ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

คุณเกี๋ยมอี๋คะ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีส่วนต่างกี่จุดถึงเหมาะกับการที่เราลงทุนไปคะ ตอนนี้ส่วนหนึ่งที่ติดดอยเพราะส่วนต่างของใบตองประมาณ 14 จุด เมื่อคิดจากราคาทุนทองแท่งได้ไม่ถึง 1 % เลยค่ะ ( ไม่ได้โลภ )นะคะ วันนี้กะจะช้อนอีกค่ะ กำลังนั่งตัดสินใจอยู่ค่ะ ปล ถ้าว่างกรุณาช่วยตอบด้วยนะคะ รู้สึกว่าเราจะออกแนวเดียวกันค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ทุกอย่างในโลกใบนี้มีทางเป็นไปได้มากกว่า1ทางเสมอ

 

 

 

!54 ช่างคิดจริงๆๆ แต่ก็คงกล้าพูดแต่กับรูปหล่ะ เพราะถ้าพูดต่อหน้า คงตายยยยยยย !53 !53 !53

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โห.. ว่าจะมาตอบแบบนี้ ดันมาเฉลยซะก่อน แงๆๆๆ

 

 

:lol: :lol: :lol: :lol:

 

เรื่องจริงผ่านจอ ของจริงเลย

 

แต่ผมว่า k. kathy มีเด็ดกว่านี้อีกแน่นอน confirm

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อัลบัน บันจากู จอมทัพแห่งอนาคตของอาร์เซน่อล ระเบิดแฮตทริกช่วยให้อาร์เซน่อล U18 บุกไปเอาชนะปอร์ทสมัธได้ถึงถิ่น 6-3 เมื่อวันเสาร์ที่่ผ่านมา

 

จอน มิเกล โทรัล มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ดึงจากบาร์ซ่า, คริสโตเฟอร์ โอลเซ่น มิดฟิลด์สวีดิช และเซอร์กี้ การ์นาบรี้ ปีกจากเมืองเบียร์ สามนักเตะหน้าใหม่แบ่งซัดกันคนละตุง ทำให้ทีมของ สตีฟ โบลด์ เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 5 จาก 6 นัดหลังสุด

 

บันจากูเบิกประตูแรกให้กับทีมได้ในนาทีที่ 16 และโทรัลมายิงประตูให้ทีมฉีกหนีออกไปเป็น 2-0 ในนาทีที่ 37 อย่างไรก็ตาม ปาทริค อันเตมิ มายิงประตูให้เจ้าถิ่นตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก แต่ความหวังของเจ้าถิ่นก็ต้องมาดับลงด้วยฝีเท้าของบันจากูที่กดประตูที่สองของตัวเองตั้งแต่นาทีแรกของครึ่งหลัง

 

เจค วัลเลส มายิงให้ปอมปี้ไล่ขึ้นมาเป็น 3-2 แต่คริสโตเฟอร์ โอลเซ่น มิดฟิลด์ไวกิ้งมายิงให้ปืนหนีห่างออกไปเป็น 4-2 ในนาทีที่ 70 ทางปอมปี้ยังไม่ยอมแพ้ง่ายขยับยิงไล่ตามมาเป็น 4-3 จากฝีเท้าของ แอชลี่ย์ เฮริช

 

แต่สุดท้ายทีมอาร์เซน่อล U18 ก็มายิงอีกสองประตูปิดกล่องจาก บันจากู ที่ซัดประตูแฮตทริกของตัวเองได้ในนาทีที่ 87 ก่อนที่ เซอร์กี้ กาเนบรี้ ปีกดาวรุ่งทีมเยาวชนของเยอรมันจะมากดประตูที่ 6 ให้กับทีมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

 

ที่มา : gunnerthailand

post-2297-033515000 1321867350.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!54 ช่างคิดจริงๆๆ แต่ก็คงกล้าพูดแต่กับรูปหล่ะ เพราะถ้าพูดต่อหน้า คงตายยยยยยย !53 !53 !53

ผู้กล้าส่วนมากอายุไม่ยืนครับ ผมเป็นคนชอบมีอายุยืนครับ เราจะคุ้นกับคำว่า ผู้กล้า ตาย

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โห.. ว่าจะมาตอบแบบนี้ ดันมาเฉลยซะก่อน แงๆๆๆ

โอกาสหน้าค่อยร่วมสนุกใหม่ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีครับ เเต่รอพิจาณาเเถว $1697 อีกครั้งครับ

 

 

 

