โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[MOR LEK 2,835]

มาร์ตินออกมาเตือนว่าถ้าราคาทองคำปี ๒๐๑๒ ปิดต่ำกว่า ๑๕๗๐

จะเป็นสัญญาณว่ามีโอกาสกลับลงมาทดสอบแนวรับหลักที่ ๑๔๓๕

 

ที่มา http://anonym.to/?ht...old-watch-1570/

หุหุ ให้มันรู้ไปว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน เจ้ามือจะทุบอีกร่วมร้อยดอลล์(ต่ำกว่า 1570)

[mdaddy 2,443]

 

มาร์ค ฟาร์เบอร์ ให้สัมภาษณ์กับรายการข่าว ซีเอ็นบีเอส

เปิดให้การสัมภาษณ์ด้วยการบอกว่า ทุกครั้งที่เขารู้สึกหดหู่

การได้มาให้สัมภาษณ์กับช่องดังกล่าวทำให้เขารู้สึกดีขึ้น เพราะ

ช่องนี้มีความเชื่อมั่นในตลาดมาก (ซีเอ็นบีเอส เป็นหน้าม้า ให้กับเจ้ามือ)

 

สิ่งที่เขาพูดไว้ได้น่าสนใจก็คือ เขาบอกว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติทางการเงินน้อยที่สุด

 

http://www.youtube.com/watch?v=IXW5g7PhbTE

ถูกแก้ไข ธันวาคม 24, 2012 โดย wcg

[milo 888]

เจ้พรยังไม่เข้ามา มีแต่เจ้จง

 

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39333

 

ผ่าบทสรุป “เก็งกำไรทองคำ” ของ “โด่ง” องอาจ สิงห์ลำพอง ผอ.ช่อง 8 ณ อาร์เอส “เจ๊จง” จงใจ กิจแสวง เจ้าของร้านหมูทอด ทั้งปี เก็บ "กำไร" จุ๋มจิ๋ม

[MOR LEK 2,835]

ดูเล่นๆครับ

 

 

http://blogs.stockch...ye-on-gold.html

[MOR LEK 2,835]

หลังจากทำ QE มาหลายครั้งธนาคารกลางของญี่ปุ่นก็ซื้อพันธบัตรของรัฐทะลุ 100ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรก

แล้วในปีหน้าตั้งเป้าว่าจะซื้อเพิ่มอีก 44 ล้านล้าน หุหุ หนี้บาน

 

BOJ Holdings of JGBs Exceed 100 Trillion Yen for First Time

 

The central bank held 104.9 trillion yen of the debt at the end of September, 11.1 percent of all government bonds

The central bank said it will buy 44 trillion yen of bonds by the end of next year through the asset-purchase fund, equal to the amount of new government bonds issued this fiscal year.

http://www.bloomberg...first-time.html

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

หวั่นUSไม่พ้น“หน้าผาการคลัง” รีพับลิกัน-เดโมแครตสาดโคลนใส่กัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2555 00:31 น.

 

 

โอบามา ต้องเร่งมือแก้ไขวิกฤตตัดลดงบประมาณ

เอ เจนซี - สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯแสดงความกังวลกันมากขึ้นว่า อเมริกาจะไม่อาจรอดพ้นจาก “หน้าผาการคลัง” (fiscal cliff) ค่าที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วันก่อนสิ้นปี อันเป็นกำหนดเวลาที่มาตรการลดการใช้จ่ายและขึ้นภาษีเริ่มมีผลบังคับโดย อัตโนมัติ โดยที่ทั้งสองพรรคใหญ่ เดโมแครต-รีพับลิกัน ต่างพากันโทษกันและกันตามสไตล์

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่า มีแนวโน้มมากขึ้นที่เราจะต้องเผชิญหน้าผาการคลัง” โจ ลิเบอร์แมน วุฒิสมาชิกอิสระจากมลรัฐคอนเนตทิคัต ให้สัมภาษณ์รายการ “สเตท ออฟ ดิ ยูเนียน” ของซีเอ็นเอ็น เมื่อวันอาทิตย์ (23)

 

