โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[ส้มโอมือ 4,910]

ปีใหนผมจำไม่ได้ที่เมืองไทยจะประกันเงินฝากแค่ 1 ล้าน

แบบนี้จะเรียกว่า bail in ได้มั้ยครับ หุหุ

 

 

 

BANKSTERS PLAN USE OF BAIL-INS TO FUND THEIR OWN BONUS PAYOUTS!

 

 

http://silverdoctors...uts/#more-26096

 

เริ่มต้นแล้ว ! ....ขยายคุ้มครองเงินฝากไม่เกิน 50 ล้านบาท ออกไป 3 ปี

 

 

วันที่ 31 ต.ค. 2555

 

 

เริ่มต้นแล้ว ! สำหรับการเลื่อนกำหนดเพดานการคุ้มครองเงินฝากจำนวน 50 ล้าน ออกไปอีก 3 ปี ( 11 สิงหาคม 2555 – 10 สิงหาคม 2558 ) โดยคงระดับการคุ้มครองไว้ที่ 50 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน ตามพระราชกฤษฎีกาซึ่งกำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 ประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2555 ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป

 

ส่วนหลังจากนั้น ในวันที่ 11 ส.ค.58 – 10 ส.ค.59 (จำนวน 1ปี ) กำหนดจำนวนวงเงินคุ้มครองไว้ที่ไม่เกิน 25 ล้านบาท และตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 59 เป็นต้นไปกำหนดจำนวนวงเงินคุ้มครองไว้ที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฝากเงินมีความมั่นใจต่อระบบการเงินและสถาบันการเงิน ส่วนผู้ฝากที่มีเงินฝากจำนวนเกินวงเงินคุ้มครองดังกล่าวจะได้รับเงินคืน เพิ่มเติมจากการชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ปิดกิจการ

 

สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่ภาวะเศรษฐกิจและระบบการเงินของโลกยังมีความผันผวนและประสบปัญหาอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจ ระบบการเงิน และระบบสถาบันการเงินของประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศและป้องกันมิให้ผู้ ฝากเงินขาดความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการเงินฝากและสินทรัพย์ในระบบสถาบัน การเงินของประเทศ จึงสมควรทยอยลดวงเงินคุ้มครองตามลำดับ

 

ผู้สนใจติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ หรือศึกษารายละเอียดของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก สามารถติดตามได้ทาง www.dpa.or.th หรือ 02-272-0400

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 4, 2013 โดย ส้มโอมือ

[ส้มโอมือ 4,910]

ขอบคุณทุกข่าวสารครับอ่านมันกว่าดูช่องข่าวไทยอีก ระยะนี้มีข่าวที่น่าจะเป็นผลดีต่อราคาทองมากมาย แต่ราคาก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไร แถมยังโดนทุบขู่อีก

 

ข่าวลบทีใหญ่

-------อินเดียให้นำเข้าทองคำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ส่งออกเครื่องประดับเท่านั้น

 

-------ถ้ากดทองคำให้ต่ำในระยะไม่กี่เดือนนี้ ทองคำที่ปล่อยหลุดจำนำทั่วโลกคงมากโขอยู่นะ

[ส้มโอมือ 4,910]

คิดตัวเลขการจ้างงานให้ดูดังนี้ครับ http://www.tfmetalsr...es-and-jpmorgan

 

เมื่อวานมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 165,000 คน มีคนทำงานแบบฟุลไทม์ทั้งสิ้น 135,474,000 คน (เดือนที่แล้ว 135,309,000 คน)

ทำงานอาทิตย์ละ 34.4 ชั่วโมง(เดือนที่แล้ว 34.6)

ดังนั้นชั่วโมงทำงานทั้งหมดคือ 135,474,000*34.4= 4,660,305,600 ชั่วโมง

ถ้าคิดจากเดือนมีนา 135,309,000*34.6= 4,681,691,400 ชั่วโมง

เท่ากับว่าเวลาทำงานหายไป 4,681,691,400- 4,660,350,600 = 21,340,800 ชั่วโมง

ถ้าเอาเวลาทำงานที่หายไปคือ 21,340,800 / 34.4 = 620,372 คน

หรือ 21,340,800 / 34.6 = 616,786 คน

 

