โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[kunghdy 3,187]

ทั้งน้ำมันและหุ้นทางเอเชีย ผมมองบวกนะครับ

ปัจจัยหลักๆก็คือ เงินเฟ้อ ที่จะยิ่งส่งให้สินค้าโภคภัณฑ์ทุกตัวปรับสูงขึ้น

 

ยิ่งน้ำมันซึ่งมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นทุกปีแต่ปริมาณการผลิตผ่าน จุดสูงสุด Peak Oil มาแล้ว

ยิ่งเร่งให้ราคาน้ำมันขึ้นไปยืนเหนือ 100$ ได้ในเวลาอีกไม่นานหรอกครับ

 

สำหรับหุ้นไทยยังมองที่ 1200 จุดก่อน ... เหมือนเดิมครับ

 

161.8% ของ wave 1 ของ set อยู่ประมาณ 1200 +/- ค่ะ Kung's indy ค่ะ 55555+++++ !La

 

สวัสดีค่ะ คุณ next หายไปนานเลย ช้อนหุ้นอยู่เหรอคะ !ee

[happygold 6]

ยังไงก็แล้วแต่ ทองคำไม่ได้ขึ้นเป็นเส้นตรงนะครับ ผมเฝ้ารอการปรับฐานเพื่อหาจังหวะเติมเข้าพอร์ทอยู่

“ทองต้องลดราคาให้ผมเห็นต่อหน้าต่อตาก่อนครับ” ผมค่อยเข้าไปซื้อเพิ่ม

 

 

 

มีโอกาสเข้าเร็วๆนี้ไหมครับ

[Nexttonothing 1,509]

161.8% ของ wave 1 ของ set อยู่ประมาณ 1200 +/- ค่ะ Kung's indy ค่ะ 55555+++++ !La

 

สวัสดีค่ะ คุณ next หายไปนานเลย ช้อนหุ้นอยู่เหรอคะ !ee

 

 

สวัสดีครับ หุ้นก็มีบ้างครับ เล็กๆ น้อยๆ

 

ตั้งแต่กระทู้มี กราฟเทคนิคสวยๆ อ่านง่ายจากคุณ Kunghdy

ทำให้ "ครบ" จริงๆครับ

คนส่วนใหญ่ผมว่าชอบและชื่นชมอยู่แล้ว

เป็นกำลังใจให้นะครับ

[yelle11 11]

อย่า panic ค่ะ ถือต่อ สบายๆ รอระบบค่ะ ยังไม่มีสัญญาณขายออกมา ที่บอกว่าถ้ามันพักลงมาแล้วมักจะขึ้นไป test high เดิม มันต้องลงระดับ 30-40 $ ลงแค่นี้ ก็ sideway ธรรมดา P

 

 

และถ้าจะมีสัญญาณขายจริง จะบอกให้ค่ะ

 

ถ้ามีสัญญาณขายรอบนี้ น่าจะลงเยอะนะ เพราะครบ 5 wave จะเป็นหลัก $100 หรืออาจไม่ถึงก็ได้ [/quote

 

ประโยคสุดท้ายนี้แหละค่ะที่panic และหลายกูรูก็บอกตอนนี้divergence ก็เลยไม่อยากเสียกำไรที่มีอยู่ รวมทั้งไม่อยากขาดทุนที่เพิ่งLมาได้ไม่นาน แต่พอได้อ่านที่คุณkunghdyบอก่ตอนต้น ค่อยสบายใจหน่อย เฮ้อ!เข้าใจผิดนี้เอง

ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้อะไร

 

แต่ถ้ามีสัญญาณขาย คุณkunghdy ต้องบอกจริงๆนะ จริงๆนะ

[Nexttonothing 1,509]

ยังไงก็แล้วแต่ ทองคำไม่ได้ขึ้นเป็นเส้นตรงนะครับ ผมเฝ้ารอการปรับฐานเพื่อหาจังหวะเติมเข้าพอร์ทอยู่

“ทองต้องลดราคาให้ผมเห็นต่อหน้าต่อตาก่อนครับ” ผมค่อยเข้าไปซื้อเพิ่ม

 

 

 

มีโอกาสเข้าเร็วๆนี้ไหมครับ

คำถามคลาสสิคเลยนะเนี่ย ?

