ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ลืมรูป

 

ขอรบกวนสอบถามหน่อยนะคะว่า ตารางสรุปการซื้อขายนี้ ดูได้จากที่ไหนเหรอคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พร้อมแล้วหรือยัง : ชักดาบหนี้ยุโรป อเมริกาพิมพ์แบงก์ไม่หยุด ไทยค้ำประกันเงินฝากไม่ เกิน 1 ล้านบาท!?

 

 

โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ 9 สิงหาคม 2554 16:26 น. Share58

 

 

 

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554 นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวในสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีซี ว่า ดัชนีหุ้นจะยังร่วงอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ แสตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระยะยาวของสหรัฐอเมริกาจากระดับ AAA มาอยู่ที่ AA+ ว่า ยังมองไม่เห็นความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในสหรัฐฯ และการลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอสแอนด์พี ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่สหรัฐอเมริกามีโอกาสผิดนัดชำระหนี้หรือไม่นั้น นายอลัน กรีนสแปน ตอบกลับว่า

 

“สหรัฐฯ มีขีดความสามารถในการชำระหนี้ เพราะสามารถพิมพ์ธนบัตรเองได้”

 

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการบริโภคด้วยการนำเข้าจากต่างประเทศมากที่สุดในโลก โดยปีที่แล้ว 2553 มีการนำเข้าถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (สินค้าและบริการนำเข้ามากกว่าส่งออก) ถึง 561,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ด้วยความที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เงินสกุลของตัวเองไม่ได้ใช้ในประเทศเท่านั้น แต่ความที่ถือว่าตัวเองเป็นตลาดบริโภคขนาดใหญ่ ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นเงินสกุลหลักที่สำคัญในโลกที่เป็นสื่อกลางในการค้าขายในโลกด้วย

 

การใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางในโลก สหรัฐอเมริกาจึงเป็นประเทศเดียวในโลกจึงไม่ยึดเอาทุนสำรองระหว่างประเทศหรือทองคำมาหนุนหลังอีกต่อไป แต่ปล่อยให้เงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเป็น “กระดาษ” ที่ใช้เป็นสื่อกลางในการค้าขายโดยมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ขึ้นลงตามกลไกอุปสงค์และอุปทานตลาดโลก

 

สหรัฐอเมริกาได้นำความได้เปรียบในประเด็นดังกล่าวข้างต้น ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาพิมพ์ธนบัตรได้อย่างไม่จำกัดจำนวน เมื่อพิมพ์ได้ไม่จำกัดจำนวนจึงย่ามใจก่อหนี้สร้างสวัสดิการให้กับคนในประเทศและใช้งบประมาณมหาศาลอย่างไม่จำกัดจำนวน แล้วยังขาดดุลการค้าระหว่างประเทศและขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้อย่างไร้ขีดจำกัด

 

ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีหนี้สาธารณะ (ภาครัฐ) สูงที่สุดในโลกคือ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 95 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ซึ่งถือว่าเมื่อเทียบสัดส่วนแล้วยังน้อยกว่าอีกหลายประเทศ ญี่ปุ่น กรีซ อิตาลี สิงคโปร์ ฯลฯ แต่ก็ถือว่าเป็นภาระที่หนักของสหรัฐอเมริกาอยู่ไม่น้อยเพราะเฉพาะดอกเบี้ยอย่างเดียวที่สหรัฐอเมริกาต้องจ่ายต่อปีนั้นมีสูงถึงประมาณ 412,517 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังไม่นับภาระผูกพันกองทุนสวัสดิการสังคมและประกันสุขภาพอีกจำนวนมหาศาลที่กำลังจะกลายเป็นระเบิดทางเศรษฐกิจในอนาคตแน่นอน

 

แต่การที่สหรัฐอเมริกาได้เพิ่มเพดานหนี้ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นั้นทำให้ประเทศทั่วโลกต้องตื่นตระหนกกันอีกครั้ง เพราะเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้รู้ว่าสหรัฐอเมริกากำลังยืดหนี้ของตัวเองด้วยการสร้างหนี้ใหม่มาคืนหนี้เก่า เพราะไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้ด้วยตัวเอง นอกจากการกู้เพิ่มขึ้นมาอีก โดยถ้าไม่กู้ต่างประเทศก็คงต้องกู้ธนาคารกลางเพื่อให้พิมพ์ธนบัตรออกมาเพิ่มอีก

