ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณคะ คุณเสมกะคุณส้มโอมือมากคะ

:wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

TFEX S50 future ระวังกันหน่อยนะครับ ถ้านับ wave ไม่ผิดกำลังจะปรับตัวลง Wave 4

post-31-022692700 1290923400.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

TFEX S50 future ระวังกันหน่อยนะครับ ถ้านับ wave ไม่ผิดกำลังจะปรับตัวลง Wave 4

 

 

คุณเสมคิดว่า set50 จะลงลึกถึงประมาณไหนคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กระแสเงินต่างชาติไหลจีน เดือนต.ค.พุ่ง 79 เปอร์เซ็นต์

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2553 17:20 น.

 

 

 

 

 

 

ในภาพธนบัตรสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีน เผยเมื่อวันเสาร์(27 พ.ย.) ว่า กระแสเงินตราต่างประเทศของจีนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 79 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าเดือนก.ย. เท่ากับ 519,000 ล้านหยวน(77,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) - ภาพเอเอฟพี

 

 

เอเอฟพี - ธนาคารประชาชนจีน หรือธนาคารกลางจีน แถลงกระแสเงินไหลเข้าจากทุนต่างประเทศในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 79 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าเดือนก.ย. เท่ากับ 519,000 ล้านหยวน(77,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 

ขณะที่จีนกำลังควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่กำลังควงสว่านแบบพายุหมุนอยู่นี้ ก็มีกระแสเงินจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจีน สูงมากอันดับสองในประวัติศาสตร์การการเงินของประเทศ รองจากเมื่อเดือนเม.ย. ปี 2551 ซึ่งในตอนนั้นกระแสเงินทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน มียอดรวมทั้งสิ้น 525,000 ล้านหยวน ทั้งนี้จากรายงานข่าวของเป่ยจิง นิวส์ รายงานเมื่อวันเสาร์(26 พ.ย.)

 

การขยายตัวของกระแสเงินตราต่างประเทศในเดือนต.ค. ส่วนหนึ่งมาจากยอดเกินดุลการค้าของจีนที่เพิ่มขึ้น เท่ากับ 27,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเงินทุนจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ เอฟดีไอระหว่างเดือนต.ค. เท่ากับ 7,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ด้วยอัตราผลตอบแทนในแดนมังกรที่เพิ่มสูงมากกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้กระแสเงินทุนเก็งกำไร หรือเงินร้อนไหลทะลักเข้ามาสู่จีน เพิ่มขึ้นประมาณ 42,800 ล้านดอลลารสหรัฐ

 

เป่ยจิง นิวส์ อ้างคำกล่าวของนายเจ้า ชิงหมิง นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารเพื่อการก่อสร้างจีน ว่า “จีนได้เข้าสู่วงจรอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูง และเพิ่มแรงกดดันจากกระแสเงินทุนไหลเข้า”

 

ทั้งนี้ ในเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคตอันใกล้

 

สัญญาณการคุมเข้มภาคการเงินจีนปรากฎออกมาอีกด้าน โดยเดือนนี้ (พ.ย.2553) ธนาคารกลางจีนได้ขึ้นอัตราเงินสดสำรองของธนาคารผู้ปล่อยกู้ ถึงสองครั้ง เท่ากับ 18 เปอร์เซ็นต์ รวมในปีนี้จีนได้เพิ่มอัตราเงินสดสำรองแล้ว 3 ครั้ง

 

นายหลู เจิ้งเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์แห่งธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรมจีน ให้ความเห็นว่า “หากเงินทุนยังไหลเข้าสู่ประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มอัตราเงินสดสำรองอีกครึ่งเปอร์เซ็นต์จะไม่เพียงพอที่จะควบคุมปริมาณเงินที่เพิ่มมากขึ้นได้ ธนาคารกลางควรปรับเพิ่มอัตราเงินสดสำรอง จาก 1 เปอร์เซ็นต์ ถึง 1.5 จุด”

 

ทั้งนี้ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศจีน ซึ่งมีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ณ ปลายเดือนก.ย.รวมทั้งสิ้น 2.64 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 2.45 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนมิ.ย.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาวเซี่ยงไฮ้ ฮิต “ไปฮ่องกง ซื้อซีอิ๊ว”

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤศจิกายน 2553 16:43 น.

