โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[milo 888]

คงงงๆ+เซ็งๆ กันนะครับว่าไฉนพื้นฐานดีแต่ราคาลง

ลองมาดูแนวคิดจอร์จ โซรอสกัน ช่วงก่อนหน้านี้ข่าวว่ามาซื้อทองด้วย

 

 

จอร์จ โซรอส มีแนวคิดว่าตลาดหุ้นทำงานอย่างไรที่ค่อนข้างแตกต่างจากคนอื่น เขาเรียกโมเดลของเขาว่า Reflexivity…

 

โซรอสมองว่าในตลาดหุ้นจะมีความลำเอียงหลักของตลาดอยู่เสมอ นักลงทุนแต่ละคนต่างมีความลำเอียงเป็นของตัวเองซึ่งแรงซื้อแรงขายจะทำให้ความลำเอียงเหล่านั้นหักล้างกันไปส่วนหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะหักล้างกันยังไงก็จะยังเหลือความลำเอียงส่วนหนึ่ง ที่หักล้างไม่หมดและกลายเป็นความลำเอียงหลักที่ครอบงำทั้งตลาดในขณะนั้นๆ อยู่ ความลำเอียงหลักทำให้ตลาดไม่เคยอยู่ที่จุดสมดุล มีแต่มากไปกับน้อยไป ราคาหุ้นจะเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มที่แท้จริงของมันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานบวกด้วยความลำเอียงหลักที่ทำให้ราคาหุ้นขึ้นหรือลง มากหรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็นตามปัจจัยพื้นฐาน

 

แต่แค่นั้นยังไม่พอ การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่เกิดขึ้นจะย้อนกลับมามีอิทธิพลกับแนวโน้มที่แท้จริงและความลำเอียงหลักอีกที ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแนวโน้มที่แท้จริงกับ ความลำเอียงหลักที่มีต่อราคาหุ้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบทางเดียว แต่เป็นความสัมพันธ์แบบสองทิศทาง พูดง่ายๆ ก็คือ ยิ่งราคาหุ้นขึ้น ความลำเอียงของตลาดว่าหุ้นขึ้นจะยิ่งมากขึ้น และทำให้ราคาหุ้นยิ่งขึ้นต่อไปอีก การที่มุมมองของนักลงทุนส่งผลต่อราคาหุ้นแล้วทำให้ราคาหุ้นกลับมาส่งผลต่อมุมมองของนักลงทุนอีกทีนี้เองที่โซรอสเรียกว่า Reflexivity ในตลาดหุ้น ปฏิสัมพันธ์แบบสองทางนี้ทำให้การทำนายราคาหุ้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก

 

ถ้าเรามีสมมติฐานเกี่ยวกับกลไกในตลาดหุ้นว่าเป็นแบบนี้ เมื่อใดที่มุมมองของนักลงทุนกับการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นมีลักษณะส่งเสริมกันเอง เมื่อนั้นราคาหุ้นจะวิ่งออกจากปัจจัยพื้นฐานออกไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดฟองสบู่ และจะเป็นเช่นนั้นอยู่จนกว่าพวกมันจะขัดขากันเองซึ่งจะทำให้เกิด market correction ขึ้น ตลาดหุ้นจึงมีแนวโน้มที่จะมี boom และ burst อยู่ร่ำไป แทนที่จะพยายามวิ่งเข้าสู่จุดสมดุลเองตลอดเวลาเหมือนอย่างที่ทฤษฏีทางการเงินบอกไว้ และกลยุทธ์ของโซรอสก็คือการพยายามทำกำไรจาก boom และ burst เหล่านี้

 

โซรอสบอกว่าพวก neoclassical คิดถูกที่เชื่อว่าตลาดเสรีดีที่สุด แต่ผิดตรงที่เชื่อว่าตลาดเสรีมีเสถียรภาพ ส่วนพวก keynesians นั้นผิดตรงที่เชื่อว่า การแทรกแซงโดยรัฐฯ จะช่วยสร้างเสถียรภาพได้ โซรอสเชื่อว่านั่นจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ตลาด unstable อยู่แล้วโดยธรรมชาติและไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนมันได้