 

และการส่งสัญญาณเพิ่มปริมาณเงินดอลลาร์ไม่หยุดนั้น ย่อมเท่ากับว่าเงินดอลลาร์จะมีเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ เข้าไปในระบบ ก็ยิ่งทำให้ดอลลาร์ด้อยค่าลงอย่างแน่นอน ยิ่งคนทั้งโลกต่างกลัวการถือครองทรัพย์สินในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ก็ยิ่งทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าร่วงหนักลงไปอีก

 

และการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น ก็ย่อมทำให้ “เจ้าหนี้” ของสหรัฐอเมริกาจะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะทรัพย์สินที่แต่ละเจ้าหนี้ของสหรัฐอเมริกาในแต่ละประเทศนั้นต่างถือครองทรัพย์สินเป็นพันธบัตรสหรัฐอเมริกาอยู่ในทุนสำรองจำนวนมาก โดยปัจจุบันรัฐบาลอเมริกาได้ติดหนี้ต่างประเทศมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

จีนเป็นเจ้าหนี้ต่างประเทศในพันธบัตรสหรัฐอเมริการายใหญ่ที่สุด ถือพันธบัตรสหรัฐอเมริกาสูงถึง 1.16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ญี่ปุ่นถือพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นอันดับ 2 สูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สหราชอาณาจักรถือพันธบัตรอเมริกาเป็นอันดับ 3 ประมาณ 242,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรวมกันเป็นอันดับ 4 ประมาณ 204.3000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาที่ถือระหว่าง 1-2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คือ ไต้หวัน, บราซิล, กลุ่มศูนย์กลางธนาคารแคริเบียน, ฮ่องกง, รัสเซีย, สวิตเซอร์แลนด์ ตามลำดับ ส่วนประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 52,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

แต่สหรัฐอเมริกาไม่ได้มีเฉพาะหนี้สาธารณะ (ของรัฐ) ที่เป็นหนี้ต่างประเทศสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่ยังมีหนี้เอกชนในสหรัฐอเมริกาที่เป็นหนี้ต่างประเทศอีก 9.8 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมมีหนี้กับต่างประเทศทั้งรัฐและเอกชนสูงถึง 14.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

 

ปัญหาหนี้เอกชนที่สูงมากนั้น หากคนทั่วโลกต่างเห็นว่าหนี้ที่ปล่อยกู้ไปนั้นด้อยค่าลง (เพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่า) ก็ต้องเร่งเรียกหนี้คืนกลับเร็วมากขึ้น หากมีหนี้ระยะสั้นมากก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือนประเทศไทยในปี 2540 คือเจ้าหนี้เรียกหนี้พร้อมๆ กันจนสถาบันการเงินและลูกหนี้ในประเทศต้องล้มละลายไปเป็นจำนวนมาก เพียงแต่ว่าสหรัฐอเมริกามีเครื่องมืออันมหัศจรรย์ที่สุดในโลกคือให้ธนาคารกลางพิมพ์แบงก์เองออกมาได้อย่างไม่มีจำกัด

 

และนั่นหมายความว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอีก ทั้งจากปริมาณเงินดอลลาร์ที่เข้าไปในระบบ และจากการเก็งกำไรและการคาดการณ์ในความเสื่อมถอยของเงินดอลลาร์ก็ยิ่งเป็นตัวเร่งทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงเร็วขึ้นต่อไปอีก

 

ใครจะไปยอมให้สหรัฐอเมริกา “ชักดาบ” ไม่ชำระหนี้เอาได้ง่ายๆ คนทั่วโลกจึงต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกยอมให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาพิมพ์แบงก์ออกมาชำระหนี้ดีกว่าไม่ได้คืนอะไร แต่ทุกประเทศทั่วโลกก็คงหาทางผ่องถ่ายทรัพย์สินดอลลาร์ของตัวเองไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ประเทศที่ฉลาดกว่าก็จะพยายามแปลงเป็นทรัพย์สินในประเทศต่างๆ เปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่นๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทั้งผ่านตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ตลาดตราสารหนี้ ตลาดทองคำ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย

 