 

 

 

 

 

เอเจนซี-ขณะนี้ ประชาชีทั่วแผ่นดินใหญ่ บ่นครวญกันระงม เรื่องราคาข้าวปลา เนื้อ ผัก เกลือ น้ำตาล ซีอิ๊ว น้ำมันปรุงอาหาร สินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน ชาวเน็ตพากันตั้งฉายา อย่างกระเทียมเลือดเย็น แอปเปิลงี่เง่า น้ำตาล ฝ้ายละลายกระดูก ฯลฯ

 

ด้านนครเซี่ยงไฮ้ ก็มีวลียอดฮิตที่สะท้อนยุคของแพง คือ ชู่เซียงกั่งต่าเจี้ยงโหย่ว《去香港打酱油 》วลีนี้ แปลกันดิบๆตามตัวศัพท์คือ “ไปฮ่องกง ซื้อซีอิ๊ว” ชาวจีนใช้เป็นสำนวนหมายถึงไปซื้อสิ่งของเล็กน้อยที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

 

ชาวเซี่ยงไฮ้ผจญราคาสินค้าที่พุ่งสูง กอปรด้วยค่าเงินหยวนแข็งขึ้น จนเกิดกระแสกลุ่มคนทำงานตามออฟฟิส หรือไวท์คอลล่า (white collar) พากันตีตั๋วรถไฟไปจับจ่ายซื้อข้าวของใช้ในชีวิตประจำวันที่ฮ่องกง

 

สื่อยักษ์ใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ ตงฟังเจ่าเป้า จับมือมหาวิทยาลัยฟู่ตัน สำรวจราคาสินค้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตคาร์ฟูร์ในเซี่ยงไฮ้ กับราคาสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตฮ่องกงPARKnSHOP ผลปรากฏว่า ราคาสินค้าข้าวของจำเป็นในชีวิตประจำวันในเซี่ยงไฮ้หลายชนิด แพงกว่าที่ฮ่องกงไปแล้ว อย่างเช่น แชมพูสระผมในเซี่ยงไฮ้ แพงกว่าของฮ่องกง 3 เท่า อาหารกับข้าวกับปลาในเซี่ยงไฮ้จำนวนไม่น้อย ก็แพงกว่าที่ฮ่องกง

 

นักท่องเที่ยวจากเซี่ยงไฮ้คนหนึ่ง บอกว่า “สินค้าที่นี่ (ฮ่องกง) หลายๆอย่าง ราคาถูกกว่าที่เซี่ยงไฮ้มาก แชมพูสระผม Sassoon ถูกกว่าราว 2 หยวน ฉันซื้อสินค้าหลายๆอย่าง รวมทั้งขนมกินเล่น รวมเบ็ดเสร็จแล้ว ประหยัดได้ราว 400 หยวน แถมสินค้าที่นี่ยังดีกว่า ไว้ใจได้มากกว่าอีกด้วย”

 

จากรายงานข่าวของจงซินเซ่อ หรือสำนักข่าวกลางจีน เผยรายการสินค้าที่ไวท์คอลลาร์ในเซี่ยงไฮ้ ไปซื้อถึงฮ่องกง ได้แก่ นมผง ซีอิ้ว และข้าวปลาเครื่องปรุงอาหารต่างๆ

 

ซุน หนิง พนักงานของสื่อรายหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ โชว์รายการสินค้าที่ซื้อมาจากฮ่องกง ทั้งนมผง ครีมอาบน้ำ รองเท้าออกกำลังกาย ฯลฯ ตลอดจนน้ำมันปรุงอาหาร น้ำมันหอย

 

ซุน หนิง บอกว่า “ตอนนี้ราคาข้าวของแพงเอาๆอย่างรวดเร็วมาก ฉันนัดกับเพื่อนสนิท นั่งรถไฟไปฮ่องกงซื้อของ ระหว่างซื้อของก็ไปค้างคืนที่พักรองรับของสื่อ คืนละ 300 หยวน”

 

พนักงานภาคบริการที่ศูนย์กลางการเงินเซี่ยงไฮ้ ตู้ รื่อหวา บอกว่า “ตอนนี้ “ไปฮ่องกง ซื้อซีอิ้ว” กำลังเป็นคำฮิตระเบิดบนอินเทอร์เน็ต”

 

 

 

 

 

ตารางเทียบราคาสินค้าเซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง

 

แชมพูสระผม divinia ขนาด 1 ลิตร ราคาที่ห้างคาร์ฟูร์เซี่ยงไฮ้ 75.0 /ราคาที่ PARKnSHOP 51.4

ครีมอาบน้ำ Dove ขนาด 1 ลิตร ราคาที่ห้างคาร์ฟูร์เซี่ยงไฮ้ 44.2 /ราคาที่ PARKnSHOP 36.8

 

