ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ธปท.แจงทุนสำรองระหว่างประเทศ 4 ก.ย. อยู่ที่ US$ 154.8 พันล้าน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 กันยายน 2558 14:30:17 น.

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 4 ก.ย.58 อยู่ที่

 

 

 

154.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 28 ส.ค.58 ที่ 155.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะเดียวกันฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 4 ก.ย.58 อยู่ที่ 14.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบ

 

กับวันที่ 28 ส.ค.58 อยู่ที่ 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 4 ก.ย.58 อยู่ที่ 5,548.6 พันล้านบาท จาก 5,581.0 พันล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.58

28 ส.ค. 4 ก.ย.

 

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ(พันล้านบาท) 5,581.0 5,548.6

 

(พันล้านดอลลาร์ สรอ.) 155.8 154.8

 

ฐานะสุทธิ Forward(พันล้านดอลลาร์ สรอ.) 14.8 14.6

 

สินเชื่อสุทธิที่ให้กับรัฐบาล(พันล้านบาท) -19.6 -89.2

 

สินเชื่อสุทธิที่ให้กับสถาบันการเงิน(พันล้านบาท) -3,910.0 -3,833.0

 

ฐานเงิน(พันล้านบาท) 1,518.4 1,511.0

(billions of baht)

อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา/นิศารัตน์ โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2249224

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดกนง.รอบนี้คงดอกเบี้ย รอติดตามตัวแปรสำคัญนโยบายการเงินเฟด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 กันยายน 2558 14:48:27 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ในการประชุมรอบที่ 6 ของปี 2558 ในวันที่ 16 ก.ย.58 นี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจต่างประเทศของไทย ภายใต้บริบทความผันผวนทางการเงินที่อยู่ในระดับสูง จากคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

ทั้งนี้ มาตรการทางการเงินคงเป็นปัจจัยช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ขณะที่ปัจจัยหลักในการผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคงมาจากมาตรการทางการคลังของภาครัฐ ที่รัฐบาลได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่ปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงค่อนข้างมาก พอจะสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการส่งออกได้บ้าง

 

 

 

สำหรับปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่ทำให้ประเมินว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบหน้านี้ ปัจจัยแรก การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติมในระยะนี้ อาจจะกระทบต่อเสถียรภาพของค่าเงินบาท รวมทั้งสร้างความผันผวนแก่ตลาดการเงินเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงมองว่า กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลเสถียรภาพภายนอกประเทศ ควบคู่กับการรอติดตามจังหวะและการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้

 

ปัจจัยที่สอง การดำเนินนโยบายการคลัง คงจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะทำให้ กนง.ยังมีพื้นที่สำหรับการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบัน และปัจจัยที่สาม การอ่อนค่าของค่าเงินบาทและปัจจัยด้านฤดูกาล น่าจะช่วยส่งผลดีต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะช่วยหนุนนำการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไปได้

 

"กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลเสถียรภาพภายนอกประเทศ ควบคู่กับการรอติดตามจังหวะและการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 กันยายนนี้" เอกสารเผยแพร่ระบุ

 

อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะข้างหน้า ได้แก่ ทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยที่อาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อันอาจจะส่งผ่านไปยังต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ตลอดจนการส่งสัญญาณถึงเส้นทางในการปรับนโยบายการเงินในระยะต่อไป ที่คงส่งผลต่อความผันผวนทางการเงินตลอดจนกระแสการไหลของเงินทุนในตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งไทยด้วย

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2249244

 

ธปท.แจงทุนสำรองระหว่างประเทศ 4 ก.ย. อยู่ที่ US$ 154.8 พันล้าน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 กันยายน 2558 14:30:17 น.

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 4 ก.ย.58 อยู่ที่

 

 

 

154.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 28 ส.ค.58 ที่ 155.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะเดียวกันฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 4 ก.ย.58 อยู่ที่ 14.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบ

 

กับวันที่ 28 ส.ค.58 อยู่ที่ 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 4 ก.ย.58 อยู่ที่ 5,548.6 พันล้านบาท จาก 5,581.0 พันล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.58

28 ส.ค. 4 ก.ย.

 

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ(พันล้านบาท) 5,581.0 5,548.6

 

(พันล้านดอลลาร์ สรอ.) 155.8 154.8

 

ฐานะสุทธิ Forward(พันล้านดอลลาร์ สรอ.) 14.8 14.6

 

สินเชื่อสุทธิที่ให้กับรัฐบาล(พันล้านบาท) -19.6 -89.2

 

สินเชื่อสุทธิที่ให้กับสถาบันการเงิน(พันล้านบาท) -3,910.0 -3,833.0

 

ฐานเงิน(พันล้านบาท) 1,518.4 1,511.0

(billions of baht)

อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา/นิศารัตน์ โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2249224

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลั่นครั้งนี้อาจไม่ให้อภัย'พิชัย' ขัง'เก่ง'ข้อหาก่อความไม่สงบ

11 ก.ย. 58 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงกรณีเหตุผลการเชิญตัวนายการุณ โหสกุล เพื่อปรับทัศนคติว่า "ก็เขาพูดอะไรออกมาหรือเปล่า มันจบแล้ว"

NAEWNA.COM

“โกลเบล็ก” มองหุ้นกลุ่มธนาคาร–ท่องเที่ยว-โรงแรมรับอานิสงส์รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ มองกรอบดัชนีหุ้นไทย 1,400 – 1,420 จุด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 11 กันยายน 2558 15:54:17 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

บล.โกลเบล็กมองกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทย 1,400 – 1,420 จุด จากปัจจัยบวกภาครัฐไทย – จีน เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ บวกกับ เฟด เริ่มส่งสัญญาณไม่ปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้ หลังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และค่าเงินที่อยู่ในภาวะปั่นป่วน จากความกังวลของเศรษฐกิจโลก พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นรับอานิสงส์การกระตุ้นเศรษฐกิจ กลุ่มแบงก์ ท่องเที่ยว และโรงแรม ด้านราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้นจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกให้แนวรับ 1,100 -1,093 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,125 - 1,130 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยตอบรับข่าวเชิงบวกจากที่ประชุมครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเร่งด่วน เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าระบบ และช่วยดันอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้น โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องหนุนภาคการส่งออกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 ขณะที่ยังมีความคาดหวังว่าจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังจากตัวเลขนำเข้า-ส่งออกออกมาไม่ดี

 

