ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

Thanong Fanclub

ถูกใจแล้ว · 3 ชั่วโมงที่แล้ว

รัสเซียกับจีนประสานมือกัน เพื่อล้มดอลล่าร์สหรัฐฯ

 

ขณะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนแนบแน่นมาก ผิดกับสมับคอมมิวนิสต์ปางก่อน แนบแน่นถึงขนาดวางแผนร่วมมือกันจะคว่ำความเป็นเงินสกุลสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์สหรัฐฯให้ได้

 

ถ้าทำได้ ความเป็นมหาอำนาจโลกของสหรัฐฯจะหมดสภาพลงทันที

 

เป็นการเดินเกมของผูนำรัสเซียและจีนที่เข้มข้นและแน่วแน่มาก ชั่วโมงนี้ สองประเทศยักษ์ใหญ่กำลังลุกขึ้นมาทวงบรรลังค์จากสหรัฐฯแล้ว เพราะสหรัฐฯเล่นพิมพ์เงินกระดาษเปล่าๆมาปล้นทรัพยากรแรงงานของชาวโลกมาช้านานแล้ว

 

ประวัติศาสตร์การเงินของโลกกำลังจะพลิก และผลของการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานการครองชีพของคนอเมริกันจะแย่ลงอย่างถนัดตา ตอนนี้ ทั้งรัสเซียและจีนยืนคุมเกมอยู่ คือให้เชือกคล้องคอสหรัฐฯอย่างพอเหมาะ โดยปล่อยให้พวกแก๊งพิมพ์เงินสหรัฐฯพิมพ์จนเงินเฟ้อถล่มทะลาย ก่อนที่จะถีบเก้าอี้ที่สหรัฐฯยืนอยู่ออกไป

 

จีนและรัสเซียค้าขายกันตอนนี้ไม่เอาดอลล่าร์อยู่แล้ว หยวนแลกรูเบิ้ลไปเลยแต่บทบาทของจีนจะโดนเด่นกว่ารัสเซียช่วงนี้ในความพยายามที่จะคว่ำเงินดอลล่าร์ โดยมีสองเฟสใหญ่ๆ คือ

 

1.วางโครงสร้างพื้นฐานของระบบการเงิน เป็นเอกเทศจากระบบดอลล่าร์ และดึงความเป็นศูนย์กลางทางการเงินออกจากลอนดอน นิวยอร์ค

2. ลอยตัวหยวนและรูเบิ้ล ทำให้ค่าเงินทั้งคู่แข็งแกร่งมีความน่าเชื่อถือ ให้คนยอมรับแทนดอลล่าร์

 

 

เฟสแรกPhase I กำลังดำเนินอยู่ ไปได้ไกลแล้ว เห็นได้จากการที่

 

1.ธนาคารกลางของจีนลอยตัวดอกเบี้ยเมื่อออาทิตย์ที่แล้ว

 

2. จัดการกับธนาคารเงาในระบบธนาคารที่เป็นฟองสบู่ เพื่อปฏิรูปสถาบันการเงิน

 

3. ทำสว๊อปเงินหยวนและเงินสกุลต่างๆ เพื่อว่าเวลาซื้อของ ค้าขายกันจะได้ไม่เอาดอลล่าร์ เปิดเสรีภาคการเงินต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มบทบาทเงินหยวนในตลาดการเงินโลก

 

4. แย่งชิงศูนย์กลางทางการเงินจากลอนดอน นิวยอร์ค ให้เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางแทน โดยที่ฮ่องกงจะเป็นหน้าต่างโนมีนี

 

5. สร้างตลาดค้าทอง ทั้งspot และfuturesที่เซี่ยงไฮ้แข่งสหรัฐฯและอังกฤษ จะเห็นว่าปริมาณการเทรดทองที่เซี่ยงไฮ้กำลังพุ่งแรง

 

6. ตุนทองจีนบอกชาวโลกว่ามีทองแค่1,000ตัน แต่จริงๆอาจมีแล้ว7,000ตัน ถึง10,000ตัน

 

เฟสสองPhase II คือการลอยตัวหยวนเมื่อได้ โอกาส อาจจะลอยพร้อมๆกับรูเบิ้ล โดยทั้งคู่จะเป็นแกนของเขตเศรษฐกิจยูเรเซี่ยน ซึ่งจะเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ พร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐาน การผลิต อุตสาหกรรม การเกษตร เทคโนโลยี่

 

ส่วนเขตยูโรจะร่วงโรยเพราะจะแก้ วิกฤติการเงินไม่ได้ หนี้ท่วมหัวแล้ว และหนี้สหรัฐฯอเมริกา ที่กำลังแก้ผ่านการทำQE นับวันจะเป็นการฆ่าตัวตาย เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยสูง ขึ้น หนี้เพิ่มอย่างรวดเร็ว ว่างงานเรื้อรัง จีดีพีแผ่วจนหมดแรงโต เหล่านี้คือปัจจับพื้นฐานที่กำลังรออยู่ข้างหน้า เพราะสหรัฐฯไม่ยอมปฏิรูป โครงสร้างเศรษฐกิจอะไรเลยหลังจากวิกฤติ2008 พิมพ์เงินกลบปัญหา อุ้มแบงค์อย่างเดียว อย่างอื่นไม่สน

 

เงินหยวนจะผงาด ตีคู่กับเงินรูเบิ้ล ส่วนดอลล่าร์น่าจะเสียแชมป์อย่างบอบช้ำ

 

(หมายเหตุ: แฮ่มๆๆ ประเทศไทยยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ กำลังขอแก้รัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรม จำนำข้าว จำนำประเทศต่อ จบข่าว)

 

โดย Thanong Fanclub

 

 

 

 

 

It should go without saying that China and Russia have designs to end the U.S. Dollar hegemony free ride. This is fundamental to understand and will be a game changer. The impacts on the standard of living of these players will be profound and especially negative for the U.S. How and in what manner this plays out is the question. I strongly believe that the answer lies in two parts: letting the U.S. put a noose around its own neck and then at the appropriate time, kicking the chair out from under it.

