ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

จาก fanpage SInthorn Vista หรือ ของ Mr.Messenger จาก web pantip โพสไว้เมื่อวานนี้ถึงมหาอำนาจทางศก.โลก

 

Us - เฮีย Ben Bernanke ย้ำว่า จะเลิกปั้มเงินจาก QE3+QE4 เข้าระบบต่อเมื่อ Unemployment Rate ของ US ลงมาที่ 6.5% แถมไปเรียกร้องให้กลุ่ม G7 หลีกเลี่ยงการแทรกแซงค่าเงิน

 

EU - ECB กล่าวว่าการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินยูโรทำลายโอกาสการฟื้นตัวของศก.ยุโรป ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า ECB พร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อลดการแข็งค่าของค่าเงิน ซึ่งคงไม่พ้นการซื้อพันธบัตร

 

Japan - ประธาน BOJ คนใหม่ กล่าวว่า หากเข้าดำรงตำแหน่งพร้อมที่จะซื้อพันธบัตรของทั้งรัฐและเอกชน รวมถึงหุ้นเพื่อให้เม็ดเงินวิ่งไปธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยกู้เพื่อช่วยกระตุ้นศก.

 

China - รัฐบาลจีนอัดงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 13 ล้านล้านหยวน เพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางศก.

 

เรียกว่าทุกประเทศพร้อมที่กระตุ้นศก.หรือผ่อนคลายเชิงนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อพยุงและรักษาเสถียรภาพของประเทศตัวเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตั้งศูนย์วิจัยทองคำเป็นตัวกลางเก็บข้อมูล blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2556 14:09 น.

 

 

blank.gif 556000002960401.JPEG blank.gif

องค์กรเอกชน และสถาบันการศึกษา ร่วมมือตั้งศูนย์วิจัยทองคำ หวังเป็นตัวกลางรวบรวม และเผยแพร่ข้อมูลวิเคราะห์วิจัยเชิงลึก และสะท้อนมุมมองผู้ประกอบการด้านทองคำ ผู้ลงทุนทองคำ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมทองคำต่อไปในอนาคต พร้อมแถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำครั้งแรก เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบเชิงวิชาการสำหรับการศึกษา และการลงทุน

 

ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์วิจัยทองคำ ว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีความยินดีอย่างยิ่งที่องค์กรภาคเอกชนให้ความสำคัญ กับการพัฒนาองค์ความรู้ เฉกเช่นเดียวกับนโยบายของมหาวิทยาลัยที่พร้อมให้การสนับสนุนองค์กรภาคเอกชน ในการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ และสังคมอย่างแพร่หลาย

 

การจัดตั้งศูนย์วิจัยทองคำ ถือเป็นบทบาทสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมทองคำที่กำลังมีการเติบโตอย่างมากใน ประเทศ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึงพาข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน และรวดเร็ว อีกทั้งจะต้องเป็นข้อมูลเชิงลึกซึ่งมีการวิเคราะห์ และวิจัยจากองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญ ศูนย์วิจัยทองคำจึงมีบทบาทหน้าที่สำคัญในฐานะองค์กรกลางในการรวบรวม และเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึก พร้อมทั้งวิเคราะห์วิจัย เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ และนักลงทุน รวมถึงผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าสามารถนำข้อมูลที่ได้จากศูนย์ฯ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จนทำให้อุตสาหกรรมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

 

การจัดตั้งศูนย์วิจัยทองคำ เป็นความร่วมมือขององค์กรภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บริษัทจีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ สมาคมค้าทองคำ และสมาคมเพชรพลอยเงินทอง ซึ่งแต่ละองค์กรมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะช่วยกันพัฒนาอุตสาหกรรมทองคำ ในประเทศให้มีความมั่นคงยั่งยืนต่อไปในอนาคต สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ

 

นายวราวุธ เบญจาพุทธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์วิจัยทองคำว่า ในฐานะตัวแทนซื้อขายสัญญาล่วงหน้า ซึ่งถือว่ามีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้แก่นักลงทุนเพื่อปกป้องความเสียหาย ที่อาจจะเกิดขึ้นกับการลงทุนที่ไร้ข้อมูลพื้นฐาน บริษัทฯ จึงริเริ่มที่จะจัดตั้งองค์กรเพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและเผยแพร่ ข้อมูลทางวิชาการ และข้อมูลเชิงลึกให้แก่นักลงทุนที่ต้องการศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน และได้เล็งเห็นว่า ข้อมูลดังกล่าวจะมีประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ต่อเนื่อง และยั่งยืน จึงได้ร่วมมือกับคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สมาคมค้าทองคำ และสมาคมเพชรพลอยเงินทอง เพื่อจัดตั้งศูนย์วิจัยทองคำ

 

บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีส่วนในการพัฒนาศักยภาพของนักลงทุนให้เกิดการลงทุนที่มีประสิทธิผลที่ดี และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างคุ้มค่าด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ผ่านศูนย์วิจัยทองคำที่จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมทองคำ ให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้เช่นเดียวกัน

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงการให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์วิจัยทองคำว่า สมาคมค้าทองมีความตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลข่าวสาร และปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ดังนั้น สมาคมฯ จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์วิจัยทองคำ ขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันข้อมูลของผู้ประกอบการค้าทองคำ ในการนำมาใช้ค้นคว้าวิจัย วิเคราะห์เชิงปริมาณ และคุณภาพ สำหรับเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่วงการค้าทอง และด้านการลงทุนของประเทศต่อไปในอนาคต

 

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือนมีนาคม ว่า จากการเก็บข้อมูลของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 535 ตัวอย่าง แบ่งเป็นผู้ลงทุนทองคำ 428 ตัวอย่าง และผู้ค้าทองคำ 107 ตัวอย่าง พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index) ประจำเดือนมีนาคมอยู่ที่ 44.07 จุด ซึ่งสะท้อนมุมมองในเชิงลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากปัจจัยสำคัญที่กลุ่มตัวอย่างคาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำ ได้แก่ การเก็งกำไร การแข็งค่าของค่าเงินบาทและทิศทางของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ

 

หากแยกดัชนีตามกลุ่มตัวอย่างจะพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำของกลุ่มนักลงทุน อยู่ที่ 42.52 และกลุ่มผู้ค้าทองอยู่ที่ 49.47 แสดงว่า กลุ่มนักลงทุนมีมุมมองเชิงลบต่อความเชื่อมั่นราคาทองคำมากกว่ากลุ่มผู้ค้า ทองคำ จะเห็นได้จากค่าดัชนีฯ ของกลุ่มผู้ค้าทองซึ่งมีค่าใกล้ค่ากลางที่ 50 มากกว่ากลุ่มนักลงทุน โดยค่ากลางมีหมายความว่ากลุ่มตัวอย่างคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน

 

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ทั้งกลุ่มนักลงทุน และกลุ่มผู้ค้าทองคำมีมุมมองเชิงบวกที่ตรงกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index) ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 75.72 จุด แยกเฉพาะกลุ่มผู้ลงทุนดัชนีอยู่ที่ระดับ 73.29 จุด กลุ่มผู้ค้าอยู่ที่ระดับ 80.48 จุด สะท้อนมุมมองในเชิงบวก หรือเชื่อมั่นว่าราคาทองคำในประเทศจะปรับตัวขึ้นอีกครั้งในช่วง 3 เดือนข้างหน้า

 

ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวถึงหลักเกณฑ์และข้อมูลในการจัดทำความเชื่อมั่นราคาทองคำ ว่า ดัชนีชี้วัดราคาทองคำ เป็นการรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง เช่น กลุ่มผู้ค้าทองคำ ผู้ลงทุนในทองคำทั้งทองแท่ง และทองรูปพรรณ กองทุนทองคำ รวมทั้งผู้ที่ลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) โดยสอบถามเรื่องทัศนคติต่อราคาทองคำในช่วง 1 และ 3 เดือนข้างหน้า และถ่วงน้ำหนักด้วยวิธีทางสถิติ นอกจากนี้ ยังระบุให้กลุ่มตัวอย่างกำหนดปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ เพื่อสะท้อนมุมมองของกลุ่มตัวอย่าง ให้ทราบถึงปัจจัยที่อยู่ในความสนใจของกลุ่มตัวอย่างมากที่สุด โดยจะมีการนำเสนอในรูปแบบของรายงานผลเชิงเปรียบเทียบ ซึ่งกระบวนการวิจัยนี้ผ่านการพิจารณาถึงความครอบคลุมและความเกี่ยวข้องกับ ความเชื่อมั่นของราคาทองคำในช่วงเวลาที่กำหนด

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำจะจัดทำเป็นประจำทุกเดือน โดยจะมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่าน website ของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สมาคมค้าทองคำ สมาคมเพชรพลอยเงินทอง บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด หอการค้าจังหวัดทุกแห่ง และพันธมิตร สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม หรือขอรับผลการวิจัยได้ที่ 0-2673-9911 ต่อ 650 หรือ kamoltun@gtwm.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Jimmy Siri

 

 

‎***สำหรับใครที่ยังมึนงงสงสัยกับปรากฏการณ์หนึ่งที่กำลังปรากฏขึ้นในแวดวงการเมือง การเงิน การคลังสหรัฐซึ่งก็คือ "Sequestration" ว่ามันคืออะไรกันแน่ แล้วจะมีผลกระทบอะไรกับตลาดบ้าง เพียงแต่ช่วงที่เรื่องนี้มีผลบังคับใช้ขึ้นมา พวกเราชาวไทยมัวแต่ลุ้นผลการเลือกตั้งผู้ว่ากันอยู่ ก็เลยต้องเอามาขยายความกันหน่อยครับ***