ขณะที่ปัจจัยลบด้านการเมืองมีความเสี่ยงมากขึ้นหลังจากที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และต้องเริ่มต้นใหม่ ทำให้การเลือกตั้งทั่วไปต้องล่าช้าไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน และในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยซึ่งมียอดสะสมราว 3.8 หมื่นล้านบาทจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอีกด้วย ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมกลางเดือนกันยายนยังไม่มีความชัดเจน มีทั้งฝ่ายที่เห็นว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถทดสอบ 1,400 – 1,420 จุด จากปัจจัยบวกจากความคาดหวังว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังจากตัวเลขส่งออก-นำเข้าหดตัวลงต่อเนื่อง รวมถึงรัฐบาลไทยเร่งออกมาตรการกระตุ้นเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนส่วนต่างๆทั้ง SME ผู้มีรายได้น้อย และโครงการขนาดใหญ่

 

ทั้งนี้แนะนำลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยบวกรองรับ เช่น กลุ่มธนาคาร และค้าปลีก ได้อานิสงส์รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กลุ่มอาหาร และอิเล็กทรอนิกส์ ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม จากที่นักท่องเที่ยวคลายความกังวลต่อเหตุการณ์วางระเบิดหลังจากจับตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว

 

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำช่วงต้นสัปดาห์เริ่มทรงตัวในกรอบแคบๆและฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลังปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า จากปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทางกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม จากระดับ 245,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม

 

ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2551 จาก 5.3% ในเดือนกรกฎาคม โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.2%ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 245,000 ตำแหน่งจากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 231,000 ตำแหน่ง

 

จากการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนสิงหาคม ทำให้เกิดกระแสการคาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยเริ่มมีความเห็นต่างของเจ้าหน้าที่เฟดถึงระยะเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่นายแจนแฮทซิอุสหัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ในวันที่ 16-17 กันยายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรรมการFOMC ของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งต้องจับตาว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อแนวโน้มของราคาทองคำ

 

ดังนั้นประเมินว่าราคาทองปรับลงมาจบแนวลงรูปแบบ BEARISH FLAG ระยะสั้น ทำให้มีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้นจากการจบรูปแบบอย่างไรก็ตามแนวต้านกดดันจากเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันและแนวโน้มลงก่อนหน้ายังคงกดดันอยู่ จะทำให้การฟื้นตัวเกิดขึ้นในกรอบแคบๆเท่านั้น และมีโอกาสปรับลงรอบใหม่อีกครั้ง แนวรับ 1,100 -1,093 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,125 - 1,130 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2249294

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Hi wannnn

178485.jpg

น้องทามปั่นจักรยานพระราชทาน ไปเรียนแต่เช้าให้เพื่อนร่วมชื่นชม

11 ก.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากน้องทาม ด.ช.วรรธณะ คำอินทร์ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดหนองนาดงกวาง หมู่ 3 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ...

NAEWNA.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีวันจันทร์ วินะคะ เพื่อน พี่น้อง

 

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 10:16:45 น.

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง โดยทดสอบแนวรับด้านล่าง 1,100 เหรียญจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัวบริเวณ 36.00-36.10 บาท/ดอลลาร์ โดยทั่วไปตลาดยังคงรอถ้อยแถลงของการประชุมเฟดในวันที่ 17 กันยายนนี้ สำหรับวันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ จึงคาดคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวกรอบแคบ ขณะที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนยังคงขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ โดย Industrial Production ที่ระดับ 6.1%

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำทางเทคนิคยังเคลื่อนตัวในแนวโน้มขาลง โดยระยะสั้นมีแนวรับ 1,100 เหรียญ และ 1,090 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวต้านด้านบนจะอยู่บริเวณ 1,115 เหรียญ และ 1,130 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวกรอบแคบระหว่าง 1,090-1,110 เหรียญ ขณะที่เงินบาทคาดว่า น่าจะเคลื่อนไหว 36.00-36.15 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ลงทุนในระยะสั้นแบบ Sideways ในกรอบ 1,090-1,110 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อ-ขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทำกำไรเป็นช่วงๆ ตามการแกว่งตัวของตลาด

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

กลยุทธ์ทิศทางขาลงตามภาพเคลื่อนไหวหลักของราคาทองคำ

Gold Futures V15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,170 บาท

Gold Futures Z15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,220 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2250465

 

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 14 ก.ย. 58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 10:17:28 น.

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--GT Wealth Management

ราคาทองปรับตัวลงบริเวณ 1,107.50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (Gold Spot) ลดลง US$ 2.70 ซึ่งในระหว่างวันร่วงลงทำจุดต่ำสุดที่US$ 1,098.35 และเป็นการปิดตลาดในแดนลบเป็น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน แรงกดดันมาจากดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาดไว้ที่ 0.0% จากที่คาดไว้ที่ -0.1% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตไม่รวมอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้นที่ 0.3% มากกว่าที่คาดไว้ที่ 0.1% ประกอบกับคาดการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯซึ่งปัจจัยหลักในการกดดันราคาทองคำในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ด้านเงินบาทเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 36.00 บาท/ดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น วันนี้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยุโรป นักลงทุนติดตามการประชุมนโยบายการเงิน FOMC และกนง.ของประเทศไทยในช่วงปลายสัปดาห์ กองทุน SPDR รายงานการถือสถานะทองคำที่ระดับ 678.18 ตัน ไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

 

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,105 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม 2558 (GFV15) ราคาเปิดใกล้ระดับ 19,070 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,850 บาท ราคาเสนอขาย 18,950 บาท

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนการประชุม FOMC ปลายสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนยังคงวิตกต่อการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับการรายงานตัวเลข PPI ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ด้านเงินทางทรงตัวก่อนการประชุม กนง ในช่วงวันพุธเช่นกัน แนวรับ US$1,096 และ US$1,077 แนวต้าน US$1,112

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2250466

 

Xinhua world news summary: เยอรมนีสั่งควบคุมชายแดนรัฐบาวาเรีย หวังสกัดผู้ลี้ภัย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 09:59:52 น.