 

The first part of the operation is now advanced and is described below. The second part involves China and Russia preparing its relative currencies to be accepted in lieu of dollars. It means making the yuan and ruble at least equal to, if not superior to, American dollars in world trade. As you can imagine, the U.S. — a country with a debt-to-GDP ratio approaching 110% — can ill afford this sort of challenge to its status as a reserve currency.

 

 

 

http://www.zerohedge.com/contributed/2013-07-22/china-maneuvers-take-away-us’-dominant-reserve-currency-status

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทความจากThanong Fanclub

 

Thanong Fanclub

ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว

(1).ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯคือระบบหนี้ ที่ไปต่อไม่ไหว

 

หลังจากเลิกระบบมาตรฐานทองคำปี1971 จะเห็นได้ชัดเจนว่าสหรัฐฯโดนระบบหนี้ เงินกระดาษครอบ จนหนี้ของประเทศโตกว่าจีดีพีไปเรื่อยๆ จนกู่ไม่กลับทุกวันนี้

 

เมื่อ40 ปีที่แล้ว สหรัฐฯมีหนี้$2ล้านล้าน ทุกวันนี้ หนี้ทั้งหมดเพิ่มเป็น$56ล้านล้าน เส้นสีน้ำเงินแสดงการเติบโตของหนี้ หลังนิกสันเลิกระบบมาตรฐานทองคำ ส่วนเส้นสีแดงคือการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะนี้จีดีพีอยู่ที่$16ล้านล้านกว่า

 

เส้นกราฟบอกชัดว่า จีดีพีหรือปัจจัยพื้นฐาน และหนี้ที่ก่อจากเครดิต การใช้เงินอนาคตผ่านระบบเงินกระดาษ นับวันยิ่งถ่างออกไป

 

กู่ไม่กลับ

 

ทำให้ดอลล่าร์มีความเสี่ยงในการรักษาความเป็นเงินสกุลหลักของโลก

 

Thanong Fanclub

http://theeconomiccollapseblog.com/archives/share-this-chart-with-anyone-that-believes-the-u-s-economy-is-not-going-to-crash

 

1070060_146831775513205_1362616441_n.png

 

 

 

 

 

(2) หนี้รัฐบาลกลางสหรัฐฯเพิ่มขึ้น$11ล้านล้านตั้งแต่ปี2000

 

เวลาประเทศเริ่มก่อหนี้ ไม่ค่อยจะรู้สึกกัน แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะ หนี้มันจะไปในอัตราที่เร่งตัวขึ้นโดยปริยาย เพราะทุกคนมีข้ออ้างในการใช้เงิน

 

ตั้งแต่ปี2000 หนี้สหรัฐเพิ่ม $11ล้านล้าน จนใกล้$17ล้านล้านในขณะนี้

 

สัดส่วนหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯต่อจีดีพีอยู่ระดับ60%บวก ลบ แต่พุ่งทะยานอย่างน่ากลัวหลังวิกฤติ2008 เพราะรัฐบาลเข้าไปอุ้มระบบการเงิน เศรษฐกิจทั้งระบบ

 

ช่วงโอบามารับตำแหน่งประธานาธิบดีปี2009 หนี้รัฐบาลกลางอยู่ที่$10ล้านล้าน โอบามาประกาศจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ ประโยคเด็ด Yes, we can.

 

อยู่มา5ปี หนี้รัฐภายใต้โอบามาพุ่งเกือบ$7ล้านล้านเป็น $17ล้านล้าน ทำให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพี ทะลุ100%ไปแล้ว

 

เพราะภาครัฐใส่เงินขาดดุล เข้าไปปีละกว่า$1ล้านล้าน เพื่อทดแทนเงิน $1ล้านล้านที่หายไปจากระบบเศรษฐกิจหลังฟองสบู่แตก

 

พูดง่ายๆก่อหนี้ เพื่อรักษาจีดีพี แต่การก่อหนี้เช่นนี้เป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมือง แต่ทางเศรษฐกิจ มันเป็นหายนะ เพราะประเทศที่ปล่อยให้หนี้ภาครัฐสูงเกิน80%ต่อจีดีพี จะเดินหน้าต่อลำบาก เพราะเศรษฐกิจจะโตช้า เงินที่ได้จากการเก็บภาษีต้องไปใช้หนี้

 

ขณะนี้สหรัฐฯเลือกที่จะพิมพ์เงินผ่านQEในการแก้ปัญหา

 

Thanong Fanclub

 

http://theeconomiccollapseblog.com/archives/share-this-chart-with-anyone-that-believes-the-u-s-economy-is-not-going-to-crash

 

993657_146834848846231_379126297_n.png

 

 

 

 

 

(3) หนี้มลรัฐฯและรัฐบาลท้องถิ่นสหรัฐก็เอาไม่อยู่

 

อาทิตย์ที่ผ่านมามีข่าว ดีทรอยท์ เมืองรถยนต์สหรัฐประกาศล้มละลาย เพราะไม่มีปัญญาจ่ายหนี้$18,000ล้าน

 