หากยังไม่มีของแนะนำ "ซื้อทันทีนะครับ" หากมีอยู่แล้วก็รอ

“รอทองลดราคาให้เห็นต่อหน้าต่อตาก่อน” แล้วซื้อเพิ่มครับ

[patcharin 51]

จะให้ปลอดภัยควร ซื้อตอนลง (buy the dip) นะครับ .. แต่ถ้าเป้าหมายคือระยะยาว

ก็ทยอยเก็บได้ครับ

 

[unipan 26]

เมื่อไหร่จะได้เก็บหมูล่ะครับเนี่ย รอมานานแระ 555+

 

ตอนนี้ผมถอยออกมาดูเรียบร้อยแล้วครับ เสียวสันหลังอยู่ อิอิ

[Nicky 43]

 

ว่ากันตามสถิติ (Statistics)

 

 

เพดานหนี้ถูกเลื่อนขึ้นตามคาด (ในรอบ 50 ปีเลื่อนมาแล้วกว่า 70 ครั้ง)

นักการเมืองถือเอาเรื่องนี้ว่าเป็น “ชัยชนะ” ในการเจรจาประนีประนอมกันได้

สื่อทุกสื่อประโคม“ข่าวดี”หุ้นทุกตลาดขานรับปรับตัวบวกขึ้นหลายจุด

 

“เราอยู่ในโลกที่บิดเบี้ยวโดยแท้”

 

แม้แต่เด็กประถมก็ยังรู้ว่า การมีหนี้เพิ่มนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดี การก่อหนี้เปรียบเสมือนการนำรายได้ในอนาคตมาใช้ก่อน

โดยคาดหวังว่าในอนาคตเราจะมีรายได้เพียงพอชดเชยกัน

 

แต่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุดกลับสวนทาง

 

นับตั้งแต่มี นโยบาย Stimulus Package, Bailout, QE 1-2, จนถึง การเลื่อน Debt Ceiling

เม็ดเงินดอลล่าร์ถูกอัดฉีดเข้าไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แต่ GDP, การจ้างงาน,

ตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆไม่ว่าจะภาคเกษตรหรืออุตสาหกรรมล้วนออกมา “แย่”

 

ล่าสุดตัวเลข GDP ครึ่งแรกของปี 2011 ตัวเลขออกมา ต่ำกว่า 1 %

นี่ขนาดปรับแต่งตัวเลขกันสุดๆแล้ว ยังได้แค่นี้

แปลความง่ายๆว่า “แทบไม่โต”

 

หลักฐานก็คือ ตัวเลขการจ้างงานที่ลดลง

และดัชชีการผลิตภาคอุตสาหกรรม ISM manufacturing index ก็ปรับตัวลดลง 4.4 จุดไปอยู่ที่ระดับ 50.9 อีก

ตัวเลขนี้หากลดต่ำกว่า 50 จุดเมื่อไหร่ หมายความว่า “ถดถอย” (Recession)

 

ตัวเลขเดียวที่ตั้งแต่มีนโยบายอัดฉีดมาแล้วกระตุ้นได้ผลคือ “ราคาทองคำ”

ทำนิวไฮได้โดยตลอด แถมบอกได้เลย..สำหรับราคาทองคำแล้วไม่มีคำว่า “เพดาน” (Ceiling) นะครับ

เพราะเมื่อดอลล่าร์ร่วงได้ไม่มีพื้น ก็ไม่ต้องไปถามหาเพดานราคาของทองคำ

 

โอบาม่าและเบนเบอร์นันเก้ สามารถควบคุมและสั่งการเพิ่ม "ปริมาณ" ดอลล่าร์ออกมาได้ไม่อั้น-ก็จริง

แต่สิ่งที่เค้าควบคุมไม่ได้คือ “มูลค่า” ของมัน เมื่อประเทศเจ้าหนี้ พร้อมใจกัน กำหนด “เพดานจำกัดการให้กู้” เมื่อไหร่

เพดานนี้จะทำให้สหรัฐ Default อย่างแท้จริง เพราะไม่สามารถจะเลื่อนขึ้นลงได้ตามอำเภอใจอีกต่อไป.