สถานีรถไฟกลางประจำกรุงมิวนิกต้องระงับการให้บริการชั่วคราวกว่า 2 ชม. หลังจากที่สุนัขดมกลิ่นได้เห่าแจ้งเตือนกระเป๋าเดินทางต้องสงสัย

 

ตำรวจได้สั่งระงับการให้บริการในทันทีหลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนดังกล่าว โดยบรรดารถไฟขบวนต่างๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเทียบชานชาลา และมีการติดต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญให้เข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าวอย่างถี่ถ้วนพร้อมจัดการเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย

 

 

 

-- เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายโทมัส เดอ เมซีเร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของเยอรมนี เปิดเผยว่า "เยอรมนีเตรียมนำมาตรการควบคุมชายแดนชั่วคราวมาบังคับใช้กับเขตแดนภายในประเทศ"

 

นายเมซีเร กล่าวว่า มาตรการควบคุมเขตแดนจะถูกนำมาบังคับใช้ในรัฐบาวาเรียเป็นหลัก โดยมีจุดประสงค์เพื่อจำกัดจำนวนผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้ามา

 

-- นายไฮนซ์ ชาเดน นายกเทศมนตรีประจำเมืองซาลส์เบิร์กเปิดเผยดีลสำนักข่าวซินหัวในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่เยอรมนีปฏิเสธขบวนรถไฟที่เดินทางมาจากออสเตรีย ส่งผลให้ขณะนี้เมืองซาลส์เบิร์กต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เข้มข้นที่สุดในการเปิดรับผู้อพยพ

 

"ขณะนี้เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เข้มข้นที่สุดสำหรับการเปิดรับผู้อพยพ เราไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2250459

 

เยอรมนีเตือน'ฟองสบู่'ตลาดเงิน แนะซื้อเก็งกำไร'Selective Buy'

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 09:29:00 น.

14 ก.ย.58 SET วันก่อนทรุดตัวลงแรงจากความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 16-17 ก.ย. ประกอบกับแรงขายตามสัญญาณเทคนิคแนวต้าน 1,400 จุด ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,381.72 (-14.44 จุด) Volume 4.2 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net Sell 512 ลบ. , Net Short TFEX 10,617 สัญญา

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ บอร์ดกทค.เผย 16 ก.ย.นี้ เตรียมชงบอร์ดกสทช.กำหนดประมูล 4G คลื่น 900MHZ วันที่ 15 ธ.ค. นี้ ราคาเริ่มต้น 1.29 หมื่นลบ. ขณะที่โครงการนำเสาโทรคมนาคมลงดินจะชัดเจนในวันที่ 14 ก.ย.นี้หลังเข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน

 

 

 

+/- CHINA ยอดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 3.5% YoY / ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 6.1% YoY / ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ขยายตัว 10.8% YoY แต่ภาพรวมเศรษฐกิจจีนยังชะลอตัวจากความต้องการที่ซบเซา

 

- USA ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนก.ย.ลดลงสู่ 85.7 /ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทรงตัวในเดือนส.ค.บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ

 

- ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลง (ล่าสุด 44.83 USD/Barrel) หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาลงทั้งในปีนี้และปีหน้า

 

- รมต.คลังเยอรมนีเตือนภาวะฟองสบู่ตลาดการเงิน จากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยธนาคารกลางของประเทศต่างๆ

 

ปัจจัยบวก-ลบที่คละเคล้า รวมถึงคาดว่านลท.จะชะลอการลงทุนเพื่อรอฟังผลการประชุม FED วันที่ 16-17 ก.ย. (คาดคงดอกเบี้ย 0.25%) และการประชุมกนง.ในวันที่ 16 ก.ย. (คาดคงอัตราดอกเบี้ย 1.50%) ดังนั้นคาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,370 – 1,400 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

แนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy เช่น

- กลุ่ม ICT บอร์ดกทค.เผย 16 ก.ย.นี้ เตรียมชงบอร์ดกสทช.กำหนดประมูล 4G คลื่น 900MHZ วันที่ 15 ธ.ค.

 

- กลุ่มอาหาร และอิเล็กทรอนิกส์ ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงแรง ล่าสุด 36.02 BAHT/USD

 

- กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง ข่าว"สมคิด"สั่งงานด่วนคมนาคมเร่งเดินรถสายสีน้ำเงิน-ขยายแอร์พอร์ตลิ้งค์ถึงดอนเมือง ด้านรมว.คมนาคมยันเร่งเครื่องโครงการ 1.6 ล้านล้านภายใน 2 ปี

 

ขอบคุณ : Globlex Research Department

ตลาดหุ้นต่างประเทศ

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน เปิดตลาดปรับตัวขึ้น 20.94 จุด หรือ 0.65% แตะที่ 3,221.17 จุด

 

ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดปรับตัวขึ้น 174.51 จุด หรือ 0.81% แตะที่ 21,678.88 จุด

 

ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว เปิดตลาดปรับตัวขึ้น 76.79 จุด หรือ +0.42% แตะที่ 18,341.01 จุด

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2250454

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MPI เดือนพฤษภาคม 2558 หดตัวร้อยละ 7.6 ตามการส่งออกที่ลดลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 09:38:05 น.

สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2558 หดตัวร้อยละ 7.6 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ลดลง เช่น HDD รถยนต์ โทรทัศน์ เบียร์ และเครื่องประดับ ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ไม่รวมทองคำแท่งหดตัวร้อยละ 5.0 ส่วนการนำเข้าสินค้าทุน หดตัวร้อยละ 8.0 และ การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ(ไม่รวมทองคำ) หดตัวร้อยละ 10.6

 

 

 

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2558 ว่า หดตัวร้อยละ 7.6 อุตสาหกรรมสำคัญที่ลดลงอาทิ ฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ (HDD) รถยนต์ โทรทัศน์ เบียร์และเครื่องประดับ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไม่รวมทองคำแท่ง หดตัวร้อยละ 5.0 ตามการลดลงของการส่งออกสินค้าสำคัญ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ รวมถึงมูลค่าส่งออกสินค้าที่มีราคาเกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันดิบ อาทิ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ที่ยังปรับตัวลดลง ขณะที่การส่งออกรถยนต์ ที่เคยขยายตัวดีกลับมาติดลบในเดือนนี้ การนำเข้าสินค้าทุนหดตัวร้อยละ 8.0 ขณะที่การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ (ไม่รวมทองคำ) หดตัวร้อยละ 10.6 ตามทิศทาการผลิตเพื่อการส่งออกที่ลดลง

 

ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ การผลิตรถยนต์มีจำนวน 135,045 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.76 การจำหน่ายรถยนต์ในประเทศมีจำนวน 56,942 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 18.28 ทั้งนี้ การลดลงเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ ประกอบกับราคาสินค้าทางการเกษตรตกต่ำ หนี้ในภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และสำหรับการส่งออกมีจำนวน 88,937 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.17

 

