โอกาส "เงิน" (จริงๆ) : ระยะประชิด

[auu22 15]

อีกเหรียญ

[auu22 15]

อีกเหรียญ

[auu22 15]

หวังว่า คงไม่รบกวนนะครับ ก็แค่เผื่อมีคนสนใจ

ของไทยก็สวยและดีเหมือนกันครับ

[chocolate 6]

ขอบคุณครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

กรณีเป็นเหรียญของกองกษาปณ์ก็น่าสนครับ %เนื้อเงินจะใกล้กับที่ประกาศ มีข้อมูลของราคาและแหล่งจำหน่ายมั้ยครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

TTCL รับสร้างโรงไฟฟ้า 2 แห่งมูลค่ากว่า 1.4 พันล. โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2555 13:28 น.

 

 

Share

โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น รับงานสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการมูลค่ารวม 1,410 ล้านบาท ในมาเลเซีย และไทย

 

นายกอบชัย ธนสุกาญจน์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงิน และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL แจ้งว่า บริษัทได้รับงานใหม่คือ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ ทั้งใน และต่างประเทศ โดยทั้ง 2 โครงการมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้ารวมเป็น 18 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท (USD 47.0 ล้าน) โดยเป็นโครงการที่ 1 SOLAR IPP GEBENG Project ซึ่งบริษัทฯ ได้รับ Letter of Award จาก PETRONAS POWER SDN BHD ผู้เป็นเจ้าของโครงการ

 

สำหรับโครงการนี้ มีมูลค่าโครงการประมาณ 810 ล้านบาท (เทียบเท่า USD 27.00 ล้าน) เป็นงานการออกแบบวิศวกรรม จัดซื้ออุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง และงานก่อสร้าง Solar Independent Power Producer กำลังการผลิต 10MWp ใช้เทคโนโลยี Fixed Tilt Crystalline PV Module ระยะเวลาก่อสร้าง 14 เดือน ซึ่งโครงการตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย

 

ขณะที่โครงการที่ 2 คือ SIAM SOLAR POWER Project ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาโครงการใหม่ โดยมี SIAM SOLAR POWER CO., LTD. เป็นเจ้าของโครงการ มูลค่าโครงการ ประมาณ 600 ล้านบาท (เทียบเท่า USD 20.00 ล้าน) เป็นงานการออกแบบวิศวกรรม จัดซื้ออุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง และงานก่อสร้าง Solar Very Small Power Producer กำลังการผลิต 8MWp ใช้เทคโนโลยี Fixed Tilt Crystalline & Thin Film PV Module ซึ่งโครงการตั้งอยู่ที่ จังหวัดอ่างทอง ของไทย ระยะเวลาก่อสร้าง 9 เดือน (ไตรมาส 2 ปี 2012-ไตรมาส 4 ปี 2012) ซึ่งงานทั้ง 2 โครงการมี The consortium of TTCL and PWH (Thailand) Co., Ltd. เป็นผู้รับเหมา

[ส้มโอมือ 4,910]

ใครสนใจหาข้อมูลเกียวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ลองดูที่นี่ครับ มีข้อมูลและความเคลื่อนไหวต่างๆ

http://www.energysav....php?a=10&n=107

ถูกแก้ไข มิถุนายน 14, 2012 โดย ส้มโอมือ

[auu22 15]

ทุกเหรียญที่นำมาโพสไว้ เป็นของกองกษาปณ์ ทั้งหมดครับ ทุกแบบ จะมีตรานก ของ กอง ประทับอยู่ ตามที่ต่าง ๆ ของแต่ละเหรียญ

ส่วนข้อมูลของราคา นั่น ออกจำหน่ายที่วัด เหรียญ ละ 1000 บาท และจำหน่ายที่ วัดจุฬามณี อัมพวา แต่ตอนนี้เหรียญบางรุ่นได้หมดไปจากที่วัดแล้ว

ราคาแล้วแต่ความพอใจครับ อย่าง เก้าเศียรเงิน ก็ว่ากันที่ หลักหมื่นแล้ว แต่เหรียญอื่น ๆ นั้น ต้องถามที่วัดดู ไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ก็แวะไปชมกันได้ครับ ใกล้ ๆ กันครับ

