ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ไม่แน่ใจว่าจะมีผลกระทบอะไรมากหรือเปล่า เพราะไม่ใช่บ่อนใหญ่

แต่เอามาฝากไว้เป็นข้อมูลพิจารณาครับ

 

-----------------------------------------

 

ซ่างไห่ เสี่ยวหลงเปา โกลด์ เอ็กซ์เชนจ์ จะเพิ่มมาร์จินสัญญาทองคำจาก ร้อยละ ๑๒ เป็น ร้อยละ ๑๓ ในวันที่ ๒๘ นี้

ลิมิตราคาผันผวนได้ใน ๑ วันเพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๙ เป็น ร้อยละ ๑๐ (ถ้าราคาวันนี้ จากผันผวนได้บวกลบได้ ๑๕๐ จะกลายเป็นบวกลบได้ ๑๖๖ เหรียญ) ในวันที่ ๓๑

 

มาร์จินจะกลับมาที่อัตราเดิม ถ้าวันแรกของการเทรดในปี ๒๐๑๓ ปิดไม่ถึงลิมิต

 

นักวิแคะบอกว่าการปรับเพิ่มมาร์จินชั่วคราวครั้งนี้อาจจะทำให้นักลงทุนขายสัญญาออก เพราะต้องเติมเงินเพิ่ม

 

บ่อนซ่างไห่จะปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑ ถึงวันที่ ๓ มกรา

 

ในข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่าบ่อนอื่นๆก็มีการปรับเพิ่มมาร์จินชั่วคราวก่อนหยุดยาวเหมือนกัน

 

ที่มา http://www.bullionstreet.com/news/chinas-sge-to-raise-gold-margins-to-13/3662

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

 

27 ธันวาคม 2555

 

General News

------------------

 

• นักลงทุนทั่วโลก คาดการณ์ว่า สหรัฐจะประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาFiscal cliff ถึงแม้ว่าการเจรจาได้หยุดชะงักลงในขณะนี้ก็ตาม ทั้งนี้ โอบามา ได้ยกเลิกการพักผ่อนในฮาวายและเดินทางกลับสู่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff กับสภาคองเกรส

 

• สมาคมธนาคารจีน ชี้ว่า ผู้บริหารแธ.พาณิชย์ยังเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนนอนาคตที่สำคัญคือนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการปฏิรูปเชิงระบบ นอกจากนี้ อัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะต่ำกว่า 1% ในอีก 3 ปีข้างหน้า และสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) จะอยู่เหนือระดับ 10% ในสิ้นปีนี้

 

• การควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนจะยังดำเนินต่อไปจนถึงปีหน้าเพื่อกันไม่ให้เก็งกำไรมากไป แม้ว่านักลงทุนราว 28% จะขาดทุนอย่างมากจากการปรับตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนในปีที่ผ่านมา และมี 3% ที่ขาดทุนมากกว่า 30%

 

• BOJ มีแนวโน้มดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อเนื่อง เช่น การเข้าซื้อสินทรัพย์แบบไม่ระบุวันสิ้นสุดโครงการ ตามแรงกดดันจาก ชินโซ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ต้องการให้ BOJ ดำเนินมาตรการอย่างแข็งกร้าวยิ่งขึ้นในการแก้ไขภาวะเงินฝืด เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง

 

นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ รมว.คลัง จัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ได้หาเสียงไว้ โดยต้องไม่ทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นหลังสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือประกาศว่าอาจลดอันดับความน่าเชื่อเร็วๆนี้

 

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยเดือน พ.ย. มีผลผลิตเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน เนื่องมาจากการผลิตเภสัชภัณฑ์เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลง

 

• เวียดนามมีมูลค่าการลงทุนทางตรงจากต่างชาติ (FDI) ปีนี้ลดลง 15.3% มาอยู่ที่ 13 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตมีมูลค่าสูงที่สุด โดยมีสัดส่วนถึง 69.9% ของ FDI ทั้งหมด หรือกว่า 9.1 พันล้านดอลลาร์ และญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามมากที่สุดโดยมีมูลค่า 5.13 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 39.5% ของมูลค่า FDI

