ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

fiscal cliff and sequestration มองว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของบทภาพยนต์หลัก debt ceiling ไม่ว่าจะเดินทางไหนบทสุดท้ายหัวหน้าใหญ่ก็คือ การเพิ่มเพดานหนี้เพื่อการใช้จ่ายที่คล่องตัว :)

ถูกแก้ไข โดย Jocho

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บางส่วน จากที่ เอริค คิง คุยกับ จิม ซินแคลร์ (ลุงจิม)

  • ลอง กลับไปดูเมื่อตอนที่ทองขึ้นไปที่ ๘๘๗.๕๐ เมื่อปี ๑๙๘๐ ... วันแรงลงมาร้อยเหรียญ วันที่สองลงมาอีกสองร้อยห้าสิบเหรียญ ตอนนั้นทองคำยังไม่ถึง ๒,๐๐๐ เหรียญเสียด้วยซ้ำ ถือว่าลดลงมามากกว่าร้อยละ ๒๕ ภายใน ๒ วัน
  • ส่วนตอนนี้คนบ่นกันจะเป็นจะตาย ซึ่งลุงว่ามันก็เกินร้อยละ ๑๐ มาหน่อยเดียวเอง – เมื่อราคาทองไปถึง ๔,๐๐๐ – ๕,๐๐๐ เหรียญ (ซึ่งลุงแน่ใจว่ามันจะไปถึง) จงเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่คนไม่กี่คนจะทนได้ (ทนแรงเหวี่ยงราคาแรงๆแบบนี้)
  • ลุงเดาว่า ทั้งหมี และกระทิงทั้งหลาย จะโดนเขี่ยตกต้นไม้ ๓ ครั้ง --- ถ้าตอนนี้มันลำบากสำหรับคนที่ต้องการถือทองคำที่จะรับสถานการนี้ได้ คนพวกนี้จะไม่มีทางรอดเมื่อทองคำขึ้นไปในช่วง ๔,๐๐๐ – ๕,๐๐๐ – ตอนนี้มีนักลงทุนหลายรุ่นตั้งแต่ครั้งที่แล้ว (ปี ๑๙๘๐) จนถึงตอนนี้ แต่เนื่องจากการเทรดตอนนี้ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และใช้โปรแกรมในการเทรด เทรดเดอร์ส่วนมากจึงไม่ค่อยจะได้รับรู้บรรยากาศของตลาดในตอนนั้นเสียเท่าไหร่ (ก่อนหน้านี้ ลุงจิมพูดถึงตอนที่แกเป็นเทรดเดอร์สมัยก่อน ที่เทรดเดอร์จะอยู่ในตลาด และรับรู้ความรู้สึก/บรรยากาศในตลาดได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเห็นกราฟ ซึ่งเทรดเดอร์รุ่นใหม่ๆตอนนี้จะไม่มีประสบการแบบนี้แล้ว --- ลุงจิมยังบอกต่ออีกว่า ลุงรู้สึก ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี่เป็นความพยายามในการควบคุมราคาของคนบางกลุ่ม)
  • สิ่งที่หลานๆต้องระลึกไว้ก็คือ ตอนที่ลุงเริ่มพูดว่า คิวอีทูอินฟินิตี้ น่ะ มันก่อนที่ใครจะมีภาพการพิมพ์เงินแบบไม่อั้นอยู่ในหัวเสียอีก ที่ลุงบอกว่ามันจะต้องพิมพืเงินไม่อั้น ก็เป็นเพราะมันเป็นเครื่องมืออันเดียวที่ธนาคารกลางมี ที่จะสามารถผลิตเงินขึ้นมาได้แบบไม่จำกัดจำนวน – และถ้าสิ่งที่ลุงคิดว่าน่าจะเกิดขึ้น เกิดขึ้นจริงๆ แท่นพิมพ์ (คิวอี) ก็จะทำงานไปเรื่อยๆจนกว่าจะพังคามือตาโป๊งเหน่งนั่นเอง

ฟังเต็มๆได้ที่นี่

http://www.kingworldnews.com/kingworldnews/Broadcast/Entries/2013/3/2_Jim_Sinclair_files/Jim%20Sinclair%203%3A2%3A2013.mp3

 

ที่มา http://www.kingworld...m_Sinclair.html

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Sequestration and The Rigged Game

 

Posted on March 2, 2013 by John Manfreda

 

 

If one has been following the news lately, everything you would hear about is the sequestration, and how catastrophic it will be. As I am writing this, the news is that 85 billion dollars in cuts will be taking place, due to the two parties failing to reach an agreement. The first myth is that these cuts will immediately take effect. The truth is that these cuts will go into effect in April, and there is still time to avoid the “sequestration” cuts. The biggest sequestration myth is that these are actual cuts, when in fact they are just cuts in the increases in spending. If the sequestration goes into effect, no real cuts are going to take place.