1698 แล้วครับ แม่นตามเคย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงนี้คงเป็นช่วงที่ตลาดเอาคืน :wacko:

 

แก้เครียดด้วยการดูฟุตบอลเพื่อผ่อนคลายละกันนะครับ :lol:

 

 

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2554

 

02.45 น. แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) - เบนฟิก้า (โปรตุเกส) ช่อง 3

02.45 น. นาโปลี (อิตาลี) - แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) ช่อง 7

 

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554

 

02.45 น. อาร์เซน่อล (อังกฤษ) - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) ช่อง 3

02.45 น. เอซี มิลาน (อิตาลี) - บาร์เซโลน่า (สเปน) ช่อง 7

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธีโอ วัลคอตต์ ปีกความเร็วสูงเชื่อมั่นว่าอาร์เซน่อลจะสามารถผ่านโบรุยเซีย ดอร์ทมุนด์ และผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ของศึุกยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกได้สำเร็จ

 

เดอะกันเนอร์ เตรียมเปิดบ้านต้อนรับทีมแชมป์จากเยอรมันในคืนวันพุธนี้ และถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะในเกมส์นัดนี้ได้จะส่งให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ทันที ธีโอกล่าวว่า: "เรากำลังเล่นฟุตบอลที่สวยงามในเวลานี้"

 

"โรบินยืนอยู่ข้างหน้าทำให้งานเราง่ายขึ้นเยอะ ตอนนี้เค้าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว"

 

"เราสามารถสร้างเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง"

 

ที่มา : gunnerthailand

post-2297-052770100 1321931816.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐหวนลุยเอเชีย หนทางรอดเศรษฐกิจประเทศ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

 

หากว่ากันตามสำนวนการทูตแล้ว คงต้องยอมรับว่าการตัดสินใจเข้าร่วมเวทีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ที่ฮาวาย ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และร่วมประชุมเอเชียตะวันออกที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ของประธานาธิบดีบารัก โอบามาแห่งสหรัฐ ค่อนข้างจะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

งดงามในแง่ที่ว่า ทุกสิ่งที่ลงมือทำล้วนส่งผลเกี่ยวพันต่อผลประโยชน์มหาศาลต่อสหรัฐล้วนๆ

เพราะการมุ่งรื้อฟื้นสัมพันธ์กับบรรดาประเทศต่างๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธมิตรเก่าแก่ 5 ชาติ อย่างออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และไทย หลังจากที่ห่างหายไปนาน เพราะมัวแต่ติดพันกับสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน ได้นำไปสู่ความสำเร็จแบบหมดจดสำหรับการกรุยทางสู่อนาคตที่สดใสทางการค้าการลงทุนในภูมิภาคนี้ของสหรัฐ

3B2F5B1A6AA34E568CB47EE692488520.jpg

ท่าทีกระตือรือร้นของสหรัฐในการเดินหน้าลุยข้อตกลงหุ้นส่วนภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด ที่สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐหมายมั่นปั้นมือและวาดหวังไว้มากเพียงไรว่าทีพีพีจะช่วยฉุดรั้งกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาอย่างหนักของประเทศให้กลับมาคึกคักสดใสขึ้นอีกครั้ง

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่า สถานะทางเศรษฐกิจของสหรัฐในขณะนี้อยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่า ค่อนข้างน่าอนาถ และอับจนหนทาง เนื่องจากประเทศอยู่ในสภาวะหนี้สาธารณะท่วมหัว จีดีพี ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวลดลง และจำนวนคนตกงานที่ยังสูงกว่า 9% จนรัฐบาลต้องตัดลดงบประมาณในทุกด้าน และเดินหน้าลุยหามาตรการรัดเข็มขัด ตลอดจนวิธีการต่างๆ เพื่อหนีจากวิกฤตหนี้ครั้งนี้

และหนึ่งในหนทางนั้น ก็คือการเดินหน้าหาเส้นทางสู่ประตูการค้าแห่งใหม่ให้กับสหรัฐ โดยมีจุดหมายปลายทางสำคัญอยู่ที่ภูมิภาคเอเชีย

บรรดานักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ต่างมองว่า การที่ผู้นำสหรัฐเดินหน้าลุยเข้าหาภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุด นับเป็นทางออกที่ค่อนข้างดีสำหรับผู้ประกอบการและแรงงานของสหรัฐ