หลายรัฐและเมืองใหญ๋ที่ออกบอนด์Minicipal Bondกู้เงินเป็นว่าเล่น เพื่อสร้างโน่น สร้างนี่กำลังมีฐานะย่ำแย่คล้ายๆกัน

 

หนี้ของพวกมลรัฐ รัฐบาลท้องถิ่นพุ่งจาก$1.2ล้านล้านเมื่อปี 2000 มาเป็น $3ล้านล้านทุกวันนี้

 

มีแต่หนี้ทั้งนั้นในระบบทุนนิยมการเงินกระดาษ

 

http://theeconomiccollapseblog.com/archives/share-this-chart-with-anyone-that-believes-the-u-s-economy-is-not-going-to-crash

 

969526_146836905512692_1964728312_n.png

 

(4) ภาคสรุป

 

ถ้าเป็นประเทศอื่น ดอกเบี้ยจะต้องพุ่งทะลุหลังคาไปแล้ว ค่าเงินตกรูด

 

กราฟทั้งสามที่เอามาให้ดู เรื่องหนี้ทั้งหมดในสหรัฐฯ หนี้ภาครัฐ และหนี้ของมลรัฐบอกรัฐบาลท้องถิ่น ชี้ให้เห็นว่าสหรัฐฯเข้าสู่ระบบหนี้เต็มตัวหลังเลิกมาตรฐานทองคำ จะเป็นเหตุปัจจัยหรือเปล่าก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันได้

 

อย่างไรก็ดี ถ้าเป็นประเทศปกติ ด้วยหนี้ระดับนี้ ดอกเบี้ยต้องพุ่งทะลุเพดาน และค่าเงินต้องอ่อนยำแย่ เงินเฟ้อสูง แต่สหรัฐฯเป็นประเทศมหาอำนาจ มีดอลล่าร์เป็นสกุลหลักของโลก

 

สหรัฐฯแก้ปัญหาชั่วคราวด้วยการพิมพ์เงินผ่านคิวอี ย่ามใจว่าใครๆก็ยังคงต้องการดอลล่าร์อยู่ ไม่มีตัวเลือกพอ และได้กดดอกเบี้ยลง0%

 

ประเด็นคือจะประคองสถานการณ์ที่วิกฤตินี้ไปได้นานแค่ใหน

 

รัสเซีย จีน ยืนมองดูอยู่ เตรียมล้มดอลล่าร์ เมื่อระบบหนี้เดินต่อไปอีกไม่ได้

 

ในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นอนันตกาลหรือinfinity โดยเฉพาะอย่างยิ่งสร้างหนี้infinityเป็นไปไม่ได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนในความเห็นผมดูจะเป็นประเทศไม่ฮาร์ดคอร์

จากภาษิตคนจีน กินขี้หมาดีกว่าค้าความ หรือ คำกล่าวผู้นำ แมวขาวแมวดำสำคัญที่จับหนูได้

ผู้นำใหม่ก็มีการศึกษาจากตะวันตก(ใช่ไหมครับ)

คุณ wcg น่าจะศึกษาประวัติศาสตร์ดีกว่าผมมาก ไม่ทราบว่ามีความเห็นเกี่ยวกับจีนจะล้มดอลอย่างไรบ้างครับ

 

ผู้นำใหม่มีการศึกษาจากตะวันตกหรือเปล่าไม่ทราบ แต่จากที่มีโอกาสได้อ่านมา คนที่ทำงานในภาคการเงิน มีคนเก่งๆที่เคยทำงานในตปท.กับแบงค์มาเฟีย และสถาบันการเงินต่างๆมากมาย เพราะฉะนั้น ผมว่าไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ครับ

 

เรื่องจีนล้มดอลล์ จากเรื่องที่ได้อ่านในรอบสองสามปี และจินตนาการของผมเอง -- ผมว่าเขาไม่ต้องทำอะไรลุงแซมก็ช่วยล้มให้อยู่แล้ว การที่สร้างระบบการแลกเปลี่ยนเงินโดยตรงกับประเทศต่างๆ และการเก็บสะสมทองคำ ก็เป็นการเตรียมการรับมือกับปัญหาถ้ามันจะเกิดขึ้น อีกอย่าง ทำให้ล้มในตอนนี้ เขาก็เสียหายเปล่าๆ ค่อยๆปล่อยให้มันเป็นไปเอง หรือว่าถ้าลุงแซมเกิดก้าวร้าวเกินงามเมื่อไหร่ เขาก็ยังมีพันธบัตรลุงแซมเป็นอาวุธ/ตัวประกัน ไว้ตบกบาลเตือนสติลุงแซมได้อีกด้วย

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
อีกอย่าง ทำให้ล้มในตอนนี้ เขาก็เสียหายเปล่าๆ ค่อยๆปล่อยให้มันเป็นไปเอง หรือว่าถ้าลุงแซมเกิดก้าวร้าวเกินงามเมื่อไหร่ เขาก็ยังมีพันธบัตรลุงแซมเป็นอาวุธ/ตัวประกัน ไว้ตบกบาลเตือนสติลุงแซมได้อีกด้วย

เห็นด้วยและเห็นภาพเลยครับ :D

ยิ่งดอลล้มช้าหรือออกทางอื่นได้ยิ่งเป็นประโยชน์กับจีน เพราะจีนก็ถือดอลอยู่ใช่น้อย

 

สงสัยอยู่อย่างรัสเซียเลิกตุนทองทำไม

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เห็นด้วยและเห็นภาพเลยครับ :D

ยิ่งดอลล้มช้าหรือออกทางอื่นได้ยิ่งเป็นประโยชน์กับจีน เพราะจีนก็ถือดอลอยู่ใช่น้อย

 

