2558

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด

 

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. จากระดับ 245,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.1% จาก 5.3% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 220,000

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (4 ก.ย.) ตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่อัตราว่างงานลดลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 70 เซนต์ แตะที่ 46.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดร่วงลง 1.07 ดอลลาร์ ที่ 49.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ระบุว่า ตลาดหุ้นจีนมีเสถียรภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเห็นได้จากราคาหุ้นที่อยู่ในระดับเหมาะสม หลังจากร่วงลงอย่างหนักนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. โดย CSRC ระบุว่าสภาพคล่องในตลาดมีอยู่ค่อนข้างมาก เนื่องจากบรรดากองทุนรวม, กองทุนสวัสดิการสังคม, บริษัทประกัน และนักลงทุนสถาบันอื่นๆ มีเงินทุนอยู่ในมือจำนวนมาก

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2245504

 

ผู้ว่าฯแบงก์ชาติจีนชี้ตลาดหุ้นจีนใกล้สิ้นสุดปรับฐาน เชื่อตลาดการเงินจะมีเสถียรภาพมากขึ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 12:26:20 น.

โจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่า การปรับฐานของตลาดหุ้นจีนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าตลาดการเงินจะกลับมานิ่งและมีเสถียรภาพมากขึ้น

 

 

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ถ้อยแถลงสร้างความเชื่อมั่นของผู้ว่าแบงก์ชาติจีนมีขึ้นในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ที่ประเทศตุรกี ในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินของจีนได้จุดชนวนให้เกิดการปรับฐานหลายระลอกในช่วงที่ผ่านมา

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนได้ร่วงลงเกือบ 40% จากระดับสูงสุดเมื่อเดือนมิ.ย. และได้ลบล้างช่วงบวกของปีนี้ไปเกือบทั้งหมด

 

นายโจวชี้ว่า รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนสภาพคล่องโดยธนาคารกลางจีน เพื่อสกัดการร่วงลงของตลาด และเพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ

 

"อัตราส่วนหนี้สินต่อมูลค่าสินทรัพย์ตลาดได้ร่วงลงอย่างรุนแรงนับตั้งแต่ที่มีการปรับฐาน แต่เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่แท้จริงมากนัก" เขากล่าว พร้อมกับเสริมว่า ความผันผวนดังกล่าวจะไม่เปลี่ยนแปลงความตั้งใจของรัฐบาลในการเดินหน้าปฏิรูป

 

ขณะเดียวกัน ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนยังได้กล่าวถึงการปฏิรูปกลไกอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งนำไปสู่การอ่อนค่าของเงินหยวน โดยนายโจวได้เน้นย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณใดๆถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของจีนยังคงดีอยู่ และจีนยังคงมียอดเกินดุลการค้าค่อนข้างมาก

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2245564

 

ผอ.IMF เตือนเฟดควรมั่นใจว่าตลาดแรงงาน-เงินเฟ้อแข็งแกร่ง ก่อนปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 12:56:54 น.

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกโรงเตือนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น เฟดควรจะต้องมั่นใจว่าตลาดแรงงานและเงินเฟ้อนั้นแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการดำเนินการดังกล่าวได้

 

นางลาการ์ดกล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุม G20 ว่า เฟดไม่ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาเป็นเวลานาน ดังนั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะต้องเป็นประโยชน์ ไม่ใช่แค่ลองดูแล้วหลังจากนั้นต้องหวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น โดย IMF มองว่าก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ เฟดควรมีความมั่นใจเกี่ยวกับข้อมูลว่าจะไม่มีความผันผวนเกิดขึ้นทั้งในแง่ของเสถียรภาพด้านราคา การจ้างงานหรือการว่างงาน

 

ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดมีกระแสคาดการณ์กันในวงกว้างว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2245588

[ginger 11,058]

มท.สนองงานพระราชดำริ...ตามรอยเท้าพ่อ

 

 

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 00:00:49 น.