กระดาษทิซชู แพค 10 ม้วน ราคาที่ห้างคาร์ฟูร์เซี่ยงไฮ้ 32.5 /ราคาที่ PARKnSHOP 19.7

 

เป็นต้น

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจฮ่องกง (เซียงกั่งจิงจี้รื่อเป้า) หน่วยเงิน : หยวน

*อัตราแลกเปลี่ยนราคาสินค้าในฮ่องกง 100 เหรียญฮ่องกง เท่ากับ 85.87 หยวน

 

 

 

ตารางแสดงดัชนีราคาผู้บริโภคระหว่าง 10 เดือนของปีนี้ เปรียบเทียบระหว่างฮ่องกง(สีฟ้า) กับเซินเจิ้น (สีแดง)

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000166245

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มังกรมั่นใจคุมเงินเฟ้ออยู่ สื่อจีนหนุนประยุกต์ใช้ระบบศก. วางแผนจากส่วนกลาง

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤศจิกายน 2553 14:56 น.

 

 

 

 

 

 

เกษตรกรจีน กับแปลงกะหล่ำปลี - ขณะนี้ ทางการจีนได้สั่งการให้หน่วยงานท้องถิ่นเข้าไปดูแลอุปทานสินค้าให้มีเสถียรภาพ โดยกระตุ้นการผลิต และลดต้นทุนพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเป็นเหตุสำคัญของเงินเฟ้อขณะนี้ (ภาพเอเยนซี)

 

 

เอเยนซี - จีนมั่นใจมาตรการหมัดชุดสกัดเงินเฟ้อ และมีประสบการณ์ดูแลอุปทานสินค้ามากพอ ด้านสื่อจีนหนุนรัฐสามารถปัดฝุ่นมาตรการระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนจากส่วนกลาง

 

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยวันที่ 23 พ.ย. ว่า ขณะนี้จีนมีอุปทานสินค้าอยู่เป็นจำนวนมากพอจะสามารถควบคุมราคาสินค้าได้ ทั้งสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันและสินค้าด้านการเกษตร อาทิ ธัญพืชและไข่ ขณะที่สำรองถั่วเหลืองและน้ำมันสำหรับปรุงอาหารก็มีเพียงพอเช่นกัน

 

NDRC ระบุว่า ที่ผ่านมา จีนมีประสบการณ์ในการดูแลให้ราคาสินค้ามีเสถียรภาพ และยังมีสัดส่วนสำรองธัญพืชเพื่อรับประกันอุปทานในตลาดขณะนี้มากกว่า 40% ของการบริโภคทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ามาตรฐานสากลอยู่ถึง 17-18%

 

สื่อรายงานว่าการควบคุมอุปทานสินค้านี้ เป็นหนึ่งในมาตรการสกัดเงินเฟ้อที่รัฐบาลจีนปล่อยรัวออกมาประหนึ่งหมัดชุดมวยหย่งชุน ซึ่งมีอาทิ เพิ่มทุนสำรองธนาคารพาณิชย์ ควบคุมราคาและดูแลอุปทานสินค้าให้มีเสถียรภาพ กระตุ้นการผลิต และลดต้นทุนพืชผลทางการเกษตร ผลิตปุ๋ยเพิ่มขึ้น ปราบปรามการกักตุน ในด้านพลังงานก็รับประกันเรื่องอุปทานถ่านหิน พลังงาน น้ำมัน แก๊ส อีกทั้งตั้งมาตรการป้องกันทุนนอกที่ไหลบ่าเข้ามา ไปจนอาจถึงขั้นขึ้นดอกเบี้ย พร้อมกับจัดทำมาตรการเพื่อความมั่นคงทางสังคม เพิ่มบำนาญพื้นฐาน ประกันระหว่างการว่างงาน และปรับค่าจ้างขั้นต่ำ

 

ด้านโกลบอลไทม์ส สื่อของทางการจีน ได้เขียนในบทบรรณาธิการ เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา โต้สื่อตะวันตก ที่วิจารณ์ว่า มาตรการควบคุมราคาอาหารและสินค้าจำเป็นของคณะกรรมาธิการรัฐ คือการ "ปัดฝุ่นนำระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนจากส่วนกลางกลับมาใช้" โดยอ้างคำพูดของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ซีกตะวันตกว่า การออกมาตรการต่างๆ ของจีน เหมือนว่าจะมีนัยยะในทางการเมืองมากกว่าคำนึงถึงผลกระทบทางเงินเฟ้อจริงๆ

 