สงสัยอยู่อย่างรัสเซียเลิกตุนทองทำไม

 

ไม่ใช่ว่ารัสเชียซื้อทอง จ่ายตังค์เรียบร้อย แล้วยังไม่ได้ส่งของไปให้หรือเปล่า เดือนนี้เลยไม่ซื้อเพิ่ม กลัวเป็นหนี้สูญ

(อันนี้เป็น จินตนาการของผม)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณส้มโอมือ คุณหมอเล็ก คุณwcg คุณmilo และทุกท่านมากๆค่ะ :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เห็นด้วยและเห็นภาพเลยครับ :D

ยิ่งดอลล้มช้าหรือออกทางอื่นได้ยิ่งเป็นประโยชน์กับจีน เพราะจีนก็ถือดอลอยู่ใช่น้อย

 

สงสัยอยู่อย่างรัสเซียเลิกตุนทองทำไม

 

 

Thanong Fanclub

....

ธนาคารกลาง(รัสเซีย)อาจจะหยุดซื้อทองในบัญชีที่เปิดเผย แต่อีกหน่วยงานหนึ่งอาจจะซื้อทองต่อก็ได้

 

เพราะ ดูตัวอย่างจากจีน ตัวเลขทางการมีทองประมาณ1,000ตัน แต่หลายคนอย่างZerohedge.comเชื่อว่าจีนมีทองมากกว่านั้น3-4เท่า ล่าสุดมีตัวเลขออกมาว่าจีนมี7,000ตัน(ดูโพสท์ก่อนหน้านี้)

.....

ทั้ง สองประเทศจึงมีการตุนทองทั้งทางลับและเปิดเผยมาตลอด มีความร่วมมือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านShanghai Economic Cooperationเพื่อสร้างระเบียบการเงิน เศรษฐกิจโลกใหม่ ที่ไม่อยู่ใต้อิทธิพลของพวกแองโกล อเมริกัน

 

....

สรุปมีความเป็นไปได้สองสามกรณี 1.รัสเซียอาจหยุดซื้อทองจริง รอดูราคา เพราะขาดทุนทางบัญชี

 

2. ไม่ได้หยุดซื้อทอง เพราะเป็นเรื่องลับลวงพราง

 

3. ขาดทุนเป็นเรื่องขี้ผง เป้าหมายใหญ่ภายใต้มาตรฐานทองคำของระเบียบโลกใหม่สำคัญกว่า

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในอดีตจนถึงตอนนี้ มี GOFO ติดลบ (ราคาทองสปอท/ฟิวเจอร์ใกล้ๆ แพงกว่าไกลๆ) สามรอบ

ลุงจิมบอกว่า รอบนี้เข้าขั้นโคม่า

 

post-2564-0-70585200-1374600907.jpg

 

http://www.jsmineset...ews-today-1607/

 

ดูอัตรา GOFO ย้อนหลังได้ที่นี่

 

http://www.lbma.org.uk/pages/index.cfm?page_id=55

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองขึ้นจาก

 

---2-3เดือนที่ผ่านมา อินเดียคุมการนำเข้าทองคำสำหรับการทำเครื่องประดับสำหรับการส่งออก

Banks will be allowed to import bullion on a consignment basis to meet only genuine needs of exporters of gold jewelry

http://www.bloomberg...-purchases.html

 

---อินเดียผ่อนคลายกฎ

 

According to market analysts, the new guidelines which also gave a clarification on the continuation of gold leasing from banks to companies and that the importers have to ensure 20 percent of total shipped in material to be used for export purposes, helped some of the companies gain in the day's trade(ส่งออก 20% ส่วนที่เหลือสามารถใช้ขายในประเทศแต่ในรูปแบบของเครื่องประดับเท่านั้น)

 

http://www.newzfirst.../web/guest/home

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

• SET Index ปิดที่ 1,513.31 จุด เพิ่มขึ้น 31.47 จุด หรือ +2.12% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 50,500 ล้านบาท โดยดัชนีเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค จากการที่นายกรัฐมนตรีจีนประกาศว่าจะไม่ยอมให้อัตราการขยายตัวของจีดีพีต่ำกว่า 7% ทำให้นักลงทุนลดความกังวลเรื่องการชะลอตัวของจีนในช่วงที่ผ่านมา

วรวรรณ ธาราภูมิ

5 ชั่วโมงที่แล้ว

Good Morning News จากกองทุนบัวหลวง

 

24 กรกฎาคม 2556

 

General News

---------------

 

• ยูโรสแตท รายงานว่า ยอดรวมหนี้สิ้นของ 17 ประเทศสมาชิกยูโรโซนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 92.2% ของจีดีพีในไตรมาส 1/56 จาก 90.6% ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า โดยประเทศที่มีสัดส่วนหนี้รัฐบาลต่อจีดีพีสูงสุดได้แก่

 

กรีซ 160.5%

อิตาลี 130.3%

โปรตุเกส 127.2%

ไอร์แลนด์ 125.1%

 

ขณะเดียวกันรายงานล่าสุดยังระบุว่า ภาระหนี้สิ้นของประเทศยุโรปหนักหน่วงยิ่งขึ้นขณะที่จีดีพีของอียูยังหดตัวลง และยังไม่มีแนวโน้มว่าสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีจะปรับตัวลดลง

 

• สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้นำธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเป็น 95 จุดในเดือน ก.ค. จาก 93 จุดในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงในรอบ 15 เดือน และถึงแม้จะยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว แต่ก็เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของฝรั่งเศสเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากเผชิญกับภาวะถดถอยในช่วงที่ผ่านมา

 