 

>>> Credit : Mr.Messenger@Pantip

 

$$… สุดท้ายก็ Sequestration ว่าแต่... แล้วมันคืออะไร? …$$

 

ผ่านวัน Deadline 1 มี.ค. กันไปเรียบร้อย และผลก็ออกมาเป็นอย่างที่นักวิเคราะห์การเมืองกังวลกัน นั้นก็คือ ทำเนียบขาว และสภาคองเกรส ไม่สามารถตกลงกันได้ในรายละเอียดเงื่อนไขของมาตรการภาษีที่หมดอายุในปีนี้ และนั้นเป็นสาเหตุให้เราได้ยินคำว่า “Sequestration” อยู่บนหน้าสื่อด้านการลงทุนแทบทุกสื่อ ณ ชม. นี้ เราไปทำความรู้จักกับคำๆนี้กันครับ

 

Q : Sequestration คืออะไรหว่า?

A: Sequestration เป็นกระบวนการตัดงบประมาณค่าใช้จ่ายภาครัฐบาลล่วงหน้าโดยอัตโนมัติ หากรัฐสภาไม่สามารถอนุมัติแผนรัดเข็มขัดเป็นจำนวนอย่างน้อยคือ $1.2trillion ภายในปี 2556 นี้

มูลค่าการใช้จ่ายที่ภาครัฐจะถูกตัด ออก จะเท่ากับ ส่วนต่างของแผนที่อนุมัติ กับ $1.2trillion โดย ครึ่งหนึ่งของส่วนต่าง จะไปตัดงบที่กระทรวงกลาโหม ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งไปแบ่งตัดออกจากกระทรวงอื่น

 

สำหรับการใช้จ่ายที่ไม่สามารถตกลง กันได้ครั้งนี้ ส่วนต่างกันกล่าว เป็นวงเงินอยู่ที่ $85,000million โดยการตัดงบประมาณครั้งนี้ ราวๆ $42,500Million ไปตัดงบกลาโหม ที่เหลืออีกครึ่งก็ไปโดนที่กระทรวงอื่นๆแตกต่างกันไป

 

Q : ทำไมต้องมีกระบวนการนี้?

A : กระบวนการนี้ อยู่ในบทกฏหมายชื่อ Budget Control Act คือ การบังคับตัดลดงบประมาณใช้จ่ายของรัฐบาลล่วงหน้า ตั้งแต่ปี 2556-2564 (คศ. 2013-2021) มีไว้เผื่อในกรณีที่รัฐบาลใช้จ่ายเกินตัว และไม่สามารถตกลงหาทางแก้ไขได้ ซึ่งจะทำให้ ประเทศสหรัฐฯเอง สามารถลดรายจ่าย และลดภาระหนี้ได้อย่างทันท่วงที มิฉะนั้นจะกลายเป็นหนี้มหาศาลโดยที่ตกลงกันไม่ได้ซักทีเหมือนอย่างประเทศในแทบยุโรป

ส่วนตัว ผมมองว่า ถือเป็นข้อดีที่มี Sequestration เพราะ แผนประชานิยมใดๆที่ทำให้รายได้ของรัฐบาลขาดไป ระบบนี้จะไปตัดจ่ายใช้จ่ายออกอัตโนมัติทันที ทำให้รายได้ และรายจ่าย ไม่เหวี่ยงจนเกินภาวะขาดดุลหนักเกินไปในระยะยาว

 

Q : สาเหตุของการทำ Sequestration คืออะไรหนอ?

A : ถ้ายังทำ Fiscal Cliff ปลายปีที่แล้วได้ อย่าลืมว่าวันนั้น Obama กับพรรครีพลับริกัน ยังไม่ได้ตกลงกันนะครับ ว่าจะต่อมาตรการภาษีอันนั้น แต่ตกลงว่า อีก 2 เดือนค่อยมาคุยกันใหม่อีก ซึ่ง Deadline มันก็คือ วันที่ 1 มี.ค. อย่างที่บอก และเราก็ได้เห็นกันแล้วว่า ตกลงกันไม่ได้ T_T

 

Q : เหตุการจะเป็นเยี่ยงไรต่อไป?