 

แนวคิดที่สำคัญมากของ Reflexivity คือ ราคาหุ้นส่งอิทธิพลต่อปัจจัยพื้นฐานได้ด้วย ไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐานส่งผลต่อราคาหุ้นอย่างเดียว เช่น บริษัทที่ใช้ M&A เป็นกลยุทธ์ในการเติบโต ถ้าราคาหุ้นของบริษัทสูงลิ่ว บริษัทย่อมสามารถระดมทุนได้ในราคาต่ำ ทำให้มีเงินต้นทุนต่ำมาซื้อกิจการ ซึ่งจะยิ่งทำให้กำไรเติบโตได้ง่ายขึ้น หรือในช่วงเวลาที่ตลาดอสังหาตกต่ำ ถ้าอยู่ดีๆ ตลาดหุ้นขึ้นแรงเนื่องจากตลาดเก็งล่วงหน้าว่าอสังหากำลังจะฟื้นทั้งที่ยังไม่มีสัญญาณใดๆ เลยที่ทำให้เชื่อได้ว่าอสังหากำลังจะฟื้น แต่ถ้าตลาดหุ้นยังขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ความมั่งคั่งของคนในตลาดย่อมเพิ่มขึ้น ที่สุดแล้วก็จะทำให้มีคนมีสภาพคล่องมาช้อนซื้ออสังหาราคาถูก ทำให้ตลาดอสังหาฟื้นได้จริง เป็นต้น

 

โซรอสเป็นนักเก็งกำไร ประเภท Global Macro เขาเชื่อว่า การเข้าใจปัจจัยพื้นฐานนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ว่ายังไม่เพียงพอ การมองตลาดแบบ Reflexivity คือสิ่งที่มาช่วยเติมเต็มการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในส่วนที่ยังบกพร่องอยู่ เพราะนักลงทุนไม่มีวันเข้าใจปัจจัยพื้นฐานได้ครบถ้วน จึงจำเป็นต้องอาศัยการสังเกตจากตลาดในส่วนที่เรายังไม่รู้ด้วย แต่เดิมโซรอสอาศัยปัจจัยพื้นฐานและ Reflexivity ในการทำกำไรจากหุ้นเป็นรายตัว แต่ต่อมาเขาก็เริ่มหันมาหากำไรจากการมองทั้งตลาดแทน เพราะเขามองว่าตัวเขาเองมีความสามารถจำกัดในการทำความเข้าใจอุตสาหกรรมหลายอุตสาหกรรมให้ได้แบบลึกซึ้งอยู่ ในขณะที่เขาสามารถทำความเข้าใจกับระบบเศรษฐกิจและการเงินได้ดีมากกว่า และนั่นก็ได้ทำให้เขาค้นพบแนวทางที่เขามีพรสวรรค์อย่างยิ่งในที่สุด

 

copy บทความมาจาก web ของพี่สุมาอี้ครับ

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 15, 2013 โดย milo

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[mdaddy 2,443]

ยังงงๆว่าเกี่ยวกันอย่างไรอยู่ แต่ตอนนี้เอาเนื้อข่าวมาฝากก่อนก็แล้วกันครับ

• ทองคำหล่นต่อเพราะมีข่าวออกมาว่า กองทุนของโซรอส และมัวร์ แคปิตอล ขายหุ้นสไปเดอร์ โกล์ด อีทีเอฟ ทิ้งเป็นจำนวนมากเมื่อไตรมาส ๔ ของปีที่แล้ว (ขายไปซื้อของจริง หรือขายไปทำอย่างอื่น?)
  