• ราคาบ้านสหรัฐในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อยว่าจะขยายตัวได้ 0.8% แต่เป็นการปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันตลอด 16 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการฟื้นตัวในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ

 

• รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มการประเมินภาวะเศรษฐกิจติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากการลงทุนในภาคธุรกิจเริ่มส่งสัญญาณปรับฐานขึ้น โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่น "ฟื้นตัวขึ้น" เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน และการปรับตัวขึ้นของราคาในช่วงที่ผ่านมา แสดงว่าเงินฝืดกำลังคลี่คลายตัว

 

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มการประเมินการลงทุนในภาคธุรกิจเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนโดยระบุว่าการลงทุนในภาคธุรกิจกำลังกระเตื้องขึ้นเนื่องจากผลประกอบการของบริษัทเอกชนแข็งแกร่งขึ้น

 

• นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน กล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ระดับ 7% นั้นเป็นระดับต่ำสุดที่จีนจะสามารถยอมรับได้ นับเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจถ้าหากเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากไป

 

• มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของอินโดนีเซียในไตรมาส 2 สูงขึ้น 18.9% คิดเป็นมูลค่า 6.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากที่ขยายตัว 30.2% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

การขยายตัวของ FDI ที่ชะลอตัวลงอย่างมากนั้นมีเหตุจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงทำให้แผนการขยายการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศล่าช้าออกไป ทั้งนี้ กระแสเงินทุน FDI ส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในภาคเหมืองแร่ การคมนาคม และเคมีพื้นฐาน

 

• ธปท.กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความไม่แน่นอนสูง และมีโอกาสขยายตัวต่ำกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ล่าสุดที่ 4.2% เนื่องจากความต้องการบริโภคอาจชะลอตัวยาวนานกว่าที่คาด ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องถึงความเชื่อมั่นในการลงทุนด้วย แต่เชื่อว่าชะลอลงแค่ชั่วคราว

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งสหรัฐ ญี่ปุ่น รวมถึงจีน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกสินค้าของไทยไปจีนอยู่ที่ 12% ยุโรป 10% และสหรัฐ 10% แต่มีการส่งออกไปอาเซียนเป็นสัดส่วน 20% ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้บ้าง

 

• ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่า ธปท.ระบุว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว 4.2% ซึ่งไม่ต่ำกว่าศักยภาพ เพราะยังดีอยู่หากเทียบกับเศรษฐกิจในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ไทยจำเป็นต้องแก้ปัญหา 3 ประการที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว ได้แก่

 

1.ปัญหาขาดแคลนปัจจัยการผลิตคือจำนวนแรงงาน เพราะโครงสร้างประชากรในไทยเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัย

 

2.การพึ่งพาการย้ายแรงงานออกจากภาคเกษตรไปยังภาคอุตสาหกรรมเป็นไปได้ยากขึ้น

 

3.คุณภาพปัจจัยการผลิต กล่าวคือประเทศไทยยังมีช่องว่างเรื่องการศึกษา นวัตกรรม กฎหมายและการบังคับใช้ที่ดี

 

ถ้าไม่แก้ปัญหาอุปสรรคเหล่านี้ ไทยก็จะเป็นประเทศ Middle Income ไปเรื่อยๆ

 

Equity Market

---------------

 

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม (ล้านบาท)

----------------------------------------------------

นักลงทุนสถาบัน +1,853.07

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +551.49

นักลงทุนต่างชาติ +549.10

นักลงทุนทั่วไป -2,953.66

 

• SET Index ปิดที่ 1,513.31 จุด เพิ่มขึ้น 31.47 จุด หรือ +2.12% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 50,500 ล้านบาท โดยดัชนีเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค จากการที่นายกรัฐมนตรีจีนประกาศว่าจะไม่ยอมให้อัตราการขยายตัวของจีดีพีต่ำกว่า 7% ทำให้นักลงทุนลดความกังวลเรื่องการชะลอตัวของจีนในช่วงที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ หุ้นที่มีผลต่อการปรับขึ้นของตลาดมากที่สุดได้แก่ กลุ่มโทรคมนาคมซึ่งมีประเด็นบวกจากการจัดตั้งกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ของบริษัท TRUE ด้วย

 

Fixed Income Market

------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุไม่เกิน 40 ปี มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยระหว่าง -0.01% ถึง 0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี และ 13 ปี มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท

 

• สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ปรับความเสี่ยงของเพดานอันดับความน่าเชื่อถือของเงินฝาก และตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศ (LC) และสกุลเงินต่างประเทศ (FC) ของผู้ออกตราสารหนี้ของไทย ดังนี้

 

1. เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท ปรับจาก Aa2 มาอยู่ที่ A1

 

2. เพดานอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวสกุลเงินบาท ปรับจาก Aa2 มาอยู่ที่ A1

 

3. เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ A2 แต่เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ ปรับจาก P-2 มาอยู่ที่ P-1

 

4. เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ Baa1 และเพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงโดยอยู่ที่ P-2

 

การปรับในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางในการกำหนดเพดานความเสี่ยงสำหรับตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศซึ่งมูดี้ส์ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไม่ได้มีผลกระทบต่อพันธบัตรรัฐบาลไทย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

6 ชั่วโมงที่แล้ว

พวกแก๊งพิมพ์เงินปั่นราคาทองให้เตี้ยติดดินอย่างไร?

 

ในตลาดทองหรือเงินฟิวเจอรส์ในสหรัฐฯ แบงค์เป็นใหญ่มีอิทธิพลเหนือตลาด และเป็นผู้กดราคาทองให้ต่ำผิดธรรมชาติ

 

แล้วทำได้อย่างไร?