 

จะเห็นว่าการจ้างงานหายไป (ถ้าลบด้วยที่เพิ่มขึ้น แสนหก) ก็ราวๆ 500,000 คนครับ

 

จริงๆน่าจะหายมากกว่านี้ครับ ถ้าทำงาน8ชั่วโมง เวลาทำงานจริงอาจแค่7.30 ชั่วโมง(30นาทีเป็นการเตรียมงานและเคลียร์งาน) ถ้าเวลาทำงานเหลือ6ชั่วโมง แต่เวลาเตรียมงานและเคลียร์งานก็ยังเท่าเดิมคือ30นาที งานยิ่งหายมากขึ้นอีกครับ(ยกเว้นบีบพนักงานว่าเวลาที่เตรียมงานกับเคลียร์งานไม่นับเป็นเวลางาน)

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 4, 2013 โดย ส้มโอมือ

[ส้มโอมือ 4,910]

อิสราเอลเปิดฉากโจมตีซีเรีย หลังสงสัยเป็นคลังอาวุธหัวรุนแรง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2556 17:02 น.

 

 

สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อซีเรียอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เพื่อโจมตีสถานที่ต้องสงสัยเป็นที่ตั้งของคลังเก็บอาวุธ

รายงานระบุว่า อิสราเอลโจมตีเป้าหมายดังกล่าว เพราะกังวลว่า อาจเป็นสถานที่เก็บอาวุธก่อนลำเลียงส่งต่อให้กลุ่มหัวรุนแรงฮิซบอลเลาะห์ใน เลบานอน เพราะก่อนหน้านี้ หัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ประกาศจะให้ความช่วยเหลือประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย

ขณะที่ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ไม่ได้คาดหวังจะมีการส่งกองกำลังสหรัฐฯ เข้าไปแก้ไขปัญหาสงครามกลางเมืองของซีเรีย หลังจากมีการแจ้งเตือนการใช้อาวุธเคมี แต่อาจมีการสนับสนุนอาวุธให้กลุ่มกบฏ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ คาดว่า สหรัฐฯ และพันธมิตร จะมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการบังคับใช้เขตห้ามบิน แต่พันธมิตรของซีเรีย คือ รัสเซีย คัดค้านมาตรการดังกล่าว

[ส้มโอมือ 4,910]

สุดยอดน้ำใจ ดูแล้วมีความสุขครับ

 

https://www.facebook.com/photo.php?v=448861668541629&set=vb.172753116192710&type=2&theater

[mdaddy 2,443]

ถามหน่อยค่ะ เพราะเหตุผลนี้ใช่มั๊ยคะเลยทำให้ตัวเลขคนว่างงานลดลง คนขอรับเงินสวัสดิการลดลง แต่ถ้าคิดถึงผลผลิตที่ได้น่าจะเท่าเดิมหรือลดลงเนื่องจากชั่วโมงในการทำงานลดลง เข้าใจอย่างนี้ถูกต้องมั๊ยคะ

• ตัวเลขคนว่างงานลดลง น่าจะเป็นจากการจ้างงานแบบพาร์ทไทม์เพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับกฏหมายใหม่ และ คนที่ว่างงานเกินระยะเวลาหนึ่ง (จำไม่ได้ว่ากี่เดือน) ถ้าตกงานนานเกินเวลาดังกล่าวแล้ว ถือว่าไม่ตกงาน (บ๊ะ!)
  
• ส่วนคนขอรับสวัสดิการลดลง ผมไม่รู้ตัวเลขว่าขึ้นหรือลด แต่จากที่ฟังคนวิแคะมา เขาบอกว่า ชาวมะกันรับสวัสดิการประมาณร้อยละ ๒๐-๒๕ ของประชากรทั้งหมด และถ้านับคนที่ "มีสิทธิ" ในการขอรับสวัสดิการดังกล่าว จะมีถึงร้อยละ ๕๐ เลยทีเดียว -- รัฐบาลกลาง ยังมีการสนับสนุนให้คนรายได้ต่ำทั้งหลาย (ไม่ว่าจะเข้าประเทศถูกกฏหมายหรือไม่) รับสวัสดิการเพิ่มขึ้นอีกด้วย -- โดยที่หลายๆคนมองว่า นี่เป็นเครื่องมือของรัฐบาล เพื่อป้องกันการต่อต้านนโยบาย ..... จากประชาชน เพราะไม่มีใครที่จะกล้ากัดมือที่คอยป้อนอาหาร
  