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับเดือนพฤษภาคม 2558ปรับตัวลดลงร้อยละ 15.07 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 14.92 สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ HDD ปรับตัวลดลงร้อยละ 19.95 เนื่องจากความต้องการคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊คในตลาดโลกลดลง สำหรับ Other IC เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.01 ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการใช้ในอุปกรณ์สื่อสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของอุปกรณ์สื่อสาร/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น

 

ส่วนอุตสาหกรรมไฟฟ้า ปรับตัวลดลงร้อยละ 15.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมดปรับตัวลดลง เช่น เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิต คอมเพรสเซอร์ กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว และเครื่องรับโทรทัศน์ ลดลงร้อยละ 0.74 8.09 12.67 26.37 และ 85.64 ตามลำดับ เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง จึงส่งผลให้ความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงตามไปด้วย รวมถึงได้รับผลกระทบจากตลาดส่งออกหลักที่ยังไม่ฟื้นตัว (ยุโรป และญี่ปุ่น) สำหรับเครื่องรับ

 

โทรทัศน์มีผู้ผลิตบางรายย้ายฐานการผลิตไปประเทศในกลุ่มอาเซียน ยกเว้นเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน (คอนเดนซิ่งยูนิต) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.97 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า มีปริมาณ 1.27 ล้านตัน ลดลง ร้อยละ 23.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตมีปริมาณ 0.62 ล้านตันลดลงร้อยละ 10.29 การส่งออกมีมูลค่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯลดลงร้อยละ 31.03 สำหรับการนำเข้า 565 ล้านเหรียญสหรัฐฯลดลงร้อยละ 20.42 เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงชะลอตัวอยู่

 

ผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนมีการผลิตที่ลดลงทุกตัว เช่น (1) เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนลดลง เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศจากอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ยังคงทรงตัวอยู่ นอกจากนี้เป็นผลมาจากการนำเข้าเหล็กจากประเทศอิหร่าน, บราซิลและตุรกีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ไทยไม่ได้ใช้มาตรการ AD (2) เหล็กแผ่นเคลือบดีบุกลดลง เนื่องจากอุตสาหกรรมผลไม้กระป๋องมีการผลิตที่ลดลงเนื่องจากภัยแล้งทำให้ไม่มีวัตถุดิบในการผลิต (3) เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียมลดลง เนื่องจากอุตสาหกรรมอาหารทะเลกระป๋อง เช่น ทูน่ากระป๋อง มีการส่งออกที่ลดลง เนื่องจากตลาดต่างประเทศชะลอตัวจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก (4) เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีลดลง เนื่องจากมีผู้ผลิตเหล็กรายหนึ่งได้หยุดการผลิตเพื่อปรับสายการผลิตใหม่ และ (5) เหล็กแผ่นรีดเย็นลดลง เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ลดการผลิตลง

 

สำหรับเหล็กทรงยาวมีการผลิตที่ลดลง เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ชะลอตัว โดยจากข้อมูลเครื่องชี้ภาวะอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น จำนวนที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อปล่อยใหม่จากธนาคารพาณิชย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมียอดการได้รับอนุมัติสินเชื่อที่ลดลง

 

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตในกลุ่มสิ่งทอ ได้แก่ เส้นใยสิ่งทอ และผ้าผืนลดลงร้อยละ 3.92 และ 4.75 ตามลำดับ สอดคล้องกับการจำหน่ายที่ลดลงทั้งการจำหน่ายในประเทศและส่งออก เนื่องจากความต้องการบริโภคเส้นใยสังเคราะห์ของตลาดลดลง ในส่วนผลิตภัณฑ์ผ้าผืนผู้ผลิตมีสต็อกค่อนข้างมาก ประกอบกับผู้ใช้ในประเทศบางรายนำเข้าผ้าจากต่างประเทศ เนื่องจากผ้าที่มีอยู่ไม่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ แต่สำหรับเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.61 ตามความต้องการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.67 โดยเฉพาะเสื้อผ้านักเรียนที่จะเริ่มภาคการศึกษาใหม่และเสื้อผ้ากีฬาต่าง ๆ

 

การส่งออกเดือนพฤษภาคม ปี 2558 มีมูลค่าลดลงร้อยละ 3.96 ในผลิตภัณฑ์เส้นใยสิ่งทอตามการลดลงของตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนามและอินเดีย ส่วนผลิตภัณฑ์ผ้าผืนมีมูลค่าส่งออกลดลงร้อยละ 18.50 ในตลาดอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม บังคลาเทศ จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูปมีมูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ 7.87 จากคำสั่งซื้อในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปลดลง เนื่องจากถูกยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา

 

อุตสาหกรรมอาหาร การผลิตในภาพรวมปรับตัวลดลงจากปีก่อนร้อยละ 7.6 เนื่องจากการผลิตน้ำตาล และกลุ่มผักผลไม้ที่ปรับตัวลดลง สำหรับการส่งออกในภาพรวมลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.8 จากผลกระทบจากความไม่แน่นอนของผลสรุปการแก้ไขวิกฤติการณ์ยูเครน-รัสเซีย-สหภาพยุโรป และวิกฤติการเงินของกรีซ ทำให้การส่งออกขยายตัวได้น้อย ส่วนการใช้จ่ายในประเทศยังทรงตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังได้รับผลกระทบจากอำนาจซื้อในประเทศชะลอตัวลง

 

30 มิถุนายน 2558

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/oie/2250442

 

ตลาดหุ้นจีนร่วงกว่า 3% เช้านี้ เหตุวิตกข้อมูลเศรษฐกิจจีนผันผวน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 10:45:10 น.

