เกาะกระแสทองคำทะยานฟ้ากับ Mr.Bullish

[patcharin 51]

การขึ้นไม่แข็งแกร่งหรือหมดแรง นี่มีวิธีดูได้หลากหลายครับ แต่ที่ค่อนข้างจะชัดเจนคือ

1. แท่งเทียนสั้นลงเมื่อใกล้แนวต้าน หรือฝ่าไปได้แต่เกิดไส้เทียนยาวๆขึ้นจบแท่งเทียนด้วยลักษณะแบบนั้น แทนที่จะฝ่าทะลุไปในแท่งเดียว

2. ขึ้นไปเทสแนวต้านหลายครั้ง แต่ไม่ผ่าน หลังจากนั้นรูดกลับลงมายาวๆ

3. sto (5,3,3) ขึ้นไปแนวoverbought ขนานกับ (14,3,3) แล้ว(5,3,3)เกิดอาการท้อย้อยลงมาก่อน ลากเอา (14,3,3)ตามลงมาภายหลัง

4. RSI ตัวที่โชว์ความแข็งแกร่งของคลื่น ต่ำกว่า50 และผ่านไปไม่ได้

5. แท่งเทียนของ MACD มีอัตรายาวขึ้นที่น้อยลง

6. เกิด lower high ขึ้น หรือ เกิด divergence ขึ้นในอินดี้ เช่น sto RSI MACD

 

ลองไปหัดดูเท่านั้นก่อนนะครับ

 

ส่วนไฟล์รูปที่ส่งมา ไฟล์แรกเป็นช่วงเวลาที่กว้างเอามากๆ เส้นต่างๆคาไว้ได้แต่ควรซูมเข้าไปให้มากกว่านี้ เพราะผมเชื่อว่าการลงทุนของคุณมดแดงส่วนใหญ่ในพอร์ตไม่น่าจะถือของเกิน 1ปีครับ ช่วงซูมแบบนี้จึงยาวเกินไปต่อการลงทุนที่ควรจะเป็น เส้นต่างๆที่ใส่มาส่วนใหญ่ก็เป็นเส้นหลักๆครับที่ใช้พิจารณาได้

 

รูปที่สอง ลำแสงเยอะเกินไปราคาวิ่งไปทางไหนก็ติดไปหมด ทำให้เราไม่สามารถโฟกัสได้ว่าเป้าหมายควรจะอยู่ตรงไหน อันที่ไม่น่าจะสำคัญมากตัดออกบ้างก็ได้ครับ พยายามมองหาเส้นทางหลักที่ราคาวิ่งไปให้เจอ ลองดูจาก PPT ในสัมมนาได้ครับว่า การหาเส้นหลักนั้นทำได้อย่างไร กูรูทั้งหลายได้ชี้แนะไว้แล้ว

 

"เทคนิคไว้ช่วยคลำทาง ราคาเป้าหมายเอาไว้ออกแบบกลยุทธ์การจัดพอร์ต(กลยุทธ์เป็นตัวที่ทำให้เราได้ตังค์หรือเสียตังค์)" ตามนั้น

 

 

 

ช่วงrebound นั้น

1. ต้องนับคลื่นEWให้ได้ก่อนนะครับว่าตอนนี้ทำคลื่นอะไรอยู่ ตรงนี้สำคัญที่สุด

2. ลองตีเส้นchannelและวาดเส้นfiboให้ได้เพื่อดูว่าขอบเขตของการรีบาวน์น่าจะไปถึงตรงไหน

3. ใช้วิธีการดูอินดี้เอาว่าตอนนี้การรีบาวน์ อ่อนแรงลงไหม ใกล้จะกลับตัวลงหรือยัง กำลังคลื่นเป็นอย่างไรบ้าง วิธีการดูว่าการพุ่งของราคาอ่อนแรงลงที่อธิบายข้างต้นก็เป็นวิธีนึงที่ใช้ดูประกอบครับ

 

 

 

ตรงนี้จากประสบการณ์ที่ผมเคยเจอมา อาจเป็นไปได้ว่า

1. ตลาดส่วนนึงได้รับข่าวตรงนั้นมาก่อนแล้วทำให้ตลาดทำการปรับตัวลงก่อนมาพอสมควร ไม่เหมือนกับข่าวที่อยู่โผล่พรวดมา จะทำให้เกิดpanic sellได้

