ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน

ปิดท้ายสัปดาห์ด้วยแดงแท่งสี่ครับ

จากกราฟราคาอาจดีดขึ้นทดสอบแนวต้านก่อนลงต่อ

โดยทิศทางจาก black king ยังลงต่อได้อีกเพราะยังลงไม่สุดน้ำเงินล่าง

มุมมองผมทิศทางลงเพิ่งเริ่มต้นครับ !17

 

post-1891-045072100 1321668922.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กำลังศึกษาเล่นออนไลน์อยู่ค่ะ อยากทราบว่าราคาซื้อ -ขายต้องต่างกันกี่เหรียญค่ะ

 

ถึงจะมีผลต่างให้ได้กำไร ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ :wacko:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีคุณมดแดง. สงสัยจะยืนได้แล้วไม่ลงไป1697 แล้วหรือป่าวค่ะ

 

เป็นคำถามที่น่าถาม และคงอยากรู้กันทั้งนั้น ไม่มีใครสามารถเดาถูกหรือผิด เสมอไปหลอก เมื่อย้อนอดีตมัีนก็มีแนวโน้มว่าอาจมาถึง 161.8 แต่เกือบๆ 150 ก็ได้แล้ว แต่ตอนยังไม่เกิดไม่มีใครตอบได้เพราะไม่ถูก็ผิด มี 2 choice

 

ตอนนี้ ma 5 ทำท่าเหมือนจะกลับตัว แต่ไม่ชัดเจน มันออกแนว sideway ซะมากกว่า

แต่ ma 10 30 50 100 ยังลงอยู่

ส่วนเส้นระยะยาวยังขึ้นอยู่

 

ถ้าอ่านจาก sto ราย4 ออกแนว sideway up

macd ยังไม่โอเค แต่ก็ใกล้ตัดแล้ว

rsi 37 ก็ขึ้นมาเล็กน้อย ไม่มีผลอะไรในการอ่าน เขียนแล้วรู้สึกไม่มี เดี๋ยวจะว่าคุณครูกัมพลสอนไม่ดี กลับไปลากเทรน มันมีเพียงทิศทางที่จะวิ่งขึ้นเข้าหาเทรน

 

สรุปก็เดาว่า ยังsideway อยู่ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:wub: สว้สดี คุณๆ เหมารวมทุกรุ่น เพือนๆพี่น้อง ที่รัก

 

มดแดง news chez mtts zoolo o MiceToMeetU chinchilla deb99 hata fung foo put42

 

ย่าหยา ลูกน้ำเค็ม พวงชมพู เด็กสยาม ต้งเม bbeem

 

ขยายตัวอ้กษร Ctrl+

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดบวก $4.9 จากแรงซื้อเก็งกำไรหลังถูกกระหน่ำขาย

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 07:45:00 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยแรงซื้อเก็งกำไรได้ช่วยให้ราคาทองคำฟื้นตัว หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนักในช่วงสองวันก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ยูโรโซนที่ทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ทั้งสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เพื่อถือเงินสดไว้ในมือ

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,725.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 92 เซนต์ ปิดที่ 31.417 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.95 เซนต์ ปิดที่ 3.402 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดีดขึ้น 7.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,588.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 1.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 605.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

เทรดเดอร์กล่าวว่า ทองคำอยู่ภายใต้แรงกดดันเกือบตลอดช่วงการซื้อขาย อย่างไรก็ดี เนื่องจากราคาทองได้ตกลงไปมากในระยะนี้ จึงดึงดูดให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อเก็งกำไรก่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

 

ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ราคาทองร่วงลง 3.5% หลังจากที่เดินหน้าขึ้นมาสามสัปดาห์ติดต่อกัน โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน เพราะสถานการณ์ไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป

 

นักลงทุนชี้ว่า สถานะของทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยนั้น ไม่สามารถช่วยพยุงราคาทองคำในช่วงที่ตลาดผันผวนได้ เนื่องจากตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆที่ร่วงลงบีบให้นักลงทุนบางรายเทขายทองคำเพื่อทำกำไรจะได้นำไปชดเชยกับที่ขาดทุนจากการลงทุนในตลาดอื่นๆ โดยนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะถือครองเงินสดหรือหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างเงินดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงที่เกิดวิกฤต