แม้ธนาคารกลางทุกประเทศทั่วโลกพยายามเปลี่ยนสัดส่วนการถือครองทรัพย์สินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาจากร้อยละ 70.7 และถือครองสกุลยูโรร้อยละ 19.8 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาถือดอลลาร์สหรัฐลดลงเหลือร้อยละ 60.7 และถือยูโรร้อยละ 26.6 แต่ก็กลับกลายมาเป็นว่าเงินยูโรกำลังจะมีปัญหาการอ่อนค่าลงอีก เมื่อพบว่า ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปกำลังมีปัญหาอย่างหนัก กรีซ ซึ่งมีสูงถึงร้อยละ 130 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ได้บานปลายไปถึงอิตาลีซึ่งมีหนี้สาธารณะคิดเป็นร้อยละ 118 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม

 

ปัจจุบันสหภาพยุโรปมีหนี้ต่างประเทศรวมกันก็สูงมากถึง 13.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 85 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม แต่ก็ยังดีกว่าสหรัฐอเมริกาตรงที่สหภาพยุโรปยังมีทุนสำรองหนุนหลังสูงถึง 852,622 ล้านเหรียญสหรัฐ เพียงแต่เสียเปรียบสหรัฐอเมริกาตรงที่ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกายังคงเป็นสกุลเงินหลักที่พิมพ์ออกใช้ทั่วโลกอย่างไม่มีขีดจำกัดจำนวน และสหภาพยุโรปต้องใช้หลายประเทศให้ความเห็นชอบในมาตรการทางการเงิน

 

ซึ่งแม้ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และสหภาพยุโรป จะอัดฉีดเงินเข้าไปช่วยกรีซ แต่ก็เป็นเพียงการประคองสถานการณ์เท่านั้น เพราะโดยเนื้อแท้แล้ววิกฤตหนี้ในยุโรปได้เกินกำลังที่สหภาพยุโรปจะเอาเงินของตัวเองไปอุ้มอีกหลายประเทศที่กำลังมีปัญหาที่บานปลายอย่างไร้ขีดจำกัด แนวโน้มเช่นนี้จึงมีโอกาสชักดาบ ตัดลดหนี้สูง

 

ในขณะที่กลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาต่างก็ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างหนักต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี เพราะแท้ที่จริงแล้วความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิตได้ย้ายไปอยู่ภูมิภาคเอเชียเป็นส่วนใหญ่แล้ว สืบเนื่องมาจากสิทธิแรงงานและรัฐสวัสดิการในยุโรปอยู่ในระดับสูงจึงไม่สามารถที่จะแข่งขันด้านการผลิต ฐานการผลิตจึงเคลื่อนย้ายไปอย่างยาวนานส่งผลทำให้อัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูงทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยสเปนมีอัตราการว่างงานร้อยละ 20.89, กรีซร้อยละ 15.9, ฮังการีร้อยละ 10.80, ฝรั่งเศสร้อยละ 9.7, อเมริการ้อยละ 9.1 ฯลฯ

 

Quantitative Easing (QE)ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจึงไม่ได้ผล เพราะไม่ว่าจะเป็น QE 1 ที่ธนาคารกลางพิมพ์แบงก์ออกมา 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อหนี้เสียธนาคาร หรือการออกมาตรการ QE 2 ที่ธนาคารกลางพิมพ์แบงก์ออกมาอีก 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แทรกแซงซื้อตลาดพันธบัตรให้มีราคาสูงเพื่อให้อัตราผลตอบแทนต่ำลงไม่น่าลงทุนนั้น ก็เพื่อหวังว่าการพิมพ์เงินมโหฬารถึง 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จะส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ ไปปล่อยกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น กลับกลายเป็นว่าเงินเหล่านั้นได้ไหลออกไปนอกประเทศเป็นส่วนใหญ่เพื่อแปลงเป็นเงินและสินทรัพย์ในสกุลเงินอื่น เพราะต่างก็เล็งเห็นทั่วโลกพร้อมๆ กันแล้วว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงทั่วโลก ด้วยเหตุนี้การว่างงานในสหรัฐอเมริกาจึงไม่ได้ผลมากนักเทียบกับเม็ดเงินที่ลงไปอย่างมหาศาลเช่นนี้

 