2. ตลาดอีกส่วนนึงต้องการเวลาในการคิดว่า จะเอายังไงกับชีวิตดี ผมเคยเจอแบบว่าประกาศข่าวไปแล้ว ยังไม่มีผลในทันทีแต่มีผลเกิดขึ้นในวันถัดมา อาจจะเป็นเพราะการรับข้อมูลข่าวสารของแต่ละคนความไวไม่เท่ากัน หรืออาจจะคิดว่าข่าวยังไม่กรองก็ได้ครับ (ข่าวจีนนี่เป็นข่าวที่ยึกยักข่าวนึง เดี๋ยวทำเดี๋ยวไม่ทำ) อย่างเมื่อเช้าผมไปดูสำนักข่าวทั่วไปยังไม่ลงข่าวคึกโครมเรื่องจีนขึ้นดอกเบี้ย แต่ พอเช็คๆๆๆ ปรากฏว่าเริ่มมีลงข่าวกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ

 

 

ขอบคุณคุณBullishคร้า อธิบายละเอียดดีจัง ได้ความรู้เพิ่มขึ้นคร้า

[bullish 272]

วันนี้เงียบเหงาจังฮู้

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 21, 2010 โดย bullish

[moshi 9]

มาส่งเสียงครับ .. ขอบคุณเรื่องวิธีดูกราฟครับ ได้อานิสงฆ์ไปด้วย

[อันอัน 12]

วันนี้เงียบเหงาจังฮู้

แอบดูอยู่ค่ะ

[patcharin 51]

แอบดูเหมือนกันคร้า :P

 

 

[NongRee 4,028]

สวัสดีค่ะ Khun Bullish ขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยคนค่ะ เออ..ขออนุญาติ Link ให้น้องๆ อ่านในร้านกาแฟด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากมากค่ะ (มัดมือชก) !thk !thk

[malisa 1]

แอบด้วยอีกคนคะ

[kingdom1234 21]

เพิ่งมาตามอ่านคับ ขอบคุนมากๆๆๆเลยครับ เด่วพุ่งนี้เช้าก็ตื่นมาอ่านอีก

อ้อ เด่วต้องไปตามอ่านกระทู้คุณเน๊กอีก ยังไม่ได้่อ่านเลย แอบง่วงละ เอ้อออ

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 21, 2010 โดย AunTonio

[mayany 7]

มารอการวิเคราะห์ของคุณบลูต่อคะ

[moddang 3,625]

สวัสดีค่ะ

 

เช้านี้กลับมาทบทวน และอ๋อ..เห็นแล้วค่ะ...ถึงแม้จะไม่ทั้งหมด..เพราะแท่งเทียนวันนี้ไส้เทียนยาวแยะไปหมดในรายชั่วโมง

 

การขึ้นไม่แข็งแกร่งหรือหมดแรง นี่มีวิธีดูได้หลากหลายครับ แต่ที่ค่อนข้างจะชัดเจนคือ

1. แท่งเทียนสั้นลงเมื่อใกล้แนวต้าน หรือฝ่าไปได้แต่เกิดไส้เทียนยาวๆขึ้นจบแท่งเทียนด้วยลักษณะแบบนั้น แทนที่จะฝ่าทะลุไปในแท่งเดียว

2. ขึ้นไปเทสแนวต้านหลายครั้ง แต่ไม่ผ่าน หลังจากนั้นรูดกลับลงมายาวๆ

3. sto (5,3,3) ขึ้นไปแนวoverbought ขนานกับ (14,3,3) แล้ว(5,3,3)เกิดอาการท้อย้อยลงมาก่อน ลากเอา (14,3,3)ตามลงมาภายหลัง

4. RSI ตัวที่โชว์ความแข็งแกร่งของคลื่น ต่ำกว่า50 และผ่านไปไม่ได้

5. แท่งเทียนของ MACD มีอัตรายาวขึ้นที่น้อยลง

6. เกิด lower high ขึ้น หรือ เกิด divergence ขึ้นในอินดี้ เช่น sto RSI MACD

 

ลองไปหัดดูเท่านั้นก่อนนะครับ

 

[nuchaba 987]

มารอคุณ Bull ค่ะ

[kingdom1234 21]

นั่งรออยู่คร้าบ

[boom_b-b 6]

รอครับนานแค่ไหนก็จารอ

[patcharin 51]