 

• บาร์เคลย์ส รีเสิร์ช คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัว 6.3% ในปีหน้าซึ่งเป็นอัตราเดียวกับปีนี้ แต่ยังต่ำกว่าตัวเลขของรัฐบาลที่คาดว่าจะขยายตัว 6.6-6.8% นอกจากนี้ บาร์เคลย์สยังมีมุมมองต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลดลงจาก 3.5% เหลือ 3.3%

 

• ธ.พาณิชย์กัมพูชายังขยายตัวได้ดีในปีนี้จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อและการฝาก เงินยังขยายตัวได้สูง โดยยอดปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนมาอยู่ที่ 5.49 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดเงินฝากเพิ่มขึ้น 24% เป็น 6.02 พันล้านดอลลาร์

 

• คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา (JC) ประกาศใช้ความตกลงการตรวจลงตราเดียว (ACMECS Single Visa) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดิน ทางข้ามแดนระหว่างกันและเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศให้เติบโตต่อเนื่องปีละ 30%

 

• ก.พาณิชย์ คาดว่า การส่งออกของไทยในปี 2556 จะขยายตัว 8-9% แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัวนัก ทำให้ตลาดการส่งออกใหม่ๆ ยังคงมีการเติบโตที่ช้า โดยจะผลักดันภาคเอกชนให้พัฒนาศักยภาพและสร้างฐานการส่งออกให้แข็งแกร่งขึ้น

 

Equity Market

-----------------

 

• SET Index ปิดที่ระดับ 1,382.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.91 จุด หรือ 0.28% มูลค่าการซื้อขาย 24,452.99 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 169.24 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค นักลงทุนยังคงกังวลต่อปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯที่จะรายงานในวันนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าหากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก่อนสิ้นปี อาจทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯเข้าสู่สภาวะถดถอยในช่วงไตรมาส 1/56

 

Fixed Income Market

-----------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบที่ระดับ -0.02% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 13 วัน วงเงิน 30,000 ล้านบาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นิทานก่อนนอนเรื่อง "เครื่องบินกระดาษ"

 

==========================================

 

อาจารย์คนหนึ่งสั่งให้นักศึกษาทุกคนยืนชิดติดผนังห้อง แล้วส่งกระดาษให้คนละแผ่น ก่อนตั้งโจทย์แบบฝึกหัดง่าย ๆ

"ให้ทุกคนพับเครื่องบินกระดาษ และปาจากที่ยืนอยู่ไปให้ถึงผนังฝั่งตรงข้าม"

 

ผนังนั้นห่างจากผนังอีกฝั่งหนึ่งที่นักศึกษายืนอยู่ประมาณ 10 เมตร

 

ทุกคนพยายามพับกระดาษเป็นรูปเครื่องบินต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบตามที่คิดว่า จะทำให้พุ่งได้ไกลที่สุด

ทุกคนปาเครื่องบินกระดาษของเขาอย่างแรงที่สุดแต่ไม่มีลำไหนพุ่งถึงผนังฝั่งตรงข้ามเลย

 

อาจารย์คนนั้นก็เดินเข้ามาแล้วบอกว่า ให้ทุกคนดูฝีมือการพับกระดาษระดับแชมป์เปี้ยนโลก

เขาใช้เวลาพับเครื่องบินไม่ถึง 5 วินาที

"เครื่องบิน" ของเขาไม่มีปีก

"เครื่องบิน" ของเขาเป็นรูปทรงกลม

 

ครับ เขาขยำกระดาษให้เป็นก้อนกลม ขยำให้แน่นที่สุดแล้วปาไปที่ผนังฝั่งตรงข้ามสุดแรง

"เครื่องบินกระดาษ" ของเขาไปถึง "เป้าหมาย" แม้จะไม่มีปีก

เหตุผลง่าย ๆ สำหรับเรื่องนี้ก็คือ นักศึกษาทุกคนติด "กรอบ" เดิม ๆ ว่า

เครื่องบินกระดาษต้องมีหน้าตาแบบเครื่องบินกระดาษ ทุกลำต้องมีปีก

 