เพราะหมายถึง กำลังซื้อมหาศาลของผู้บริโภคในเอเชียจะช่วยทำให้ตัวเลขการส่งออกของสหรัฐกระเตื้องขึ้น โดยประธานาธิบดีโอบามา เปิดเผยว่า ในช่วง 9 วันของการเดินทางมาเยือนเอเชียนี้ ข้อตกลงทางการค้าที่ได้มีการหารือนั้นน่าจะสามารถสร้างงานในสหรัฐได้มากกว่า 1.3 แสนตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้โบอิ้ง บริษัทผลิตเครื่องบินชั้นนำของโลก และจีอี บริษัทผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์สามารถส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าการส่งออกของสหรัฐให้สูงมากถึง 3.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ การส่งออกที่เพิ่มมากขึ้นนี้ยังหมายรวมถึงสินค้าที่สหรัฐอยู่ในฐานะเจ้าตลาดอย่างยุทโธปกรณ์และอาวุธทางทหาร ซึ่ง 7 ใน 10 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตอาวุธล้วนเป็นของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ภูมิภาคเอเชียกำลังตกอยู่ในความตึงเครียดกรณีพิพาทเหนืออาณาเขตทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสายสำคัญ และอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาตินานาชนิด

บทวิเคราะห์ด้านการซื้อขายอาวุธของสหรัฐในซีเอ็นเอ็นระบุว่า ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกอาวุธของสหรัฐกระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ในช่วงปี 2553-2554 รัฐบาลฟิลิปปินส์ตัดสินใจซื้อเรือลาดตระเวนมือสองจากสหรัฐมูลค่าสูงราว 9,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ไต้หวันซื้อฝูงบินเอฟ-16 มูลค่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และอินโดนีเซียได้ซื้อเครื่องบินรบและเครื่องบินลำเลียงที่คิดเป็นมูลค่าสูงถึงหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การค้าอาวุธกับมาเลเซียก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่กลายเป็น 1 ใน 10 ประเทศผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ของโลก

1AB76FF2D1D2412BBC18002178054215.jpg

ข้อมูลที่ได้ส่งผลให้ซีเอ็นเอ็นคาดการณ์ว่าภายในปี 2554 สหรัฐจะได้รับเงินจากการค้าอาวุธทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 4.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2553

เรียกได้ว่า ทั้งหมดทั้งมวลล้วนส่งผลดีต่อการส่งออกโดยรวมของสหรัฐทั้งสิ้น และยิ่งมีการผลิตเพื่อการส่งออกมากเท่าใด ย่อมหมายถึงตัวเลขการว่างงานที่น้อยลง เพราะมีการจ้างงานมากขึ้นเพื่อให้การผลิตทันการส่งออก

อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งต่างมองว่า การที่สหรัฐห่างหายจากภูมิภาคนี้ไปนาน ส่งผลให้สหรัฐไม่ใช่พี่ใหญ่ในภูมิภาคอาเซียนอีกต่อไป

ทั้งนี้ ในปี 2553 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาเซียน ก็คือจีน ขณะที่อาเซียนเองก็เป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของจีน โดยมีการส่งออกสินค้าไปจีนเพิ่มขึ้น 39% อยู่ที่ 1.135 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สหรัฐกับอาเซียนต่างเป็นคู่ค้าระหว่างกันในอันดับที่ 4 ทั้งคู่

สภาพการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้สหรัฐจำต้องหาทางสกัดอิทธิพลของจีนไม่ให้มีมากจนเกินไป เห็นได้จากการที่สหรัฐกล่าวหาจีนเรื่องนโยบายค่าเงินหยวน และท่าทีที่หันไปสนับสนุนประเทศที่มีปัญหาพิพาทกับจีนเรื่องอาณาเขตทะเลจีนใต้อย่างเปิดเผย จนจีนต้องรีบออกมากระแอมเตือนประเทศต่างๆ ในอาเซียนว่า หากเห็นดีด้วยกับสหรัฐในการที่จะงัดข้อกับจีน อาจเสียผลประโยชน์มูลค่ามหาศาลได้อย่างไม่ยากเย็น

ทว่า การที่สหรัฐประกาศหยิบยกประเด็นพิพาททะเลจีนใต้ขึ้นมาคุยในเวทีประชุมเอเชียตะวันออก และเลือกที่จะเคียงข้างประเทศที่มีปัญหาขัดแย้งกับจีนอย่างเปิดเผย ล้วนเป็นการส่งสัญญาณให้โลกรู้ว่า สหรัฐพร้อมที่จะกลับมามีบทบาทและอำนาจในอาเซียนอีกครั้ง

