ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณ คุณ MOR LEK ที่อัพเดส ข้อมูลให้ตลอดเวลา... ผมจะค่อยติดตามอ่านนะครับ...

 

ขอบคุณ อีกครั้ง..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขการตกงานของอเมริกา ของจริงกับที่ประกาศต่างกันเยอะ

 

sgs-emp.gif?hl=ad&t=1301663062

 

 

หมายเหตุ

  • U1 : Percentage of labor force unemployed 15 weeks or longer.
  • U2 : Percentage of labor force who lost jobs or completed temporary work.
  • U3 : Official unemployment rate per ILO definition.
  • U4 : U3 + "discouraged workers", or those who have stopped looking for work because current economic conditions make them believe that no work is available for them.
  • U5 : U4 + other "marginally attached workers", or "loosely attached workers", or those who "would like" and are able to work, but have not looked for work recently.
  • U6 : U5 + Part time workers who want to work full time, but cannot due to economic reasons.

 

คุณหมอครับ คือผมดูกราฟแล้วเข้าใจว่าเหมือนอัตราการตกงานมันลดลงหรอครับ เห็นกราฟมันพีคสุดที่ช่วงปลาย 2009 แล้วคงตัวจนเหมือนมีแนวโน้มค่อยๆลดลง

 

คือหมายถึงอเมริกาเริ่มมีอัตรการจ้างงานเพิ่มขึ้นหรอครับ !38 !38

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณหมอครับ คือผมดูกราฟแล้วเข้าใจว่าเหมือนอัตราการตกงานมันลดลงหรอครับ เห็นกราฟมันพีคสุดที่ช่วงปลาย 2009 แล้วคงตัวจนเหมือนมีแนวโน้มค่อยๆลดลง

 

คือหมายถึงอเมริกาเริ่มมีอัตรการจ้างงานเพิ่มขึ้นหรอครับ onion33.gif onion33.gif

 

 

ตอนที่ Lehman Brothers ล้ม มันวันที่ 15 กันยา 08( http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=73655 )

หลังจากนั้นตัวเลขตกงานก็พุ่งกระฉูด จนพีค ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ คือราวปลายปี09ต้น10

มาถึงปัจจุบันก็ลดลงจากพีคอยู่หน่อยนึง แต่ก็สูงจนไปไม่รอดแน่ๆครับ

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณหมอครับ คือผมดูกราฟแล้วเข้าใจว่าเหมือนอัตราการตกงานมันลดลงหรอครับ เห็นกราฟมันพีคสุดที่ช่วงปลาย 2009 แล้วคงตัวจนเหมือนมีแนวโน้มค่อยๆลดลง

 

คือหมายถึงอเมริกาเริ่มมีอัตรการจ้างงานเพิ่มขึ้นหรอครับ !38 !38

 

สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงค่ะ ตัวเลข official ดูเหมือนกับว่า unemployment ลดลง (จาก 9% เหลือ 8.9% ก็ดีใจกันซะแล้ว เวรกรรม นี่เป็นตัวเลขที่ทาง "รัฐบาล" อยากให้เห็นนะคะ) แต่ตัวเลขที่หน่วยงาน SGS (The shadow government statistics) แจ้งออกมาคือ 22.1% นั่นคือ 100 คน ตกงานจริงๆ 22 คน (แย่มากเลยนะ)

 

ตามด้วยเงินเฟ้อที่ทางการแจ้งคือประมาณ 2% แต่ตัวเลขที่แท้จริง น่าจะประมาณ 6% น้ำมันราคาพุ่งขนาดนี้ ตายแน่ $150-200 ได้เห็นแน่ เหนื่อยล่ะค่ะงานนี้ พวกเราช่วยๆ กันประหยัดนะคะ !_09