A : Sequestration เป็นแค่ปมแรก ในอีกหลายๆปมที่จะตามมาในปีนี้ที่รัฐบาลอเมริกาเองต้องแก้ และ Ben Bernanke ประธานเฟด ก็เคยบอกโรงเตือนมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งว่า อยากให้นักการเมืองจริงจังในการช่วยกันให้ประเทศเดินหน้าเสียที

ที่บอกว่ามีอีกหลายปม ก็คือ

 

วันที่ 26 มี.ค. ที่จะถึง กฏหมายจัดสรรเงินทุนระยะสั้นให้แก่หน่วยงานรัฐบาลจะหมดอายุลงก่อน

จากนั้น ตามมาด้วย แผนงบประมาณปี 2557 ที่จะต้องสรุปตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. นี้

หลังจากนั้น วันที่ 19 พ.ค. เป็นวันที่ สหรัฐฯ จะต้องไปเผชิญกับการต่อรองทางการเมืองเรื่อง Debt Ceiling เพราะหนี้ วิ่งมาชนเพดานอีกแล้ว - -“

นั้นหมายความว่า แก้ปัญหาอันนี้ไม่ได้ ก็เหมือนกับจะบอกกลายๆว่า Democrat และ Republican ก็ยังเถียงกันจนวินาทีสุดท้าย แล้วนี้มีวาระแห่งชาติรออยู่ข้างหน้าอีก 3 วาระ มันจะรอดกันไหมเนี่ย

 

Q : แสดงว่า กระทบแค่ความเชื่อมั่นนี่นา แต่ถ้าผ่านได้ก็ไม่มีไรใช่หรือเปล่า?

A : Sequestration ไม่ได้ตัดงบประมาณทันทีทั้งก้อน $85,000million ก็จริง แต่ก็ทยอยตัดงบทันทีตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมาแล้วครับ และจะหยุดตัดเมื่อถึงวันที่ 30 ก.ย. ปีนี้ เยอะนะครับ ภายใน 7 เดือน เงินเยอะขนาดนี้

 

ซึ่งผลกระทบที่ Congressional Budget Office (CBO) เขามองไว้ก็คือ ภายในปีนี้ รัฐบาลอาจต้องเลิกจ้างงานจำนวนกว่า 750,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ แถม IMF ก็ออกมาบอกว่า การทำ Sequestration ครั้งนี้ น่าจะทำให้ GDP ของอเมริกาเอง ลดลงราว 0.5% ทีเดียว

 

Q : เอร๊ยยย น่ากลัวอ่ะ อเมริกาจะเข้า Recession อ๊ะป่าว ขายหุ้นทิ้งดีกว่า >.<

A : ตั้งสตินิดเนิงนะครับ อย่าเอานิสัยแมงเม่ามาใช้ หัวเราะ

Sequestration ถึงแม้จะถูกใช้มาแล้ว แต่เป็นการทยอยตัดจ่าย ดังนั้น ถ้าทำเนียบขาวและสภาคองเกรส ยังพยายามคุยกัน ตกลงกันให้ได้ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า ไม่ให้กระทบกับงบประมาณปี 2557 และงบประมาณอื่นๆ ก็ยังถือว่า ไม่ได้น่ากลัวอะไรมาก

 

Q : มาตรการอะไรที่ Democrat กับ Republican ตกลงกันไม่ได้?

A : Democrat นั้นมีฐานเสียงเป็นคนชนชั้นกลางและระดับล่าง ดังนั้นชัดเจนว่า Democrat ไม่ต้องการให้สิทธิคนรวยได้ลดหย่อนภาษีที่ได้มาตั้งแต่สมัยจอร์จ บุช ได้อีก ซึ่งส่วนทางกับ Republican ที่มีฐานเสียงเป็นคนรวย ชนชั้นสูงในสังคม แถม Democrat กุมสภาสูง แต่ Republican ได้เสียงข้างมากในสภาล่าง เสียงแตกแบบนี้ คงทำงานแบบ “ไร้รอยต่อ ยากหน่อย” (ขอแซว อิอิ)

 

Q : เราก็ว่า เห็นข่าวออกมา หุ้นอเมริกาไม่เห็นโดนทิ้งอะไรลงมาเลย โฮะๆๆๆ งั้น ซื้อเว้ยยยย พวกเรา \^o^/

A : แสดงความเป็นเม่าสุดๆ เหอะๆ

มี Super Deadline ครับ ถ้าเลยวันที่ 19 พ.ค. นี้ไป ยังตกลงอะไรกันไม่ได้ แถม Debt Ceiling ก็ไม่มีข้อสรุปละก็ เมื่อนั้น ตลาดหุ้นอาจจะพังจริงๆก็ได้นะ แต่เอาอดีตสองครั้งที่ตลาดกังวลกับปัญหาหนี้ในอเมริกามาให้ดูช่วง ปี 2011 กับ ปีที่แล้ว จะเห็นว่า ตอนที่ S&P ตัดสินใจหั่น Credit Rating อเมริกา ตอนนั้น ตลาดลงแรงกันหมดทั่วโลก แต่ในปี 2012 นั้น ตลาดแค่กังวล ไปไหนได้ไม่ไกล แต่สุดท้าย ทั้งสองครั้ง ตลาดก็วิ่งกลับมาเป็นขาขึ้นอยู่ดี โดยเฉพาะหุ้นไทย

 

Q : แสดงว่า หุ้นไทยเรา ไม่เกี่ยวกับ Sequestration ครั้งนี้?