• ถ้าจำนวน คน-ชั่วโมง ในการทำงานลดลง ย่อมส่งผลให้เกิดผลผลิตน้อยลงแน่นอน และที่แย่กว่านั้นคือ การจ้างงานเพิ่มในภาครัฐบาลส่วน ที่ไม่ก่อให้เกิดผลผลิตแล้ว (รัฐก็ต้องเตรียมรับมืองานเอกสารจากกฏหมายโอบามาแคร์เหมือนกัน) จะทำให้ปริมาณผลผลิตจริงๆของประเทศลดลงไปอีก
  
• (เพิ่มเติม) หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีคนเลือกที่จะไม่ทำงาน แต่รับสวัสดิการต่างๆ(เบี้ยว่างงาน, เบี้ยซื้ออาหาร) มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสำหรับคนที่เงินเดือนไม่สูงมากแล้ว บางครั้งไปทำงาน หักภาษี ค่าเดินทาง ค่าซักรีด ฯลฯ แล้ว สรุปโดยรวม ได้เงินเข้ากระเป๋าน้อยกว่าอยู่บ้านให้รัฐเลี้ยงอีก // หรือบางครั้ง ครอบครัวที่มีลูก ไม่พ่อหรือแม่ ก็จะเลือกที่จะลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลลูก แทนที่จะไปส่งเดย์แคร์ เพราะคิดเป็นเงินแล้ว ลาออกมาเอาสวัสดิการ และเลี้ยงลูกคุ้มกว่า
  

สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อซีเรียอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เพื่อโจมตีสถานที่ต้องสงสัยเป็นที่ตั้งของคลังเก็บอาวุธ

รายงานระบุว่า อิสราเอลโจมตีเป้าหมายดังกล่าว เพราะกังวลว่า อาจเป็นสถานที่เก็บอาวุธก่อนลำเลียงส่งต่อให้กลุ่มหัวรุนแรงฮิซบอลเลาะห์ใน เลบานอน เพราะก่อนหน้านี้ หัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ประกาศจะให้

....

• ในประวัติศาสตร์ มีคนที่ไปไล่ถล่มสถานที่ต่างๆ โดยพยายามสร้างความชอบธรรมต่างๆนาๆ โดยไม่มีหลักฐาน และ/หรือ ผ่านกระบวนการทางกฏหมายก่อน ถ้าไม่พอใจ ข้าอยากจะไปเบิ๊ดกะโหลกใครก็ได้ ใครจะทำไม
  
• เมื่อปี ๑๙๙๘ ก็มีการถล่มโรงงานผลิตยา(สำหรับมนุษย์/สัตว์)ของซูดาน เพราะขาใหญ่เขาเพียงแค่บอกว่า โรงงานนี้ผลิตอาวุธเคมี ... แต่หลังจากนั้นก็ไม่เห็นจะหาอาวุธเคมีจากซากปรักหักพังเจอ ...
  
• อิรักก็โดนถล่มทั้งประเทศ เพื่อเอาน้ำมัน เพื่อทำลายอาวุธอำนาจทำลายล้างสูงของซัดดำ(ที่ผ่านมาเป็นสิบปี ก็ยังหาไม่เจอเสียที)
  
• ฯลฯ
  
• ตอนนี้กำลังมีการพยายามผ่านกฏหมายในเมืองลุงแซมว่า ถ้าพันธมิตรลุงแซม (ประเทศที่ไปถล่มซีเรียนั้นแหละ) เข้าร่วมสงครามเมื่อไหร่ ลุงจะต้องเข้าไปร่วมช่วยเพื่อนด้วย --- ฟังเหมือนดูดี --- แต่นั้นหมายความว่า ถ้ากฏหมายนี้ออกมา อำนาจการก่อสงครามของลุงฯ จะไม่อยู่ในมือของรัฐบาลลุงฯแล้ว หากแต่อยู่ในมือพันธมิตร ว่าถ้าเขาไปรบกับใครเมื่อไหร่ ลุงฯก็ต้องส่งลูกๆเข้าไปช่วยเขาด้วย
  