 

alt-cpi-home2-mini.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จริงๆ แล้วอยากจะขอรณรงค์ให้พวกเราทุกคน ช่วยๆ กันประหยัดพลังงาน ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส (ทั้งหุงต้มหรือเติมรถ) ไฟฟ้า น้ำ ทรัพยากรธรรมชาติทั้งหลายแหล่ ช่วยๆ กันประหยัด ไม่ว่าจะเป็นของที่บ้านหรือในที่ทำงาน เจอใครเปิดไฟทิ้งไว้ ช่วยๆ กันปิด อย่าแค่เดินผ่านแล้วช่างมัน คนละนิด คนละหน่อย เพื่อโลก เพื่อตัวท่านเองและเพื่อลูกหลานของทุกๆ คน เราจะเห็นว่าทุกวันนี้ ธรรมชาติกำลังเอาคืน ความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นกับโลกจากฝีมือมนุษย์ ทำให้โลกพยายามปรับสมดุลด้วยตัวมันเอง เพราะคนที่อยู่ไม่ช่วยกันดูแล ภัยพิบัติทั้งหลายที่เกิดขึ้น มันก็เกิดจากการเสียสมดุลของธรรมชาติ เกิดจากความโลภของคน สิ่งที่พวกเราต้องเจอกันก็คือราคาอาหารจะแพงมากๆ (ภัยธรรมชาติทำให้พื้นที่ผลิตอาหารเสียหาย เช่น น้ำท่วมที่สุราษฏร์ฟาร์มกุ้งก็เสียหายเยอะมาก พัทลุงและอีสาน นาข้าว เสียหาย etc) สงครามทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นเรื่อยๆ แผ่นดินไหวที่เกิดแล้วเกิดอีก ถ้าเรายังมัวแต่ "ช่างมัน ไม่ใช่ของเรา"พวกเราทั้งหลายก็คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกรรมที่พวกเราช่วยกันทำไว้ ช่วยๆ กันเถอะนะคะ !_087

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตารางแสดงจำนวนคนที่กินคูปอง = 44,187,831 คน

 

http://www.zerohedge.com/article/america-celebrates-positive-nfp-surprise-and-wealth-effect-anoher-record-foodstamp-usage

Snap%201_0.png

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อ หลายปีก่อนผมเคยเสนอ แนวทางการประหยัดค่าไฟฟ้า แบบนี้ครับ

 

ใช้เสื้อกางเกงที่ไม่ต้องรีด ... เช่น นักเรียน แต่งชุดเต็มยศ วันจันทร์ วันเดียวก็ได้ ที่เหลือ เสื้อยืดแบบ ไม่ต้องรีด สีขาว มีสัญญาลักษ์ รร. ก็พอ

(ผมก็ซื้อเสื้อยืดแบบไ่ม่ต้องรีดมาใส่ ก็โอเคนะครับ ซักแล้วตาก แห้งแล้วก็ใส่เลย ไม่รีด ราคา ก็ไม่แพงมากครับ เนื้อผ้าก็นิ่มดีใส่ก็ไม่ร้อน)

 

ข้าราชการ พนง.รัฐฯ บจก. ห้างร้าน ต่าง ๆ ก็ทำเช่นกัน

 

ลองคิดดู ว่า วันหนึ่งเป็นล้าน ๆ ชุด นะครับ ชาติประหยัดไฟฟ้าได้เท่าไร

 

---------------

 

บ้านประหยัดพลังงาน คือหลังคาเป็น โซล่าเซล อันนี้ผมเห็นเค้าทำกันแล้วครับ

 

แต่ผมเพิ่มเติมนิดหนึ่ง คือ กลางวันเราไม่ค่อยได้ใช้ไฟฟ้ากัน

เพราะไม่อยู่ไปทำงาน กัน เมื่อได้ไฟฟ้ามา ก็ ขายให้ กฟฟ ไป

พอกลางคืน เราก็ใช้ ของ กฟฟ แบบเดิม...

 

โดยใช้มิตเตอร์ พิเศษ คือ คือเป็น มิตเตอร์ 2 ทาง

กลางวันได้ไฟฟ้ามา ก็ส่งออก โดยหักมิตเตอร์ ได้เท่าไร ก็ลบไป พอกลางคืนก็แบบเดิม ใช้ไปเท่าไรก็บวกไป

 

แบบนี้ จะทำให้ไม่ต้องมีแบตเตอรี่ คอยช๊าต ฯลฯ อะไรต่าง ๆ มากมาย ประหยัดทุน ได้เยอะ และสะดวกกว่า ค่าบำรุงรักษาก็น้อยลง

 

แค่แผงโซล่าเซล กับ มิตเตอร์ 2 ทาง

-------------

กังหันลม ก็ดีครับ แต่น่าจะเหมาะกับ อาคารสูง อาคารสูงลมบน

น่าจะดีกว่า อันนี้ก็น่าพิจารณา ครับ... สำหรับอาคารสูงต่าง ๆ ใน กทม.