A : ต้องบอกว่า ผลกระทบอยู่ในวงจำกัดมากกว่าครับ เพราะโอกาสยังสามารถพลิกไปพลิกมาได้เสมอ ขึ้นอยู่กับว่า ทั้งสองพรรคในอเมริกา เมื่อไหร่จะเจรจาตกลงกันได้ (ซึ่งเป็นเรื่องยากที่เราจะรู้ใจของเค้านะ)

 

มองในแง่ดี อย่าลืมว่า Fiscal Cliff ที่กังวลว่าจะตกหน้าผาในตอนแรก วงเงินสูงถึง $600,000Million ตกมาจริงๆ ไม่ถึง 15% ของมาตรการทั้งหมดนะครับ แสดงว่า ตกลงกันไปได้ก็มากมายอยู่ ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก ^^

 

------------------------

โชคดีในการลงทุนครับ

 

374421_10200141557334831_1414500406_n.jpg

8 ชั่วโมงที่แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Jimmy Siri ตอนนี้คงพอจะเข้าใจแล้วว่ากระบวนการ Sequestration คืออะไร แต่คำถามที่สำคัญต่อมาที่สำคัญกว่านั้นคือ มันจะทำให้อะไรๆดีขึ้นหรือไม่ คำตอบก็คือ

 

......ไม่เล้ยยยย !!!

 

นั่นก็เพราะว่า ในขณะที่กระบวนการทางงบประมาณด้านบนเริ่มไปบังคับตัดลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี ลง 85 Billion แต่.....ในขณะที่อเมริกาเป็นหนี้สินพอกพูนเพิ่มขึ้นทั้งกู้เพิ่ม ทั้งดอกทบต้น ที่**วันละ " 80 Billion($80,000,000,000)" เน้นว่าเพิ่มขึ้นทุกๆวัน วันละ 80 พันล้านเหรียญนะครับ ดังนั้นแล้ว กระบวนการ "นับถอยหลัง" ของเรายังต้องดำเนินต่อไปในอัตราเร่งเดิม เพียงแต่มีการออกอาการมาให้เห็นมากขึ้นเท่านั้นเอง...555 สรุปว่าเข้าใจแล้วนะครับว่ามันคืออะไร แล้วที่มากกว่านั้นก็คือ ต้องมองเห็นความเป็นจริงและความเป็นไปสำคัญกว่ามากครับ

http://www.zerohedge.com/news/2013-03-01/there-goes-sequester

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น


  •  
    274442_100001226405295_1669447843_q.jpg
     
     
     
     
    Norimaki Arale แสดงว่าจะมีคนกลุ่มใหม่ตกงานและเริ่มเบี้ยวหนี้รอบใหม่ด้วย ผมว่ามันจะเหมือนตอน 2008 อีกรอบรึเปล่า?!?
    8 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 2

  •  
    173748_1627812435_1979711843_q.jpg
     
     
     
     
    Jimmy Siri นั่น คงเป็นทิศทางที่พวกเราคาดการณ์หรือรู้กันในกลุ่มนี้น่ะครับว่ามันจะไปทางไหน เพียงแต่มีกรอบเวลาและอีกบางกระบวนการหรือขั้นตอนที่จะนำไปสู่จุดนั้น ดังนั้นคงต้องดูกันไปเรื่อยๆครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูข้อมูล "ทางลับ" หรือ "นอกตำรา" ประกอบกัน
     
    ส่วนรอบนี้นั้น ถ้าเกิดคงไม่เหมือน 2008 แล้วครับ เพราะสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนไปมากแล้ว (เป็นบอลลูนแล้วไม่ใช่ฟองสบู่) โดยเฉพาะเครื่องไม้เครื่องมือและกระสุนก็ถูกงัดออกมาใช้จนแทบไม่เหลือแล้ว เลยมาจอดอยู่ที่ตรงนี้
     
    แต่ ว่าก็ว่ามันคงอยู่ที่คนคุมเกมส์และเดินเกมส์มากกว่าว่าจะ "ถอดปลั๊ก" เมื่อไหร่ หลายวันก่อนเห็นข้อมูลนึงพูดถึงอาจจะมีการสร้าง Event หรือเหตุการณ์ใหญ่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งเพื่อจุดชนวนการล้มของเศรษฐกิจและ ดอลล่า ในขณะที่อีกทางหนึ่งก็ทำให้เกิดภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การว่างงาน ตลาดหุ้นโดยรวม แล้วความผิดทั้งหมดก็จะถูกโยนไปที่เหตุการณ์นั้นและผู้กระทำ(แพะ) เพื่อให้คณะบริหารของโอบาม่ายังมีความชอบธรรมในการดำรงอยู่และบริหารงานต่อ ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหกรรมจับแพะหลังจากนั้นก็จะนำไปสู่อะไรอีกมากมาย ซึ่งก็คงเป็นงานถนัดของเค้าอยู่แล้วล่ะครับ
     
    ก็ เป็นอีกความเป็นไปได้ที่ได้ยินมาแล้วเอามาเล่าสู่กันฟังครับ เรามามุงดูกันไปเรื่อยๆดีกว่า แต่ถ้ามีอะไรขึ้นมาแล้วก็วิ่งให้ทันก็แล้วกัน...555+

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'โอบามา-รีพับลิกัน'ผ่อนท่าทีแข็งกร้าวเรื่องวิกฤตงบประมาณ blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มีนาคม 2556 00:31 น.