• ส่วนที่กองทุนของ พอลสัน ถือไว้ ๒๑.๘ ล้านหุ้น ไม่มีการขายออก
  

http://www.mineweb.c...78033&sn=Detail

• ที่ทองโดนทุบเมื่อเวลาประมาณสองทุ่มเมืองไทยนั้นเกิดจากการเทขายเงินเยน (เกี่ยวกันไงหว่า)
  

http://www.zerohedge...stocks-post-qe2

 

****************

 

ตอนนี้ทองอยู่ที่ ๑๖๐๗ แอพเม็กซ์ขายแพม์อยู่ที่ ๑๖๕๓ หรือพรี่เมี่ยมประมาณ ร้อยละ ๓

ราคาคำนวณไทยอยู่ที่บาทละ ๒๒๗๔๓ สมมติพรุ่งนี้ราคาประกาศที่ ๒๒๘๕๐ พรีเมี่ยมจะอยู่ที่ ร้อยละ ๐.๔๗

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 15, 2013 โดย wcg

[ส้มโอมือ 4,910]

Worawit Chockijkarn

 

 

มีข่าวนี้ออกมา ผมก็ไม่ค่อยรู้ เพราะไม่ค่อยเก่งเรื่อง หุ้น หรือ TA... แต่รู้แต่ว่ามันจะมีผลต่อราคาโลหะ มีค่าในอนาคตอันไกล้นี้ .. คือ เนื้อหาคร่าวๆ เขาบอกว่า ทองคำ กำลังอยู่ใน ช่วง backwardation ถึง 2 เดือน คือ ถึงเดือน เมษา..กูรูด้าน หุ้น กับ TA ช่วยมาอธิบายหน่อยได้ไหมครับ ว่ามันคืออะไร?

http://www.zerohedge.com/contributed/2013-02-15/gold-leaps-backwardation

[ส้มโอมือ 4,910]

Worawit Chockijkarn

 

 

มีข่าวนี้ออกมา ผมก็ไม่ค่อยรู้ เพราะไม่ค่อยเก่งเรื่อง หุ้น หรือ TA... แต่รู้แต่ว่ามันจะมีผลต่อราคาโลหะ มีค่าในอนาคตอันไกล้นี้ .. คือ เนื้อหาคร่าวๆ เขาบอกว่า ทองคำ กำลังอยู่ใน ช่วง backwardation ถึง 2 เดือน คือ ถึงเดือน เมษา..กูรูด้าน หุ้น กับ TA ช่วยมาอธิบายหน่อยได้ไหมครับ ว่ามันคืออะไร?

http://www.zerohedge...s-backwardation

 

ทั้ง นี้ Backwardation สามารถเกิดขึ้นได้ในภาวะอุปทานของสินค้ามีการขาดแคลนอย่างรุนแรง โดยภาวะขาดแคลนที่เกิดขึ้นนี้ ย่อมหมายความว่า ตลาดมีความต้องการใช้สินค้าในทันที ซึ่งอุปสงค์ที่เจาะจงเฉพาะสินค้าในตลาด Spot หรือสัญญาล่วงหน้าที่มีอายุสัญญาใกล้เคียงกับตลาด Spot เท่านั้น จึงทำให้ราคาสินค้าในตลาด Spot หรือสินค้าในเดือนใกล้จะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาล่วงหน้าในสัญญา เดือนไกล เนื่องจากผู้ประกอบการมองว่าสินค้าที่สามารถนำไปใช้ได้ทันทีย่อมมีมูลค่า มากกว่าสินค้าที่จะถูกนำมาส่งมอบในอนาคต ในกรณีนี้ ราคาล่วงหน้าของสินค้าโดยรวมจะมีทิศทางเป็นขาขึ้นเสมอ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี Backwardation ในตลาดล่วงหน้าอาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงที่ราคาสินค้าโดยรวมปรับตัวลดลงอย่าง รวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนในตลาดมองว่าสัญญาที่ยิ่งมีอายุมากขึ้นก็ยิ่งมีโอกาสที่จะ ปรับตัวลดลงมากขึ้นเช่นกัน แต่สภาวะตลาดในลักษณะนี้มักจะเป็น Backwardation เพียงช่วงสั้นๆ และจะมี basis

http://www.afet.or.th/v081/thai/learning/articleShow.php?id=75

สภาวะ ตลาดแบบ Backwardation เป็นสภาวะของราคา Futures ต่ำกว่าราคา Spot (ราคาสินทรัพย์อ้างอิงในปัจจุบัน) สภาวะตลาดแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อ