และดูเหมือนว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณจะเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริการอบใหม่ ซึ่งแนวโน้มก็คือการออกมาตรการ QE 3 ซึ่งอาจสูงถึง 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เข้าไปซื้อตลาดพันธบัตรระยะยาวในตลาดอีก โดยนายพอล ครุ๊กแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล พยายามให้ความเห็นไปยังรัฐบาลให้ออกมาตรการพิมพ์แบงก์ให้มากกว่าเดิมเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ผลถึงประมาณ 8 - 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ถึงวันนี้ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ไม่ได้ช่วยเรื่องการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ และยุโรปเท่าไรนัก เพราะไม่ช่วยทำให้ฐานการผลิตย้ายกลับมาที่สหรัฐอเมริกาเพื่อสร้างงานได้มากขึ้นนัก แถมยังทำให้เกิดปัญหาอัตราเงินเฟ้อมากขึ้นด้วย เพราะอย่างไรเสียสหรัฐอเมริกาและยุโรปไม่ได้มีปัญหาเรื่องแค่ค่าเงิน แต่ยังมีต้นทุนการผลิตที่สูงที่ไม่สามารถแข่งขันได้ อีกทั้งจีนก็ยังใช้นโยบายค่าเงินหยวนอ่อนค่าเกินกว่าความเป็นจริง เพื่อรักษาตลาดอเมริกาและยุโรปซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดให้ใช้สินค้าจากประเทศจีนต่อไป และโครงสร้างของแต่ละประเทศที่ย้ายฐานการผลิตไปอย่างยาวนั้นได้วางโครงข่ายและสาธารณูปโภคการผลิตเกินกว่าที่จะย้ายกลับไปที่สหรัฐอเมริกาได้ง่าย

 

หมายความว่านับจากวันนี้ เงินดอลาร์สหรัฐและเงินยูโรจะอ่อนค่าต่อไปแน่นอน!

 

ในขณะที่จีนซึ่งมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ก็ไม่ยอมปล่อยให้เงินหยวนออกไปตลาดนอกประเทศเพื่อใช้เป็นเงินสกุลหลักของโลก เพราะจีนเป็นประเทศขนาดใหญ่ไม่ต้องการให้ต่างชาติมาเก็งกำไรในสกุลเงินหยวนของตัวเอง (ซึ่งอ่อนค่าเกินความเป็นจริง) ด้วยเหตุนี้จีนจึงแบ่งกระดานตลาดหุ้นชัดเจน ในกระดานหุ้นต่างประเทศนั้นไม่อนุญาตให้มาแปลงเป็นเงินสกุลหยวนโดยให้ซื้อขายหุ้นในสกุลเงินต่างประเทศเพื่อเป็นการตัดการเก็งกำไรค่าเงินหยวน แถมทุนที่ไหลเข้าไปในประเทศจีนเอาเข้าจริงก็ถอนกลับออกไม่ได้ง่ายๆ เสียด้วย ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐที่อยู่ในทุนสำรองของจีนอย่างมหาศาล จีนก็ใช้ไปซื้อสินค้าที่จับต้องได้ สินแร่ ที่สำคัญของโลก เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง เหล็ก เพื่อให้ทรัพย์สินของจีนนั้นไม่ด้อยค่าตามดอลลาร์และยูโร แต่ก็ยังทำได้ไม่มากพอในเวลาที่จำกัด

 

นั่นเป็นสาเหตุที่เงินทั่วโลกไหลเข้ามายังประเทศที่เปิดรับในการเก็งกำไรค่าเงิน และผลตอบแทนอย่างภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะรัฐบาลไทยซึ่งยังไร้ยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้ ทันทีที่มีนโยบายประชานิยมสุดขั้ว เร่งอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น อีกทั้งยังประกาศล่วงหน้าจะใช้นโยบายค่าเงินบาทแข็ง ย่อมทำให้เงินทุนจากนอกไหลเข้าออกตลาดหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ เพื่อทำกำไรสูบความมั่งคั่งกลับคืนไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้อีกหลายระลอก

 

ดังนั้นใครกู้หนี้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในเวลานี้จึงมีแนวโน้มกำไรอัตราแลกเปลี่ยนสูง และใครมีเงินดอลลาร์เก็บเอาไว้ก็คงรีบเอาออกมาขายให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้ด้อยค่าไปมากกว่านี้ และกองทุนต่างชาติที่หัวใสกว่านั้นก็คงจะกู้เงินดอลลาร์สหรัฐ (ที่กำลังด้อยค่าลง) เอามาแปลงเป็นเงินบาทกับแบงก์ชาติเพื่อเข้าซื้อหุ้นไทย พันธบัตรไทย ตราสารหนี้ไทย เพื่อเก็งกำไรทั้งจากค่าเงินและการปั่นหุ้น ซึ่งก็จะเป็นการเร่งทำให้เงินบาทแข็งเร็วขึ้นไปอีก