บทบรรณาธิการในโกลบอล ไทม์ส แสดงความคิดเห็นว่า ประมาณ 30 ปีก่อน (ปลาย พ.ศ. 2521) จีนได้ปฏิรูปเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบอบเศรษฐกิจแบบวางแผนจากส่วนกลาง มาใช้ใช้ระบอบเศรษฐกิจแบบผสมที่ให้ความสำคัญกับทุนนิยม พร้อมกับการเปิดประเทศ แต่การปรับตัวเข้ากับเศรษฐกิจแบบตลาดนี้ไม่ได้หมายความว่า จะเก็บระบอบเศรษฐกิจแบบวางแผนจากส่วนกลางไว้บนหิ้งให้ฝุ่นจับ เพราะเศรษฐกิจแบบขับเคลื่อนภายใต้กลไกตลาดเพียงลำพังอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยภายนอกอื่นๆ ย่อมไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง

 

โกลบอลไทม์ส กล่าวว่า ทุกวันนี้ ก็ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันตลอดถึงการนำข้อดีในระบอบเศรษฐกิจแบบเก่า มาปรับใช้อย่างมีเหตุผล ด้วยเป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจแบบการตลาดไม่ใช่ระบบที่สมบูรณ์ เพราะไม่มีพลวัตรที่ดีพอและยังสร้างวังวนปัญหา วิกฤติการเงินในปี 2551 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ซึ่งถึงที่สุดรัฐก็ต้องเข้ามาอุ้ม ดังนั้นในตลาดที่มีคนมากกว่า 1,300 ล้านคนอยู่ รัฐบาลกลางจีนควรพิจารณาจากปัจจัยที่หลากหลายซับซ้อน ในการออกมาตรการบังคับใช้เพื่อแก้ปัญหาตลาด เพราะสถานการณ์เงินเฟ้อนี้ไม่ใช่เป็นปัญหาที่จะอาศัยเพียงทฤษฏีด้านเศรษฐกิจมาแก้เท่านั้น แต่ยังพัวพันปัญหาทางสังคมและการเมือง การบังคับใช้มาตรการเพื่อสร้างผลเชิงบวกให้ครอบคลุมทุกนัยยะจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

 

โกลบอลไทม์ส ทิ้งท้ายว่าตอนที่เปิดประเทศนั้น บรรดาผู้นำในอดีตของจีนก็ไม่ได้ยึดติดตายตัวที่อุดมการณ์หรือทฤษฏีเศรษฐกิจไหน เพียงแต่ขอให้ยึดอยู่กับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศและประชาชนได้ก็เป็นพอ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

TFEX S50 future ระวังกันหน่อยนะครับ ถ้านับ wave ไม่ผิดกำลังจะปรับตัวลง Wave 4

!thk !thk ขอบคุณคะคุณเสม !thk !thk

!Announce คุณเสมคะ Wave 4 ลงมาประมาณแถวไหนคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคะ อาจารย์เสม สำหรับกราฟยูโรและคำวิเคราะห์ ขอบคุณมั่กมากคะ5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif บวกปาย ตอบแทนน้ำใจท่านคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เรียนถามคุณเสมครับ AFET ยังเขียวอยู่หรือป่าวครับ

ขอบคุณมากครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากสหภาพยุโรปอนุมัติเงินกู้ให้ไอร์แลนด์

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2553 04:16 น.

 

 

 

 

 

เงินสกุลยูโรแข็งค่าขึ้นในเช้าวันจันทร์ หลังจากที่สหภาพยุโรปอนุมัติให้เงินกู้ 8.5 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกอบกู้วิกฤติการเงินของไอร์แลนด์ แผนกอบกู้วิกฤติประกอบด้วย การปรับโครงสร้างหนี้ของระบบสถาบันการเงินในไอร์แลนด์ รวมถึงแผนเพิ่มทุนธนาคารพาณิชย์ 1 หมื่นล้านยูโร ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอยู่ที่ 1.3255/59 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อยูโร เปรียบเทียบกับ 1.3240 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อยูโร ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบสองเดือนที่ระดับ 1.3196 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อยูโร เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน เงินยูโรอยู่ที่ 111.45 เยนต่อยูโร แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ระดับ 111.34 เยนต่อยูโร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะคุณส้มโอมือ เอาข่าวมาให้แต่เช้าเลย

!thk !thk !thk !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ทุกท่าน และขอบคุณคุณส้มโอมือสำหรับข่าวเช้านี้ค่ะ :wub: :wub: :wub: !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยูโร ระยะสั้นยังลงอยู่ครับ

 

ขอบคุณค่ะ

!thk !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...