“ถ้าเรายอมให้สถานการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้น ก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ใหญ่โตมโหฬารที่สุดสืบเนื่องจากการไร้ความรับผิดชอบของ รัฐสภาในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว หรือกระทั่งอาจยังไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อเมริกัน แถมเรื่องนี้ยังทำท่าว่าจะลากยาวข้ามปี ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่ๆ ต่อเศรษฐกิจของประเทศ” เขากล่าวต่อ

 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาจากพรรคเดโมแครต และจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จากรีพับลิกัน สองผู้เจรจาสำคัญเพื่อหาทางไม่ให้สหรัฐฯต้องเผชิญ “หน้าผาการคลัง”นี้ ไม่มีนัดหารือกันในช่วงนี้ และต่างอยู่ระหว่างเดินทางไปฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่นอกกรุงวอชิงตัน ขณะเดียวกับที่รัฐสภาก็ปิดประชุม และเมื่อทุกฝ่ายกลับมาทำงานกันอีกครั้งหลังคริสต์มาส ก็จะมีเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก่อนถึงวันที่ 1 มกราคม

 

จากรายการสัมภาษณ์บุคคลในข่าวประจำช่วงวันอาทิตย์ ของเครือข่ายทีวียักษ์ใหญ่อเมริกันหลายๆ รายการในวันอาทิตย์(23)ที่ผ่านมา ไม่มีนักการเมืองคนใดส่งสัญญาณว่าจะยอมเปลี่ยนท่าทีซึ่งอาจนำไปสู่ทางออก ชั่วคราว แม้โอบามาแย้มว่า จะยินดีมากหากมีวิธีแก้ปัญหาระยะสั้น

 

โฟกัสขณะนี้เปลี่ยนไปที่การรับมือในช่วงเวลาหลังวันที่ 1 มกราคม เมื่อมาตรการลดภาษีประเภทต่างๆ ของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช สิ้นสุดลง ขณะเดียวกันมาตรการตัดลดงบประมาณกลาโหม และงบประมาณรายการอื่นๆ อย่างอัตโนมัติ ก็จะเริ่มมีผลบังคับใช้

 

จอห์น บาร์รัสโซ วุฒิสมาชิกจากรีพับลิกัน กล่าวทางรายการของ ฟ็อกซ์ นิวส์ว่า โอบามาอยากให้อเมริกาเผชิญวิกฤตหน้าผาการคลัง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตนเองได้รับชัยชนะทางการเมือง

 

สมาชิก รีพับลิกันอื่นๆ บางคนก็ขานรับว่า โอบามาพอใจกับการหมดอายุของมาตรการลดภาษีตลอดจนการตัดลดงบประมาณราย จ่ายอย่างอัตโนมัติเหล่านี้ ดังที่เรียกกันว่าเป็น ภาวะหน้าผาการคลัง โดยที่พวกเขากล่าวว่าโอบามามองเรื่องนี้ว่าเป็นโอกาสที่จะได้โยนความผิดไป ที่รีพับลิกัน ซึ่งปฏิเสธการทำความตกลงกับเขา ถึงแม้ทางด้านทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้แล้วก็ตาม

 

ในทางกลับกัน ชาร์ลส์ ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกเดโมแครตกล่าวผ่านรายการ "มีท เดอะ เพรสส์" ของเครือข่ายเอ็นบีซี กล่าวหา โบห์เนอร์ ว่ากำลังพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้บรรลุข้อตกลงกับโอบามาก่อนวันที่ 3 มกราคม โดยที่ในวันดังกล่าวคือวันซึ่งสมาชิกสภาล่างชุดใหม่ที่ได้รับเลือกตั้งเข้า มาเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง และจะมีการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่

 

ฝ่าย เดโมแครตกล่าวหาว่า โบห์เนอร์ ไม่ต้องการให้ตนเองมีภาพลักษณ์ในทางอ่อนข้อต่อโอบามา ซึ่งอาจกระทบกระเทือนต่อการได้รับเลือกเป็นประธานสภาอีกสมัย ทว่า โบห์เนอร์ ยืนยันว่า ไม่เคยคิดเรื่องดังกล่าว และโดยข้อเท็จจริงแล้ว พวกนักวิเคราะห์การเมืองก็ยังมองไม่เห็นว่าจะมีคู่แข่งขันที่น่ากลัวใดๆ กำลังจะมาท้าชิงกับโบห์เนอร์