If you ask me the real story isn’t the sequestration, it’s the rigged markets and Friday’s personal income news. On Friday the economic news describing the real economy was horrendous. Personal incomes were lowered, yet consumer spending increased. The only possible way this could happen, is due to consumers buying goods on credit. But despite the news of decreasing incomes, the stock market still rose, roughly 35 points.

Personally I am a stock market bull, as long as the Fed is printing money, and biding up assets, combined with artificially low interest rates taking place, the stock market will continue to rise. Obviously corrections will take place like in any normal run up. But the only reason the stock market is rising is due to currency swaps, and pure fed manipulation, it has nothing to do with the real economy.

- See more at: http://www.wallstfor...h.PfcAQGkJ.dpuf

 

เขาบอกถึงความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการตัดงบประมาณของเมกา (ซึ่งเจ้ามือใช้มาปั่นมาทุบตลาด)

ข้อแรกคือมันจะให้ผลทันทีซึ่งไม่ใช่ มันจะเริ่มส่งผลก็คือเดือนเมษา ดังนั้นยังเหลือเวลาที่จะคุยกันใหม่อีก

ข้อที่สองคือมันเป็นการตัดงบลง ซึ่งจริงๆแล้วคือการตัดส่วนที่จะใช้เพิ่มขึ้นต่างหาก(ประมาณว่าให้ใช้เท่าเดิม ใช้มากขึ้นไม่ได้)

ข้อมูลในวันศุกร์ รายได้ของบุคคลลดลงแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น น่าจะหมายถึงว่าคนใช้เครดิตในการซื้อของ (ซึ่งหมายถึงว่าเจ๊งแน่ๆ)แต่น้องดาวก็ยังขึ้น 35จุด

เขาเชื่อว่าตราบใดที่เฟดยังพิมพ์เงินและกดดอกเบี้ย ตลาดหุ้นก็ยังขึ้นต่อ (แต่ปรับฐานมันก็ต้องมีตามธรรมดา)

สรุปความทั้งหมดที่ว่ามาคือ เฟดเป็นตัวการปั่นตลาด

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บางส่วน จากที่ เอริค คิง คุยกับ จิม ซินแคลร์ (ลุงจิม)

  • ลอง กลับไปดูเมื่อตอนที่ทองขึ้นไปที่ ๘๘๗.๕๐ เมื่อปี ๑๙๘๐ ... วันแรงลงมาร้อยเหรียญ วันที่สองลงมาอีกสองร้อยห้าสิบเหรียญ
  • .................................................................................................................
  • .................................................................................................................

ฟังเต็มๆได้ที่นี่

http://www.kingworldnews.com/kingworldnews/Broadcast/Entries/2013/3/2_Jim_Sinclair_files/Jim%20Sinclair%203%3A2%3A2013.mp3

 

ที่มา http://www.kingworld...m_Sinclair.html

 

 

Sequestration and The Rigged Game

 

Posted on March 2, 2013 by John Manfreda

 

 

If one has been following the news lately, everything you would hear about is the sequestration, and how catastrophic it will be. As I am writing this, the .................................................................................................................

.................................................................................................................

สรุปความทั้งหมดที่ว่ามาคือ เฟดเป็นตัวการปั่นตลาด

 

ขอบคุณครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จิม โรเจอร์ส นี่เองครับที่ผมจำสับกับลุงจิม(ซินแคลร์)

เมื่อปี 52 เขาคาดว่าทองจะไป $2000

แต่ขณะนี้ เขาคิดว่าน่าจะพักฐานบ้าง ตามนี่ครับ

http://www.prachacha...&day=2009-11-09

 

ราคาทองกำลังพุ่งแรงต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน และทำสถิติสูงสุดระหว่างวันอีกครั้ง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 พ.ย.) ด้วยราคาซื้อขายส่งมอบทันที (spot gold) ที่ 1,097.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาตามสัญญาฟิวเจอร์กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่ง ทะยานสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,098.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1,087.30 ดอลลาร์

 

นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ค้าทองคำ ในตลาดล่วงหน้า ต่างคาดการณ์ว่าราคาทองมีแนวโน้มจะทดสอบระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นด่านต่อไป

 

ในมุมมองของเทรดเดอร์และกูรู นักลงทุนทองบางรายเชื่อว่า ราคาทองคำจะไม่หยุดอยู่แค่ระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์เท่านั้น แต่จะพุ่งทะยานต่อไปตราบเท่าที่ดอลลาร์สหรัฐยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

 

หนึ่งในนักลงทุนที่เชื่อมั่นในอนาคตอันสดใสของทองคำและสินค้าคอมโมดิตีส์ คือ จิม โรเจอร์ส ซึ่งในอดีตทำนายไว้ว่าคอมโมดิตีส์จะเริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้นตั้งแต่ปี 2542 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ทำนายอีกครั้งว่า ราคาทองจะวิ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดถึง 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอีก 10 ปีข้างหน้า

 

http://www.doctorwe.com/posttoday/20120322/257

 

สี่ ราคาทองคำขึ้นติดต่อกันมา 11 ปีแล้ว มันอาจถึงเวลาที่จะต้องตกลงมาบ้างแล้ว

ข้อนี้อาจเป็นข่าวดีของคุณผู้อ่านที่ยังอยากซื้อทองคำเพิ่ม โรเจอร์สได้ยกตัวอย่าง 2 ตัวอย่างในอดีตให้ฟังคือ ตัวอย่างที่หนึ่งคือ ราคาหุ้นในตลาดนิวยอร์คขึ้นมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2526-2530 ราคาหุ้นขึ้นไม่ยอมลง..จนหลายคนคิดว่ามันจะไม่มีวันลงอีกแล้ว จนเกิดวิกฤตตลาดหุ้นในปี 2530 หุ้นก็ตกลงมาอย่างระเนระนาด แต่หลังจากวิกฤตแล้ว ราคาหุ้นก็ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอีกจนถึงปี 2542 เป็นเวลาติดต่อกัน 12 ปีและให้ผลตอบแทนสูงถึง 725 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาดังกล่าว

อีกตัวอย่างหนึ่งที่เขายกมาให้เห็นก็คือ ราคาทองคำในปี 2514 เริ่มต้นที่ 35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และก็ขึ้นไปถึง 200 ดอลลาร์ในปีเดียวกัน แล้วมันก็ตกลงอย่างหนักในปี 2517 โดยราคาทองคำมาอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หลังจากนั้นอีก 6 ปี..มันก็ฮึดกลับขึ้นมาใหม่ ครั้งนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึง 750 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โรเจอร์สคิดว่า ปัจจุบันนี้..ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นมาติดต่อกัน 11 ปีแล้ว เขามองว่ามันน่าจะถึงเวลาที่จะต้องตกลงมาบ้างแล้ว โดยโรเจอร์สคาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่อาจจะหล่นลงมาถึง 1,200-1,300 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือพูดง่ายๆก็คือ ทองคำ 1 บาทอาจมีราคาต่ำกว่าสองหมื่นบาท (ข้อนี้ควรใช้วิจารณญาณ..ในการลงทุนด้วยนะครับ)

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฮือฮา! “กรีซ” กลายเป็นชาติแรกของโลก สูญเสียสถานะ “ประเทศพัฒนาแล้ว” หลัง ศก.ทรุด-หนี้ท่วม blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มีนาคม 2556 17:32 น.

 

 

blank.gif 556000002770301.JPEG blank.gif เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- “รัสเซลล์ อินเวสต์เมนต์ส” บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนชื่อดังซึ่งมีฐานอยู่ที่นครซีแอตเติลของสหรัฐฯ ประกาศลดสถานะของกรีซ ประเทศสมาชิกกลุ่มยูโรโซนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว จากการเป็น “ประเทศพัฒนาแล้ว” เหลือเพียงกลุ่มประเทศ “เศรษฐกิจเกิดใหม่”

 

รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนดังกล่าวที่รับผิด ชอบสินทรัพย์ทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 71.4 ล้านล้านบาท) ระบุว่า เศรษฐกิจกรีซได้กลายเป็น “ศูนย์รวมแห่งความวิตกกังวล” ของทั่วทั้งโลก นับตั้งแต่ที่มีการเปิดเผยยอดหนี้สินจำนวนมหาศาลของประเทศในปี 2009 และในขณะนี้ กรีซได้สูญเสียศักยภาพทางเศรษฐกิจในระดับของประเทศพัฒนาแล้วไปจนหมดสิ้น ทั้งในด้านของรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากร ปริมาณการค้า ยอดรวมการลงทุน ความสามารถของรัฐในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ฯลฯ นับเป็นครั้งแรกที่กรีซสูญเสียสถานะดังกล่าว นับตั้งแต่ถูกยกให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเต็มตัวเมื่อปี 2001