[ee16053 11]

ตอนนี้ซื้อพวกเหรียญจากทางเนต เริ่มมีการตรวจสอบและประเมินภาษีจากทางศุลกากรแล้วครับ

ผมเพิ่งโดนไปชุดใหญ่ ทำให้รู้ว่าทางศุลกากรจะเปิดตรวจพัสดุทุกชิ้นแล้วทำการประเมินภาษี

สั่งมาตั้งนานไม่เคยโดน มาโดนเอาล๊อตนี้

 

เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ผมสั่งเหรียญทางเนตจากเจ้าประจำไปชุดใหญ่ มูลค่าก็หลายอยู่ อาทิตย์ต่อมา

มีเอกสารจากทางไปรษณีย์ไทย ให้ไปรับของที่ศุลกากรรองเมือง ไอ้เราก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น

ก็หาข้อมูลเบื้องต้นก่อน ปรากฏว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าจะต้องเจอการประเมินภาษีขาเข้า

เนื่องจากเป็นของประดับและของสะสม ก็ยังคิดในแง่ดีว่า คงไม่เสียภาษีหรอก เพราะสั่งมา

ตั้งนาน ไม่เคยเสียภาษีเลย..คิดในแง่ดีว่า กล่องมันคงใหญ่ ไปรษณีย์ส่งไม่ไหว เลยให้ไปรับของเอง

แต่พอไปรับของ ปรากฏว่า โดนครับ ท่านเจ้าหน้าที่ทำการเปิดกล่องตรวจต่อหน้าผมเลย

แล้วก็แจ้งว่า จะต้องเสียภาษีในอัตรา 30 เปอร์เซนต์ของมูลค่าของ ยังดีที่ร้านที่ผมสั่งไม่ได้

แนบใบแสดงมูลค่าสินค้ามาด้วย และเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องโลหะเงินมากเท่าไหร่

ก็เลยสามารถเจรจาในทางลับได้ (...) แต่ก็ยังต้องเสียเงินอยู่ดี แถมท่านยังแนะนำอีกว่า ถ้าต้องมารับของ

อีก ก็ให้มาหาท่านได้เลย ไม่ต้องไปรับบัตรคิว...เดี๋ยวผมจัดให้

 

ตอนนี้เลยแหยงๆ ยังไม่กล้าสั่งของ และก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมบรรดาร้านขายเหรียญ ถึงได้ตั้ง

ราคาซะสูงขนาดนั้น

 

ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ กรมศุลกากรเขาซุ่มตรวจ บางทีผมก็โดนเหมือนกัน ซื้อเหรียญทองโดน 20%

[OhhcooL 5]

ถ้าว่ากันตาม พิกัดศุลกากร จริงๆแล้วไม่ต้องเสียนะครับ

 

http://igtf.customs.go.th/igtf/th/main_frame.jsp

 

ลองไปหากันดูในพิกัดอากรขาเข้าครับ

เหรียญเงินถ้าเป็นเหรียญที่มีราคาหน้าเหรียญ ไม่ต้องเสียนะ แต่ถ้าชำระหนี้ไม่ได้ก็เสีย 40%

ส่วนเหรียญทอง ไม่ว่าจะใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้ หรือไม่ก็ตาม ไม่ต้องเสียเลยครับ

แต่ผมก็เคยโดนอ่ะ เค้าบอกว่าต้องไปอุทร ที่ไปรษณีย์กลาง ผมกลัวเสียเวลากับกลัวหาย ก็เลยจ่ายๆไป ถ้าโดนเยอะก็น่าลองแย้งดูนะครับ

[Robbo7 16]

ถ้าว่ากันตาม พิกัดศุลกากร จริงๆแล้วไม่ต้องเสียนะครับ

 

http://igtf.customs..../main_frame.jsp

 

ลองไปหากันดูในพิกัดอากรขาเข้าครับ

เหรียญเงินถ้าเป็นเหรียญที่มีราคาหน้าเหรียญ ไม่ต้องเสียนะ แต่ถ้าชำระหนี้ไม่ได้ก็เสีย 40%

ส่วนเหรียญทอง ไม่ว่าจะใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้ หรือไม่ก็ตาม ไม่ต้องเสียเลยครับ