==========================================

 

ทุกคนคิดถึง "กรอบ" ของรูปแบบมากกว่า "เป้าหมาย"

แต่เพราะอาจารย์คนนี้เริ่มต้นคิดที่ "เป้าหมาย" แล้วค่อยคิดรูปแบบการพับเครื่องบินกระดาษ

เขาไม่ติดกรอบรูปลักษณ์แบบเดิม ๆ

เพราะคำถามง่าย ๆ ว่า "ทำไมต้องเหมือนกับที่เป็นมา"

เครื่องบินกระดาษของเขา จึงไม่เหมือนเครื่องบินของใคร

แต่ถึง "เป้าหมาย" ที่ต้องการ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การที่จะคิดนอกกรอบเป็นเรื่องยากอยู่นะผมว่า

อย่างตอนแนวเพลงอัลเทอร์ ของพี่ป๊อดโมเดิร์นด๊อก คนที่เริ่มอัลเทอร์ คิดนอกกรอบจริงๆ ก็คือคนแรกๆ หรือพวกแรกๆ

 

พวกอัลเทอร์ที่ตามกระแสมาทีหลัง ไม่ใช่พวกคิดนอกกรอบ แค่คิดใน"กรอบของนอกกรอบ"

 

เรื่องอื่นก็เหมือนๆกัน คนที่จะคิดนอกกรอบมีแค่หัวหอก ไม่กี่คนเท่านั้นแหละ ถ้าเวิร์ก ส่วนใหญ่ก็เดินตาม

 

สำหรับเด็กๆที่ไม่มีประสบการณ์ การให้เขาคิดนอกกรอบก็เป็นดาบสองคมเหมือนกัน

ถ้าเป็นความคิดที่ไม่รอบคอบ มองไม่รอบด้าน อาจเกิดอันตรายได้ถ้าผู้ใหญ่ไม่คอยสอดส่องดูแลให้ดี

 

คนธรรมดาๆอย่างผม บางทีขอเป็นผู้ตามที่ดีในเรื่องที่มีเหตุผลพอดีๆ ชีวิตก็มีความสุขได้ง่ายๆแล้วครับ :D

 

เป้าหมายของผมไม่ได้ยากเย็นอะไร

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การที่จะคิดนอกกรอบเป็นเรื่องยากอยู่นะผมว่า

อย่างตอนแนวเพลงอัลเทอร์ ของพี่ป๊อดโมเดิร์นด๊อก คนที่เริ่มอัลเทอร์ คิดนอกกรอบจริงๆ ก็คือคนแรกๆ หรือพวกแรกๆ

 

พวกอัลเทอร์ที่ตามกระแสมาทีหลัง ไม่ใช่พวกคิดนอกกรอบ แค่คิดใน"กรอบของนอกกรอบ"

 

เรื่องอื่นก็เหมือนๆกัน คนที่จะคิดนอกกรอบมีแค่หัวหอก ไม่กี่คนเท่านั้นแหละ ถ้าเวิร์ก ส่วนใหญ่ก็เดินตาม

 

......

 

จนบัดนี้ผมยังไม่ค่อยเข้าใจว่าความคิด "นอกกรอบ" คืออะไร

แต่ผมเชื่อว่า "กรอบความคิด" ที่เราใช้ มันเปลี่ยนได้เรื่อยๆ

 

เปลี่ยนไปตามสภาพร่างกาย

เปลี่ยนไปตามประสบการณ์

เปลี่ยนไปตามสถานการณ์

เปลี่ยนไปตาม สิ่ง/สื่อ/คน/ระบบ ที่ยัดเยียดกรอบความคิดให้กับเรา

 

ถ้าทุกคนใช้กรอบความคิดเดียวกันหมด เวลาสังคมเจอปัญหา หรือภัยจากภายนอก

มีโอกาสสูงมาก ที่ความหายนะจะรุนแรง

 