ไม่ต้องกลัว ล้มนะครับ เพราะใบหมุนนั้นตั้งความเร็วลมได้ พอลมแรงเกินพิกันก็จะลู่ไปเลยไม่กินลม ก็ไม่เสี่ยงกับการถูกพัดกระเ็ด็นตกลงมา

แล้วก็ใช้ ภาษี เป็นต้ัวจูงใจ ให้ทำกัน

------------------

น้ำมันว่านสบู่ดำ อันนี้ก็ดีครับ สำหรับรถเกษตร

เครื่องยนต์การเกษตร นี้ใช้ได้หลากหลายมากครับ

ไถ่นา ปั่นไฟ สูบน้ำ ฯลฯ อเนกประสงค์จริง ๆ

 

ข้อดีคือ หีบเอาน้ำมันได้ง่าย ๆ แค่แดดดีหน่อย

ตากไว้สัก ครึ่งวันก็หีบเอาน้ำมันมาใช้กันได้แล้วครับ เหมาะกับครัวเรือน

 

ข้อเสียคือ มันสุกไม่พร้อมกัน ต้องพัฒนาพันธุ์ ให้ดี ๆ ครับ

ทำให้มันสุกพร้อม ๆ กัน ปลูกเอง หีบเอง ใช้เอง จบ

 

--------------

 

ถ้าบ้านประหยัดพลังงาน ต้องคนนี้เลยครับ

 

ศ ดร. สุนทร

ถูกแก้ไข โดย VikingsX

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนที่ Lehman Brothers ล้ม มันวันที่ 15 กันยา 08( http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=73655 )

หลังจากนั้นตัวเลขตกงานก็พุ่งกระฉูด จนพีค ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ คือราวปลายปี09ต้น10

มาถึงปัจจุบันก็ลดลงจากพีคอยู่หน่อยนึง แต่ก็สูงจนไปไม่รอดแน่ๆครับ

 

 

สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงค่ะ ตัวเลข official ดูเหมือนกับว่า unemployment ลดลง (จาก 9% เหลือ 8.9% ก็ดีใจกันซะแล้ว เวรกรรม นี่เป็นตัวเลขที่ทาง "รัฐบาล" อยากให้เห็นนะคะ) แต่ตัวเลขที่หน่วยงาน SGS (The shadow government statistics) แจ้งออกมาคือ 22.1% นั่นคือ 100 คน ตกงานจริงๆ 22 คน (แย่มากเลยนะ)

 

ตามด้วยเงินเฟ้อที่ทางการแจ้งคือประมาณ 2% แต่ตัวเลขที่แท้จริง น่าจะประมาณ 6% น้ำมันราคาพุ่งขนาดนี้ ตายแน่ $150-200 ได้เห็นแน่ เหนื่อยล่ะค่ะงานนี้ พวกเราช่วยๆ กันประหยัดนะคะ !_09

 

alt-cpi-home2-mini.gif

 

 