แน่นอนว่า ผลลัพธ์ที่หวังไว้ ก็ไม่ใช่อื่นใด นอกไปจากผลประโยชน์ของชาติ

ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ด้วยตัวเลขจีดีพีของบรรดา 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนบวกกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ คิดเป็นจำนวนที่สูงถึง 21% ของจีดีพีโลก และเมื่อรวมประเทศภาคีอย่างออสเตรเลีย อินเดีย นิวซีแลนด์ รัสเซีย และสหรัฐเข้าไปร่วมด้วยแล้ว จะมีจีดีพีสูงถึง 56% นี้ นับเป็นเดิมพันยิ่งใหญ่ที่คุ้มค่าสำหรับสหรัฐ ท่ามกลางหนทางฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศที่แสนจะริบหรี่

เป็นเดิมพันที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับอนาคตของสหรัฐ แต่อาจจะวุ่นวายและตึงเครียดที่สุดสำหรับภูมิภาคอาเซียน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

เพราะมากครับ ขอบคุณคุณหมอเล็กด้วยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"ปืนใหญ๋" อาร์เซน่อล ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้สุดยอดในลีกเมืองผู้ดีขณะนี้จะส่งขุมกำลังทัพใหญ่ลงฟาดแข้งเพื่อหวังซิวชัยโดย "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กัปตันจอมถล่มประตูจะนำทัพ เกมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูงลีกเมืองเบียร์ ที่จะสู้เต็มสูบเช่นกันเพื่อเก็บแต้มและรักษาความหวังในการผ่านเข้ารอบต่อไป ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ. คืนวันพุธที่ 23 พ.ย. ศกนี้

 

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ.

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554

อาร์เซน่อล - ดอร์ทมุนด์

 

 

อาร์เซน่อล

 

เดอะ กันเนอร์ส จ่าฝูงกลุ่ม เอฟ ของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องการเอาชนะให้ได้ในเกมนี้ เพื่อการันตีตั๋วผ่านเข้ารอบน็อคเอ๊าต์โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร

 

เวนเกอร์ เพิ่งพาทีมบุกไปชนะ นอริช 2-1 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นชัยชนะนัดที่ห้าติดต่อกันในลีก โดยเกมวันพุธนี้ กุนซือชาวฝรั่งเศส ยังต้องลุ้นว่า สองฟูลแบ๊กอย่าง คีแรน กิ๊บบ์ส (ใส้เลื่อน) และ คาร์ล เจนกินสัน (หลัง) จะไหวหรือไม่

 

ส่วนสองกองกลาง เรียว มิยาอิชิ (ข้อเท้า), อาบู ดิยาบี้ (เอ็นหลังหัวเข่า) และพวกที่เจ็บยาวอย่าง แจ็ค วิลเชียร์ กับ บาการี่ ซานย่า (ข้อเท้าทั้งคู่)

 

แต่ขุมกำลังอื่นๆ ถือว่า เวนเกอร์ มีตัวเลือกชุดใหญ่ให้เลือก โดยแนวรับมี โธมัส แฟร์มาเล่น กองหลังทีมชาติเบลเยี่ยม บัญชาการ ขณะที่แดนกลาง โทมัส โรซิชกี้ มีลุ้นลงเผชิญหน้าทีมเก่าตัวเอง ส่วนแนวรุกนำโดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงกัปตันทีมฟอร์มฮอตกับ ธีโอ วัลค็อตต์ เช่นเดิม

 

 

ดอร์ทมุนด์

 

ฟาก เสือเหลือง ยอดทีมจากบุนเดสลีกา ของเทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ขอไม่แพ้เพื่อรักษาความหวังในการผ่านเข้ารอบเอาไว้ต่อไปให้ได้ในการมาเยือน เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม

 

 

คล็อปป์ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมจาก เนเว่น ซูโบติช กองหลังจอมแกร่งที่ส่อแวววืดจนถึงช่วงปีใหม่ หลังไปผ่าตัดศัลยกรรมแผลบนใบหน้าที่ได้รับในเกมกับ โวล์ฟสบวร์ก เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

 

เชื่อว่า เทรนเนอร์จอมแท็กติก จะยึดทัพชุดที่ทำได้ดีในการบุกขย่ม บาเยิร์น มิวนิค 1-0 ในศึก บุนเดสลีกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อไปในระบบ 4-2-3-1

 