 

การสาดโคลนกันไปมาเช่นนี้ ปะทุขึ้นตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนที่แล้ว แต่เพิ่งจะมาดุเดือดในช่วงไม่กี่วันนี้ หลังจากมีแนวโน้มมากขึ้นว่า วิกฤตหน้าผาการคลังจะเกิดขึ้นแน่ๆ

 

รัฐสภาสหรัฐฯเริ่มนับถอยหลังเข้าสู่ภาวะหน้าผาการคลังตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2011 ถึงแม้ในตอนนั้นจะมองการณ์กันในแง่ดีว่า ความเสี่ยงที่จะต้องมีการลดงบประมาณรายจ่ายอัตโนมัติ บวกกับการยุติมาตรการลดภาษี รวมแล้วเป็นมูลค่าราว 600,000 ล้านดอลลาร์ จะบีบบังคับให้ทำเนียบขาวที่ควบคุมโดยเดโมแครต และสภาล่างที่รีพับลิกันครองอยู่ ยอมประนีประนอมกันผ่านแผนการยืดอายุการลดภาษีให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ตลอดจนควบคุมการใช้จ่ายของภาครัฐให้รัดกุมมากขึ้น

 

นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ถ้ายังไม่มีการขยับทำอะไรกันแล้ว การขึ้นภาษีและตัดลดงบประมาณรายจ่ายที่เกิดจากหน้าผาการคลัง น่าจะทำให้เศรษฐกิจอเมริกาเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

 

ทั้งนี้ หากรัฐสภาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงอะไรกันแล้ว อเมริกันชนเกือบทุกคนจะถูกเรียกเก็บภาษีรายได้ในอัตราสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2013 ขณะที่สวัสดิการการว่างงานที่เดโมแครตหวังต่ออายุ จะสิ้นสุดลงพร้อมกัน

 

ภายในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม รัฐสภายังจะสามารถรีบเร่งบรรลุข้อตกลงเรื่องภาษีและการตัดลดงบประมาณรายจ่าย อัตโนมัติ 109,000 ล้านดอลลาร์สำหรับปีหน้า ซึ่งเป็นที่สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ต่างต้องการหลีกเลี่ยงกันทั้งนั้น

 

มีสมาชิกรัฐสภาบางคนคาดหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงระยะสั้นกันภายในสัปดาห์นี้หรือหลังจากนั้น เล็กน้อย เพื่อจะได้เลี่ยงการต้องตัดลดงบประมาณรายง่ายโดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงค่อยมาเจรจาทำข้อตกลงในเรื่องประเด็นระยะยาวกันในปีหน้าต่อไป

 

กระนั้น ข้อตกลงระยะสั้นจะต้องได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองฝ่าย ทว่า โอบามาประกาศแล้วว่า หากข้อตกลงใดๆ ก็ตามไม่มีการบรรจุมาตรการขึ้นภาษีกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดเอาไว้ด้วยแล้ว เขาก็จะใช้อำนาจยับยั้ง

[thoney87 92]

ขอบคุณครับ คุณส้มโอมือ และ คุณ MOR LEK

[ส้มโอมือ 4,910]

หุหุ ให้มันรู้ไปว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน เจ้ามือจะทุบอีกร่วมร้อยดอลล์(ต่ำกว่า 1570)

 

ทุบอีก100เหรียญในเวลาไม่กี่วัน ถ้าท่านเจ้าสัวไม่พยักหน้าเปิดทางให้ น่าจะยากครับ

[MOR LEK 2,835]

ทุบอีก100เหรียญในเวลาไม่กี่วัน ถ้าท่านเจ้าสัวไม่พยักหน้าเปิดทางให้ น่าจะยากครับ

 

อิอิ คงไกล้ได้เสียเต็มทีแล้วครับเพราะพอตลาดที่เซี่ยงไฮ้เปิดราคาทองมันต่างจากที่เมกามาก ทำให้คนซื้อที่เมกาเอาของไปขายที่เซี่ยงไฮ้ ไม่นานเมกาคงทองหมด ไม่ก็ต้องมีเรื่องก่อนแน่ๆ

I have no doubt that the Chinese wish to back their yuan currency with gold. They have surplus USA dollars on their shelf. What better way to obtain gold from the comex and LBMA is through arbitrage where an investors buys gold at the comex, seeks delivery and then jets over the gold via a rented plane to Shanghai where the investor had simultaneously sold short the higher priced gold in Shanghai. It would not take long to bankrupt the comex.