 

อธิบายได้ดังนี้ แบงค์เป็นตัวดูดดีมานด์ทองphysical โดยที่มีpositionsที่เป็นการขายสุทธิอยู่อย่างต่อเนื่อง

 

ก็บอกไม่ได้หรอกว่าดีมานด์หรือความต้องการทองนี้จะมีอยู่จริงหรือเปล่า ถ้าไม่มีการแทรกแซงหรือลูกเล่นจากพวกแบงค์ แต่ไม่เป็นที่ต้องสงสับเลยว่า การให้มีpositions ที่เป็นการขายอย่างสุทธิที่ถาวร ทำให้ราคาทองต่ำกว่าราคาที่น่าจะเป็น

 

นี้เองทำให้ราคาทองถูกบิดเบือน

 

ถ้าราคาทองไม่ต้องถูกบิดเบือนเป็นเวลายืดนานออกไป ต้องมีองค์ประกอบสามอย่าง

 

1. ผู้เล่นทุกคน ต้องประสงค์ที่จะทำกำไร

 

2. แบงค์ต้องใช้เงินตัวเองเล่นจริงๆ ไม่ใช่เอาเงินคนอื่นเล่น

 

3. ต้องมีการล้างพอร์ตเก็งกำไรเป็นระยะๆ

 

แต่ในความเป็นจริงมีการ"แทรกแซงทางการเมือง"เพื่อกดราคาทองให้ต่ำกว่าความ เป็นจริง แบงค์เล่นฟิวเจอร์ส โดยเอาเงินคนอื่นมาเล่น ทั้งๆที่ไม่น่าจะเล่นได้ ขาดทุนไม่เป็นอะไร เพราะล้มจริงก็มีธนาคารกลางหรือเฟดมาอุ้มให้ล้มบนฟูก

 

และไม่เคยมีการต้องล้างพอร์ตเก็งกำไรเลย positionsที่เป็นการขายสุทธิทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อกดราคาทองตามใบสั่ง

 

การปั่นราคาทองที่บิดเบือนในตลาดฟิวเจอร์สนี้ ทำให้ในที่สุดทองphysicalเริ่มหนีออกจากตลาดฟิวเจอร์

 

*************************************************

 

ความเห็น

 

แก๊งพิมพ์เงินให้แบงค์ในเครือกดราคาทอง เป็นเวลาหลายทศวรรษเพื่อให้คนลืมทองไปเลย ในทางตรงข้ามทำให้ดอลล่าร์กลายเป็นพระเจ้าแทน เนื่องจากแก็งพิมพ์เงิน พิมพ์เงินเองได้ จึงไม่ต้องคำนึงถึงผลกำไรหือขาดทุน การควบคุมตลาดเป็นเป้าหมายหลัก แต่ตัวเองก็ตุนทองใส่กระเป๋าตัวเอง

 

วิธีการนี้ เป็นการดูแลระบบดอลล่าร์กระดาษFiat Currency Systemที่มาแทนระบบมาตรฐานทองคำ ทำให้ดอลล่าร์ที่โดยสารัตถะเป็นกระดาษเปล่าๆ มีค่ามากกว่าทองได้

 

เป็นการเล่นมายากล เสกกระดาษให้มีค่ามากกว่าทอง

 

และเราก็ถูกล้างสมองมานานจนเคยชินกับดอลล่าร์ ทำให้ติดในภาพมายาว่ากระดาษมีค่ามากว่าทอง

 

Thanong Fanclub

 

 

In the US futures markets, this changed when banks were permitted to act as “commercials”, despite the fact they are in fact speculators in the original market definition. The nature of the futures market changed from this moment to one where speculative positions have become more or less permanent.

 

In the case of gold and silver the banks have absorbed physical demand by continually running net short positions. We cannot say that all of this demand would have existed without the banks’ intervention; however there is no doubt that the expansion of the overall market by the addition of permanent short positions has led to lower prices overall than would otherwise be the case.

 

If futures markets are not to distort prices on a prolonged basis three conditions must apply: every player must be motivated only by profit, the banks must commit only their own resources and no one else’s, and there must be periodic liquidation of speculative positions. Instead, there is little doubt that there is political intervention, the banks are too big to fail which allows them to commit funds they would not otherwise commit, and there has been no overall liquidation of speculative positions. The result is that banks have been able to manipulate prices, and pricing has become distorted, confirmed by emigration of gold away from derivative markets.

 

http://www.goldmoney.com/gold-research/alasdair-macleod/gold-derivative-distortions.html?gmrefcode=dollarc

Thanong Fanclub

7 ชั่วโมงที่แล้ว

Shanghai Gold ExchangeมาแรงแซงCOMEXไปแล้ว

 

ความต้องการทองของจีนพุ่งเป็นประวัติการตอนนี้ เมื่อกระเป๋าหนัก ก็ซื้อหนัก เคาะเทรดกันสนั่น เมื่อราคาต่ำกว่า$1,300ต่อออนซ์

 

ที่Shanghai Gold Exchange ตลาดรองเทรดทองเซียงไฮ้ มีปริมาณทองphysicalส่งมอบจากต้น ปี ถึงสิ้นสุดเดือนมิถุนายนจำนวน1,098ตัน นับว่ามหาศาลเลยทีเดียว เพราะว่าจำนวน1,098 ตันนี้ เทียบเท่ากับ40%ของปริมาณทองทำที่จะถลุงขึ้นมาทั้งหมดในปี 2013นี้

 