 

 

blank.gif

 

เอเจนซี/เอเอฟพี - สภาผู้แทนราษฎรอเมริกันลงมติในวันพุธ (6 มี.ค.) ผ่านร่างกฎหมายอุดหนุนเงินพิเศษซึ่งจะป้องกันไม่ให้รัฐบาลสหรัฐฯอยู่ในภาวะ ถังแตกไปได้ชั่วคราวจวบจนถึงสิ้นเดือนกันยายน โดยเฉพาะในด้านการปฏิบัติการทางทหาร วันเดียวกันนั้นเอง ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็เลี้ยงอาหารเย็น ส.ว.รีพับลิกันหลายคน กลายเป็นการจุดประกายความหวังที่ว่าความขัดแย้งของเดโมแครตกับรีพับลิกันอาจ จะคลี่คลายได้บ้าง กระนั้นก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญไม่คิดว่า ทำเนียบขาวกับรัฐสภาจะหาทางประนีประนอมกันได้สำเร็จในวิกฤตงบประมาณที่ยังคง ค้างคาอยู่ขณะนี้

 

สภาล่างของสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 257-151 เสียง อนุมัติร่างกฎหมายสนับสนุนด้านการเงินชั่วคราวให้แก่รัฐบาลในด้านการปฏิบัติ การทางทหาร ไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณปัจจุบันในวันที่ 30 กันยายน โดยหากไม่มีร่างกฎหมายฉบับนี้ รัฐบาลจะขาดแคลนเงินสดใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 27 เดือนนี้

 

ความเคลื่อนไหวคราวนี้มีขึ้นในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีโอบามา เชิญวุฒิสมาชิกรีพับลิกันหลายคนกินอาหารเย็นชนิดที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักเมื่อ คืนวันพุธในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งก่อให้เกิดความหวังว่า อาจจะมีการประนีประนอมเสนอทางสายกลางในการทำให้สถานการณ์คลังของประเทศมี ความยั่งยืนในระยะยาว โดยจะที่เป็นที่พอใจของทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลโอบามาเปิดเผยก่อนอาหารค่ำว่า โอบามาหวังจะฉวยโอกาสที่วิกฤตงบประมาณยังไม่ลุกลามมากไปกว่านี้ เปิดเจรจากับรีพับลิกันเพื่อบรรลุข้อตกลงลดยอดขาดดุลอย่างครอบคลุม ด้วยการแสดงความพร้อมที่จะพิจารณามาตรการลดงบรายจ่ายต่างๆ ตามที่ฝ่ายรีพับลิกันเรียกร้อง แม้อาจไม่เป็นที่ถูกใจพวกสมาชิกพรรคเดโมแครตชองเขาเองนัก เป็นต้นว่า การตัดลดงบสำหรับระบบบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาลผู้สูงวัย

556000002989801.JPEG วุฒิสมาชิกรีพับลิกันหลายคนถูกพบเห็นอยู่หน้าโรงแรมในกรุงวอชิงตัน หลังมีข่าวว่าได้รับเชิญรับประทานอาหารค่ำจากประธานาธิบดีโอบามา blank.gif อย่างไรก็ดี การพบปะครั้งนี้ระหว่างประธานาธิบดีจากเดโมแครตกับพวกวุฒิสมาชิกรีพับลิกัน เป็นต้นว่า จอห์น แมคเคน ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเผชิญหน้าระหว่างทำเนียบขาวกับรีพับลิกันใน รัฐสภาในเวลานี้ในประเด็นการตัดลดงบประมาณรายจ่ายอย่างอัตโนมัติแบบเหมารวม มูลค่า 85,000 ล้านดอลลาร์ ที่เริ่มมีผลแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา เพียงแต่บ่งชี้ว่า ทั้งสองฝ่ายรับรู้ว่า ความอดทนของผู้ออกเสียงชาวอเมริกันเริ่มลดลงเป็นลำดับ เนื่องจากมาตรการตัดลดเหมารวมดังกล่าวกำลังจะทยอยแสดงผลอันสร้างความยาก ลำบากในการดำเนินชีวิตของประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังเช่น อีกไม่นานนักชาวอเมริกันจะพบความล่าช้าในการเวลาไปใช้บริการในสนามบิน ฯลฯ

 