 

ไมค์ เดลี ผู้เชี่ยวชาญตลาดทองจากพีเอฟจีเบสท์ในชิคาโก กล่าวว่า “ข่าวเศรษฐกิจในสหรัฐ ประกอบกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ย่ำแย่ลง ได้หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งได้กลายเป็นแรงกดดันตลาดโลหะมีค่า นอกจากนี้ การเทขายสัญญาน้ำมันดิบในระยะนี้ยังได้ส่งผลให้ช่วงขาขึ้นในตลาดทองคำหยุดชะงักลงด้วย"

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิตกหนี้ยุโรป-ขายทำกำไรกดน้ำมันดิบปิดลบ $1.41

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 08:10:00 น.

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงปิดที่ระดับต่ำกว่า 98 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังคงยืดเยื้อ โดยนักลงทุนกังวลว่าการลุกลามของวิกฤตหนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและฉุดรั้งอุปสงค์พลังงานให้หดตัวลง ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ราคาพุ่งช่วงต้นสัปดาห์ และก่อนที่สัญญาส่งมอบเดือนธ.ค.จะหมดอายุ

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.41 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 97.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบร่วง 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.6%

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 66 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 107.56 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันเคลื่อนไหวผันผวนในสัปดาห์นี้ โดยเมื่อวันพุธ ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากที่บริษัทซึ่งเป็นเจ้าของท่อส่งน้ำมันซีเวย์ออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทวางแผนจะพลิกกลับทิศทางการจัดส่งน้ำมันในท่อส่งน้ำมันซีเวย์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีการจัดส่งน้ำมันจากเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ ไปยังเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส จากปัจจุบันที่จัดส่งไปยังศูนย์กลางการจัดเก็บน้ำมันที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา โดยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณน้ำมันส่วนเกินในศูนย์กลางการจัดเก็บน้ำมันที่เมืองคุชชิง

 

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้ร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวของหลายประเทศในยูโรโซนจะทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง

 

สำหรับบรรยากาศการซื้อขายในวันศุกร์ ยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์หนี้ยูโรโซน โดยถึงแม้ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้เข้าซื้อพันธบัตรในตลาดรองเพื่อช่วยประเทศที่ประสบภาวะหนี้สินบางประเทศ แต่วิกฤตหนี้ยุโรปยังห่างไกลจากการแก้ปัญหา เนื่องจากบรรดาผู้นำในภูมิภาคยังมีความเห็นแยกกันไปคนละทิศละทางเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขวิกฤต โดยเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองประเทศมหาอำนาจในยูโรโซน เห็นไม่ตรงกันเรื่องบทบาทหน้าที่ของอีซีบี ขณะที่อังกฤษก็มีมุมมองที่แตกต่างออกไป

 

นางอังเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เตือนว่าไม่ควรคาดหวังจากผู้นำในภูมิภาคมากเกินไป ขณะที่นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ สนับสนุนให้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องสกุลเงินยูโร ซึ่งสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองกำลังทำให้นักลงทุนหวั่นวิตก

 

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังเผชิญกับแรงขายทางเทคนิค เนื่องจากนักลงทุนหลายรายวิตกว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ปรับตัวขึ้นเร็วเกินไปในช่วงต้นสัปดาห์

 

ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจจากทางฝั่งสหรัฐนั้น คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยวานนี้ว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนต.ค. ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ และบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจกระเตื้องขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่นักลงทุนยังคงจับตาการอภิปรายหนี้รอบใหม่ของคณะกรรมการ Super Committee อย่างระมัดระวัง เพราะอาจมีความเสี่ยงหากไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้นก่อนวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ในสัปดาห์หน้า

 

ขณะเดียวกัน บีเอ็นพี พาริบาส์ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันประจำปี 2555 โดยคาดว่าราคา WTI จะแตะที่ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 101 ดอลลาร์ แต่ยังคงการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ไว้เท่าเดิมที่ 116 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งค่าเทียบดอลล์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 08:26:33 น.