 

อีกประเด็นที่ต้องจับตามองคือ การสอยอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากระดับทริปเปิ้ล A

โดยบริษัทเครดิตเรทติ้งต่างๆ

 

หากไม่ทำความน่าเชื่อของบริษัทจัดอันดับเองนั่นแหละที่จะถูกลดไปโดยอัตโนมัติ

 

ในขณะที่หากทำ กองทุนระดับโลกต่างๆที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ความน่าเชื่อต้องเป็นระดับ AAA เท่านั้น

จะโยกเม็ดเงินออกอย่างมหาศาล สินทรัพย์ทางเลือกที่ปลอดภัยให้ที่พักพิงได้ ย่อมหนีไม่พ้น “ทองคำ”

 

 

ล่าสุดธนาคารกลางเกาหลีใต้ จัดหนักทองคำเข้าคลังไปอีก 25 ตัน

เบนเบอร์นันเก้อาจจะมองว่าเป็นการเก็บเข้า “ตามธรรมเนียม” (Tradition)

แต่ความจริงก็คือนี่เป็น การซื้อครั้งแรกในรอบทศวรรษ!

 

มันมีอะไรผิดปกติหรือไม่? (เราทุกคนต่างทราบดี)

 

ก่อนหน้าที่จะมีการตกลงเรื่องเลื่อนเพดานหนี้กันได้ ก็มีข่าวลือแว่วๆว่า จะมีการขายทองคำจากธนาคารกลางสหรัฐเพื่อระดมทุน

และจะทำให้ราคาทองคำรับตัวลงอย่างรุนแรง

 

ข่าวลือก็คือข่าวลือครับ หากธนาคารกลางสหรัฐ เลือกทำอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ

ธนาคารกลางหลายแห่งในเอเชีย (เช่น จีนหรืออินเดีย) รับรองจ้องตาเป็นมันและพร้อมจะตระครุบทองคำล๊อตนั้น (ส่งคืนดอลล่าร์กลับไป) อย่างไม่ลังเล

 

ว่าแต่ .. ยังมีทองคำเหลืออยู่ที่ Fortknox จริงหรือเปล่าครับ ?? ผมเองยังสงสัย ??

 

นาทีนี้ปัจจัยพื้นฐานของทองคำยังแกร่ง เป็นแรงหนุนให้ทองคำยืนเหนือ 1,600$ อยู่ได้

ยังไงก็แล้วแต่ ทองคำไม่ได้ขึ้นเป็นเส้นตรงนะครับ ผมเฝ้ารอการปรับฐานเพื่อหาจังหวะเติมเข้าพอร์ทอยู่

“ทองต้องลดราคาให้ผมเห็นต่อหน้าต่อตาก่อนครับ” ผมค่อยเข้าไปซื้อเพิ่ม

แต่จะให้ผมเสี่ยงโยนทองทิ้งออกไปก่อนเพื่อไปรอรับที่ราคาต่ำกว่าเดิม (Short) ......... ผมไม่ทำ

 

เหตุและผลมากมายในตลาดที่สามารถดันราคาทองคำให้ไปต่อได้ ในอดีตก็เป็นเช่นนั้น

วันนี้เราจะมาดูสถิติย้อนหลังกันหน่อยครับ .....

 

ผมชอบตัวเลขทางสถิติ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต เราไม่สามารถ “โต้แย้ง” ได้ เพราะมันคือ “ความจริง”

ในอดีตเคยส่งผลอย่างไรให้เกิดปัจจุบัน เหตุและผลอย่างเดียวกัน ทำให้เรา “พอจะคาดการณ์อนาคต” ได้ครับ

 

การคาดการณ์อนาคตโดยอาศัยหลักสถิติในอดีตจึงไม่ใช่การคาดการณ์แบบเฟ้อฝัน

แต่เป็นหลักคณิตศาตร์ง่ายๆทั่วไปที่ใครๆก็เข้าใจได้ ......เห็นด้วย-เห็นต่างอย่างไรลองพิจารณานะครับ

 

ไตรมาส 3 ถึง ไตรมาส 4

 

สำหรับผู้ที่ลงทุนทองคำมานานหลายปีจะทราบดีครับว่า

 

“ไตรมาส 3 ของทุกปีเป็นช่วงเวลาที่ทองมักจะปรับฐานและพักตัวหลังจากนั้นเดือนกันยายนเป็นต้นไป

เข้าไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ราคาทองคำฟื้นและปรับตัวสูงขึ้น”

 

นี่คือสิ่งที่อดีตบอกเราครับ

สถาบัน Casey Reserch ถึงขนาดทำไว้เป็นสถิติ !!