สุดยอดน้ำใจ ดูแล้วมีความสุขครับ

 

https://www.facebook...&type=2

 

รัสเซียเป็นประเทศที่มีการติดตั้งกล้องหน้ารถเยอะมาก เพื่อที่จะเอาไว้ใช้เป็นหลักฐานเคลียร์กับประกันเวลาเกิดอุบัติเหตุ เลยมีภาพน่าสนใจๆบนท้องถนนมาให้เห็นเรื่อยๆ (รวมทั้งที่มีอุกาบาตตกในรัสเซียด้วย)

 

ขอบคุณที่เอามาฝากครับ

 

**********

 

ภาพจากหน้าจอธนาคารออนไลน์ของไซปรัส (ปัดตัวเลขแบบกลมๆ)

• มีเงินในบัญชี ๘๕๐,๐๐๐ ยูโร
  
• ใช้จ่ายได้ ๑๓๐,๐๐๐ ยูโร
  
• ห้ามแตะ ๗๒๐,๐๐๐ ยูโร
  

http://sgtreport.com...online-account/

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 4, 2013 โดย wcg

[tunluck 37]

ยอดคนตกงาน สหรัฐ ใช้นับจำนวนคนที่มาเบิกเงินช่วยเหลือตกงาน

แต่เงินตรงนี้เบิกได้ แค่ 2 ปี ตกงานเกิน 2 ปี เบิกไม่ได้

เพราะงั้น คนที่ตกงานเกิน 2 ปี จึงไม่โชว์ตัวเลขเป็นคนตกงาน

[Waiyakon 4]

ไม่ถามละ ลบให้หมด

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 10, 2013 โดย Waiyakon

[ส้มโอมือ 4,910]

อดีตรัฐมนตรีคลังเยอรมันแนะ เลิกใช้ “เงินยูโร” ก่อนยุโรปจะล่มจม ชี้เป็น “สกุลเงินแห่งหายนะ” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤษภาคม 2556 15:29 น.

 

 

ออสการ์ ลาฟอนเทน อดีตรัฐมนตรีคลังของเยอรมนี

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ออสการ์ ลาฟอนเทน อดีตรัฐมนตรีคลังของเยอรมนี หนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการถือกำเนิดของ “เงินยูโร” สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ด้วยการออกโรงเรียกร้องให้มีการเลิกใช้เงินยูโรเป็น การถาวร ชี้ยิ่งดันทุรังใช้ต่อไป ยิ่งมีแต่ปัญหา

 

ออสการ์ ลาฟอนเทน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมนีวัย 69 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญที่สุดของเยอรมนี ต่อการถือกำเนิดของกลุ่ม “ยูโรโซน” และการใช้เงินตราสกุลเดียวกันหรือ “เงินยูโร” เผยระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งของฝรั่งเศสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ ผ่านมา โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการยกเลิกเงินยูโร ซึ่งได้เปลี่ยนจากการเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกไปสู่การ เป็น “สกุลเงินแห่งหายนะ” ไปแล้ว

 

ลาฟอนเทนเตือนว่า การดันทุรังใช้เงินยูโรต่อไป มีแต่จะทำให้เกิดหายนะมากยิ่งขึ้น และจะนำไปสู่จุดจบของยุโรปทั้งหมดในที่สุด เนื่องจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของยุโรปในเวลานี้มีแต่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ขณะที่อัตราการว่างงานของประชาชนในยูโรโซนก็พุ่งสูงจนถึงระดับที่เป็น อันตรายต่อ “โครงสร้างของการปกครองแบบประชาธิปไตยและระบบเศรษฐกิจเสรี” แล้ว

 