ถ้ายังคงมีการเทรดและส่งมอบทองในระดับนี้ ถึงสิ้นปีShanghai Gold Exchangeก็ต้องมีวอลุ่มมากกว่า100%ของการผลิตทองทั้งหมดในปีนี้

 

เจ้าเดียวเหมาเรียบ

 

ทำให้ตลาดCOMEXเทรดทองกระดาษfuturesที่นิวยอร์ค ดูเงียบเหงาลงถนัด เพราะในช่วงเวลาครึ่งปีแรกเดียวกัน มีการส่งมอบทองphyscialแค่160.7 ตันเท่านั้น

 

เทียบกันไม่ติดกับShanghai Gold Exchangeน้องใหม่ไฟแรง

 

แน่นอนปริมาณกาเทรดทองกระดาษที่COMEXมีปริมาณมากกว่าShanghai Gold Exchangeมาก แต่ปริมาณทองphysical เทียบเท่าแค่15% ของปริมาณที่เทรดผ่านตลาดเซียงไฮ้

 

ถ้าดูปริมาณทองที่จีนนำเข้าผ่านฮ่องกง จะเห็นว่าจีนกว้านซื้อทองเทียบเท่าปริมาณทองคำผลิตทั้งโลกในปีๆหนึ่ง ยังเป็นข้อกังขาอยู่ว่าทองราคาตกลง$400ช่วงที่ผ่านมาได้อย่างไร ในเมื่อจีนตะลุยซื้อทองแบบทุ่มสุดตัวแบบนี้

 

ตอนนี้ถือได้ว่า จีนเป็นศูนย์กลางของการเทรดทองphysical เรียบร้อยแล้ว

 

 

Thanong Fanclub

 

http://sprottgroup.com/thoughts/articles/the-shanghai-gold-surprise/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ได้อ่านกระทู้ของผู้ถือหุ้น makro มาตั้งแต่ราคาไม่ถึงร้อยบาทคนหนึ่ง ตั้งคำถามว่าจะถือต่อ หรือ ขาย tender ดี

มีความเห็นหลากหลาย แต่มีคนหนึ่งตอบว่า ถ้าจะขาย แล้วจะเอาเงินไปทำอะไร ซื้อหุ้นอื่น หรือ ลงทุนอะไรที่คุ้มค่ากว่า

กับการถือหุ้น บ.ค้าส่งอันดับ 1 มีธรรมภิบาลดี มีปันผลสม่ำเสมอ

 

ทำให้ผมมานั่งคิดว่า เมื่อเรามองทุกอย่างเป็นสินทรัพย์

มันก็เป็นแค่เพียงการเปลี่ยนรูปแบบการถือครองสินทรัพย์ให้เหมาะสมเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทอง พันธบัตร ที่ดิน ฯลฯ

มามองในสโคปใหญ่ที่จีนถือครองทั้งพันธบัตรเมกา ทอง สินทรัพย์อื่นๆ ก็เช่นกัน แต่เป็นในจำนวนที่มากมายมหาศาลกว่า

การจัดการให้ลงตัวจึงเป็นเรื่องที่ยากเพราะเงินกระดาษที่มากมายจนล้นสินทรัพย์ที่แท้จริง ทำให้ต้องผ่องถ่ายสู่สินทรัพย์ที่รองรับได้แม้ว่าอาจจะดูมีค่าน้อย

ที่ิดิน ทองคำ หรือสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ไม่มีคุณลักษณะที่จะรองรับได้เพราะมีจำกัด

การจะไปซื้อกิจการใหญ่ๆ เจ้าของกิจการคงไม่มีใครอยากแลกเงินกระดาษเว้นแต่ได้ราคาดี แต่ซื้อมาแล้วก็ต้องมีความสามรถในการบริหารกิจการด้วย

เงินดอลล่า หรือพันธบัตรเมกา ที่ใครมองว่าด้อยค่าเพราะขยันออกสินทรัพย์บนอากาศ แต่ ณ เวลา นี้ ก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่นำมาใช้จ่าย ชำระหนี้ได้ตามกม.

จีนเองอาจไม่มีทางเลือกอื่นที่จะไม่ซื้อพันธบัตรเมกา เพราะไม่รู้จะเอาเงินไปเก็บในรูปแบบใด

 

หากจะมีระบบการเงินใหม่ ก็จะต้องมีลักษณะที่เงินกระดาษรองรับอยู่ได้ในเวลานี้

ดังนั้น ระบบการเงินใหม่ที่มักพูดกันนั้นมีจุดเด่น ปิดจุดด้อยของระบบเดิมได้หรือไม่

อย่าลืมว่าการพิมพ์เงินกระดาษขึ้นมามากมายก็เพื่อสนองความโลภอันไม่จำกัดของคนนั่นเองและมันก็ย้อนกลับมาทำลายตัวเองอยู่ ณ เวลานี้ หากจะเปลี่ยนเป็นระบบมาตรฐานทองคำเิดิม มองอีกแง่ ก็คือการจำกัดความโลภของคน นั่นจะเป็นไปได้หรือไม่

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมคิดว่า ความโลภ นั้นเองเป็นตัวล็อคระบบไว้(เหมือนหนังโป๊ :D )

มานึกดู หากจะกลับเข้าสู่ความแฟร์ๆ แบบมาตรฐานทองคำเดิมๆ นิกสันคงทำตั้งแต่ตอนนั้นแล้วมิใช่ทำตรงข้าม