 

 

 

 

 

 

ค่อยๆมาไล่ดูกันไปนะครับ...ตัวเลขที่แสดงในตารางก็คือ

 

“จากจุดต่ำสุดของราคาทองในไตรมาส 3

ไปถึงจุดสูงสุดของราคาในไตรมาส 4 ราคาทองขึ้นเท่าไหร่ ?”

 

ยกตัวอย่างเช่น ปี 2001 ราคาต่ำสุดที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 คือ 265.1$

แต่พอไตรมาส 4 ปีเดียวกันขึ้นสูงสุดถึง 293.25$

เท่ากับว่า ซื้อทองที่จุดต่ำสุดของไตรมาส 3 ในปีนั้น ปลายปีทองปรับขึ้น 28.15$ คิดเป็น 10.6%

 

ทำแบบนี้ 10 ปีย้อนหลัง

2002 ขึ้น 15.6% / 2003 ขึ้น 21.5% / 2004 ขึ้น 18% ……… จนถึง 2010 ขึ้น 18.1%

 

จากตารางสรุปแล้วได้ตัวเลขที่น่าสนใจ 3 ตัวครับ

 

1.ทองปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดไตรมาส 3 ไปถึงจุดสูงสุดไตรมาส 4 เฉลี่ยแล้วปีละ 20.7%

 

2.ทองปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดไตรมาส 3 ไปถึงจุดสูงสุดไตรมาส 4 อย่างน้อยที่สุดคือ 10.6 %

 

3.ทองปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดไตรมาส 3 ไปถึงจุดสูงสุดไตรมาส 4 อย่างมากที่สุดคือ 33.5%

 

 

ความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้ครับ....

 

-คำถามก็คือ ปี 2011 ปัจจุบันที่เราอยู่ ราคาต่ำสุดของไตรมาส 3 คือเท่าไหร่ ??

 

-คำตอบคือ 1,483$ ครับ ..

 

 

 

จริงอยู่ไตรมาส 3 ปีนี้ยังไม่จบ แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า 1,483 $ น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว

พอเอาราคานี้มาคำนวณตามตัวเลขทางสถิติ เลขที่ออกคือ

 

1. ทองปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดไตรมาส 3 ไปถึงจุดสูงสุดไตรมาส 4 เฉลี่ยแล้วปีละ 20.7% = 1,790$

 

2. ทองปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดไตรมาส 3 ไปถึงจุดสูงสุดไตรมาส 4 อย่างน้อยที่สุดคือ 10.6 % =1,640.2$

 

3. ทองปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดไตรมาส 3 ไปถึงจุดสูงสุดไตรมาส 4 อย่างมากที่สุดคือ 33.5% = 1,979.81$

 

 

แปลว่า ปลายปีนี้เรามีสิทธิ์ได้เห็นช่วงราคา ตั้งแต่ 1,640-1,790-1,979 $/ozครับ!

 

1,640$ จะเท่ากับที่ราคาทองเคยทำไว้ แย่ที่สุด ( คือขึ้นเพียง 10.6% )

แต่หากเอาค่าเฉลี่ยที่ 20.7% ราคาจะเป็น 1,790$

 

เอากันง่ายๆแบบนี้แหละครับ..ผมลงทุนอะไรไม่เคยคิดสลับซับซ้อน.....

 

คำถามต่อมาก็คือ ทองที่ระดับ 1,600-1,620 $ ตอนนี้

ปลายปีจะถือว่าถูกหรือแพง ??