 

เวลานักลงทุนเห็นการไหลทะลักของทุนนอกเข้าตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงและผันผวน ก็ทำให้คนไทยบางส่วนหนีไปซื้อทองคำจนราคาทะยานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก และจนถึงขั้นในบางวันทองคำแท่งขาดตลาดไม่มีขายเสียด้วยซ้ำในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ยิ่งเดือนสิงหาคม 2555 ที่แบงก์ชาติของไทยจะเริ่มใช้กฎหมายสถาบันประกันเงินฝาก ที่จะค้ำประกันเงินผู้ฝากได้เพียงรายละไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 ธนาคาร ก็ยิ่งจะต้องน่าเป็นห่วงว่าผู้ฝากเงินธนาคารซึ่งเคยเป็นคนไทยที่ไม่ต้องการความเสี่ยงต้องเรียนรู้ที่จะรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแม้กระทั่ง “ฝากเงินในธนาคาร”

 

เห็นความผันผวนของเศรษฐกิจโลกขนาดนี้ทำให้นึกถึงความน่าอัศจรรย์ของ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่ให้มองเห็นล่วงหน้าให้เก็บสะสมทองคำในคลังหลวงมาล่วงหน้าหลายปี และนึกถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นเศรษฐกิจของจริง กินได้ และสัมผัสได้ ที่ไม่ใช่อยู่บนเศรษฐกิจเทียมบนการเก็งกำไรของโลกที่กำลังเสื่อมถอยในทุกวันนี้

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยินดีด้วยครับ !gd !gd

ผมเห็นเหมือนกัน แต่ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ เพราะไม่ได้คิดจะขาย เลยพลาดโอกาสไปเลย :blush: :blush:

 

 

ขอบคุณครับ ปกติก็เกิดบ่อย นะครับ โดยเฉพาะวันที่ panics

 

 

 

สติ - ระบบ - พอเพียง - ทานบารมี

 

ตั้งสติ ก่อน เข้าเทรด

เทรด อย่างมี ระบบ

กำไร ตามความ พอเพียง(ตามที่ควรได้)

แล้ว ทำบุณทำทาน บ้าง สร้าง บารมี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จริงๆไม่สมเหตุสมผลครับ ดูได้จากราคาปิดวันนี้ก็ได้ครับ เพราะว่า Series V กับ Z มี พรีเมียมสูงมาก ดังนั้นราคาที่ Future ที่ก่อนตลาดปิดเช้า 175x เลยพอๆกับ 177x ช่วงตลาดเย็นปิด

 

ถ้าจะดูราคา GF ดูได้ที่เว็ปนี้ครับ http://www.tfex.co.th/th/investor_corner/pricing_gold.html เพราะราคานี้คือราคา spot price (ราคาที่ใช้ settlement หรือ คิดชำระ ณ วันปิดสัญญา)

 

วิธีคิดราคา GF ง่ายๆก็ คิดแบบนี้ครับ ถ้าเป็นซีรี่ใกล้สุดปกติจะ +100 ถัดไปก็ +200 สุดท้ายก็ +300 / แต่ราคาตรงนี้อาจจะไม่ได้ +100,200,300 เสมอไป อาจจะเป็น 200,300,400 หรือ มากกว่าก็ได้ ตามอารมณ์ตลาดขนาดนั้น (หรือ อาจเกิดจากการเล่นเสปรด , อาบริทาจ ของนักลงทุนรายใหญ่/สถานบัน ก็ได้)

 

แต่ในภาวะที่ตลาดปกติจะเป็น +100-200,200-300,300-400 ครับ เพราะงั้นถ้า ซีรี่ไหน บวกเกินกว่านี้ ตรงนั้นถือว่าเป็นส่วนต่างและข้อได้เปรียบของเราครับ (อย่างตอนที่มัน ราคา 26640 ราคา Settle อยู่ที่ 25140 หมายความว่า คุณจะ S ที่ราคาสูงกว่าตลาด 1500 บาท หรือ 100เหรียญ ฟรีๆ

 

 