แต่ผมก็เคยโดนอ่ะ เค้าบอกว่าต้องไปอุทร ที่ไปรษณีย์กลาง ผมกลัวเสียเวลากับกลัวหาย ก็เลยจ่ายๆไป ถ้าโดนเยอะก็น่าลองแย้งดูนะครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ลองปรึกษาเพื่อนที่อยู่ในวงการแล้ว มันบอกว่า...พูดยากครับ

แล้วแต่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่มันก็บอกว่า ถ้าไม่เยอะก็จ่ายๆไปเหอะ

จะได้ไม่เสียเวลา...ถ้าเกิดไปอุทรณ์ ดีไม่ดีของหายอีก

ฟังแล้วเซ็ง

 

แต่ผมว่าจะลองดูอีกซักครั้งครับ ประมาณอาทิตย์หน้าจะลองสั่งอีกลอต

เผื่อรอด

[ส้มโอมือ 4,910]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ลองปรึกษาเพื่อนที่อยู่ในวงการแล้ว มันบอกว่า...พูดยากครับ

แล้วแต่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่มันก็บอกว่า ถ้าไม่เยอะก็จ่ายๆไปเหอะ

จะได้ไม่เสียเวลา...ถ้าเกิดไปอุทรณ์ ดีไม่ดีของหายอีก

ฟังแล้วเซ็ง

 

แต่ผมว่าจะลองดูอีกซักครั้งครับ ประมาณอาทิตย์หน้าจะลองสั่งอีกลอต

เผื่อรอด

 

เหรียญสวยๆทั้งนั้น ใครได้ลองสะสมคงเลิกยาก

[Puriku 3]

โตโยไทยให้เงินเดือนดีมากกก บางคนได้โอทีมากกว่าเงินเดือน

[mdaddy 2,443]

ได้มีโอกาสคุยกับคนที่ลงทุนในโลหะมีค่าในเมืองลุงแซมมา มีประเด็นที่่ผมคิดว่าน่าสนใจมาเล่าให้ฟังครับ (บางเรื่องคุณเน็กซ์ก็เล่าให้ฟังไว้แล้ว)

• นักลงทุนมือใหม่ส่วนมาก มักจะชอบซื้อซิลเวอร์ อีเกิ้ล หรือ เงินเหรียญ/แท่ง ใหม่ๆสวยๆ แต่เขามองว่าซื้อ "Junk Silver" จะดีกว่า เพราะถ้าเทียบน้ำหนัก ต่อ น้ำหนักแล้ว ซื้ออย่างหลังเสียค่าพรีเมี่ยมน้อยกว่าเหรียญใหม่ๆเยอะ (Junk Silver พรีเมี่ยมเริ่มต้นที่ ประมาณร้อยละ ๘ และลดลงตามประมาณที่ซื้อ ส่วนเหรียญซิลเวอร์ อีเกิ้ล พรีเมี่ยมเริ่มต้นที่ร้อยละ ๑๐ ถึง ๑๕ แล้วแต่ร้าน -- ถ้าเป็นกรณีบ้านเรา ซื้อเม็ดเงินน่าจะเหมาะสุด ภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๗ ก็นับว่าไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับค่าพรีเมี่ยมของฝรั่ง)
  
• Junk Silver คือเหรียญที่รัฐบาลผลิตมาใช้งานจริงในสมัยก่อน โดยที่มีส่วนผสมของโลหะเงินอยู่ประมาณ ร้อยละ ๙๐ ของน้ำหนัก และได้เลิกใช้งานไปแล้ว เพราะค่าของโลหะเงินมีค่าสูงกว่ามูลค่าหน้าเหรียญ
  
• ถึงแม้ว่าจะเลิกใช้งานไปแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางที่มูลค่าจะเป็น ๐ เพราะมีการตราราคาหน้าเหรียญไว้ ว่าอย่างไรก็สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามราคาหน้าเหรียญ
  