เซบาสเตียน เคห์ล กัปตันทีมรับบทตัวโฮลด์บอล ขณะที่ มาริโอ เกิตเซ่ ดาวรุ่งทีมชาติเยอรมัน และ ชินจิ คากาวะ มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น ปั้นเกมรุกหลังหอกเป้าดาวซัลโวประจำทีมอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : วอจเซียจ เชสนี่ - โยฮัน ฌูรู, โธมัส แฟร์มาเล่น, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, อังเดร ซานโต๊ส - อเล็กซ์ ซง, มิเกล อาร์เตต้า - ธีโอ วัลค็อตต์, โทมัส โรซิชกี้, แชร์วินโญ่ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

 

เทรนเนอร์ : อาร์แซน เวนเกอร์

ดาวซัลโว : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 14 ประตู (ในลีก 13)

ผู้เล่นบาดเจ็บ : คีแรน กิ๊บบ์ส (ใส้เลื่อน), คาร์ล เจนกินสัน (หลัง), อาบู ดิยาบี้ (เอ็นหลังหัวเข่า), เรียว มิยาอิชิ, แจ็ค วิลเชียร์ และ บาการี่ ซานย่า (ข้อเท้าทั้งหมด)

 

 

ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - ลูคัสซ์ ปิตซ์เซ็ค, เฟลิเป้ ซานตาน่า, มัตส์ ฮัมเมลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - สเวน เบนเดอร์, เซบาสเตียน เคห์ล - มาริโอ เกิตเซ่, ชินจิ คากาวะ, เควิน โกรสส์ครอยต์ซ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

ดาวซัลโว : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 9 ประตู (ในลีก 8)

ผู้เล่นบาดเจ็บ : เนเว่น ซูโบติช (ใบหน้า)

 

ผู้ตัดสิน : ฟร้องค์ เดอ บลีคเคียร์ (เบลเยี่ยม)

 

 

เกล็ดข้อมูลที่น่าสนใจ

อาร์เซน่อล (อังกฤษ) - ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน)

- อาร์เซน่อลจะผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มทันที ถ้าหากว่าเอาชนะเกมนี้ ขณะที่ดอร์ทมุนด์จะตกรอบทันทีถ้าหากแพ้ แล้วมาร์กเซยเก็บผลเสมอได้เป็นอย่างน้อย

- หากชนะเกมนี้จะทำให้อาร์เซน่อลผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน

- เมื่อฤดูกาล 2002-03 ทั้งสองทีมเคยอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันมาแล้ว และนั่นเป็นปีสุดท้ายที่ดอร์ทมุนด์ผ่านเข้าแข่งชปล. (ผลการแข่งขัน อาร์เซน่อลชนะเหย้า 2-0 ดอร์ทมุนด์ชนะเหย้า 2-1)

- 5 นัดหลังสุดที่อาร์เซน่อลเล่นฟุตบอลสโมสรในบ้านพบกับสโมสรเยอรมัน ปรากฎว่าชนะรวด

- ดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1966 ด้วยการเอาชนะลิเวอร์พูล 2-1

- นอกจากนี้เมื่อฤดูกาล 1996-97 ที่ดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์ชปล.ก็เอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดในรอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งเหย้าและเยือน

- หากรวมรอบคัดเลือกชปล.ที่เอาชนะอูดิเนเซ่เข้าไปด้วย ทำให้ตอนนี้อาร์เซน่อลไม่แพ้ 12 นัดหลังสุดเกมยุโรปในบ้าน(ชนะ 8 นัดรวดหลังสุด)

- ทีมสุดท้ายที่บุกมาเอาชนะอาร์เซน่อลในรอบแบ่งกลุ่มได้ก็คือ อินเตอร์ มิลาน (3-0 ที่ไฮบิวรี่) เมื่อ 17 กันยายน 2003

- โทมัส โรซิชกี้ ของอาร์เซน่อลเคยเล่นให้ดอร์ทมุนด์ระหว่างปี 2000-2006 (เล่นบุนเดสลีกา 149 นัด 19 ประตู) ก่อนย้ายมาอยู่กับอาร์เซน่อล

- ดอร์ทมุนด์เป็นสโมสรแรกของเยอรมันที่คว้าแชมป์ชปล. (1997) ขณะที่อาร์เซน่อลเป็นสโมสรแรกของลอนดอนที่เคยผ่านเข้าชิงชปล.(2006)

- อาร์แซน เวนเกอร์ เคยนำทีมผ่านเข้าชิงบอลยุโรปครบทั้งสามรายการ (ชปล., คัพ วินเนอร์ส คัพ และยูฟ่า คัพ) แต่ว่าแพ้ในนัดชิงทั้งหมด

 

ที่มา : gunnerthailand

post-2297-0-44684800-1322015311.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...