 

แม็ต ลีสทรา นักวิเคราะห์อาวุโสของ รัสเซลล์ อินเวสต์เมนต์สให้ความเห็นว่า ระดับหนี้สินที่สูงลิ่วของกรีซจนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเปราะบางและไร้ เสถียรภาพนั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้กรีซกลายเป็นประเทศแรกของโลก ที่ต้องสูญเสียสถานะการเป็นดินแดนที่พัฒนาแล้ว

 

อย่างไรก็ดี คำแถลงของรัสเซลล์ อินเวสต์เมนต์ส ยืนยันว่า แม้สเปนและโปรตุเกสซึ่งต่างเป็นสมาชิกยูโรโซน หรือกลุ่ม 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลัก จะประสบภาวะวิกฤตด้านหนี้สินที่ร้ายแรงไม่แพ้กับกรีซ แต่ศักยภาพโดยรวมของเศรษฐกิจสเปนและโปรตุเกสยังคงแข็งแกร่งกว่า ดังนั้น ทั้ง 2 ประเทศจึงยังไม่ถูกถอดจากการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในการปลดกรีซออกจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีขึ้นในช่วง เดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพิ่งเดินทางกลับไปเยือนกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซเมื่อวันอาทิตย์ (3) เพื่อประเมินความก้าวหน้าของกรีซ ในการปฏิบัติตามมาตรการรัดเข็มขัดอันเข้มงวด

 

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ผู้นำของกลุ่ม “ทรอยกา” หรือเจ้าหนี้ 3 ฝ่าย ที่ประกอบไปด้วยผู้แทนจากอียู ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีกำหนดพบหารือกับยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีคลังของกรีซเกี่ยวกับความคืบหน้าของรัฐบาลเอเธนส์ในการแปรรูปรัฐ วิสาหกิจ การปฏิรูปภาษี การเพิ่มทุนของภาคธนาคาร และการลดจำนวนพนักงานของรัฐลงให้ได้ราว 150,000 คนภายในปี 2015 เพื่อลดค่าใช้จ่าย หลังจากที่เศรษฐกิจกรีซต้องประสบภาวะถดถอยเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน

556000002770302.JPEG

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-2564-0-05108900-1362354370_thumb.png

 