โครงการ "ตามรอยเท้าพ่อ" ภายใต้นโยบายของ "กระทรวงมหาดไทย" ที่ได้อนุมัติโครงการ/กิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาตามแนวทางพระราชดำริ "ปวงประชาเป็นสุข ด้วยพระบารมีตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งโครงการส่วนใหญ่จะเป็นการส่งเสริมอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนั้นเป็นโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ โครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำ และโครงการด้านการฟื้นฟูอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกโครงการได้น้อมนำหลักการทรงงาน แนวทางพระราชดำริ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีเป้าหมายลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้ประชาชนพ้นความยากจน สามารถพึ่งพาตนเองได้ในทุกสถานการณ์อย่างยั่งยืน

 

 

 

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการ "ตามรอยเท้าพ่อ" เพื่อปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเน้นหนักในการเทิดทูนสถาบันหลักของชาติและขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย โดยมีหน่วยงานในระดับกรม รัฐวิสาหกิจในสังกัด และจังหวัดทุกจังหวัดได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ตามวาระ "ตามรอยเท้าพ่อ" มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภารกิจสำคัญประการหนึ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินงานเพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้ทรงมีความห่วงใยต่อผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสหรือผู้ป่วยที่มีรายได้น้อยและมีความทุกข์ยากลำบากในการดำรงชีวิต

 

ในการแก้ไขปัญหาสัญชาติให้กับนักเรียนที่ไม่มีสถานะบุคคลเพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทยในทุกๆ ด้าน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จึงได้ดำเนินโครงการสำคัญเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน พัฒนาอาชีพและดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมการปกครองยังสรุปผลการดำเนินงานในห้วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2558 ดังนี้

 

1.โครงการกำหนดสถานะให้แก่บุคคลไร้สัญชาติประจำปี 2558 ได้กำหนดสถานะบุคคลและลงรายการสัญชาติไทยให้แก่กลุ่มเด็กที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง ห่างไกลและทุรกันดาร โดยจัดส่งคณะเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองไปปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดเป้าหมาย เพื่อตรวจเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด โดยดำเนินการนำร่องในพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก และขยายผลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจากการดำเนินงานดังกล่าว ขณะนี้ได้มีการอนุมัติเพิ่มชื่อและลงรายการสัญชาติไทยให้แก่ผู้ไม่มีสถานะบุคคลแล้วจำนวน 579 ราย ในจำนวนนี้

 

เป็นเด็กนักเรียนในพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตากจำนวน 110 ราย อย่างไรก็ดีกรมการปกครองมีเป้าหมายตรวจสอบคุณสมบัติของนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มบุคคลทั่วไปที่ยังไม่มีสัญชาติไทยจากทั่วประเทศจำนวน 68,526 ราย ได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้วจำนวน 19,528 ราย พบว่ามีผู้ที่มีคุณสมบัติได้สัญชาติไทยจำนวน 7,723 ราย โดยสำนักทะเบียนทั่วประเทศจะเร่งดำเนินการรับคำร้องขอกำหนดสถานะและขอสัญชาติไทยให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่มีคุณสมบัติต่อไป ซึ่งขณะนี้มีผู้มายื่นคำร้องแล้วจำนวน 3,223 ราย

 

2.โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์พระบรมวงศานุวงศ์และผู้ป่วยที่ด้อยโอกาส โดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดทำแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการภูมิภาค ทำหน้าที่ประสานและบูรณาการกับส่วนราชการต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือและดูแลประชาชนเหล่านี้ตามความเหมาะสม เช่น การช่วยเหลือผู้ป่วยและหรือญาติผู้

 