อัตรา ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยงน้อยกว่าอัตราผลตอบแทนจากการถือ ครองสินทรัพย์อ้างอิง (r < d) ณ สภาวะนี้แสดงให้เห็นว่าการถือครองสินทรัพย์อ้างอิงจะทำให้นักลงทุนได้รับผล ประโยชน์นั่นคือเงินปันผล ซึ่งดีกว่าการถือฟิวเจอร์ส ดังนั้นราคาฟิวเจอร์ส จึงต่ำกว่าราคา Spot

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นแบบใดก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว

ราคาของฟิวเจอร์สจะวิ่งเข้าหาราคา Spot เสมอ และในวันที่สัญญาครบกำหนด

ราคาของสัญญาฟิวเจอร์สจะเท่ากับราคา Spot พอดี

http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=203

[ส้มโอมือ 4,910]

โดย Backwardation นี้ ราคาสัญญาเดือนใกล้ สูงกว่า สัญญาเดือนไกล ซึ่งรูปแบบของตลาดในลักษณะนี้มักจะเกิดในช่วงที่ขาดแคลนสินค้าอย่างมาก ทั้งนี้ภาวะตลาดเช่นนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากท้ายที่สุดแล้วรูปแบบของราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติซึ่งก็คือ ตลาด Contango (ดังรูป)

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000044539&TabID=3&

[ส้มโอมือ 4,910]

เนื้อหา เก่าส่วนนี้พอจะเพิ่มมุมองมั้ยครับ ราคาดีบุกสูงสุดในรอบ 15 ปี

 

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ที่ราคาดีบุก ณ ตลาดโลหะลอนดอนและตลาดโลหะดีบุก กัวลาลัมเปอร์ พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับ 10,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน เมื่อวันที่ 26-27 พฤษภาคม ศกนี้ ราคาดีบุกเพิ่มสูงขึ้นจากต้นปีร้อยละ 53 ตลาดซื้อขายดีบุกอยู่ในภาวะ Backwardation กล่าวคือ ราคาซื้อขายเงินสดสูงกว่าราคาล่วงหน้า 3 เดือน โดยมีส่วนต่างระหว่าง 400-800 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปัจจัยที่มีผลผลักดันให้ระดับราคาเพิ่มสูงขึ้น เป็นเพราะสต็อคโลหะดีบุกที่ตลาดโลหะลอนดอนลดลงอย่างรวดเร็ว จากต้นปี ซึ่งมีสต็อคจำนวน 14,430 ตัน เหลือเพียงประมาณ 3,000 ตันหรือลดลงเกือบร้อยละ 80 จากต้นปี ประกอบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีการใช้ดีบุกเป็นโลหะบัดกรีแทนตะกั่วเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประเทศผู้บริโภคแถบเอเซีย อาทิ เกาหลี ใต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง มีการเพิ่มปริมาณการใช้ดีบุกมากขึ้น ประมาณการว่าในปีนี้มีความต้องใช้ดีบุกของโลกเพิ่มสูงขึ้นจาก 307,000 ตัน เป็น 320,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 4 ขณะที่อุปทานดีบุกซึ่งประกอบด้วยผลผลิตดีบุกและดีบุกที่ระบายจากคลังสะสม ยุทธปัจจัยของสหรัฐ จะมีปริมาณไม่เพียงพอสนองความต้องการบริโภคเป็นจำนวนประมาณ 20,000 ตัน ทั้งที่ผลผลิตจากจีนในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้เพิ่มร้อยละ 20 แต่การใช้ในประเทศกลับเพิ่มสูงขึ้นทำให้มีการส่งออกดีบุกลดลง เมื่อปี 2546 จีนมีการใช้ดีบุกเป็นจำนวนสูงถึง 73,300 ตัน คิดเป็นปริมาณร้อยละ 24 ของปริมาณการใช้ของโลก คาดว่าระดับราคาดีบุกในปีนี้จะอยู่ในระดับสูง หากจีนและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ลำดับ 1 และ 2 ไม่สามารถเร่งผลผลิตดีบุกในระยะนี้

[ssomboon 57]

สถานการณ์ของทองคำเวลานี้ ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ งง...ถอดใจกันหมดแล้ว

 

ไอ้ที่เหลือบรรดาเหล่าสาวก...แฟนพันธุ์แท้โอกาสทอง....สู้มั๊ย....