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนร่วงลงกว่า 3% เมื่อเวลาประมาณ 10.38 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ หลังจากทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ขยายตัว 10.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 2.49 ล้านล้านหยวน หรือ 3.90 แสนล้านดออลลาร์

 

 

 

อัตราการขยายตัวดังกล่าวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 10.5% ในเดือนก.ค. ส่วนในช่วง 8 เดือนแรก ยอดค้าปลีกขยายตัว 10.5% โดยการขยายตัวในพื้นที่ชนบทยังคงแซงหน้าพื้นที่ในเมือง

 

ส่วนยอดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 6.11 ล้านล้านหยวน หรือ 9.59 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งอัตราการขยายตัวดังกล่าวต่ำกว่าการขยายตัวในช่วง 7 เดือนแรก

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2250494

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันอาทิตย์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558, 20.15 น.

tags : ศิริราช, ในหลวง, พระปรอท, แพทย์

แนวหน้า

178819.jpg

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

 

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช

ฉบับที่ 16

ตามที่คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช และเมื่อวันที่ 3 กันยายน พุทธศักราช 2558 มีการอักเสบของพระปัปผาสะ(ปอด) ข้างขวาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายออกซิเจนถวายพระโอสถปฏิชีวนะทางหลอดพระโลหิตและพระอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ดังแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 15

เมื่อวานนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระปรอท (ไข้) สูงขึ้นอีก ร่วมกับมีระดับความเข้มข้นของออกซิเจน ในกระแสพระโลหิตลดลง ความดันพระโลหิตปรกติ พระชีพจรมีอัตราเร็วขึ้นเล็กน้อย ผลการตรวจพระโลหิตพบมีลักษณะการติดเชื้อขึ้นอีก ผลตรวจเอกซเรย์พระอุระ(อก) พบมีการอักเสบของพระปัปผาสะ(ปอด) ข้างซ้ายส่วนล่าง ผลการเพาะเชื้อจากพระเขฬะ(น้ำลาย) ของหลอดพระวาโย (หลอดลม) ด้านขวา เมื่อวันที่ 3 กันยายน พุทธศักราช 2558 พบเชื้อแบคทีเรียหลายประเภท บ่งชี้สาเหตุการอักเสบของพระปัปผาสะ(ปอด) ทั้งข้างขวาและข้างซ้าย น่าจะเกิดจากการสำลัก( Aspirated pneumonitis) คณะแพทย์ฯ ได้ปรับพระโอสถปฏิชีวนะ และถวายพระกระยาหารทางหลอดพระโลหิต ถวายออกซิเจนเพื่อให้ระดับออกซิเจนในกระแสพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปรกติ ร่วมกับการถวายกายภาพบำบัด เพื่อช่วยขยายพระปัปผาสะ(ปอด) และขับพระเขฬะ(น้ำลาย)

ขณะนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังคงมีพระปรอท(ไข้) ความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปรกติ เสวยพระสุธารส(น้ำ) ได้บ้าง จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

13 กันยายน พุทธศักราช 2558

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มาเลเซียแถลงจับ3ผู้ต้องสงสัย ชี้เอี่ยวระเบิดศาลท้าวมหาพรหม

14 ก.ย.58 พล.ต.อ.คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของมาเลเซีย แถลงผลการจับกุมชาวมาเลเซีย 2 คน และชาวปากีสถาน 1 คน...

NAEWNA.COM

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้น จากแรงหนุนหุ้นเหมือง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 14:40:53 น.

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากหุ้นกลุ่มเหมือง

 

ดัชนี Stoxx 600 Europe ปรับขึ้น 0.3% แตะที่ 356.85 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 4,554.71 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด, +0.13% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 10,112.90 จุด ลดลง 10.66 จุด, -0.11%

 

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างหันมาจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2250706

กสิกรฯ แนะจับตาค่าเงินบาทอาจรับผลกระทบจากนโยบายการเงินมาเลย์-อินโดฯ หากเฟดเริ่มขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 11:52:44 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ประเทศไทยน่าจะสามารถบริหารผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ที่คงส่งผลกระทบผ่านความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายนี้ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากมาตรวัดด้านเสถียรภาพต่างๆ ของไทยยังมีความเข้มแข็ง อาทิ ระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยในปัจจุบัน อยู่สูงกว่าระดับหนี้ต่างประเทศระยะสั้นถึงประมาณ 3 เท่า อีกทั้งยังมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงถึงประมาณ 5% ต่อจีดีพี นอกจากนี้ ภาคเอกชนไทยก็มีการใช้เครื่องมือประกันความเสี่ยงค่าเงินเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการปรับขึ้นของมูลค่าหนี้ที่กู้ยืมในสกุลต่างประเทศและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ดีขึ้นจากอดีต

 

 

 

แต่กระนั้นก็ดี จุดจับตาคงอยู่ที่ผลกระทบทางอ้อม ผ่านการเคลื่อนย้ายเงินทุนของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งมีมาตรวัดด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ด้อยกว่าไทย อาทิ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด คงกระทบต่อฐานะทุนสำรองฯ และค่าเงินของประเทศดังกล่าวชัดเจนขึ้น อันอาจนำมาสู่การดำเนินการเชิงนโยบายการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องมายังค่าเงินบาท สภาพคล่อง และทิศทางอัตราผลตอบแทนในประเทศของไทยได้

 

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ คาดว่าเฟดมีโอกาสที่จะเริ่มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 9 ปี ทั้งนี้เหตุผลสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สำคัญ ได้แก่ ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยตำแหน่งการจ้างงานเต็มเวลา (Full-Time) ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม 2558 ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ ขณะที่อัตราการว่างงานก็ปรับลดลงสู่ระดับ 5.1% อันเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี และการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างรายชั่วโมงขยายตัว 2.2% อันเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งล้วนแล้วแต่ย้ำภาพที่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังก้าวเข้าสู่ระดับการจ้างงานที่เต็มศักยภาพมากขึ้น อันหมายความถึงโอกาสที่แรงกดดันเงินเฟ้อจะทยอยปรับขึ้นในระยะต่อไป

 

อย่างไรก็ดี คะแนนเสียงคงแตก โดยคณะกรรมการเฟดบางท่านคงจะสนับสนุนให้เลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปก่อน ท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินทั่วโลก และแรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ยังมีไม่มากนัก โดยหากพิจารณาถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในอดีตนั้น มักจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนไม่มาก เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่กระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะไม่สร้างความปั่นป่วนต่อตลาดการเงินโลก ซึ่งความผันผวนของตลาดการเงินโลกดังกล่าว จะยิ่งทำให้เฟดควบคุมประสิทธิผลเชิงนโยบายได้ลดลง ทั้งนี้ ความกังวลในลักษณะดังกล่าว สะท้อนผ่านแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดบางท่านในช่วงก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนมีน้อยลง

 

"ด้วยเหตุผลที่ก้ำกึ่งข้างต้น คาดว่าหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจริง ก็คงจะเป็นระดับที่ไม่มากนัก หรือไม่เกิน 0.25% ซึ่งเป็นขนาดการปรับขึ้นที่ไม่น่าจะสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด นอกจากนี้ อีกจุดจับตาจะอยู่ที่การส่งสัญญาณของเฟดต่อมุมมองของทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตว่า เฟดจะใช้ถ้อยคำที่ปรับลดระดับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป้าหมายในระยะข้างหน้าอย่างไร ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศแกนหลักของโลกที่ชัดเจนขึ้น" เอกสารเผยแพร่ระบุ

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2250585

 

สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปประจำสัปดาห์ที่ 7-11 ก.ย. 58 และแนวโน้มสัปดาห์ที่ 14-18 ก.ย. 58 โดยฝ่ายแผนและบริหารบริษัทในเครือ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 14:54:04 น.