ป่วย กรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จำเป็นจะต้องให้ญาติเป็นผู้ดูแล โดยให้ความช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ารับการรักษาพยาบาล เช่น ค่าพาหนะ ค่าที่พัก ค่าอาหารระหว่างเข้ารับการรักษาพยาบาล หรือช่วยเหลือในการดำรงชีพด้านอื่นๆ ตามความเหมาะสม และได้จัดตั้งศูนย์สงเคราะห์ราษฎรระดับจังหวัด อำเภอ และระดับหมู่บ้าน ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นกรรมการศูนย์ฯ ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่บ้าน มีการจัดตั้งแล้วใน 39 จังหวัด รวม 5,440 แห่ง รวมทั้งการช่วยเหลือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอ ปัจจุบันได้ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยรวม 4,345 ราย แยกเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์พระบรมวงศานุวงศ์จำนวน 1,565 ราย และผู้ป่วยที่เป็นผู้ด้อยโอกาสจำนวน 2,780 ราย

 

3.โครงการพัฒนาตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยสนับสนุนและขยายผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ มีประชาชนได้รับประโยชน์จากทุกโครงการรวม 60,252 คน ดังนี้ 1) โครงการพัฒนาพื้นที่ ภายใต้แผนภูฟ้าพัฒนาตามพระราชดำริ จังหวัดน่าน ประชาชนได้รับประโยชน์รวม 6,253 คน 2) โครงการสร้างป่าสร้างรายได้ดำเนินการในพื้นที่ทรงงานศูนย์เรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง" และพื้นที่อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย โดยจัดทำธนาคารพันธุ์พืชและปุ๋ยอินทรีย์ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการรวม 2,992 คน พื้นที่รวม 10,087 ไร่ 3) โครงการเศรษฐกิจพอเพียงดำเนินการในพื้นที่ 20 จังหวัด 42 อำเภอ 42 หมู่บ้าน (ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการรวม 29,549 คน 4) โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะ บ้านป่าเกี๊ยะ อำเภอสะเมิง บ้านดอยป่าคา อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และบ้านห้วยป๋อ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาตามพื้นที่ชุมชนที่สูงมีประชาชนได้รับประโยชน์รวม 1,746 คน และ 5) การสนับสนุนโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ (เพิ่มเติม) และการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอื่นๆ ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น สกลนคร มุกดาหาร หนองบัวลำภู สุรินทร์ เชียงใหม่ ตาก เชียงราย และจังหวัดลำปาง ประชาชนได้รับประโยชน์รวม 19,712 คน

 

"กระทรวงมหาดไทยมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับสนองงานสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงเป็นแบบอย่างในการทุ่มเทเสียสละพระวรกายดำเนินทุกวิถีทางที่จะช่วยให้ประชาชนชาวไทยพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงด้วยพระเมตตา โดยขอน้อมนำหลักการทรงงานและดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน" รมว.มหาดไทย กล่าว

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/bmnd/2245276

 

Xinhua Middle East news summary: ทหารตุรกีเสียชีวิต 16 นายจากเหตุปะทะกับ PKK

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 10:50:00 น.

หนังสือพิมพ์ Hurriyet ของตุรกีรายงานว่า มีทหารตุรกีเสียชีวิต 16 นายรายและประชาชนบาดเจ็บอีกจำนวนมากจากเหตุปะทะกันกับกลุ่มพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองนอกกฎหมาย ในจังหวัดฮักการี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี เมื่อวานนี้

 

รายงานเปิดเผยว่า กองกำลังของพรรค PKK วางกับระเบิดขณะที่ยานพาหนะ 2 คันของกองทัพตุรกีกำลังเคลื่อนผ่านเขตแดกลิกา ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิตหลายนาย

 

-- แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยอิรักเข้าสกัดกั้นการโจมตีจากกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) เมื่อวานนี้ ที่เมืองทิกริตของอิรัก โดยส่งผลให้กลุ่ม IS เสียชีวิตไป 5 ราย

 

แหล่งข่าวดังกล่าวเปิดเผยกับว่า การโจมตีดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้า ขณะที่กองกำลังจากกลุ่ม IS เข้าโจมตีจากทางทิศตะวันตก โดยอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดออกไป 170 กิโลเมตร ส่งผลให้เกิดการปะทะอย่างหนักกับกองรักษาความปลอดภัยและกลุ่มฮาชด์-ชาบี

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2245467