เหมือนกับวินโดวส์ ที่มีคนใช้กันเยอะแยะมาก เกือบสิบปีก่อน มีรูโหว่รูเบ้อเริ่ม

คนเขียนไวรัส/เวิร์มปล่อยออกมา ทำระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารเป็นอัมพาต

ตู้กดเงินของธนาคารระดับชาติในเมืองลุงแซมใช้ไม่ได้อยู่พักนึง

 

เหมือนกับการทำการเกษตรแบบ อะไรราคาดี ฉันก็ปลูกอันนั้น,

เขาทำสัญญาว่าจะซื้อของอะไรจากฉัน, ฉันก็จะปลูก จะเลี้ยงตามที่เขาสั่ง

แต่ เวลาเจอภัยแล้ง, โรคพืช, โรงสัตว์, ผลผลิตราคาตก ก็จะเจอวิกฤต เสียรายได้จนอาจจะต้องเสียที่ไปด้วย

 

เหมือนกับตอนที่ทั้งครอบครัว ทั้งแก๊ง ทั้งก๊วน ใช้เครือข่ายมือถือเดียวกัน (แต่เครือข่ายล่มที หน่วยสังคมนั้นติดต่อกันไม่ได้เลย)

 

เหมือนกับที่สมัยสงครามโลก นาซีเยอรมัน บังคับให้โรงเรียนของรัฐ สอนหลักสูตรฝักไฝ่นาซี

 

เหมือนกับตอนวิกฤต "ดอทบอมบ์" เมื่อปี ๒๐๐๐ ที่ตอนนั้นใครๆก็ต้องซื้อหุ้น "ดอทคอม"

 

เหมือนกับตอนวิกฤต "เบอร์เกอร์" ที่ใครๆก็ต้องกู้เงินซื้อบ้าน เพราะเดี๋ยวปลายปีขายก็ได้กำไรแล้ว

ไม่ซื้อนี่โง่ ปล่อยให้เงินหลุดลอยไปได้ยังไง

 

เหมือนกับที่เครื่องบิน "ต้องมีปีก" เลยทำให้เครื่องบินกระดาษของเด็กๆบินได้ไม่ถึง ๑๐ เมตร

 

เหมือนกับ ฯลฯ

 

. . . . . . . .

 

ระบบสังคมในตอนนี้ (ทั่วโลก) พยายามตอกเสาเข็ม กรอบความคิด "มาตรฐาน" ในหัวมนุษย์ตั้งแต่เด็ก ยันแก่

ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการศึกษา, มาตรฐานโลก, สิ่งที่เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ, สื่อ, ฯลฯ

 

ถ้าผู้คนในสังคมมีกรอบหลายๆกรอบอยู่ในมือพร้อมเปลี่ยนใช้งานได้เสมอ หรือถือกรอบไว้ไม่เหมือนกัน

เวลาวิกฤตมา ผู้คนในสังคมนั้นมีโอกาสรอดสูงกว่าครับ

 

http://youtu.be/ERbvKrH-GC4

post-2564-0-10516200-1356613772.jpg

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมต.คลังสหรัฐฯ เตือน หนี้สาธารณะจะพุ่งชนเพดานในวันส่งท้ายปี blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 ธันวาคม 2555 13:20 น.

 

 

blank.gif 555000016558801.JPEG ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ blank.gif

เอเอฟพี - ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เผยรัฐบาลวอชิงตันจะมียอดหนี้สาธารณะพุ่งชนเพดานที่ 16.39 ล้านล้านดอลลาร์ ตามที่สภาคองเกรสกำหนดไว้ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้

 

ไกธ์เนอร์เขียนจดหมายถึง แฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภา ในวันพุธ (26) ระบุว่า กระทรวงการคลังจะงัดมาตรการพิเศษออกมาใช้ เพื่อเลื่อนวันที่สหรัฐฯ อาจผิดนัดชำระหนี้ออกไป แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะยืดระยะเวลาได้นานเท่าไร

 

รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตือนว่า หากทำเนียบขาว และสมาชิกสภาคองเกรสยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจถอยเข้าสู่วิกฤตหน้าผาการคลัง ซึ่งมีกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ธันวาคมเช่นกันได้ เขาก็ไม่อาจแน่ใจว่าเมื่อไรที่เงินจะหมดลง