ขอบคุณครับ คุณหมีน้ำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอขอบคุณ คุณส้มโอมือมาก ๆ ครับ สำหรับบทความเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของเมกา เยี่ยมจริง ๆ แต่เมกานั้นมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเรียกว่าเข้าขั้นมหาโหด เพื่อเอาไปใช้กับสวัสดิการที่เรียกว่าดีเยี่ยมที่สุดด้วย !gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.tfex.co.th/th/index.html

 

ดูได้จากเวปนี้ครับ แต่มันดูได้ที่ละอย่างที่มันมีหลายอย่างพร้อมกันคือต้องเอามาตัดแปะเองครับ หรือกระทู้นี้ใน พันทิปครับแต่ต้องรอประมาณทุ่มหนึง ข้อมูลถึงจะออกแล้วจะ

มีคนทำไว้ให้ดู มีทุกวันครับ

 

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10916776/I10916776.html

ถูกแก้ไข โดย cocohill

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นี่แหละครับที่คุณกุ้ง ย้ำนักย้ำหนาว่า ห้าม Short GF เด็ดขาด

เพราะก่อนนอนยังสบายดีอยู่ ตื่นขึ้นมาถูกบังคับขายเฉย... !_cd !_cd !_cd

 

 

 

นั่นสิคะ เมื่อวานก็เห็นเหมือนกัน GF มันแปลกมาก ขึ้นราคาเป็นพันกว่าๆ ก่อนที่จะลดลงมาบวก 800 กว่าๆ อาจเกิดจาก force sell หรือ call ของพวกที่ short GF ไว้ "กูรู้"ทั้งหลายไปแนะนำว่าทองเป็นฟองสบู่เลยบอกให้คนไป short GF สงสัยโดนกันถ้วนหน้า ประเภท hold ต่อเพื่อรอมันปรับฐานไม่ไหว ต้องขายออกมาราคาไหนก็ได้ เลยโดนซะเต็มๆ

 

ช่วงนี้มัวแต่ยุ่งๆ กะ ไอ้ set เจ้ากรรม โดน DJIA และ กลุ่ม EU ปู้ยี่ปู้ยำซะเละ เฮ้อ เลยไม่ได้เข้่ามา update แต่ก็ดีใจกับคนที่ถือทองอยู่ในมือค่ะ เด๋วค่อยมาไล่ update TA กัน

 

Set เมื่อวานเป๋ไปเลย มีสัญญาณขายจากระบบ เสียภาพขาขึ้น เด้งขึ้นมาต้องขายออกก่อนนะคะ เพื่อดูสถาณการณ์ อีกครั้ง อย่าไล่จับกันนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

silver สัญญาณขายยังต่อเนื่อง คนที่เล่น SV ไม่ควรเข้าช้อนค่ะ เก็บ physical ไม่เท่าไร สะสมไปเรื่อยๆ ก็ได้ silver ขึ้นไม่ได้เพราะคอมพิวเตอร์มันดักราคาไว้ ซื้อ physical น่าจะ safe กว่า

 

สำหรับ gold ยังไม่มีสัญญาณขาย hold ต่อค่ะ คนที่ไม่มีของรอปรับฐานน่าจะดีกว่านะคะ ช่วงนี้เหวี่ยงกันซะ "มึน-จัง-โฮ" เลย :wacko:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำหรับ set ภาพระยะยาว(มาก) ถ้ามี QE น่าจะขึ้นต่อ แต่ภาพตอนนี้คือมันมีสัญญาณขาย ต้องรอจนกว่าคนที่มีของขายจนไม่อยากขาย volume ต้องน้อยกว่านี้หรือมีสัญญาณซื้อก่อนค่อยลุยใหม่ จาก board คุณลุงโฉลกค่ะ คุณลุงแนะนำคนที่ถือยาวววววววววววว ไม่ต้องขายก็ได้ค่ะ

 

 

วันนี้ SET index ลดลงมา Low ที่ Fibonacci 78.6% ที่บริเวณ 1040 แล้ว ระบบของเราให้ false sell signal ใน Wave 2 ตามเคย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นักลงทุนระยะสั้นก็อาจจะ Stop loss ไปก่อน แต่ระยะยาวยังถือต่อนะครับ

 

การลงทุนโดยใช้ Technical analysis เราไม่ Predict future ว่าจะขึ้นหรือลง เราไม่ ฟันธง ไม่ต้องไปแสดงความเก่งแข่งกับใครๆในตลาด เราต้องรู้แค่ 3 อย่าง หนึ่งคือถ้าขึ้นจะทำอย่างไร สองคือถ้าลงจะทำอย่างไร และสามคือถ้า sideway จะทำอย่างไร คอยดูสัญญาณจาก Price pattern ให้ดี History repeats itself เสมอ ถ้ามีสัญญาณ ค่อยซื้อหรือขายนะครับ ถ้าไม่มีสัญญาณ ต้องหัดนั่งเฉยๆให้เป็น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ลุงจิมเขียนไม่มากครับ บอกว่า

 

You can see the importance of the $1764 Angel today.