 

The Shanghai Gold Contract Arbitrage Potential

Jim Willie CB

www.goldenjackass.com

 

THE STAGE IS SET FOR ARBITRAGE OF THE HIGHER SHANGHAI GOLD PRICE. A SNAPSHOT OF DECEMBER 7TH REVEALS THE DIFFERENTIAL. THE POTENTIAL FOR ARBITRAGE EXISTS, WHICH COULD CONCEIVABLY WRECK THE C.O.M.E.X. BY DRAINING IT. THE SUPPLY COULD GO TO SHANGHAI FOR SALE. OF COURSE, THE NEW YORK GANG COULD REFUSE TO MAKE DELIVERY, OR STEAL MORE CLIENT ACCOUNTS LIKE WITH MF-GLOBAL. THE PRICE SPREAD WILL EVENTUALLY BECOME A TOPIC FOR COMPLIANCE AND RISK DEPARTMENTS TO ADDRESS, AS THE MARKET WILL BE COMPELLED TO EXPLAIN THE DISCREPANCY FROM A CORRUPT MARKET IN THE UNITED STATES.

Thanks to the London Siren for reporting on the price differentials between the COMEX and Shanghai Gold price, which are not minor. A price arbitrage of $20 to $25 is plenty to capture and to exploit. Consider a snapshot taken on December 7th. The Shanghai Gold contract closed at 1728. At no point did the Gold price on the COMEX/Globex trade at that level overnight, no touch. Alert parties with a global footprint will start arbitraging this differential, since they can. They could sell gold in Shanghai, but buy gold on COMEX. Anyone doing that would essentially be going against the cartel with threat to bust the COMEX. The roadmap is there, which can be implemented for quick exploit. Some logistics could interrupt the process. If supply is taken in New York, the gold bars must be shipped to Shanghai for sale and delivery. That might cost must be managed in arbitrage, if indeed delivery is permitted and taken. The New York side might refuse to deliver if they see what is being done. They also might attempt to engineer a more targeted account theft if they could isolate the party conducting sales in Shanghai. It will be interesting to observe if the price differential expands.

Update with another snapshot taken on December 13th. The COMEX Gold futures contract was trading at 1691 at one point when the London Siren checked the price. The Shanghai Gold price closed at 1715. At no point did gold trade anywhere close to 1715 on COMEX overnight, no touch. The differential was $24 at that snapshot, equal to a tiny 1.4% spread. Note also, the COMEX Silver futures contract was priced on December 13th at 32.65, while at the India MCX it was 35.46, a very wide differential of 2.81 per ounce, equal to a ripe 8.6% spread. The COMEX Platinum also offers arbitrage potential, since the COMEX Platinum futures price was 1616, but in Shanghai at 1690. The dislocation between COMEX prices and Shanghai/India prices continues to grow, equal to a 4.6% spread. Execution of the arb trade is possible, just must be managed with certain challenges.

The London Siren made some conclusions. He wrote, "Some points are important to understand in sequence. 1) The Gold arbitrage is a tool that China can now use against JPM, GSax, USFed, USGovt, USTBonds anytime they want to cause a systemic failure. 2) They do not have to sell USTBonds as most people believe, since they now have an alternative weapon of mass financial destruction in the arbitrage. 3) China is now the price setter for gold. They would not start trading gold in Shanghai unless very confident about its success. 4) This is another step in making the Chinese Yuan a reserve currency, toward enabling its free convertiblity into Gold in size."