นอกจากพบปะกับวุฒิสภารีพับลิกันแล้ว แหล่งข่าวในรัฐสภาและในทำเนียบขาวระบุตรงกันว่า โอบามายังมีกำหนดการเลี้ยงอาหารกลางวัน พอล ไรอัน ส.ส.รีพับลิกันที่เป็นประธานด้านงบประมาณของสภาล่าง และ คริส แวน ฮอลเลน ส.ส.เดโมแครตคนสำคัญที่สุดในคณะกรรมาธิการชุดนี้ ในวันพฤหัสบดี(7) อีกด้วย

 

สำหรับร่างกฎหมายที่ผ่านการอนุมัติของสภาล่างไปแล้วเมื่อวันพุธ ระบุถึงการสนับสนุนงบประมาณพิเศษเฉพาะทางด้านการทหารและปฏิบัติการความมั่น คงอื่นๆ

 

ส.ส.เดโมแครตจำนวนมากยังคงโหวตคัดค้านร่างกฎหมายนี้ เนื่องจากเห็นว่า ไม่ช่วยให้คณะรัฐบาลมีช่องทางที่จะผ่อนปรนมาตรการตัดลดงบรายจ่ายแบบเหมารวม อัตโนมัติ สำหรับพวกโครงการภายในประเทศ เป็นต้นว่า โครงการด้านการศึกษา

 

คริส แวน ฮอลเลน สมาชิกอาวุโสของเดโมแครตในคณะกรรมาธิการงบประมาณสภาผู้แทนฯ วิจารณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ช่วยป้องกันการปลดพนักงานภาครัฐ 750,000 ตำแหน่งอันเป็นผลจากการตัดลดงบประมาณรายจ่ายแบบเหมารวมอัตโนมัติ

 

เวลานี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้กำลังถูกส่งต่อไปพิจารณากันในวุฒิสภาซึ่งพรรคเดโมแครตเป็น ฝ่ายคุมเสียงข้างมาก โดยที่ แฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในสภาสูงในปัจจุบัน แถลงว่า วุฒิสมาชิกจำนวนมากมีความประสงค์ที่จะแปรญัตติขยายร่างฉบับของสภาล่างนี้ให้ กว้างขวางมากขึ้น เพื่อให้พวกหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่ฝ่ายทหาร เป็นต้นว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับประโยชน์จากเงินพิเศษไปจนกระทั่งสิ้นเดือนกันยายนนี้ด้วย

 

รีดคาดหมายว่า วุฒิสภาน่าจะลงมติผ่านร่างฉบับแก้ไขแปรญัตติของตนได้ทันในสัปดาห์หน้า

 

จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่เวลานี้ มีความเป็นไปได้สูงที่ร่างกฎหมายซึ่งผ่านสภาทั้งสอง จะมีข้อความไม่ตรงกัน จึงจะต้องตั้งคณะทำงานจากทั้ง 2 สภาเพื่อปรับให้กลายเป็นฉบับเดียวกัน และถ้าสภาทั้งสองต่างลงมติยอมรับร่างฉบับประนีประนอมโดยไม่มีการแก้ไขอะไร อีก จึงจะสามารถส่งให้ประธานาธิบดีโอบามาพิจารณาลงนามประกาศบังคับใช้ต่อไป

blank.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Q : มาตรการอะไรที่ Democrat กับ Republican ตกลงกันไม่ได้?

A : Democrat นั้นมีฐานเสียงเป็นคนชนชั้นกลางและระดับล่าง ดังนั้นชัดเจนว่า Democrat ไม่ต้องการให้สิทธิคนรวยได้ลดหย่อนภาษีที่ได้มาตั้งแต่สมัยจอร์จ บุช ได้อีก

 

อันนี้รามถึงที่จะเก็บภาษีจากกำไรในการซื้อขายหุ้นเต็มอัตราด้วยหรือเปล่าครับ

 

ผลกระทบจาก Sequestration ยังไม่เกิดขึ้นให้เห็นชัดเจนในทีเดียว

แต่ถ้ามีการเก็บภาษีเต็มล่ะก็จะเห็นผลกระทบชัดเจนมากเลย ไม่รู้ว่ากระทบถึงการซื้อขายทองจริงด้วยหรือไม่ครับ

 

เคยมีการเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้นในไทยหรือไม่ ถ้ามีเมื่อไร ...

และปริมาณการซื้อขายคงลดลงไปเยอะเลย

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โครงการดีๆ ขอเอามาแปะหน่อย

 

ธนาคารน้องใหม่ เพิ่งเปิดตัวมาเพียงไม่กี่เดือน แต่มีเวลาที่เหล่าคนอาสามาฝากไว้กว่าแสนชั่วโมงแล้ว!