 

มีตัวเลขอีกตัวที่น่าสนใจนั่นก็คือ “จริงอยู่ที่ไตรมาส 4 ทองขึ้นทำจุดสูงสุด แต่หลังจากนั้นมักจะลงช่วงสิ้นปี”

หากเปลี่ยนใหม่เป็นวัดจากจุดต่ำสุดไตรมาส 3 ไปถึงสิ้นปีแทน ค่าเฉลี่ยการขึ้นจะลดลงเหลือ 16.6%

นั่นเท่ากับ 1,729$ ครับ

 

นั่นหมายความว่า หากคุณขายทองไม่ทันช่วงพีคไตรมาส 4 ของปีนี้ ก็ไม่ต้องกังวล..รอไปถึงปลายปีต่อให้ทองย่อปรับฐาน

31 ธันวาคม 2554 ปีนี้เราอาจจะได้เห็นทองที่ระดับ 1,729$จากการคำนวณค่าเฉลี่ย....

 

ที่อธิบายมาทั้งหมด ผมไม่ได้คิดเองนะครับ “ตัวเลขมันฟ้อง”

 

ที่ผมอยากจะสื่อก็คือหากปีนี้คุณเห็นราคา 1,790$ ก็ไม่ต้องตกใจนะครับ

ขอให้รู้ไว้ว่า อ้อ….. มันปรับตัวขึ้นตามค่าเฉลี่ยแบบนี้ทุกปีอยู่แล้ว “ไม่ได้มีอะไรแปลก”

 

หรือต่อให้ปีนี้คุณเห็นราคา 1,979$ ก็ขอให้รู้ไว้นะครับว่า เหตุการณ์ปรับตัวขึ้นของราคาแรงๆ 33.5%

แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว “ไม่ใช่เรื่องใหม่”

 

ทุกอย่างก็ว่ากันไปตามสถิติครับ.....

 

 

ก่อนจะจบขอแถม Silver นิดหน่อยนะครับ ....

 

 

 

 

 

 

ค่าเฉลี่ยการขึ้นของ Silver คือ 34.6%

แต่ปีที่แล้วทำได้ดีที่สุดถึง 76.8% ครับ

จุดต่ำสุดไตรมาส 3 ของ Silver ปีนี้คือ 33.85$ ที่เหลือผมว่าคุณคงคำนวณได้นะครับว่า

ราคาของ Silver ช่วงปลายปีจะเป็นเท่าไหร่ ???

 

ฝากไว้ให้ลองคำนวณเล่นกันดูครับ

 

ปลายปีขอเงินแค่ 33.85x50% ก็พอครับ อิอิ อีก 4-5 เดือน

[leo_attack 579]

ปลายปีขอเงินแค่ 33.85x50% ก็พอครับ อิอิ อีก 4-5 เดือน

 

ลุ้นเหมือนกันครับ ชนเส้น 40 หัวแตกไปหลายรอบแล้ว น้องเงินสู้ๆ ขอ 60 นะ ไม่โลภ !ahh

[หมีน้ำ 239]

ขอบคุณสำหรับบทความครับคุณ next ผมบอกทุกคนเหมือนกันว่า

 

ถ้ายังไม่มีของ วันนี้ก็ซื้อได้ถ้าเงินเย็นจริง !!!!

[เด็กสยาม 172]

สวัสดีค่ะคุณnextมาแต่ละครั้งพี่ทองพุ่งกระฉูดทุกที ดีใจกับเพื่อนๆที่ยังกอดทองไว้แน่นนะค่ะ

[sss 1]

ขอบคุณครับ

[milo 888]

ขอบคุณครับ คุณเน็กซ์

 

ที่คุณเน็กซ์บอกรอเข้า นี่คือเข้าเพิ่มนะครับเพื่อนๆ ย้ำๆ ไม่ใช่ขายเพื่อซื้อต่ำ

[jasmin 0]

ลุ้นเหมือนกันครับ ชนเส้น 40 หัวแตกไปหลายรอบแล้ว น้องเงินสู้ๆ ขอ 60 นะ ไม่โลภ !ahh

 

ผมก็หัวโน หลายรอบเหมือนกันครับ

 

เอาน่า.... ถึงไง ก็กอดเอาไว้แน่น นะครับ

 

เอ..... คุณแน๊ก เนี่ย มาทีไร ไฮ ทุกที เฮ.......

[dong3349 57]

บทความยังยอดเยี่ยมสมการรอคอยเหมือนเดิมเลยครับคุณ Next !gd

 

ขอบคุณท่านอื่นๆที่ร่วมให้ข้อมูลด้วยครับ !01