 

เขาระบุว่า มาตรการพิเศษที่จะระงับการออกหลักทรัพย์ให้กับรัฐบาลในระดับรัฐ และระดับท้องถิ่น อาจสร้างเงินได้ถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งหากเป็นในสภาะปกติจะคงอยู่ได้นานประมาณ 2 เดือน

 

อย่างไรก็ตาม ไกธ์เนอร์เสริมว่าความไม่แน่นอนอันมีนัยสำคัญเกี่ยวกับนโยบายภาษี และการตัดลดค่าใช้จ่าย ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข สำหรับปี 2013 นั้น จึงไม่สามารถคาดการณ์ระยะเวลาในการใช้มาตรการดังกล่าวให้มีประสิทธิผลได้

 

จดหมายของไกธ์เนอร์ฉบับนี้เขียนขึ้นในขณะที่ทำเนียบขาว และสมาชิกสภาคองเกรสของพรรครีพับลิกันเจอทางตันของวิกฤตหน้าผาการคลัง ซึ่งมาตรการขึ้นภาษี และลดการใช้จ่าย จะมีผลบังคับใช้อัตโนมัติในวันที่ 1 มกราคมนี้

 

ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ความล้มเหลวในการประนีประนอมให้ได้ก่อนวันส่งท้ายปี 2012 อาจทำให้เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้กลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง และการถกเถียงเกี่ยวกับเพดานหนี้จะยิ่งก่อให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง และเศรษฐกิจมากขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พวกเราคุ้นเคยกับเพลงปีใหม่ของไทย เพลงคริสต์มาสของฝรั่ง นำเพลงปีใหม่ของฝรั่งมาฝากครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announce เหตุการณ์สำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้น แปลว่าจีนทนไม่ไหวแล้ว พิมพ์กะเขาด้วย :uu

 

Major points:

 

1.Obama flying back tonight hoping to broker a deal

2. China now plans to increase it's budgetary deficit by 50% to 1.2 trillion yuan or 192 billion USA.

3. This means that the following nations are engaging in massive QE:

 

i) USA

ii) Europe

iii) Japan

iv) and now China :57

 

the world will be awash in paper fiat, totally worthless. :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หน้าผาคลังแรงกว่าคาดเฟดกระสุนหมด-เอเชียสั่นสะท้าน

 

09CEA69606C04F6FAD8648BB449C6F91.jpg

 

 

 

เป็นปัญหาที่คนทั่วทั้งโลกเฝ้ารอลุ้นและติดตามอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับความเสี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง

โดย...พันธสิทธิ เจริญพาณิชย์พันธ์

หรือรู้จักกันในนาม“ฟิสคัล คลิฟ” ซึ่งมีกำหนดเส้นตายว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ม.ค. 2556 นี้ ถ้าหากสองพรรคการเมืองใหญ่สหรัฐยังคงไม่สามารถบรรลุผลการเจรจาต่ออายุ มาตรการลดหย่อนภาษีและแผนการตัดลดงบประมาณระยะยาวได้ทันในสิ้นปีนี้

สิ่งที่ทำให้ปัญหาดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อ เศรษฐกิจโลกอย่างยิ่ง เนื่องจากการขึ้นภาษีเงินได้ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการตัดลดงบประมาณและ สวัสดิการต่างๆ อย่างรวดเร็วและฉับพลันเพื่อลดภาวะขาดดุลด้านการคลัง จะทำให้เงินในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐถูกดูดออกไปถึง 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 18.3 ล้านล้านบาท) ขณะเดียวกันก็จะฉุดรั้งการขยายตัวเศรษฐกิจลงประมาณ 4% จนมีความเสี่ยงสูงมากที่สหรัฐจะก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า

ส่วนอัตราการว่างงานที่เริ่มจะฟื้นตัวขึ้น ในเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.7% ก็มีแนวโน้มสูงมากที่จะกลับเข้าสู่สภาวะเลวร้ายอีกครั้ง โดยคาดว่าจะเพิ่มสูงถึงระดับที่ 9.1% เนื่องจากบรรดาบริษัทเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะหน้าผาการคลังจะหันมาลด การจ้างงานและชะลอการลงทุนลง

ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยความที่สหรัฐเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกและมีสัดส่วน ในการทำการค้าและการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับหลายประเทศทั่วโลก จึงทำให้ผลจากการกระทบจากการตกหน้าผาการคลังนั้นจึงกระทบไปทั่วโลกอีกด้วย โดยเฉพาะประเทศต่างๆ ในเอเชียที่พึ่งพาการส่งออกจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

“ถ้าสหรัฐเผชิญหน้าผาการคลัง บางประเทศในเอเชียจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยอาจทำให้จีดีพีหายไปมากถึง 2.2% โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักอย่างสิงคโปร์และฮ่องกง” คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสแคป) ระบุ

ความน่ากลัวของภาวะการ ตกหน้าผาการคลังของสหรัฐยังถูกตอกย้ำดีกรี ความน่าหวาดผวามากขึ้นไปอีก เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าสหรัฐแทบจะไม่หลงเหลือช่องทางหรือเครื่องมือใดๆ ออกมาใช้กระตุ้นและรองรับผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจจากปัญหาหน้าผาการคลังอีก แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนต่ำลงไปอยู่ที่ 00.25% ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเฟดแทบจะไม่เหลือช่องว่างไว้ลดดอกเบี้ยเพื่อนำมาใช้ กระตุ้นและรับมือกับภาวะการหดตัวฉับพลันทางเศรษฐกิจได้เกินกว่านั้นอีก

ขณะที่ไม้ตายซึ่งเป็นทีเด็ดของเฟดอย่าง มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ก็ถูกใช้ออกไปแล้วถึง 3 ครั้งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา เฟดก็เพิ่งจะตัดสินใจเพิ่มเงินทุนในการใช้ของโครงการคิวอี 3 เพิ่มอีก 4.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน จนดันยอดรวมไปอยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการตอกย้ำชัดว่าเฟดเองก็แทบจะไม่เหลือหนทางและเครื่องมือใดๆ ออกมาจัดการกับปัญหาที่จะมาเผชิญกับเศรษฐกิจสหรัฐในอนาคตอีกเช่นกัน

ดังนั้น ด้วยสภาวะจนตรอกที่สหรัฐมีแต่จะอับจนหนทางเพื่อใช้รับมือกับปัญหานี้เอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าบรรดาองค์กรชั้นนำและนักวิชาการทางเศรษฐกิจ ระดับโลก อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะแสดงความห่วงใยพร้อมกับเร่งเร้าให้นักการเมืองสหรัฐเร่งเจรจาแก้ปัญหาร่วม กันให้เร็วที่สุด

ขณะที่ ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า ถ้าสหรัฐล้มเหลวในการเจรจาแก้ไขหน้าผาการคลัง อาจตัดสินใจปรับลดเครดิตที่ระดับสูงสุด AAA ลง ซึ่งถ้าเป็นจริงจะถือเป็นสถาบันเครดิตชั้นนำแห่งที่ 2 ต่อจากสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) ที่ลดระดับความน่าเชื่อถือสูงสุดที่ AAA ของสหรัฐลงเมื่อกลางปี 2554 จากการที่สหรัฐเกือบจะไม่สามารถปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันในช่วงนั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่เกิดภาวะหน้าผาการคลังขึ้นจริงๆ แต่ภาวะความชะงักงันที่ไม่ชัดเจนว่าผลการเจรจาเพื่อหลบเลี่ยงหน้าผาการคลัง ว่าจะออกมาในทิศทางใด และเต็มไปด้วยความยืดเยื้อ ก็ทำให้ประชาชนและบริษัทต่างๆ หันมาชะลอแผนการใช้จ่ายและการลงทุนลงไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจและผลประกอบการในไตรมาส 4 ของปีนี้อย่างแน่นอน เพราะไม่สามารถวางแผนการลงทุนและแผนการจ่ายภาษีที่แน่นอนได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ

หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์รายงานอ้างนัก วิเคราะห์ เปิดเผยว่า การเติบโตของผลประกอบการบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นเอสแอนด์พี 500 ในไตรมาส 4 ปีนี้จะลดลงไปอยู่ที่ 3% จากเดิมที่ 10% ในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลจาก ทอมป์สัน รอยเตอร์ส ยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่าได้เริ่มเห็นสัญญาณแห่งความหวาดระแวงและไม่มั่น ใจจากผลกระทบหน้าผาการคลังในหมู่ผู้บริหารระดับสูงในบริษัทเอกชนของสหรัฐ แล้ว เพราะมีคำเตือนออกมาว่าการประกาศผลกำไรล่วงหน้าในไตรมาส 4 อาจลดลงจากตัวเลขที่แจ้งมาถึง 3.6% ขณะที่ในระยะยาวลดหลั่นลงมาที่ 2.3 และ 1%

ทั้งนี้ แม้ว่าล่าสุดจะมีกระแสออกมาบ่งชี้ว่า โอกาสที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามาตัวแทนฝั่งพรรคเดโมแครต กับ จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาคองเกรส และหัวหน้าวิปฝ่ายค้านพรรครีพับลิกันจะมีโอกาสบรรลุผลการแก้ไขเพื่อหลบ เลี่ยงหน้าผาการคลังในสิ้นปีนี้ด้วยการออกมาตรการชั่วคราวออกมามากกว่าจะ เป็นการบรรลุผลการเจรจาได้เบ็ดเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สหรัฐเลี่ยงพ้นจากภาวะความยากลำบากและความชะงักงันไปได้ รวมถึงความเสี่ยงที่จะถูกลดเครดิตเพิ่มซ้ำอีก

เพราะสหรัฐยังมีปัญหาอีกอย่างที่เหล่า นักการเมืองจากพรรคการเมืองใหญ่สอง พรรคต้องกลับมานั่งโต๊ะเจรจาแก้ปัญหากันอีกรอบนั่นคือการปรับเพิ่มและขยาย เพดานหนี้ ที่ล่าสุด ทีโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลัง ได้ออกมาเผยว่า ในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ สหรัฐจะมีปริมาณหนี้เพิ่มขึ้นไปถึงระดับที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 16.39 ล้านล้านเหรียญสหรัฐพอดี ซึ่งนั่นจะทำให้ทั้งสองพรรคต้องกลับมาฟาดฟันกันอีกรอบในต้นปีหน้า

จึงกล่าวได้ว่า ไม่ว่าสหรัฐจะรอดพ้นจากหน้าผาการคลังหรือไม่ ในท้ายที่สุดปัญหาก็ยังคงไม่จบลง

ต้องยอมรับว่าในปีหน้าเป็นปีที่สหรัฐต้องเผชิญความท้าทายปัญหาเศรษฐกิจที่หนักหน่วงไม่น้อย

และเศรษฐกิจโลกก็ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของนักการเมืองสหรัฐอีกครั้ง...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณNext(ยินดีต้อนรับเจอกันปีงูนะค่ะ)คุณหมอเล็ก จำมัย จำไม Zagio taohoo&darlie totonx wcg tiny

และทุกๆท่าน ขอให้มีความสุขมากๆและสุขภาพแข็งแรงนะค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก็อปข่าวดีมาฝากครับ :gd

Major Silver Producer: Thousands Of "Generalist" Pension & Mutual Funds Now Eyeing Gold And Silver Producers

 

December 27, 2012 | By Tekoa Da Silva

I just got off the phone with a major silver producer. Of worthy note, is that over the last 3 months, phone calls from what this gentlemen referred to as "generalists" have spiked, and are continuing during this quiet holiday period.

 

"What is a generalist?" I asked.

 

"A generalist is a fund manager oriented towards general market investments—not precious metals specifically," he replied.

 

"What is occurring due to the extremely low valuations of gold and specifically quality silver producers," he explained, is that "general market growth and value-focused funds are now eyeing these companies."