ถึงบางอ้อเลยครับ ขอบคุณมากครับ :wub: :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จริงๆ แล้วอยากจะขอรณรงค์ให้พวกเราทุกคน ช่วยๆ กันประหยัดพลังงาน ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส (ทั้งหุงต้มหรือเติมรถ) ไฟฟ้า น้ำ ทรัพยากรธรรมชาติทั้งหลายแหล่ ช่วยๆ กันประหยัด ไม่ว่าจะเป็นของที่บ้านหรือในที่ทำงาน เจอใครเปิดไฟทิ้งไว้ ช่วยๆ กันปิด อย่าแค่เดินผ่านแล้วช่างมัน คนละนิด คนละหน่อย เพื่อโลก เพื่อตัวท่านเองและเพื่อลูกหลานของทุกๆ คน เราจะเห็นว่าทุกวันนี้ ธรรมชาติกำลังเอาคืน ความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นกับโลกจากฝีมือมนุษย์ ทำให้โลกพยายามปรับสมดุลด้วยตัวมันเอง เพราะคนที่อยู่ไม่ช่วยกันดูแล ภัยพิบัติทั้งหลายที่เกิดขึ้น มันก็เกิดจากการเสียสมดุลของธรรมชาติ เกิดจากความโลภของคน สิ่งที่พวกเราต้องเจอกันก็คือราคาอาหารจะแพงมากๆ (ภัยธรรมชาติทำให้พื้นที่ผลิตอาหารเสียหาย เช่น น้ำท่วมที่สุราษฏร์ฟาร์มกุ้งก็เสียหายเยอะมาก พัทลุงและอีสาน นาข้าว เสียหาย etc) สงครามทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นเรื่อยๆ แผ่นดินไหวที่เกิดแล้วเกิดอีก ถ้าเรายังมัวแต่ "ช่างมัน ไม่ใช่ของเรา"พวกเราทั้งหลายก็คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกรรมที่พวกเราช่วยกันทำไว้ ช่วยๆ กันเถอะนะคะ !_087

เห็นด้วยครับ ช่วยๆ กันครับ !031

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมี้ยวๆๆๆ !37

 

ถ้าได้อ่านคอลัมน์นี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วในนสพ.ไทยรัฐ จะพบว่าประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยเดิมอยู่เสมอๆ แสดงว่ายังมะเข็ด !_01

 

ธนบัตรใบแรกของโลก

 

คอลัมน์ นสพ. ไทยรัฐ: "คัมภีร์ จาก แผ่นดิน"

วันที่: วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค. 54

 

ปกหนังสือชื่อ ต้นกำเนิด 100 สิ่งแรกของโลก ชื่อภาษาอังกฤษ THE GENIUS OF CHINA (สำนักพิมพ์มติชน โรเบิร์ต เทมเพิล เขียน ดร.พงศาล มีคุณสมบัติ แปล) มีคำเหมือนโฆษณายั่วใจว่า เชื่อหรือไม่! สิ่งประดิษฐ์ยิ่งใหญ่ ในทุกวันนี้ ล้วนมีรากฐานมาจากจีนโบราณ

 

นักเลงหนังสือส่วนใหญ่ คงเคยอ่านกันมาบ้าง การเดินเรือสำรวจโลก เข็มทิศ กระดาษ เครื่องวัดแผ่นดินไหว ฯลฯ จีนค้นคิดและทำก่อนประเทศใดในโลก

 

ในหนังจีนกำลังภายใน หลายเรื่องมีการใช้ตั๋ว เงินกระดาษ และความจริงก็เป็นเช่นนั้น จีนเริ่มใช้ เงินกระดาษมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 8 หรือต้นศตวรรษ ที่ 9 หรือเมื่อกว่าพันปีที่แล้ว

 

ชื่อดั้งเดิมของเงินกระดาษ คือเงินปลิว มันเบามากจนถูกพัดปลิวหลุดมือได้ เงินกระดาษฉบับแรกคือตั๋วแลกเงิน มากกว่าจะเป็นเงินจริงๆ พ่อค้าฝากเงินสดของเขาไว้ที่เมืองหลวง แล้วรับกระดาษเอกสารรับรองเอาไปแลกเป็นเงินสดในมณฑลอื่นได้

 

กิจการนี้เริ่มโดยเอกชนในมณฑลซื่อชวนตอนใต้ รัฐบาลแต่งตั้งธุรกิจเอกชน 16 ราย (หรือธนาคาร) ให้ออกเอกสารแลกเปลี่ยน จนถึงปี 1023 รัฐบาลก็ดึงอำนาจคืนจากเอกชน ตั้งตัวแทนจากรัฐขึ้นมาออกธนบัตรหน่วยเงินต่างๆ ที่มีเงินสดสำรองที่ฝากไว้รองรับ

 

เราจึงอาจบันทึกได้ว่า ธนาคารของรัฐที่มีสกุล เงินสำรองแห่งแรกของโลก เกิดขึ้นในปี 1023

 

เงินที่ออกโดยธนาคารนี้ มีข้อความพิมพ์อยู่ในธนบัตรว่า ใช้ได้เพียงสามปี จนถึงศตวรรษที่ 19 ในปี 1107 ธนบัตรเริ่มพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์หลายอัน มีสีไม่น้อยกว่าหกสี