[MOR LEK 2,835]

(Reuters) – India’s gold imports in January surged 23 percent from a year ago to their highest in 18 months as traders snapped up supplies ahead of a hike in duty, undermining the government’s efforts to control a ballooning current account deficit

 

The world’s top bullion buyer imported 100 tonnes of gold last month, the head of the Bombay Bullion Association said on Friday. This is about 40 percent more than the country’s average monthly imports last year.

 

"The total imports figure for 2012 was around 860 tonnes, so 100 tonnes in a month is too high.

 

เดือนมกราทองยังราคาถูก แขกก็เลยซื้อไปเรื่อย เดือนเดียวซื้อเข้าไป 100ตัน มากสุดในรอบ 18เดือน ...นี่ขนาดรัฐบาลขึ้นภาษีแล้วนะเนี่ย

 

 

อิอิ สงสัยเดือนกุมภานี่ยิ่งต้องพุ่งมากกว่ามกราแน่ๆ เพราะฝรั่งทุบให้

[kumponys 14,098]

ไม่แต่อินเดียหรอกเฮีย พี่ไทยก็ใช่ย่อย ตั้งแต่ลงมานี่ ขายแทบไม่ทัน ไปดูร้านขายทองคำส่ง สถานการณ์ยิ่งหนัก ไปเจอแต่ถาดเปล่า อย่างกับไปออกงานเทกระจาดมา

[mdaddy 2,443]

ไม่แต่อินเดียหรอกเฮีย พี่ไทยก็ใช่ย่อย ตั้งแต่ลงมานี่ ขายแทบไม่ทัน ไปดูร้านขายทองคำส่ง สถานการณ์ยิ่งหนัก ไปเจอแต่ถาดเปล่า อย่างกับไปออกงานเทกระจาดมา

 

ข้อมูลจากเจ้าของร้านทองแบบนี้นี่เป็นอินดี้ชั้นเยี่ยมเลย ขอบคุณครับ

[MOR LEK 2,835]

ผมอ่านแล้วพอเข้าใจแต่อธิบายไม่ถูก รบกวนคนที่เล่นพวกนี้อธิบายให้พี่ๆน้องๆฟังหน่อยครับ

 

Gold Leaps Into Backwardation!

 

 

 

Submitted by Monetary Metals on 02/15/2013 13:14 -0500

• Backwardation
  
• Central Banks
  

 

Since late January, the February gold contract has been in backwardation. This means that one could make a profit by simultaneously selling a gold bar and buying a February contract. One would still have one’s gold plus a little extra. I coined the term “temporary backwardation”, to describe this curious and very recent phenomenon. In our “new normal”, most gold and silver contracts go into backwardation as they get close to expiry.

 

When the Feb contract first jumped into backwardation, it was well within the “contract roll” period. The roll is when naked longs sell the expiring contract and buy a contract for a more distant month. This heavy selling of the expiring contract pushes down its price. Since cobasis is Spot minus Future (oversimplified slightly), the cobasis rises purely due to the mechanics of this selling.

 

But today something more serious occurred. The April contract, which is not yet being “rolled”, fell into backwardation. See the chart.

 

The market is offering a free profit to anyone who will sell a gold bar and buy an April contract. For whatever reason, no one is either able or willing to take the bait. This is proof that the market for physical gold metal is drying up. Speculators in the futures markets may believe that the gold price “should” fall because the central banks say they are not going to competitively devalue their irredeemable paper currencies. Owners of real metal are increasingly reluctant to part with it at the current price.

 

We don’t recommend that anyone ever naked short the monetary metals. Instead, we always advise to use an arbitrage position such as long gold / short silver.

 

Using the basis theory, we have been bearish on silver this year, against the consensus posting two videos (here and here).

 

Using the basis theory on gold today, we would suggest that now is a great time and a great price to buy gold.