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) จากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้เข้าซื้อพันธบัตรอิตาลีและสเปนเพื่อควบคุมต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งทะยานขึ้นในภูมิภาค รวมถึงรายงานที่ว่า อีซีบีและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อาจให้เงินช่วยเหลือประเทศในยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้สิน

 

 

 

ค่าเงินยูโรดีดขึ้น 0.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3519 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3459 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดี

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับลง 0.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.890 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 76.970 เยน, อ่อนค่าลง 0.50% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9169 ฟรังค์ จากระดับ 0.9215 ฟรังค์ และลดลง 0.18% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.0271 จากระดับ 1.0290

 

ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.5786 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5750 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0013 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของพฤหัสบดีที่ 0.9993 ดอลลาร์สหรัฐส่วนดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7567 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7579 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนและอิตาลีปรับตัวลดลงจากระดับสูงในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งนักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าเป็นเพราะธนาคารกลางยุโรปได้เข้าซื้อพันธบัตร นอกจากนี้ มีข่าวลือว่า อีซีบีอาจให้ไอเอ็มเอฟกู้ยืมเงินเพื่อนำไปช่วยประเทศในยูโรโซนที่ประสบภาวะหนี้สิน ซึ่งรายงานดังกล่าวช่วยคลายกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ลงไปได้บ้าง

 

ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการอภิปรายหนี้รอบใหม่ โดยคณะกรรมการร่วมสองพรรคมีเวลาจนถึงวันที่ 23 พ.ย. ที่จะสรุปมาตรการเพื่อลดหนี้สาธารณะของสหรัฐ ซึ่งขณะนี้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังมีความเห็นไม่ตรงกันในรายละเอียด

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้เงินยูโรปรับตัวขึ้น แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงอ่อนแอ เนื่องจากการแก้ปัญหาหนี้ยังไม่คืบหน้าและยังไม่มีความชัดเจน ท่ามกลางความเห็นที่แตกต่างกันของบรรดาผู้นำยุโรปเกี่ยวกับวิธีดำเนินการ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปธน.สหรัฐหารือนายกฯจีนนอกรอบประชุมที่บาหลี คาดถกประเด็นการค้า-ทะเลจีนใต้

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 14:07:41 น.

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรี เหวิน เจียเป่า ของจีน หารือร่วมกันในวันนี้ นอกรอบการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

 

 

 

การพบกันของผู้นำทั้งสองมีขึ้นหลังจากที่เกิดการโต้เถียงระหว่างรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลจีนในเรื่องการค้า สกุลเงิน และสิทธิทางอาณาเขตในทะเลจีนใต้ โดยโอบามาต้องการเพิ่มอิทธิพลของสหรัฐในภูมิภาคนี้ในช่วงเวลาที่แสนยานุภาพของจีนกำลังแผ่ขยาย

 

ทั้งนี้ คาดว่าจะไม่มีการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการภายหลังการหารือร่วมกันของผู้นำทั้งสอง แต่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศรายงานว่า การพูดคุยน่าจะเน้นไปที่ประเด็นการค้า และความมั่นคงทางทะเล โดยเฉพาะกรณีพิพาทบริเวณทะเลจีนใต้

 

โดยจีนอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้ทั้งหมด ซึ่งเป็นเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ และคาดว่าเป็นแหล่งน้ำมันและก๊าซจำนวนมาก อย่างไรก็ตามประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศก็อ้างสิทธิเหนือพื้นที่บางส่วนในทะเลแห่งนี้

 

เมื่อวันศุกร์ จีนได้ออกมาเตือนว่า "อำนาจภายนอก" ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวในกรณีพิพาททางทะเลนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการมุ่งโจมตีไปที่สหรัฐโดยตรง

 

ฟิลิปปินส์ได้ขอให้สหรัฐเข้ามาช่วยแก้ไขข้อขัดแย้งนี้ แต่นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ระบุว่า อาเซียนและจีนควรแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองอย่างสันติ

 

ในวันพฤหัสบดี ปธน.โอบามาประกาศให้คำมั่นว่าจะเพิ่มพันธกิจของสหรัฐในภูมิภาคนี้ และจะเพิ่มกำลังทหาร ซึ่งรวมถึงการส่งนาวิกโยธินสหรัฐไปประจำการในออสเตรเลีย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กสิกรฯมองแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวผันผวนและต้องระวังการปรับฐาน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 11:52:47 น.