จากลุงจิม

  • ประเทศในกลุ่มบริคส์กำลังพยายามสะสมทองคำให้ได้ร้อยละ ๑๕ ของปริมาณเงินสำรองทั้งหมด เพราะในที่สุดทองคำจะถูกยอมรับ และเลื่อนขั้นมาเป็น เงินที่แท้จริง ในที่สุด (กฏของเกรชแฮม*)
  • นี่คือสิ่งที่โลกตะวันตกไม่สามารถควบคุมได้ อย่างเก่งที่ทำได้ ก็เป็นแค่การสร้างความแปรปรวน/ผันผวนอย่างรุนแรงในตลาด
  • จากคลิปวิดิโอ ความผันผวนในตลาดคือสิงโต และพวกหลานๆคือช่างภาพคนนั้น -- หลานๆจะต้องนิ่งให้ได้แบบช่างภาพคนนั้น เพื่อที่หลานจะได้มีทองคำเป็นหลักประกันเมื่อทองคำเทรดที่ ๔,๔๐๐ เหรียญ
  • เมื่อทองคำทะลุ ๓,๕๐๐ และ ๔,๐๐๐ คลังเมืองลุงแซม และตาโป๊งเหน่ง จะใช้เพื่อนๆของเขาทำให้ราคาวิ่งอยู่ในช่วง ๓,๕๐๐-๔,๙๙๐ สองสามครั้งก่อนที่ทองคำจะกลายเป็นเงินที่แท้จริง ที่ ๔,๔๐๐ และหลังจากนั้นจะเกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมา
  • ลุงขอเชิญชวนหลานๆให้เข้าร่วมกับ แนวร่วมดาวหางทองคำ กับลุง -- แนวร่วมนี้มีความกล้าหาญเป็นอาวุธ และสิ่งเดียวแนวร่วมจะทำคือ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น -- พวกเราจะคงสถานะทองคำของพวกเราไว้โดยไม่มีหนี้ และไม่สนใจธนาคารทองคำทั้งหลายที่พยายามจะทำให้เรากลัว -- ตลาดที่ถูกปั่นหัวโดยธนาคารทองคำ จะพยายามเข้ามาแย่งทองคำจากหลานๆไป และหลานจะต้องอยู่นิ่งๆ เงียบๆ (เหมือนช่างภาพคนนั้น)
  • มีนักเขียนคนหนึ่ง ที่เป็นที่รู้จักในวงการทองคำ ออกมาบอกว่าทองคำจะต่ำลงไปกว่านี้ ก่อนที่จะกลายเป็นขาขึ้น -- และเขาก็ยินดีที่จะขายโปรแกรมวิเคราะห์ตลาดโลกของเขาในราคายี่สิบล้านเหรียญ -- ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ เขากำลังเป็นเครื่องมือของธนาคารในการสร้างความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาดทองคำ (นักเขียนที่ว่า คือมาร์ติน อาร์มสตรอง)
  • มาเข้าร่วมกับแนวร่วมดาวหางทองคำกับลุงเถอะ กองกำลังของพวกเราเป็นกองกำลังที่ติดอาวุธครบมือ แต่ไม่ใช้ความรุนแรง -- นี่เป็นวิธีที่เราจะก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้ พร้อมกับกำเงินที่แท้จริงอยู่ในมือ
  • หลานๆจะต้องมีสมองเพื่อที่จะเข้าใจ และตาที่จะมองเห็นว่าเกมนี้จะจบอย่างไร -- อย่างที่อธิบายไว้ในคลิปวิดิโอ ว่าหลานมีอาวุธที่จะใช้สู้กับศัตรูนี้ -- จงยืนนิ่งๆ ทำใจร่มๆ และไม่ทำอะไร ในขณะที่ธนาคารทั้งหลายกำลังทำให้ไม่มีคนอยากถือทองคำ ในขณะที่เกมกำลังจะจบ..
  • เมื่อสิงโตอยู่ใกล้ อย่างเดียวที่หลานๆต้องทำคืออยู่นิ่งๆ -- นี่คือธรรมนูญของแนวร่วมของเรา

** กฏของเกรชแฮม สรุปโดยย่อ

เมื่อรัฐบาลทำให้ค่าเงินสกุลหนึ่งมีค่ามากเกินไป และเงินอีกสกุลมีค่าต่ำเกินไป

เงินที่มีค่าต่ำเกินไปจะหนีออกไปนอกประเทศ หรือหายไปจากระบบเพราะคนพยายามกักตุนไว้

ในขณะที่เงินที่มีค่ามากเกินไปจะเข้ามาจนล้นระบบ

 

ป.ล.

 

อีกสองสัปดาห์ ลุงจะเตรียมประกาศณียบัตร พร้อมลายเซ็นลุง เพื่อยืนยันว่าหลานๆเป็นสมาชิกในแนวร่วมนี้ (ไม่ต้องห่วง ลุงไม่ใส่ชื่อหลานลงไปหรอก) แนวร่วมของเราจะไม่มีการประชุม, ค่าธรรมเนียม และ ค่าใช้จ่าย เมื่อถึงเวลาที่ทองคำวิ่งไปถึง ๔,๔๐๐ เหรียญ และหลานๆยังมีทองคำอยู่ในมือ เพื่อช่วยปกป้องหลานๆจากเงินเฟ้อ -- หลานๆจะได้รู้ว่าแนวร่วมนี้ และสติของหลานๆ ช่วยให้หลานๆผ่านมันมาได้

 

ที่มา : http://www.jsmineset...tance-movement/

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

จากลุงจิม

  • ประเทศในกลุ่มบริคส์กำลังพยายามสะสมทองคำให้ได้ร้อยละ ๑๕ ของปริมาณเงินสำรองทั้งหมด เพราะในที่สุดทองคำจะถูกยอมรับ และเลื่อนขั้นมาเป็น เงินที่แท้จริง ในที่สุด (กฏของเกรชแฮม*)
  • ...................................................................................................
  • ...................................................................................................
  • มาเข้าร่วมกับแนวร่วมดาวหางทองคำกับลุงเถอะ กองกำลังของพวกเราเป็นกองกำลังที่ติดอาวุธครบมือ แต่ไม่ใช้ความรุนแรง -- นี่เป็นวิธีที่เราจะก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้ พร้อมกับกำเงินที่แท้จริงอยู่ในมือ
  • ...................................................................................................
  • ...................................................................................................