 

การออกเงินกระดาษโดยรัฐบาลเป็นเรื่องใหญ่

 

ปี 1126 มีการออกเงินกระดาษจำนวนเจ็บสิบล้านเส้น (แต่ละเส้นเท่ากับเงินสด 1,000 เหรียญ) แต่เงินกระดาษเหล่านี้ไม่มีการรับรองด้วยมูลค่าสำรองใดๆ จึงเกิดสภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง

 

ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือการปลอมแปลง เงินกระดาษถูกกระตุ้นให้เกิดการปลอมแปลง เนื่องจากมูลค่าของมันไม่อยู่ที่เนื้อสสาร (เหมือนเงินเหรียญ) แต่อยู่ที่อำนาจที่ได้รับมอบหมาย

 

ทางราชการต้องทำให้กระบวนการผลิตเงินกระดาษซับซ้อน จนไม่มีใครสามารถพิมพ์ออกมาได้เหมือน มีการรักษาความลับในการผลิตอันซับซ้อนไว้ ตั้งแต่ช่วงต้นที่มีเงินกระดาษ ซึ่งรวมการพิมพ์แบบหลายสี การใช้ ลวดลาย และส่วนผสมเฉพาะที่อยู่ในเยื่อกระดาษ

 

วัสดุพื้นฐานที่ใช้ทำกระดาษ คือเปลือกต้นสา บางทีมีการผสมผ้าไหมลงไปด้วย

 

ปี 1183 มีเรื่องเล่าถึงคดีปลอมแปลงธนบัตร ช่างแกะสลักแม่พิมพ์เอกคนหนึ่งใช้เวลาเพียงสิบวัน พิมพ์ธนบัตรปลอม 2,600 ใบ ในช่วงเวลาหกเดือนก่อน เมื่อถูกจับ เขามีโทษถึงประหารชีวิต

 

เมื่อชาวมองโกลครองอำนาจในจีน มีการออกเงินกระดาษแปลกๆ ที่เรียกว่าธนบัตรผ้าไหม สิ่งที่สำรองในการออกเงินตราสกุลนี้ไม่ใช่โลหะมีค่า แต่เป็นมัดเส้นด้ายไหม เงินรุ่นเก่าต้องนำมาแลกเป็นธนบัตรผ้าไหม ปี 1294 มีการใช้ธนบัตรผ้าไหมของจีนไปไกลถึงเปอร์เซีย

 

ปี 1375 สมัยราชวงศ์หมิง มีการออกธนบัตรใหม่ มีมูลค่าเดียวตลอดเวลาสองร้อยปี การกำหนดค่าแบบนี้ ไม่สะดวกต่อการค้าใดๆ แม้จะอนุญาตให้ใช้เหรียญทองแดง สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ธนบัตรอันมีค่าเหล่านี้ค่อยๆเสื่อมมูลค่าจากสภาวะเงินเฟ้อ และถูกแทนที่ด้วยสินแร่เงิน

 

หลังจากผลิตพลาดมาร่วมสองศตวรรษ ราชวงศ์หมิงพยายามนำเงินกระดาษกลับมาใช้ใหม่ แต่ วิธีการใช้ก็แย่มาก จนทำให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อครั้งใหญ่

 

ในที่สุดการใช้เงินกระดาษระดับชาติก็เสื่อมความนิยมลง จนกระทั่งมหาอำนาจยุโรป

 

นำเงินกระดาษกลับมาใช้ใหม่ และใช้กันยั่งยืนมาถึงปัจจุบัน.

 

 

...

 

บาราย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอามาฝากครับ

 

Utah begins using gold, silver as legal tender

 

.....

 

However, the gold and silver coins are still only worth their face value despite record gold and silver prices.

 

........