 

คอนเซ็ปต์ของ “ธนาคารจิตอาสา” คือการเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้เข้ามาประกาศความตั้งใจที่จะแบ่งปันเวลาให้กับสังคม พวกเขาเริ่มจากจัดทำเว็บไซต์ธนาคารจิตอาสา (www.jitarsabank.com) เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาฝากเวลาไว้ พร้อมๆ กับบอกความสนใจของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม หมาแมว เด็ก คนชรา ศาสนา และสารพัดความสนใจ ที่อยากแบ่งปันเวลาไปเพื่อสิ่งเหล่านั้น แถมท้ายด้วยการบอกความถนัดและทักษะที่มี เช่น ขับรถเป็น ทำอาหารได้ สอนหนังสือ แปลและพูดภาษาต่างประเทศได้ จากนั้นระบบก็จะแนะนำงานอาสาที่สอดคล้องกับความสนใจและทักษะของเขา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อันนี้รามถึงที่จะเก็บภาษีจากกำไรในการซื้อขายหุ้นเต็มอัตราด้วยหรือเปล่าครับ

 

ผลกระทบจาก Sequestration ยังไม่เกิดขึ้นให้เห็นชัดเจนในทีเดียว

แต่ถ้ามีการเก็บภาษีเต็มล่ะก็จะเห็นผลกระทบชัดเจนมากเลย ไม่รู้ว่ากระทบถึงการซื้อขายทองจริงด้วยหรือไม่ครับ

 

เคยมีการเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้นในไทยหรือไม่ ถ้ามีเมื่อไร ...

และปริมาณการซื้อขายคงลดลงไปเยอะเลย

 

เมืองไทยไม่เก็บภาษีจาก capital gain ครับ แต่ถ้าปันผลจะเก็บ (แต่ capital gain มี VAT อยู่แล้ว)

 

ส่วนของสหรัฐผมไม่แน่ใจว่าเก็บอย่างไร แต่เท่าที่ไปหาข้อมูลมาไม่รู้ว่าถูกรึผิดจาก wiki คือ capital gain tax จะแบ่งย่อยค่อนข้างเยอะขึ้นอยู่กับรายได้ด้วย แต่หากถือครองมากกว่า 1 ปีจะไม่เสียภาษี ถ้าต่ำกว่า 1 ปีปัจจุบันจะเสียที่ 15% ขึ้นอยู่กับรายได้ อ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Capital_gains_tax_in_the_United_States ครับ แต่ที่คุยกันคือจะเพิ่มเป็น 20%

คิดว่าที่เถียงกันคือไม่อยากให้ขึ้นภาษีกับคนที่เสียภาษี 35% ของรายได้อยู่แล้วครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พึ่งเสร็จงานเลยมาเปิดกราฟดู

 

ลองเปิดกราฟทองH4เเล้วกลับหัวดูครับ ผมกำลังหลอกตัวเองว่าป่าวว่า กราฟกำลังทำไหล่ซ้ายเเบบบึกๆ :)

 

ถ้ามันบึกจริง คงต้องรอคุณกัปตันมาปล่อยจรวด เป้าหมาย1683 :) ขำๆนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมืองไทยไม่เก็บภาษีจาก capital gain ครับ แต่ถ้าปันผลจะเก็บ (แต่ capital gain มี VAT อยู่แล้ว)

เอ แล้วต่างชาติที่ซื้อขายทำกำไรในไทย โดนภาษีรึป่าวครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไปได้ข้อมูลมาเพิ่ม น่าสนใจดีครับ เมกาเขาเก็บภาษี 2 แบบ

 

(1) กำไรและขาดทุนสำหรับการลงทุนระยะยาว

คือ ซื้อหุ้นแล้วถือไว้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เมื่อขายได้กำไรก็จะถือเป็นกำไรจากการลงทุนระยะยาว (Long Term Gain) กฎหมายของอเมริกาให้นำกำไรเพียงครึ่งหนึ่งมาเสียภาษี กล่าวคือ ได้รับการยกเว้นภาษี 50% อีก 50 %ต้องเสีย (ในอัตราที่คุณหมีน้ำบอก)

 

(2) กำไรและขาดทุนระยะสั้น

แต่มีนักเล่นหุ้นอีกพวกหนึ่งซึ่งซื้อขายกันเร็วในลักษณะเก็งกำไร (Speculator) คนพวกนี้อเมริกาถือเป็นนักค้าหุ้น (Stock Trader) ไม่ใช่นักลงทุน กำไรก็ต้องนำมาเสียภาษีทั้งก้อน 100%

ที่น่าสนใจก็คือ ทั้ง 2 แบบ ถ้าขาดทุน ก็หักภาษีได้ เช่นกัน

ภาษีนี่บัฟเฟตบอกว่าหากไม่มีการซื้อขายระยะยาวจริงๆ หลายๆ ปี จะเกิดตัวเลขอัศจรรย์ เพราะจำนวนเงินที่ไม่ต้องเสียภาษีเป็นกำไรทบต้น ผมก็จำไม่ได้ว่ากี่%

http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2007q1/2007march12p9.htm

แต่ในตลาดทองคำไม่รู้ว่าเสียแบบเดียวกันรึป่าว ใครเคยมีประสบการณ์บ้างครับ :D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...