 

And to those who may be shorting gold due to downward momentum, we would say this. Caveat venditor.

http://www.zerohedge...s-backwardation

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 16, 2013 โดย MOR LEK

[คนหลงอ่าง 51]

เอ...ไม่รู้ฟิวเจอร์ของฝรั่ง...เริ่มต้นมาเมื่อไหร่...ทำไมยังมีฤทธิ์อยู่....น่าชมคนที่ออกแบบมาใช้...ดูดเงินทั่วโลกได้ จนถึงปัจจุบันนี้.....

ขนาดมีทองของแท้ๆ...ยังต้องซื้อ-ขาย ตามราคาฝรั่งอยู่....แสบจริงๆ...ฮ่า

. ปล.อยากถามว่า...ถ้ามีทองแท่งแท้ๆ..อยู่ในมือ...ให้ขายลดราคามากๆจะขายไหม ?

[milo 888]

ดูจาก vol. วันศุกร์แล้วผมกลับรู้สึกดีเลยล่ะ

 

ไม่ว่าจะมี low ใหม่หรือไม่ก็ตาม ขอให้ปิดไม่ต่ำกว่า 1550 เป็นพอ

[mdaddy 2,443]

ผมอ่านแล้วพอเข้าใจแต่อธิบายไม่ถูก รบกวนคนที่เล่นพวกนี้อธิบายให้พี่ๆน้องๆฟังหน่อยครับ

.......

 

ไม่ได้อยู่ในวงการพวกนี้ เอาเท่าที่พอจะเข้าใจจากบทความ ผู้รู้เห็นว่าถูกผิดอย่างไร กรุณาแก้ไขด้วยนะครับ

 

ราคาสัญญาในอนาคตตอนนี้ถูกกว่าราคาปัจจุบัน (แบควาร์ดเดชัน) ทำให้คนสามารถทำกำไรได้ง่ายๆ ด้วยการขายทองในมือตอนนี้ แล้วซื้อสัญญาเดือน เม.ษ. ในราคาที่ถูกกว่า พอถึงเดือน เม.ษ. ก็มีทองอยู่ในมือเท่าเดิมพร้อมกับส่วนต่างกำไรที่ขายได้จากปัจจุบันนี้

 

ปกติแล้ว ช่วงใกล้ๆถึงเวลาปิดสัญญา ราคาของสัญญานั้นจะถูกกดลงไป เพราะนักลงทุนจะพยายามปิดสัญญาเพื่อไปซื้อสัญญาของรอบต่อไป (ยังต้องการคงสถานะไว้อยู่) อย่างเช่นปลายเดือนมกรา สัญญาเดือนก.พ. ก็จะถูกกดลง

 

ผู้เขียนบทความชี้ให้เห็นสิ่งที่แปลกในตอนนี้ก็คือ ตอนนี้เดือน ก.พ. แต่ราคาของสัญญาเดือนเม.ษ. ถูกกดลง (ถ้าว่ากันตามตลาดปกติ สัญญาเดือนนี้มันควรจะโดนกดตอนปลาย มี.ค.)

 

สภาพตลาดตอนนี้เอื้อให้คนฟันกำไรได้ง่ายๆจากการขายของตอนนี้ แล้วซื้อสัญญากระดาษของเดือน เม.ษ. แต่ไม่ว่าเหตุผลใดๆก็ตาม ไม่มีใครเลือกที่จะฟันกำไรง่ายๆอย่างที่ว่า เพราะราคาของสัญญาเดือนเม.ษ. มันตกลงไปเรื่อยๆ (คนที่พยายามขายขายไม่ออก ไม่มีคนมาซื้อสัญญาเดือน เม.ษ.)

 

ในความเห็นของผู้เขียนบทความ นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า "ของจริง" ในตลาดนั้นเริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ

และเขายังเชื่อว่าตอนนี้เป็นโอกาสทอง ที่จะซื้อทองได้ในราคางามๆ อีกด้วย

 

ไม่แต่ อินเดียหรอกเฮีย พี่ไทยก็ใช่ย่อย ตั้งแต่ลงมานี่ ขายแทบไม่ทัน ไปดูร้านขายทองคำส่ง สถานการณ์ยิ่งหนัก ไปเจอแต่ถาดเปล่า อย่างกับไปออกงานเทกระจาดมา

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 16, 2013 โดย wcg