• คนๆนี้ขายทองคำในคลังออกทั้งหมดตอนที่ราคาทองคำขึ้นไปถึง ๑๘๕๐ และเปลี่ยนเป็นโลหะเงินแทน โดยใช้วิธีดูอัตราส่วนระหว่าง ทองคำ/โลหะเงิน ทองคำ/ดาวโจร และ ทองคำ/แพลตินัม เขาบอกว่า ตราบใดที่อัตราส่วน ทองคำ/โลหะเงิน ยังอยู่สูงๆแบบนี้ เขาบอกว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือการลงทุนกับ โลหะสีขาว (เงิน/แพลตินัม) เพราะมันถูกกดราคาอยู่
  
• เมื่อตอนที่น้ำมันขึ้นไป ๑๕๐ แล้วโดนทุบลงมาเหลือ ๓๐ เขาก็ ชอร์ต ไว้ได้เงินโขอยู่เหมือนกัน
  
• แพลตินัม กับ เพลเลเดียม ในการใช้งานเป็นตัีวเร่งทางเคมีนั้น โลหะทั้งสองชนิดนี้ สามารถใช้ทดแทนกันได้ โดยทดแทนกันที่อัตราส่วนประมาณ ๔ ต่อ ๑ (จำไม่ได้ว่าอะไรต่ออะไร) ดังนั้น การเก็งกำไรกับโลหะสองชนิดนี้ต้องดูให้ดี เพราะส่วนมาก เป็นการใช้งานในอุตสาหกรรม ถ้าหากโลหะตัวใดแพงมาก ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้อีกตัวได้
  

พอคุยถึงเรื่องว่าเขามองเห็นอะไร ถึงได้ขายทองคำทิ้ง และชอร์ตน้ำมันได้ทันเวลา เขาบอกว่า

• สำหรับน้ำมัน เขาเห็นกราฟพุ่งขึ้นไปสูงมาก เร็วมาก เขาเชื่อว่าจะต้องโดนทุบ และ สิ่งที่ยืนยันความคิดของเขาก็คือ บรรดาพรีเซนเตอร์(คนอ่านข่าว)ของ ซีเอนบีซี ออกมาใส่หมวกปาร์ตี ฉลองนำมันราคาขึ้นกระฉูด
  
• สำหรับทองคำ เขาก็เห็นกราฟพุ่งขึ้นไปสูง และเร็วมาก ทำให้เชื่อได้ว่าจะต้องโดนทุบ และ สิ่งที่ยืนยันความคิดของเขาก็คือ บรรดา "นักวิเคราะห์" ในแต่ละสำนัก ออกมาเชียร์เป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้ทะลุ ๒๐๐๐ แน่ๆ
  
• ส่วนที่โดนๆทุบมา ไม่ต้องตกใจ ให้ดูกราฟราคาใน ล็อกสเกล จะเห็นว่า ราคาขึ้นแบบนิ่มๆ สบายๆ ไม่เป็นฟองสบู่อย่างที่เห็นในกราฟปกติ
  

เขายังเน้นเรื่องเทคนิคการบริหารเงิน (ซึ่งกูรูในเวบนี้หลายๆท่าน ก็เน้นเรื่องการบริหารเงิน) ของเขาให้ฟังตามนี้

• ซื้อของจริง รับของจริงเท่านั้น ถ้าเล่นกระดาษ เอาไว้ชอร์ตอย่างเดียว
  
• เงินที่เอาไปซื้อของ ต้องเป็นเงินเย็นเจี๊ยบเท่านั้น และต้องรักษาสภาพคล่องของตัวเองไว้เสมอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนบังคับขาย เวลาจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ราคามันตก
  
• ไม่ต้องกลัวว่าเงินกระดาษที่กันไว้จะหมดค่าเวลาเกิดเรื่อง เพราะเป็นการป้องกันความเสี่ยงอย่างหนึ่ง และเมื่อถึงเวลาแล้ว กำไรที่ได้จากโลหะมีค่า ก็จะมาถัวชดเชยกับเงินกระดาษที่หมดค่าไป ทำให้อย่างไรก็ไม่ขาดทุน
  
• เวลาซื้อของจริง เขาจะแบ่งเงินที่กันไว้ซื้อของเป็นสองก้อน ก้อนแรก เอาไปซื้อของเข้า ก้อนที่สอง เอากองไว้ข้างๆของที่ซื้อมา
  