 

ขอบคุณครับคุณหมอ

ยังไม่ได้ไปเช็คข่าวต่อ แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าถ้าไม่ใช่เป็นเรื่องตลกร้าย ก็เป็น April Fool จังแฮะ

สมมติว่าถ้าทอง US MINT ราคาหน้าเหรียญมันเป็น $1 แต่ราคาโลหะทองของมันจริงๆ $700

เวลาเอาไปจ่ายภาษีให้รัฐ หรือเอาไปซื้อขนมหน้าบ้าน คนจ่ายก็ขาดทุนแย่เลยสิครับrolleyes.gif

ถูกแก้ไข โดย mdaddy

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณหมอ

ยังไม่ได้ไปเช็คข่าวต่อ แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าถ้าไม่ใช่เป็นเรื่องตลกร้าย ก็เป็น April Fool จังแฮะ

สมมติว่าถ้าทอง US MINT ราคาหน้าเหรียญมันเป็น $1 แต่ราคาโลหะทองของมันจริงๆ $700

เวลาเอาไปจ่ายภาษีให้รัฐ หรือเอาไปซื้อขนมหน้าบ้าน คนจ่ายก็ขาดทุนแย่เลยสิครับrolleyes.gif

 

ตรงมีค่าเท่าราคาหน้าเหรียญเนี่ยอาจเป็น April Fool ก้ได้ครับ เพราะมันทะแม่งมากๆcool.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รูเบิล...ปี 1995

 

 

 

รูเบิล...ปี 1997

 

 

 

ตัดเลข ไป 3 ศูนย์ หุ หุ

 

ถ้าเป็น ดอลล่า จะเป็นยังไง เหลือแค่ ไหนเอ๋ย

 

---------------

ของบราซิล...

 

 

 

รุ่นปี 1993

 

ก็สแตมป์ เป็น แบบนี้ครับ...

 

เหลือแค่นี้เองครับ เอาออกไป 3 ศูนย์ เหมือนกัน

 

 

 

แต่ธนบัตรรุ่นใหม่ เท่าที่ผมเห็นนะครับ สูงสุดแค่ 100 ครับ..

-----------

อีกสักตัวอย่างหนึ่ง

 

รุ่นปี 1993

 

 

ทำหน้า งง ๆ เน๊อ อยู่ ๆๆ เหลือแค่ 50 มัยเป็นแบบนั้น

 

 

รุ่นใหม่ปี 1994 และจะเป็น หน้านี้ทุกชนิดราคาครับ

 

 

 

ชนิด 100...

 

 

 

ขอบคุณครับ คุณ VikingX

 

ลองเอาไปเปิดอ่านดูแล้ว น่ากลัวจริงๆ

Brazil นี่มี Hyper Inflation Money หลายรอบเลยนะครับ

http://en.wikipedia....zilian_cruzeiro

 

1942-1967 - 1,000 réis = 1 cruzeiro (หาร 1000)

1967-1986 - 1,000 cruzerios = 1 cruzerio novo (หาร อีก 1000)

1986-1990 - 1,000 cruzerio novo = 1 crozado (หาร อีก 1000)

1990-1993 - 1 crozado = 1 cruzerio (3rd version)

1993- - 1,000 cruzerio = 1 cruzeiro real (หาร อีก 1000)

 

สรุปว่าถ้ามีเงิน 1 ล้านล้าน realเมื่อปี 1941 จะมีเงินเหลือแค่ 1 real ในปี 2011 เท่านั้น

 

ถ้าคุณมีเงิน 1 ล้านล้าน real ในปี 1941 สามารถซื้อทองได้ 2,462,569 oz.

และในปี 2011 ถ้าคุณมีทองจำนวณนั้น สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นเงิน real ปัจจุบัน

ได้ที่ ($1420/oz) 5,650 ล้าน real

 

ถ้าคุณมีเงิน 1 ล้านล้าน real เมื่อปี 1941 มีเงิน USD ประมาณ $83 ล้าน

และถ้าคุณมีเงินจำนวณนั้นในปี 2011 จะแปลงกลับมาเป็น real ปัจจุบัน

134 ล้าน real

 

จากการคิดเลขหยาบๆ สรุปได้ว่า นับจากปี 1941 ถึง 2011

ถ้าคุณแปลงเงิน real เป็นทอง จะทำให้คุณขาดทุนน้อยกว่า

การแปลงเงินเป็น USD ถึง 42 เท่า ในระยะเวลาหนึ่งชั่วอายุคน

ถูกแก้ไข โดย mdaddy

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...