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--ปตท.

 

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับตัวลดลง 2.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 48.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 1.72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 46.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) ลดลง 1.57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 45.16 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลลดลง 0.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 60.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดีราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 65.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่

 

 

 

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

• ธนาคารกลางจีน เผยปริมาณทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ (Foreign Exchange Reserves) ในเดือน ส.ค. 58 ลดลง 9.39 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 3.56 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะสร้างเสถียรภาพในตลาดเงิน

 

• สำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Standard & Poor's ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศบราซิล จากระดับ BBB-Minus สู่ระดับ BB-Plus ซึ่งเป็นอันดับเครดิตระดับ Junk ขั้นแรกของระบบการวัดโดย Standard & Poor's ปัจจุบันเศรษฐกิจบราซิลอยู่ในภาวะถดถอย (Recession) ที่ค่าเงิน Real ลดลงถึง 30% ในปีนี้ และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 10% และหากสำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือประเมินเศรษฐกิจบราซิลในทิศทางเดียวกัน จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการกู้ยืมของรัฐและเอกชน

 

• China Association of Automobile Manufacturers (CAAM) รายงานยอดจำหน่ายรถยนต์ของจีนในเดือน ส.ค. 58 ลดลงจากปีก่อน 3% มาอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน CAAM ประเมินยอดขายรถในประเทศปีนี้จะเติบโตจากปีก่อน 3% ลดลงจากประมาณการณ์ครั้งก่อนที่ 7% เพราะกำลังซื้อลดลงหลังได้รับผลกระทบจากดัชนีตลาดหุ้นจีนลดลง

 

• ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูงโดย Reuters รายงานว่าซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันในระดับสูงประมาณ 10.2-10.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตลอดช่วงไตรมาสที่ 4/58 เนื่องจากเชื่อว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบในตลาดโลกจะสูงขึ้น และ รัสเซียผลิตน้ำมันดิบปัจจุบันที่ระดับ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบได้ถึงระดับ 14 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในอีก 2 ทศวรรษ

 

• กรมศุลกากรจีนรายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเดือน ส.ค. 58 ลดลงจากเดือนก่อน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 6.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากท่าส่งออก Tianjin (0.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ยังคงปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 58 กอปรกับการลดอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในจีน ทั้งนี้ Energy Aspects มองว่าปริมาณการนำเข้าในเดือนหน้ายังคงอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากการลดอัตราการกลั่นและเข้าสู่ช่วงการปิดซ่อมบำรุง

 

• Reuters รายงานผู้ผลิต Shale Oil รายใหญ่ในสหรัฐฯหลายรายประกาศลดงบประมาณการลงทุน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดตกต่ำ อาทิ Marathon Oil Corp. ลดการลงทุนปี 2559 ลง 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่ำกว่าปีก่อน 15% และบริษัท Continental Resources Inc. ปรับลดเงินลงทุนเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ เพื่อให้วงเงินลงทุนลดลง 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

 

• ความคืบหน้าในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา ได้รับเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกจำนวน 41 เสียง ในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งเพียงพอต่อการผลักดันร่างดังกล่าวท่ามกลางการคัดค้านของเหล่าสมาชิกสภาคองเกรส ภายใต้ข้อตกลงนี้มาตรการคว่ำบาตรต่างๆที่กำหนดโดยสหรัฐฯ, สหภาพยุโรป และสหประชาชาติจะถูกยกเลิก ส่งผลให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้มากขึ้น

 

• EIA ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกปี 2558 มาอยู่ที่ 93.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากประมาณการณ์ครั้งก่อนในเดือน ส.ค. 58 แต่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยอุปสงค์ที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาจากสหรัฐฯ ปริมาณ 0.33 ล้านบาร์เรลต่อวัน, จีน 0.33 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ อินเดีย 0.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2559 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 94.93 ล้านบาร์เรลต่อวันเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ปริมาณ 1.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

• สำนักงานรัฐมนตรีของญี่ปุ่นรายงานอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาสที่ 2/58 เป็นครั้งที่ 2 หดตัวที่ 1.2% จากปีก่อน และหดตัวน้อยกว่ารายงานครั้งแรกที่ 1.6% ขณะที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์ญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าGDP ไตรมาสที่ 3/58 จะขยายตัวจากปีก่อน 1.67% ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์เดือนก่อนว่าจะเติบโตจากปีก่อน 2.48%

 

• กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (Ministry of Economy, Trade and Industry หรือMETI) รายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของญี่ปุ่นเดือน ก.ค. 58 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 10.9% มาอยู่ที่ระดับ 3.43 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 20% มาอยู่ที่ระดับ 0.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

· Platts รายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบของยุโรปจากประเทศไนจีเรียและแองโกลา เดือน ก.ย. 58 อยู่ที่ 1.93 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.27 ล้านบาร์เรลต่อวัน ) เนื่องจากค่าการกลั่นในยุโรปเพิ่มสูงขึ้น และค่าระวางเรือขนส่งน้ำมันดิบขนาด 900,000 บาร์เรล จากแอฟริกาตะวันตก (West Africa หรือ WAF) ไปอังกฤษปรับลดลงจาก 95 Worldscale ในวันที่ 8 ก.ค. 58 มาสู่ระดับ 51.25 Worldscale ในวันที่ 2 ก.ย.58

 

· Commodity Futures Trading Commission (CFTC) รายงานสถานการณ์ลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ที่นิวยอร์กและ ICE ที่ลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ก.ย. 59 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะการซื้อสุทธิ (Net Long Position) เพิ่มขึ้น 19,576 สัญญา WoW มาอยู่ที่ 135,952 สัญญา

 

· Baker Hughes Inc. รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ย. 59 ลดลง 10 แท่น มาอยู่ที่ 652 แท่น ลดลงต่อเนื่อง 2 สัปดาห์

 

แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ICE Brent และ NYMEX WTI ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 2 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หลังจากที่ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า ราคาเคลื่อนไหวรุนแรงในช่วง 4-7 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ การคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบรวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบจากหลายสำนักยังมีความขัดแย้งกัน ดังเห็นได้จาก Goldman Sachs ซึ่งมีมุมมองด้านลบ ล่าสุดปรับลดประมาณการณ์ราคาน้ำมันดิบ NYMEX WTIปี 2559 ลงมาอยู่ที่ 45 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 57 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่ ICE Brent ปรับราคาลงมาอยู่ที่ 49.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากเดิมที่ 62 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม รายงานของ IEA ฉบับเดือน ก.ย. 58 ระบุว่าอุปทานน้ำมันดิบจากประเทศนอกกลุ่ม OPEC ในปี 2559 จะหดตัวลงจากปีก่อน 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบ 24 ปี เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันดิบต้นทุนสูง ตั้งแต่สหรัฐฯ, รัสเซีย และผู้ผลิตบริเวณทะเลเหนือต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤติราคาน้ำมันตกต่ำ โดยเฉพาะปริมาณการผลิต Shale Oil ในสหรัฐฯ จะหดตัวจากปีก่อน 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2559 หลังจากทำสถิติขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากปีก่อนถึง 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2557 อันเป็นต้นเหตุสำคัญให้ราคาน้ำมันดิบตกต่ำ อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาน้ำมันระดับต่ำ IEA ประเมินว่าอุปสงค์น้ำมันดิบในปี 2558 จะขยายตัวจากปีก่อน 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดในรอบ 5 ปี และคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปถึงปี 2559 ซึ่งเติบโตจากปีก่อน 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับปี 2557 ซึ่งขยายตัวจากปีก่อน 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดในรอบ 5 ปี กล่าวโดยสรุป โลกจะต้องการใช้น้ำมันจาก OPEC (Call-on-OPEC) ในปี 2559 ถึง 31.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 นั้น Call-on-OPEC จะสูงถึง 32 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นครั้งแรกที่โลกต้องการน้ำมันดิบจาก OPECมากกว่าที่ OPEC ผลิตได้ ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคในสัปดาห์นี้ ราคา ICE Brent, Dubai และ NYMEX WTI เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 46.9-51.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล, 44.87-49.47 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล, 43.8-47.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ

 

สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนโดยปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.01 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลจากข่าว โรงกลั่นน้ำมัน Sohar (116,000 บาร์เรลต่อวัน) ในโอมาน ปิดดำเนินการฉุกเฉินเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 58 เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค ทั้งนี้โรงกลั่นดังกล่าวมีหน่วย Residue Fluid Catalytic Cracker (RFCC)ใช้ผลิตน้ำมันเบนซินขนาด 75,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ Platts รายงานตลาดน้ำมันเบนซิน ในเอเชียมีแนวโน้มทรงตัว จากอุปทานเริ่มลดลง เนื่องจากโรงกลั่นในภูมิภาคเริ่มเข้าฤดูปิดซ่อมบำรุง อาทิ บริษัท Essar Oil จากอินเดีย เผยแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น Vadinar (กำลังการกลั่น 400,000 บาร์เรลต่อวัน) ในช่วงกลางเดือน ก.ย. 58 เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน และ โรงกลั่นน้ำมัน Petro Rabigh (กำลังการกลั่น 400,000 บาร์เรลต่อวัน) ในซาอุดีอาระเบียมีแผนปิดซ่อมบำรุงเป็นระยะเวลา 50 วัน ตั้งแต่ 4 ต.ค. 58 เป็นต้นไป อนึ่ง โรงกลั่นดังกล่าวมีกำลังการผลิตน้ำมันเบนซินที่ 59,000 บาร์เรลต่อวัน ประกอบกับ Kuwait Petroleum Corp. (KPC) จากคูเวต ออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน 95 RONปริมาณ 212,500 – 425,500 บาร์เรล ส่งมอบ 7-17 ต.ค. อีกทั้ง International Enterprise Singapore (IES)รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด 9 ก.ย. 58 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.8 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 11.5 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 9 สัปดาห์ และ PJK International B.V. รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ในยุโรป บริเวณ Amsterdam- Rotterdam- Antwerp (ARA) สัปดาห์สิ้นสุด 10 ก.ย. 58 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 4.9% มาอยู่ที่ 8.2 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Maoming Petrochemical ของจีนผลิตน้ำมันเบนซินช่วงเดือน ม.ค.- ส.ค. 58 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% อยู่ที่ 22.1 ล้านบาร์เรล และโรงกลั่น Mailiao (กำลังการกลั่น 540,000 บาร์เรลต่อวัน) ของบริษัท Formosa Petrochemical Corp. (FPC) ในไต้หวันมีแผนจะเพิ่มอัตราการกลั่นจากเดิมที่ 74% ในเดือน ส.ค. 58 มาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 90% ในเดือน ก.ย. 58 สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 64.14-68.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง จากข่าว Oman Oil Refineries and Petroleum Industries Co. (ORPIC) เผยโรงกลั่น Mina al-Fahal (กำลังการกลั่น 106,000 บาร์เรลต่อวัน) กลับมาดำเนินการเต็มกำลังอีกครั้ง ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับสูง โดย PJK รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ในยุโรป บริเวณ ARA สัปดาห์สิ้นสุด 10 ก.ย. 58 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 4.1% มาอยู่ที่ 27.4 ล้านบาร์เรล สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด 9 ก.ย. 58 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.2 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 13.6 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี อย่างไรก็ตามPlatts คาดการณ์ความต้องการใช้ Kerosene (น้ำมันทำความอบอุ่นซึ่งถือเป็นน้ำมันกลุ่มเดียวกับน้ำมันดีเซล)ในบริเวณเอเชียเหนือในช่วงหน้าหนาวจะเพิ่มขึ้น หลังจากรายงานปริมาณสำรองแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ โรงกลั่นน้ำมัน Vadinar (กำลังการกลั่น 400,000 บาร์เรลต่อวัน) ของบริษัท Essar Oil ในอินเดียมีแผนปิดซ่อมบำรุงเป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 58 เป็นต้นไป อีกทั้ง Platts รายงานตลาดน้ำมันดีเซลในเอเชียได้รับแรงสนับสนุนจาก Arbitrage ไปยังยุโรป และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากแอฟริกาตะวันตก สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 58.66-63.26 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2250718

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯ สั่ง! ทำแผนพัฒนาประเทศวางรากฐานยาวถึง 20 ปีข้างหน้า « Spring News

พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี สั่ง สศช. จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 วางรากฐานรองรับอนาคต 20 ปีข้างหน้า...