Thorny issues must be addressed eventually, which strike at the heart of the corruption behind the COMEX. Compliance and Risk Departments must determine which is the true market price, and at what price client positions are marked to market for equity determination and margin calls decisions. The logistics would not be any formidable challenge to a wealthy well-equipped merchant player in execution of arbitrage trades to exploit the price spread. A $25/oz spread translates to a $80.4k arbitrage potential gain per kilogram. A private jet could be secured to manage the transported bullion bars, loaded with several hundred kilograms. The key is actual delivery taken in the devil's den of New York. Sophisticated traders with big accounts and big vault space and assistant mules in both locations could conduct the arbitrage trades. However, unless physical bars move, the trades remain trapped within the paper world on the two sides, separated by a wall (two distinct markets) and ocean. Contracts are not interchangeable. Other risks would be from robbery by employed JPMorgan thugs or hired Blackrock thugs or dedicated FBI thugs working under the USGovt badges. If believed far-fetched, then naive to the core. The level of financial crime and protection by USGovt law enforcement and security agencies is astonishing, backed up by the US courts. The FBI protected Goldman Sachs when their UNIX box for snagging order flow data was stolen by the Russian employee. They painted the Russian as a theif and protected the venerable GSax putrid house.

ถูกแก้ไข ธันวาคม 25, 2012 โดย MOR LEK

[MOR LEK 2,835]

ก็อปฝรั่งมาเห็นสวยดี

May your days be merry and bold - and may all your Christmas's be GOLD.

 

[mdaddy 2,443]

ร่วมส่งความสุขเทศกาลนี้ด้วยภาพจาก วิลเลี่ยม บันไซ @ ซีโร่เฮดจ์

 

ที่มา http://anonym.to/?http://www.zerohedge.com/contributed/2012-12-25/merry-zero-hedge-christmas

ถูกแก้ไข ธันวาคม 26, 2012 โดย wcg

[mdaddy 2,443]

จากคอลัมภ์วิเคราะห์เศรษฐกิจ นสพ โพสท์ทูเดย์ ฉบับวันที่ ๒๖

 

"๒๕๕๖ สงครามค่าเงินโลก"

โดย คุณพันธสิทธิ เจริญพาณิชย์พันธ์

• (เกี่ยวกับเรื่องการพิมพ์เงิน) นายอาเบะย้ำว่า หากทุกอย่างดำเนินต่อไปเช่นนี้ ค่าเงินเยนของประเทศจะต้องแข็งค่าขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นญี่ปุ่นจำเป็นต้องออกมาตรการปกป้องตนเองบ้าง พร้อมเสนอว่าเงินเยนควรลดไปอยู่ที่ ๙๐ เยนต่อเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันที่ ๘๔.๗๘
  
• ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นครั้งนี้ ประเทศแรกที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงคือเกาหลีใต้ และคาดว่าอีกไม่นานนัก รัฐบาลกรุงโซลจะต้องออกมาตอบโต้อย่างแน่นอนเพื่อที่จะปกป้องความได้เปรียบในการแข่งขันของภาคธุรกิจเอาไว้
  
• ปัญหาสงครามค่าเงินอาจเป็นต้นเหตุนำไปสู่ภาวะสงคราม และการกีดกันทางการค้า ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกย้อนกลับไปเหมือนกับช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเกิดภาวะกีดกันทางการค้าอย่างรุนแรง จนทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงเวลานั้นชะลอตัวลงอย่างหนัก และเป็นตัวกดดันให้เกิดกระแสขวาจัด และลัทธิคลั่งชาติขึ้นในหลายๆประเทศ
  

 

อ่านแล้วนึกถึงเรื่องที่คุณเน็กซ์เล่าให้ฟัง และหนังสือ สงครามค่าเงิน ของ จิม ริคเคิร์ดส

เหมือนกับว่าเกมจะค่อยๆเดินไปในทางที่หนังสือเขียนไว้ โดยเฉพาะความมันมือของแต่ละประเทศ

ที่ต้องการทำลายค่าเงินของตัวเอง

[thoney87 92]

ขอบคุณครับ คุณ MOR LEK และคุณ Wcg :01

[luck 512]

ขอบคุณมากค่ะทุกๆท่าน