รอด้วยคร้า

[bullish 272]

สวัสดีหัวค่ำวันจันทร์ครับทุกๆคน

 

วันนี้ภาคกลางวัน ราคาทองคำไม่ได้ต่างกับที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันเสาร์นัก คือราคาขึ้นแบบระมัดระวัง หรือ ไม่แข็งแกร่งนั้นเอง พอตลาดลอนดอนเคาะระฆัง ฝรั่งหัวแดงเห็นราคาถูกดันขึ้นไปถึงเป้าหมายแรกที่ 1365 ก็พากันเทขายจนราคามาถึง 1352 ในตอนนี้ต้องดูว่า 1351 หรือเทรนขึ้นสีฟ้าจะรับอยู่ไหม

 

ตกลงข่าวจีนกรองแล้วคือขึ้นเพดานสำรองธนาคารพาณิชย์นะครับ ไม่ใช่ขึ้นดอกเบี้ยอย่างที่เข้าใจกัน มาตรการนี้เป็นมาตรการจัดการเงินเฟ้ออย่างอ่อน และตลาดรับรู้ข่าวเรื่องความพยายามจัดการเงินเฟ้อของจีนมาสักระยะแล้ว จึงไม่ทำให้ตลาดเกิดการตกใจแต่อย่างใด และไม่ส่งผลลบต่อราคาทองคำมากนัก (ตามที่เคยกล่าวไว้ว่าเศรษฐกิจจีนนั้นยังแข็งแกร่งมีวิธีการจัดการปัญหาได้หลายวิธีไม่เหมือนอเมริกา) โมเมนตัมระยะสั้นตอนนี้ยังไม่แสดงผลชัดเจนว่าจะเทไปทางด้านใดด้านหนึ่ง MA ระยะสั้นและระยะกลางยังคงรักกันรวมตัวเป็นกำ ถ้าเลือกทางได้น่าจะพุ่งอย่างแรง ขณะนี้ยังเข้าเทรนขึ้นเหลืองไม่ได้แต่ก็ไม่หลุดแนวรับสำคัญลงไป ดังนั้นก่อนหน้านี้ปรับฐานมาอย่างไรก็ยังปรับฐานกันต่อไปก่อน จนกว่าจะมีอะไรมาเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง จากกราฟจะมองเห็นชัดเจนว่ากรอบการเคลื่อนไหวนั้นอยู่ในแนว 1351-1365 โดยที่ฝ่าแนว fibo สองแนวนี้ หรือ เทรนขึ้นสีเหลืองไปไม่ได้ (อย่างไรก็ตาม ยังจะเตือนเพื่อนๆนักลงทุนอยู่นะครับ สำหรับปัจจัยการทุบราคาของขาใหญ่จากการปิดสัญญาต่างๆ สองวันนี้ให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง)

 

ในด้านเทคนิค

ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนักจากวันเสาร์ เพียงแต่ตอนนี้อาจจะเสียวหน่อยเพราะมันกำลังเทสแนวรับอยู่ ขณะที่ดอลล่าร์ได้หลุดเทรนลงขึ้นไปอีกแล้ว ยูโรและทองคำถูกกดดันอย่างหนัก

 

กราฟทอง

กราฟดอล

กราฟยูโรดอล

 

บาทอยู่แถวๆนี้แหละ 29.9x ไม่ได้ไปไหนมาช่วงนึงแล้ว

 

มุมมองส่วนตัว ยังไม่ได้เปลี่ยนจากวันเสาร์มากนะครับ คือ 1365-1376 จะเป็นจุดจบของคลื่น B ได้ และให้ระมัดระวังการลงทุนในวันสองวันนี้เพราะมีปัจจัยด้านมืดอย่างการทุบราคาอยู่ พรุ่งนี้จะมีการพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือกรีซรอบสาม ผลนั้นสุดจะคาดเดาเพราะว่าสถานการณ์ของกรีซเองก็ไม่ได้ดีขึ้น เงื่อนไขที่ยูโรตั้งไว้ก็่ไม่ได้ตามเป้า

 

ประกาศสำคัญพรุ่งนี้

22.00 ยอดขายบ้านมือสองในอเมริกาลดลง คาด 4.5ล้านยูนิต จากเดิม4.53ล้านยูนิต

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 22, 2010 โดย bullish