• วิธีที่เขามองก็คือ ในตลาดที่โดนทุบกันง่ายๆโดยขาใหญ่แบบนี้ เราไม่รู้ว่ามันจะตกลงเมื่อไหร่ การที่เก็บกระดาษไว้นั้น เป็นสิ่งที่ดี เพราะเมื่อขาใหญ่เขาทุบให้เรา นับว่าเป็นบุญ ควรดีใจว่ายังมีกระดาษเหลือ และซื้อเข้าเพิ่มเติม
  
• ผมมองเหมือนกับเขาว่า โลหะมีค่า downside ไม่เท่า upside เพราะฉะนั้น ถ้าซื้อแล้วมันหล่น ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะเขามองว่าถ้ามันหล่น ก็หล่นไม่เกิน ๑๑๐๐(ทอง) และ ๒๑(เงิน) แต่โอกาสที่มันจะขึ้นได้นั้นมหาศาล
  
• เวลาซื้อเหรียญเงิน ให้ซื้อ junk silver เพราะพรีเมี่ยมต่ำ, มีมูลค่าในตัวเอง และมูลค่าตามหน้าเหรียญ และ ที่สำคัญที่สุดคือ มีหลายขนาด ตั้งแต่ ๑ เหรียญ, ๕๐, ๒๕ และ ๑๐ เซนต์ เพราะเวลาที่ราคาโลหะเงินขึ้นไปสูงมากๆ การเอาเงินแท่งละ ๑๐/๑๐๐ ออนซ์ หรือแม้กระทั่งเหรียญ ๑ ออนซ์ มาซื้อขายแลกเปลี่ยนนั้นเป็นเรื่องลำบาก การที่มีโลหะเงินในหน่วยเล็กๆนั้น จะทำให้ใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น (ลองนึกภาพคนเอาธนบัตร ๑๐๐๐ บาท ไปซื้อ ถั่วต้มที่หาบเร่มาขาย)
  

เรื่องปริมาณการซื้อ และการเก็บรักษา เขาบอกว่า

• พอซื้อโลหะมีค่าเก็บไว้เรื่อยๆ เขาเริ่มกังวลและนอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะกังวลว่าจะโดนขโมย แต่เป็ินเพราะกังวลว่าเงินกระดาษที่เหลืออยู่ มันจะหมดค่าไปอีกซักเท่าไหร่
  
• หุบปากไว้ ไม่ต้องบอกใครว่าซื้อขายโลหะมีค่า หรือเก็บของไว้ที่ไหน (ผมต้องไปรีบย้ายของออกจากตุ่มที่ฝังดินไว้ซะแล้ว) มีผู้ค้าเหรียญคนนึง มีโจรบุกเข้าไปถึงบ้านเพื่อที่จะปล้นของในสต๊อก ตอนนั้นลูกชายเขาอยู่บ้าน เลยโดนฆ่า แต่เจ้าตัวรอด
  
• สิ่งที่ดีที่สุดคือการซื้อแบบเงินสด ของมา เงินไป เพราะไม่มีหลักฐานที่จะบอกให้โลกรู้ว่า นาย ก. อยู่บ้านนี้ ซื้อของไว้เยอะเชียว
  
• เขามองว่าการเก็บโลหะมีค่าไว้กับธนาคารในอเมริกา ยังค่อนข้างปลอดภัยอยู่ (อันนี้ผมไม่แน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าลุงแซมอยากจะยึดทองเมื่อไหร่) ส่วนการเก็บโลหะมีค่าไว้ที่บ้านนั้น ก็ควรมีเก็บไว้บ้าง และเก็บไว้ในประมาณที่รู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัย ฯลฯ ที่สำคัญ ควรมีเงินสดให้พอใช้จ่ายประมาณ ๒ เดือนเป็นอย่างน้อย กรณีที่เกิดกลียุค
  

หมดแล้วครับ ไว้นึกออกว่าลืม/ขาด อะไรไปจะมาพิมพ์เพิ่มให้

ถูกแก้ไข มิถุนายน 18, 2012 โดย wcg

[Robbo7 16]

ขอบคุณครับ คุณ WCG

เป็นแนวทางที่น่าสนใจทีเดียว