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า แนวโน้มระหว่างวันที่ 21-25 พ.ย. 2554 ดัชนีน่าจะยังคงแกว่งตัวผันผวน และต้องระวังการปรับฐาน

 

ขณะที่ยังคงต้องจับตาพัฒนาการการแก้ปัญหาหนี้และการเมืองในยุโรป ซึ่งรวมถึงการเลือกตั้งในสเปน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยุโรป

 

นอกจากนี้ คงต้องติดตามข้อสรุปของคณะกรรมาธิการ Super Committee เกี่ยวกับการปรับลดรายจ่ายภาครัฐของสหรัฐฯ และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จีดีพีไตรมาส 3/2554 (รายงานครั้งที่ 2) และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน

 

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 982 และ 960 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,010 และ 1,020 จุด ตามลำดับ

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก25.43จุดหลังศก.สหรัฐส่งสัญญาณดีขึ้น แต่ยังวิตกหนี้ยูโร

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 07:25:33 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) จากสัญญาณที่เป็นบวกของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.ของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ปรับตัวสูงเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq อ่อนตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ยุโรป รวมถึงความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับการอภิปรายเรื่องหนี้สาธารณะของสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 25.43 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 11,796.16 จุด ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.48 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 1,215.65 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 15.49 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 2,572.50 จุด

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจกระเตื้องขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เมื่อคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนต.ค. ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์

 

อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับแนวโน้มปัญหาหนี้ยุโรป ได้ส่งผลกดดันบรรยากาศการซื้อขายโดยรวม นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการอภิปรายหนี้สหรัฐรอบใหม่ของคณะกรรมการร่วมระหว่างสองพรรคการเมือง หรือ Super Committee ว่าคณะกรรมการจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่เกี่ยวกับแผนการลดงบประมาณรายจ่ายและเพิ่มภาษีเพื่อให้สภาคองเกรสพิจารณาลงมติในสัปดาห์หน้า

 

วานนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยุโรปปรับตัวลดลงจากระดับสูงในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งนักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าเป็นเพราะธนาคารกลางยุโรปได้เข้าซื้อพันธบัตรเพื่อช่วยประเทศที่ประสบภาวะหนี้สิน

 

โดยในระยะนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของประเทศในยูโรโซนพุ่งสูงขึ้นมาก โดยเมื่อวันพฤหัสบดี รัฐบาลสเปนขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ 3.56 พันล้านยูโร (4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่กระทรวงการคลังสเปนกำหนดไว้ที่ 4 พันล้านยูโร ขณะที่อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 6.97% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2540 และสูงกว่าระดับ 5.43% ในการประมูลเมื่อวันที่ 20 ต.ค.

 

ขณะที่ผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีเมื่อวันจันทร์ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.29% ซึ่งสูงกว่าระดับ 5.32% ในการประมูลเมื่อเดือนที่แล้ว และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่อิตาลีเข้าร่วมก่อตั้งกลุ่มยูโรโซน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.76%

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ระดับสูงของสเปนและอิตาลีถูกมองว่าเป็นอันตราย เนื่องจากทั้งกรีซและโปรตุเกสได้ถูกบีบให้ต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ หลังจากที่บอนด์ยิลด์พุ่งแตะระดับที่ใกล้เคียงกันนี้

 