อดีตขุนคลังเมืองเบียร์รายนี้ยังเตือนรัฐบาลเยอรมนีชุดปัจจุบันภาย ใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงอังเกลา แมร์เคิลว่า ควรตระหนักว่าขณะนี้บรรดาประเทศทางตอนใต้ของยุโรปทั้งกรีซ อิตาลี สเปน โปรตุเกส ไม่เว้นแม้แต่ฝรั่งเศส ต่างเริ่มแสดงท่าทีต่อต้านเยอรมนีมากขึ้นทุกขณะเนื่องจากประเทศเหล่านี้ต่าง ไม่พอใจแนวทางของรัฐบาลแมร์เคิลที่ยังคงดึงดันปกป้องเงินยูโรเอาไว้ และหันไปบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดกับประเทศลูกหนี้โดยไม่สนใจผล กระทบทางสังคมที่แสนโหดร้ายกับประชาชนในประเทศเหล่านี้

 

“พวกมาตรการรัดเข็มขัดทั้งหลายได้ถึงจุดจบแล้ว นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรป นับตั้งแต่มีการใช้เงินยูโรเป็นต้นมา ถึงเวลาแล้วที่นางแมร์เคิล ผู้นำเยอรมนีจะต้องตื่นขึ้นมายอมรับความจริงที่ว่า การดึงดันรักษาเงินยูโรเอาไว้มีแต่จะฉุดให้ทุกประเทศก้าวไปสู่หายนะ” ลาฟอนเทนกล่าว

[ส้มโอมือ 4,910]

เศรษฐีดัง “วอร์เร็น บัฟเฟตต์” เตือนลงทุนในทองคำ “ไม่งอกเงย” ชี้ราคาดิ่งแค่ไหนก็ไม่ควรซื้อ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤษภาคม 2556 14:42 น.

 

 

วอร์เร็น เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - วอร์เร็น เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีและนักลงทุนชื่อก้องโลกชาวอเมริกันเผยไม่เคยมีความคิดที่จะลงทุนใน ทองคำแม้แต่น้อย ไม่ว่าราคาทองคำจะร่วงต่ำมากเพียงใด โดยระบุการลงทุนในโลหะมีค่าชนิดนี้ “ไม่งอกเงย”

 

บัฟเฟตต์ วัย 82 ปี ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ โลกเผยที่เมืองโอมาฮา ในมลรัฐเนบราสกาของสหรัฐฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าตัวเขาไม่มีแผนจะเข้าลงทุนในทองคำแม้แต่น้อย แม้ราคาทองคำในตลาดโลกโดยภาพรวมจะอยู่ในช่วงขาลง ขณะที่ราคาทองคำจากการซื้อขายล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์กได้ปรับลดลงไปแล้วกว่า 13 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้

 

ประธานและซีอีโอของบริษัท “เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์” ระบุว่า เขาไม่สนใจลงทุนในทองคำไม่ว่าราคาทองคำจะดิ่งลงต่ำมากเพียงใดก็ตาม เพราะเห็นว่าการเข้าเก็งกำไรในทองคำเป็นสิ่งที่ “ไม่งอกเงย” เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นซึ่งให้โอกาสที่ดีกว่า พร้อมเผยว่าตนเองเคยออกโรงเตือนนักลงทุนทั่วโลก เกี่ยวกับความเสี่ยงของการเก็งกำไรในทองคำตั้งแต่ 2 ปีก่อน

 

“ถ้าราคาทองคำลดลงเหลือ 1,000 ดอลลาร์ ผมจะไม่ใช่หนึ่งในผู้ซื้อ และถึงแม้ราคาทองคำจะร่วงลงสู่ระดับ 800 ดอลลาร์ ผมก็จะไม่ใช่ผู้ซื้อทองคำอีกเช่นกัน ทองคำไม่เคยอยู่ในความสนใจของผมเลย” บัฟเฟตต์ซึ่งมีทรัพย์สินในความครอบครอง 53,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.58 ล้านล้านบาท) กล่าว

 

บัฟเฟตต์ยังเผยว่า การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ลงทุนจะต้อง “เรียนรู้” ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับธุรกิจหรือหุ้นตัวนั้น ก่อนที่ตนเองจะควักเงินไปลงทุน แต่ขณะเดียวกัน “ความอดทนอดกลั้น” ก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

 