SPRINGNEWS.CO.TH|BY SPRINGNEWS

เยอรมนีเริ่มใช้มาตรการควบคุมชายแดนชั่วคราว เรียกร้องสมาชิก EU ร่วมวงช่วย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 11:00:47 น.

รัฐมมนตรีกระทรวงกลาโหมเยอรมนีเปิดเผยว่า เยอรมนีเตรียมใช้มาตรการควบคุมชั่วคราวบริเวณชายแดนติดกับประเทศออสเตรีย เพื่อรับมือกับผู้ลี้ภัยที่หลั่งไหลเข้ามายังเยอรมนี

 

นายโทมัส เดอ เมซิเอร์ รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี กล่าวว่า กลุ่มผู้ลี้ภัยไม่สามารถเลือกประเทศที่จะเปิดรับได้ และยังได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆลงมือแก้ปัญหามากกว่านี้

 

ทั้งนี้ ขบวนรถไฟที่วิ่งระหว่างเยอรมนีและออสเตรีย ได้ถูกระงับการให้บริการเป็นเวลา 12 ชั่วโมง

 

ในปีนี้ เยอรมนีคาดว่า จะมีผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าประเทศถึง 800,000 ราย

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2250512

Xinhua Asia-Pacific news summary: ญี่ปุ่นอพยพนักท่องเที่ยว เหตุภูเขาไฟปะทุ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 14:54:00 น.

ญี่ปุ่นได้อพยพนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ภูเขาอาโสะ ซึ่งอยู่ในจังหวัดคุมาโมโตะทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โดยทางการได้ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินบางส่วน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด

 

สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เหตุปะทุเกิดขึ้นที่ยอดภูเขายอดหนึ่งเมื่อเวลาประมาณ 9.43 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยได้มีการยกระดับการเตือนภัยสู่ระดับ 3 จากระดับการเตือนภัยทั้งหมด 5 ระดับ พร้อมกับเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ภูเขาลูกดังกล่าว เพราะอาจจะได้รับอันตรายจากเศษก้อนหินและควันไฟที่พวยพุ่งออกมา

 

 

 

-- นายทาเคชิ โอนากะ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาวะ กล่าวในวันนี้ว่า ทางจังหวัดเตรียมยกเลิกโครงการพื้นที่ฝังกลบขยะซึ่งจะสร้างให้แก่ฐานทัพสหรัฐแห่งใหม่

 

นายโอนากะ ซึ่งต่อต้านฐานทัพสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่นเตรียมเพิกถอนคำสั่งอนุมัติจากรัฐบาลท้องถิ่นชุดก่อน

 

-- เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานเปิดเผยว่า เกิดเหตุนักโทษกว่า 350 คนหลบหนีออกจากเรือนจำแห่งหนึ่งในจังหวัดกาซนี ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากกลุ่มหัวรุนแรงตาลีบันได้บุกโจมตีเรือนจำในจังหวัดดังกล่าว

 

"กลุ่มหัวรุนแรงได้บุกโจมตีเรือนจำในจังหวัดกาซนีเมื่อเวลา 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น กองกำลังความมั่นคงและกลุ่มหัวรุนแรงได้เสียชีวิตหลายรายหลังการปะทะกัน โดยในขณะนี้ ได้เริ่มปฏิบัติการครั้งใหญ่เพื่อไล่ล่านักโทษที่หลบหนี" เจ้าหน้าที่กล่าว

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2250729

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ 2558

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 13:49:47 น.

ผู้บริหารและข้าราชการกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมงาน “วันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ 2558” “ACTIVE CITIZEN พลังคนเมืองต่อต้านคอร์รัปชั่น” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2558 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยมีนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวปาฐกถาพิเศษ ระบุ"ปัญหาคอร์รัปชั่น เกิดจากคน 3 กลุ่ม คือ ภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ดังนั้นหากประเทศไทยจะปลอดคอร์รัปชั่นได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งจะต้องมีคุณธรรม จริยธรรม บนพื้นฐานความพอเพียง พร้อมย้ำภาครัฐพยายามแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นอย่างยั่งยืน" ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีหน่วยงานทุกภาคส่วนและประชาชน เข้าร่วมมากกว่า 3,000 คน

 

 

 

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้ร่วมรณรงค์การต่อต้านการทุจริตมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรของกรมฯ ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และมีประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกกรณี

 

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

 

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/beco/2250644

 

Xinhua Middle East news summary: สมาชิก IS เสียชีวิต 12 คนหลังปะทะกองกำลังอิรัก

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 กันยายน 2558 10:36:00 น.

-- ข้อมูลล่าสุดจากหน่วยยามชายฝั่งกรีซระบุว่า ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 34 คน ซึ่งรวมถึงทารกและเด็กจำนวน 15 คน จมน้ำบริเวณนอกชายฝั่งของเกาะฟาร์มาโกนิสซี ในทะเลอีเจียนของกรีซเมื่อวานนี้ ขณะที่พยายามเดินทางมายังยุโรป

 

เหตุน่าเศร้าดังกล่าวสร้างความตกใจให้กรีซ ซึ่งได้เรียกร้องให้สหประชาชาติ (EU) ดำเนินการประสานงานอย่างเร่งด่วน เพื่อจัดการกับคลื่นผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารรับรอง ซึ่งเป็นการหลั่งไหลเข้ามาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

 

 

-- แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิรักเปิดเผยว่า มีสมาชิกของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) เสียชีวิตอย่างน้อย 12 รายในเหตุการณ์ปะทะกับกองกำลังความมั่นคงอิรักในเมืองอันบาร์ ทางตะวันตกของอิรัก เมื่อวานนี้ ขณะที่กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ โดยพุ่งเป้าทำลายโรงงานผลิตเครื่องยนต์ติดระเบิด

 

--นายเบอร์นาร์ดิโน ลีออง เจ้าหน้าที่ทูตประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในเมืองสคิราท ประเทศโมร็อกโก นอกรอบการอภิปรายของพรรคการเมืองลิเบียที่จัดขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า พรรคการเมืองต่างๆของลิเบียมีความเห็นตรงกันในสาระสำคัญ เพื่อยุติวิกฤตการณ์ในประเทศ โดยทาง UN ได้เผยแพร่เนื้อหาของข้อตกลงขั้นสุดท้ายให้แก่พรรคการเมืองต่างๆของโมร็อกโกเมื่อวานนี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2250485

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...