คุณจะได้เห็นว่า $1764 มันสำคัญยังไงก็วันนี้แหละ

 

Sinclair32_thumb.jpg

 

ไม่แน่ใจว่าลุงจิมอยากจะบอกอะไรนะครับ!!!

 

แต่ตีความแบบคนที่มองขึ้นเต็มๆ ก็ต้องตีความว่า

 

เมื่อด่าน 1764 ถูกตีแตกไปแล้ว ต่อไปนี้ก็เตรียมขี่จรวดกันได้แล้ว ไม่ต้องรอนาน วันนี้แหละ อิ อิ :lol: :lol:

 

 

แต่หากตีความแบบ conservative ก็อาจตีความได้ว่า

ด่าน 1764 นั้นสำคัญแรงขายต้านจะมีให้เห็นเป็นระยะ และจะไม่ผ่านไปได้ง่ายๆ

 

 

เป็นแบบไหนติดตามกันต่อไปครับ :lol: :lol:

 

 

***********

 

ส่วนอันนี้เป็นที่ลงจิมเขียนเมื่อวาน อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เป็นเพื่อนเก่าลุงจิม

ผมตัดมาดังนี้ครับ

 

Today the ECB launched Quantitative Easing as we all know will go to infinity.

วันนี้ ECB (อียู) ได้เริ่มใช้ QE1 ของยุโรป ซึ่งเรารู้กันอยู่แล้วว่าจะมีการใช้อีกหลายรอบไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด

 

 

ปล. ไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก ECB ว่า ยุโรปได้เริ่มใช้ QE ครับ

เมื่อวาน yield พันธบัตรของ สเปน และ อิตาลี ลดลงพร้อมกัน (จากการซื้อของ EU) แสดงว่าไม่ใช่การโยกเงินจากตลาดหนึ่งไปตลาดหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม มีการจับความผิดปกติของตลาดได้ เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลยูโรกลับไม่ได้แข็งค่าขึ้นไปด้วย ในขณะที่ bond อิตาลีวิ่งแรง

(ปล. ในสภาวะปกติหาก bond อิตาลีจะวิ่งน่าจะมีเงินไหลเข้า ทำให้ค่าเงินแข็งขึ้นด้วย)

Further proof for this was that the EURO FX failed to rally in conjunction with the ITALIAN BTP rally.

Italian bonds up; EURO down as the ECB was creating short-term liquidity.

 

ตรงนี้ก็ต้องจับตาดูต่อไปครับ ยังไงปิดไม่มิดแน่หากมี QE ออกมาจากฝั่งยุโรปจริงๆ

ถูกแก้ไข โดย JohnCM

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:rolleyes: เมื่อวานเหวี่ยงจาก 1780 กลับไป 1720 ในไม้เดียว แบบนี้แรงขายคงยังพอมีอยู่

 

เดาว่าจากที่ฝรั่งและกองทุนช็อตมากเมื่อวาน สักพักคงจะไปลากหุ้น แล้วทำให้ค่าเงินแข็งมาก ๆ

 

อาจจะได้เห็นต่ำกว่า 29 และทองอาจจะวิ่งอยู่แถว ๆ 1700-1720 ไปจนถึงหมดสัญญา GF นี้

 

สมมุติค่าเงิน 28.5 ทอง 1715 จะได้เห็นราคา 23150

 

คาดว่าราคาทองเมืองนอกจะไม่ลงมาก แต่ค่าเงินน่าจะแข็งมากจนอาจจะำทำให้ราคาลงมาก

 

ดังนั้นต่อนี้คงต้องดูลาดเลารอให้ฟิวเจอร์เมืองนอกปิดไปก่อน ประมาณ 25-26 เดือนสิงหาคมนี้

 

หรือรอค่าเงินแข็ง > 29 ค่อยเข้าใ้ห้ได้ราคาใกล้เคียง 23150

 