“ผมไม่เคยลงทุนเพราะคนนั้นคนนี้หรือโบรกเกอร์รายใดบอกว่าหุ้นตัวนี้ ดี แต่ผมจะลงทุนก็ต่อเมื่อผมศึกษาจนมั่นใจด้วยตัวเองแล้วว่าหุ้นตัวนี้ดี ขณะเดียวกัน ผมก็ไม่เคยแตกตื่นช้อนซื้อหรือเทขายในช่วงที่นักลงทุนรายอื่นเขาแตกตื่นกัน” บัฟเฟตต์กล่าวเมื่อถูกถามถึงปรากฏการณ์ที่ผู้คนจำนวนมากแห่กันซื้อทองคำใน ช่วงที่ราคาทองคำตกต่ำ

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของวอร์เร็น บัฟเฟตต์ มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่สถานีโทรทัศน์ “บลูมเบิร์ก” ของสหรัฐฯ เผยแพร่ผลการสำรวจมุมมองของนักวิเคราะห์จำนวน 38 ราย ทั้งในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ, กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งต่างลงความเห็นว่า “ช่วงเวลาแห่งชัยชนะ” ของทองคำที่ดำเนินมายาวนานกว่า 12 ปีได้จบสิ้นลงแล้ว และการลงทุนในทองคำไม่จัดเป็นตัวเลือกด้านการลงทุนที่คุ้มค่าและปลอดภัยใน ลำดับต้นๆ อีกต่อไป

[Jocho 246]

.

 

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 6, 2013 โดย Jocho

[deb99 290]

[milo 888]

ส่วนใหญ่จะเข้าใจกัน่วาบัฟเฟตต์ไม่สนใจโลหะมีค่า

 

แต่จริงๆ แล้วเมื่อโอกาสมาถึงแกก็ไม่พลาดครับ

 

ปี 1967 แกเคยซื้อเงินแท่งเพราะคาดว่าจะมีการเปลี่ยนมาตรฐานเงินดอล(ไม่ยอมตกรถ)

 

ปี 1996 แกก็เคยซื้อเงินแท่ง 111.2 ล้านออนซ์ กำไร 97.4 ล้านเหรียญ

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 6, 2013 โดย milo

[ส้มโอมือ 4,910]

ส่วนใหญ่จะเข้าใจกัน่วาบัฟเฟตต์ไม่สนใจโลหะมีค่า

 

แต่จริงๆ แล้วเมื่อโอกาสมาถึงแกก็ไม่พลาดครับ

 

ปี 1967 แกเคยซื้อเงินแท่งเพราะคาดว่าจะมีการเปลี่ยนมาตรฐานเงินดอล(ไม่ยอมตกรถ)

 

ปี 1996 แกก็เคยซื้อเงินแท่ง 111.2 ล้านออนซ์ กำไร 97.4 ล้านเหรียญ

 

ที่อ่านมาบัฟเฟตต์เคยแต่ลงทุนในโลหะเงิน แต่ไม่เคยลงทุนในทองคำครับ

 

---แต่ที่ผมอยากรู้คือณปัจจุบัน บัฟเฟตต์ลงทุนในโลหะเงินมั้ยครับ

[Mosquito 61]

บัฟเฟตต์ มองในมุมมองของตัวธุรกิจ ที่สามารถเติบโตได้/ขยายสาขา/ขยายกิจการได้ เมื่อมีกำไรเพิ่มขึ้น

 

ทองคำแท่ง ไม่ใช่ตัวธุรกิจ/ ไม่ใช่กิจการ จึงเติบโตไม่ได้

 

เห็นหลายคนบอกว่าไม่ชอบเก็บทองคำ ก็เพราะเหตุข้างต้นนี้

 

แต่ทองคำเป็นเหมือน currency ที่สามารถแลกเป็นเงินกระดาษ แล้วนำไปซื้อหุ้นได้เหมือนกัน

 

ทว่า เงินกระดาษ เก็บสะสมไว้ ก็ไม่เติบโตเช่นกัน (แต่อันนี้หลายคนดันชอบเก็บซะงั้น แปลกดี)

 

บ้างก็ว่าทองคำ กินไม่ได้ ผมก็อยากถามกลับไปว่า เงินกระดาษเก็บไว้มันกินได้เหรอ

 

ทั้งทองคำและเงินกระดาษ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนไำด้ ไม่มีใครเขาเอามากินหรอกคุณเอ้ย

 

มันต้องเอาไปแลกเป็นอาหารก่อนแล้วค่อยเอามากิน

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 6, 2013 โดย Mosquito