ขณะเดียวกัน การแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ข้อยุติ เนื่องจากบรรดาผู้นำในภูมิภาคยังมีความเห็นแยกกันไปคนละทิศคนละทางเกี่ยวกับวิธีดำเนินการ โดยเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองหัวเรือใหญ่ในยูโรโซน เห็นไม่ตรงกันเรื่องบทบาทหน้าที่ของอีซีบี ขณะที่อังกฤษก็มีมุมมองที่แตกต่างออกไป

 

นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ปฏิเสธข้อเรียกร้องของฝรั่งเศสที่ให้อีซีบีทำหน้าที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายสำหรับวิกฤตหนี้ โดยระบุว่าข้อเสนอที่ต้องการให้อีซีบีมาเป็นผู้ปล่อยกู้ รวมถึงการออกพันธบัตรสกุลเงินยูโรนั้น จะไม่ช่วยคลี่คลายปัญหา

 

นางแมร์เคิล และ นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ได้ประชุมร่วมกันที่กรุงเบอร์ลินเมื่อวานนี้ โดยถึงแม้ว่าผู้นำทั้งสองจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของยุโรปเพื่อฝ่าฟันวิกฤตหนี้ครั้งเลวร้ายนี้ไปให้ได้ แต่ทั้งนางแมร์เคิลและนายคาเมรอนก็ไม่ได้สร้างความคืบหน้าใดๆจากการพบปะพูดคุยกันในครั้งนี้ แถมยังไม่สามารถลบความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหา โดยนายคาเมรอนเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ขณะที่นางแมร์เคิลเห็นว่าควรจะใช้แนวทางแก้ปัญหาไปทีละขั้นมากกว่า

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การทางพิเศษ เริ่มเก็บค่าผ่านทางตามปกติ หลังเที่ยงคืน 21 พ.ย.นี้

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2554 13:16 น

 

 

 

 

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

 

ทางด่วนโทลล์เวย์

 

 

 

การทางพิเศษฯ จะเริ่มเก็บค่าผ่านทางพิเศษทุกเส้นทางตามปกติ ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 21 พ.ย. 54 เป็นต้นไป หลังงดเง้นช่วงเหตุน้ำท่วม

 

วันนี้(19 พ.ย.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่า จะเริ่มเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษทุกสายทางตามปกติ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 เป็นต้นไป หลังจากที่ยกเว้นค่าผ่านทางของทางพิเศษทุกสายได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษบูรพาวิถี ทางพิเศษกาญจนาภิเษก มาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2554 และทางพิเศษศรีรัช กับ ทางพิเศษอุดรรัถยา

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการสัญจรของประชาชน รวมถึงเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับเจ้าหน้าที่ในการใช้ทางพิเศษเดินทางลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งการยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษดังกล่าวจะสิ้นสุดลงและ กทพ. จะเริ่มเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษทุกสายทางตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 เป็นต้นไป

 

 

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000147062

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การสร้างสรรค์ตนเองหรือการสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียวต้องใช้เวลาต้องใช้ความเพียรต้องใช้ความอดทน เสียสละ

แต่สำคัญที่สุดคือความอดทน คือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้น ทำไมมันถึงน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่เด่นดัง

คือ ดูมันคร่ำครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่คร่ำครึต้องมีความอดทน ในเวลาข้างหน้าจะเห็นผลในความอดทนของตนเองแน่นอน

 

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

ทรงพระเจริญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณข่าวสารที่คุณgingerที่นำมาให้เพื่อนๆทราบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กำลังศึกษาเล่นออนไลน์อยู่ค่ะ อยากทราบว่าราคาซื้อ -ขายต้องต่างกันกี่เหรียญค่ะ

 

ถึงจะมีผลต่างให้ได้กำไร ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ :wacko:

 

5-10 เหรียญ เพราะต้องหักส่วนต่าง 60 บาท ไหนจะค่ากั๊ก้ล็กน้อยแล้วแต่สถานการณ่ เมื่อ อาทิตย็ที่แล้ว ราคา 1748 ราคาพอๆ กับ 1742 อาจเท่ากันด้วยไม่รู้เพราะอะไร บางครั้งราคาขยับขึ้นลง 1-2 เหรียญ ออนไลน์ยังไม่ขยับเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...