ดังนั้นหากเป็น GF คงจะทนได้อย่างน้อย 2 แสนบาทต่อสัญญา

 

 

เท่าที่ดู ท่าทางเจ้ามือคนช็อตจะต้านทานแรงได้อีกไม่นาน หากไตรมาส หน้ามีการลดค่าเงินครั้งใหญ่

มีแวว ทองจะไปไกล

 

เมื่อวานเฟดออกมาพูดแนว ๆ ว่า อาจจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ เพราะว่าดอกเบี้ยต่ำเหลือเกิน

จะได้เอาเงินพยุงตลาดหุ้น ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง หุ้นน่าจะขึ้นก่อนสักพัก

ทองคงจะต้องออกข้างสักพัก

 

ถ้าทุกประเทศใช้ QE พร้อมกันค่าเงินจะคงที่ครับ แต่หุ้นและทองคงขึ้นกันเพลิดเพลิน

ถูกแก้ไข โดย zagio

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:rolleyes: เมื่อวานเหวี่ยงจาก 1780 กลับไป 1720 ในไม้เดียว แบบนี้แรงขายคงยังพอมีอยู่

 

เดาว่าจากที่ฝรั่งและกองทุนช็อตมากเมื่อวาน สักพักคงจะไปลากหุ้น แล้วทำให้ค่าเงินแข็งมาก ๆ

 

อาจจะได้เห็นต่ำกว่า 29 และทองอาจจะวิ่งอยู่แถว ๆ 1700-1720 ไปจนถึงหมดสัญญา GF นี้

 

สมมุติค่าเงิน 28.5 ทอง 1715 จะได้เห็นราคา 23150

 

คาดว่าราคาทองเมืองนอกจะไม่ลงมาก แต่ค่าเงินน่าจะแข็งมากจนอาจจะำทำให้ราคาลงมาก

 

ดังนั้นต่อนี้คงต้องดูลาดเลารอให้ฟิวเจอร์เมืองนอกปิดไปก่อน ประมาณ 25-26 เดือนสิงหาคมนี้

 

หรือรอค่าเงินแข็ง > 29 ค่อยเข้าใ้ห้ได้ราคาใกล้เคียง 23150

 

ดังนั้นหากเป็น GF คงจะทนได้อย่างน้อย 2 แสนบาทต่อสัญญา

 

 

เท่าที่ดู ท่าทางเจ้ามือคนช็อตจะต้านทานแรงได้อีกไม่นาน หากไตรมาส หน้ามีการลดค่าเงินครั้งใหญ่

มีแวว ทองจะไปไกล

 

เมื่อวานเฟดออกมาพูดแนว ๆ ว่า อาจจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ เพราะว่าดอกเบี้ยต่ำเหลือเกิน

จะได้เอาเงินพยุงตลาดหุ้น ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง หุ้นน่าจะขึ้นก่อนสักพัก

ทองคงจะต้องออกข้างสักพัก

 

ถ้าทุกประเทศใช้ QE พร้อมกันค่าเงินจะคงที่ครับ แต่หุ้นและทองคงขึ้นกันเพลิดเพลิน

ท่านค่ะ23150เลยหรือค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จาก board คุณลุงค่ะ

 

call_me_pa_10.gif

 

ทองคำจะยังไปต่อ อีกไกลลลล... อีกนานนนน... อาจจะมี Sideway correction เกิดขึ้น

 

เมื่อราคาขึ้นไปแตะเส้นแดงนะครับ คอยซื้อใหญ่อีกครั้งหนึ่งเมื่อเกิด Major correction

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลืมรูป

http://www.thaigold.info/Board/uploads/monthly_08_2011/post-3250-084446700%201312895043.jpg

 

ขอรบกวนถามครับไม่ทราบเอาขอมูลนี้มาจากwebไหนหรือครับพอจะบอกได้ไหมครับ

 

ขอบคุณมากครับ

ถูกแก้ไข โดย hipp

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รบกวนถาม คุณkunghdy หน่อยนะคะ เมื่อราคาทองคำไปไกลลลลลลลลลลล ขนาดน้านนนนน :o แล้วเกิด Major correction ราคาน่าจะลงได้ถึงประมาณเท่าไหร่คะ :unsure:

จะได้เตรียมตัวและหัวใจไว้รับสถานการณ์ได้ถูก ไม่มีความรู้จริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับคำตอบ :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...