 

Further, this gentlemen joked that generalists are also referred too as cockroaches, in that when you see one—there are usually ten more hiding behind them, looking to buy.

 

When asked how many generalist funds are quietly calling silver producers during this time he responded, "It could be hundreds…or thousands. We’re talking pension funds, mutual funds, value funds…guys who move the price of the stock and move the price of silver itself…those who need a week or more to take a position"

 

Very interesting conversation indeed.

 

Best,

Tekoa Da Silva

Bull Market Thinking

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก็อปข่าวดีมาฝากครับ :gd

Major Silver Producer: Thousands Of "Generalist" Pension & Mutual Funds Now Eyeing Gold And Silver Producers

 

December 27, 2012 | By Tekoa Da Silva

I just got off the phone with a major silver producer. Of worthy note, is that over the last 3 months, phone calls from what this gentlemen referred to as "generalists" have spiked, and are continuing during this quiet holiday period.

 

"What is a generalist?" I asked.

 

"A generalist is a fund manager oriented towards general market investments—not precious metals specifically," he replied.

 

"What is occurring due to the extremely low valuations of gold and specifically quality silver producers," he explained, is that "general market growth and value-focused funds are now eyeing these companies."

 

Further, this gentlemen joked that generalists are also referred too as cockroaches, in that when you see one—there are usually ten more hiding behind them, looking to buy.

 

When asked how many generalist funds are quietly calling silver producers during this time he responded, "It could be hundreds…or thousands. We’re talking pension funds, mutual funds, value funds…guys who move the price of the stock and move the price of silver itself…those who need a week or more to take a position"

 

Very interesting conversation indeed.

 

Best,

Tekoa Da Silva

Bull Market Thinking

ก็อปข่าวดีมาฝากครับ :gd

Major Silver Producer: Thousands Of "Generalist" Pension & Mutual Funds Now Eyeing Gold And Silver Producers

 

December 27, 2012 | By Tekoa Da Silva

I just got off the phone with a major silver producer. Of worthy note, is that over the last 3 months, phone calls from what this gentlemen referred to as "generalists" have spiked, and are continuing during this quiet holiday period.

 

"What is a generalist?" I asked.

 

"A generalist is a fund manager oriented towards general market investments—not precious metals specifically," he replied.

 

"What is occurring due to the extremely low valuations of gold and specifically quality silver producers," he explained, is that "general market growth and value-focused funds are now eyeing these companies."

 

Further, this gentlemen joked that generalists are also referred too as cockroaches, in that when you see one—there are usually ten more hiding behind them, looking to buy.

 

When asked how many generalist funds are quietly calling silver producers during this time he responded, "It could be hundreds…or thousands. We’re talking pension funds, mutual funds, value funds…guys who move the price of the stock and move the price of silver itself…those who need a week or more to take a position"

 

Very interesting conversation indeed.

 

Best,

Tekoa Da Silva

Bull Market Thinking

คุณ MORLEK ค่ะ แปลไม่ออกค่ะ ข่าวดีนี้มีว่ากะไรค่ะช่วยแปลให้คร่าวๆๆได้มั้ยค่ะ ข่าวดีที่ว่านี้เกี่ยวกับทองหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณ MORLEK ค่ะ แปลไม่ออกค่ะ ข่าวดีนี้มีว่ากะไรค่ะช่วยแปลให้คร่าวๆๆได้มั้ยค่ะ ข่าวดีที่ว่านี้เกี่ยวกับทองหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ

เคร่าๆนะครับ...เป็นข่าวที่ได้เกิดขึ้นจากการพุดคุยทางโทรศัพท์ของคนเขียนกับเจ้าของเหมืองเงิน โดยที่เจ้าของเหมืองเงินบอกว่า 3เดือนที่ผ่านมานี้มีผู้จัดการกองทุน(ที่หลายกองทุนก็ไม่เกี่ยวกับการซื้อขายทองและเงิน)จำนวนเป็นร้อยๆ โทรมาถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมทองถึงถูก

แสดงถึงว่ากองทุนเหล่านี้สนใจที่จะลงทุนในโละมีค่าเหล่านี้ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...