 

ที่มา : http://www.jsmineset...tance-movement/

 

ขอบคุณครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บางทีดูภาพกราฟทองไม่ชัดผมก็จะไปดูกราฟเงินsilverเเทน

 

มีบูลลิชไดเวอเจนในกราฟรายวันชัดเจนมาก ในกราฟเงินเหมาะเเก่การเข้าบางส่วนก่อน

 

ช่วงประโคมข่าวหนักมากๆเกี่ยวกับราคาทองที่เเย่เเสนเเย่ทั้งในเเละนอก จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เริ่มซื้อขายทองตั้งเเต่หมื่นต้นๆนะครับ ช่วงอารมณ์ที่ผมอยากจะทิ้งทองที่สุด เป็นช่วงที่ใกล้จะกลับตัวเเล้วเเทบทุกครั้ง หวังว่ามันคงเป็นการคาดเดาที่ถูกต้องในครั้งนี้

 

:)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-2564-0-05108900-1362354370_thumb.png

 

จากลุงจิม

  • มีนักเขียนคนหนึ่ง ที่เป็นที่รู้จักในวงการทองคำ ออกมาบอกว่าทองคำจะต่ำลงไปกว่านี้ ก่อนที่จะกลายเป็นขาขึ้น -- และเขาก็ยินดีที่จะขายโปรแกรมวิเคราะห์ตลาดโลกของเขาในราคายี่สิบล้านเหรียญ -- ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ เขากำลังเป็นเครื่องมือของธนาคารในการสร้างความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาดทองคำ (นักเขียนที่ว่า คือมาร์ติน อาร์มสตรอง)

 

เอาแบบจะๆเลยครับ ของ มาร์ติน อาร์มสตรอง

เขาบอกว่ามันเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะลงทะลุ 1150 แล้วก็จะหยุดเมื่อต่ำกว่า 1000

ทำให้ทุกๆคนที่บอกว่าซื้อเก็บอย่างเดียวอย่าขายนั้นตายหมด

ดังนั้นถ้าเห็นว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะถือไว้ก็ให้ขาย แล้วค่อยมาซื้อกลับคืนเมื่อมันกลับเป็นขาขึ้น

ปล.ความเห็นส่วนตัวของผม...ถ้ามันลงทะลุ 1150 เมื่อไร ผมจะเอาบ้าน เอารถ เอาทุกอย่างที่เขารับจำนองไปจำนอง แล้วมาซื้อทอง :047

 

So it is entirely possible that if the 11500 gives way, we will stop just under 1,000 flushing out everyone who keeps saying buy and never sell. If that is too much risk, then sell and get back in with the first Monthly Bullish Reversal elected.

 

http://armstrongecon...-sell-buy-hold/

 

ปล.2 ตามาร์ตินเวลาเขียนราคาทองชอบเขียน 0 เกินมาตัวนึง ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าเห็น 11500

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาแบบจะๆเลยครับ ของ มาร์ติน อาร์มสตรอง

เขาบอกว่ามันเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะลงทะลุ 1150 แล้วก็จะหยุดเมื่อต่ำกว่า 1000

ทำให้ทุกๆคนที่บอกว่าซื้อเก็บอย่างเดียวอย่าขายนั้นตายหมด

ดังนั้นถ้าเห็นว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะถือไว้ก็ให้ขาย แล้วค่อยมาซื้อกลับคืนเมื่อมันกลับเป็นขาขึ้น

ปล.ความเห็นส่วนตัวของผม...ถ้ามันลงทะลุ 1150 เมื่อไร ผมจะเอาบ้าน เอารถ เอาทุกอย่างที่เขารับจำนองไปจำนอง แล้วมาซื้อทอง :047

 

ที่มีอยู่ท่านยังรวยยยยย ไม่พอเหรอค้าบเนี้ย :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ส่วนความเห็นส่วนตัวของผม มันจะลงเท่าไรไม่สน ขอให้มันกลับมาขึ้นๆๆ เป็นพอ

 

ปล. ลองนึกถึง 7-11 ตอนปี 51 มันคงเหมือนถือ 7-11 ตอนนั้น

ปัจจุบันคนถือคงลืมความรู้สึกตอนมันลงไปแล้วอ่ะ และคงไม่คิดว่าเสียโอกาสเล่นรอบสักเท่าไรหรอกมั้ง :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...