มาตรฐานใหม่หากจะมีใครนำมาใช้ น่าจะเป็นแบบที่รองรับความโลภได้มากว่าเดิม

เว้นแต่ระบบเงินตราจะล่มลงไปเอง และมีผู้มีคุณธรรมขึ้นมามีอำนาจ

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทความจากThanong Fanclub

Thanong Fanclub

5 ชั่วโมงที่แล้ว

(1) จีนก้าวออกมาเผชิญหน้ากับพญาอินทรีย์แล้ว

 

 

ขณะนี้สหรัฐอเมริกากำลังปิดล้อมจีนทางทหารและทางภูมิศาสตร์อย่างเข้มข้น เตรียมพร้อมมาตรการAirSea Battleอย่างเต็มที่ ด้วยการเคลื่อนย้ายกำลังพล ทหารและลอจิสติกส์มาด้านเอเซียแปซิฟิค ในระยะสั้นต้องสะกัดกั้นเงินหยวนที่มีทีท่าว่าจะผงาดเป็นเงินสกุลหลักของโลกแทนดอลล่าร์ และในระยะยาวกว่าต้องกันไม่ให้จีนผงาดเป็นมหาอำนาจของโลก

 

ความเป็นมหาอำนาจของสหรัฐฯจะถูกบั่นทอนหรือท้าทาย ถ้าหากว่าจีนสามารถสร้างความเชื่อมั่นในค่าเงินหยวน และความเป็นผู้นำของตนเองได้ และอยู่ในฐานะที่จะเขียนกฎเกณฑ์ระเบียบโลกใหม่ ให้นานาประเทศใช้แทนระบบที่พวกแองโกล อเมริกันวางไว้ต้งแต่ศตวรรษที่19 และยิ่งลงลึกขึ้นไปอีกภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงทุกวันนี้

 

ความพยายามของสหรัฐฯที่จะใช้อู่ตะเภาในไทยเป็นฐานทางทหารผ่านโครงการศึกษา สภาพภูมิอากาศของนาซ่าและศูนย์บรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติเพื่อมนุษยธรรมก่อน หน้านี้เกือบ2ปีมาแล้ว จึงแค่เป็นเรื่องบังหน้า มูลเหตุที่แท้จริงคือสหรัฐฯต้องการใช้อู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารใน การปิดล้อม หรือทำสงครามกับจีนในอนาคตอันใกล้นี้

 

ฐานทางทหารที่สำคัญของสหรัฐฯในภูมิภาคนี้นอกจากประเทศไทยแล้ว คือฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และ surprise! อินโดเนเซีย

 

อินโดเนเซียเป็นหมากที่ถูกปิดไว้ ในกรณีที่ฐานที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้สะกัดจีนไม่อยู่ อินโดเนเซียและไทยจะเป็นฐานที่สำคัญ เรากำลังถูกลากเข้าไปในสงครามมหาอำนาจโดยที่เราแทบไม่รู้สึกตัว

 

จะเห็นได้ชัดเจนว่าทั้งเวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งมีสหรัฐฯให้ท้ายกำลังทะเลาะกับจีนอย่างรุนแรงเรื่องเขตแดนในทะเลจีนใต้ โดยที่จีนยังนิ่ง ไม่ออกอาการสะทกสะท้านมาก

 

ในเวลาเดียวกันทางสหรัฐฯอยากจะได้พม่ามาเป็นพันธมิตรอย่างมาก เพราะในกรณีที่จะต้องบุกเข้าจีนทางตอนใต้ หรือยูนนาน ทั้งประเทศไทยและพม่าเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่ต้องดึงมาเป็นพวกให้ได้จึงมี ความพยายามของสหรัฐฯที่จะเร่งกดดันให้พม่าเปิดประเทศโดยเร็วและรับเอา อิทธิพลของตะวันตกเพื่อถ่วงดุลย์จีน

 

พม่าก็เล่นตามเกม ยอมเปิดประเทศอ้าแขนต้อนรัฐสหรัฐฯเพื่อถ่วงดุลจีน หลังจากอยู่ภายใต้อานัติของจีนมานาน แต่พม่าก็ฉลาดที่จะรีบไปเปิดสัมพันธ์กับอินเดีย เพื่อถ่วงดุลทั้งอเมริกาและจีนอีกทีหนึ่ง

 

จีนก็พร้อมทางทหาร มีการเตรียมรบเต็มพิกัด ทั้งคน ทั้งอาวุธ อาหารและเท๕โนโลยี่ ถ้าจะรบ ก็ต้องรบ

 

สิ่งที่สหรัฐฯและอังกฤษกลัวที่สุดคือการที่จีนจะปล่อยให้เงินหยวนลอยตัว เพราะจีนจะมีกำลังซื้อมหาศาล สามารถซื้อกิจการทุกอย่างที่ขวางหน้าได้

 

ขณะนี้จีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกถึง$3 ล้านล้านกว่า เงินทุนสำรองฯจำนวนนี้สามารถleverage หรือกู้เพิ่ม10เท่าเป็น $30 ล้านล้าน มากพอที่จะซื้อธุรกิจหรือกิจการทุกอย่างในยุโรปหรือสหรัฐฯได้

 

จีนผิวเหลืองจะกลายเป็นนาย ฝรั่งผิวขาวจะกลับเป็นลูกน้อง ประวัติศาสตร์ของลัทธิล่าอาณานิคมจะย้อนรอย ในขณะที่สหรัฐฯและยุโรปซึ่งกำลังเสื่อมถอยกำลังเข้าสู่มุมอับ

 

ขณะนี้จีนกำลังวางรากฐานเพื่อที่จะปล่อยลอยตัวเงินหยวนโดยมีการทำสัญญาค้า ขายกับมิตรประเทศคู่ค้าผ่านเงินหยวนและเงินสกุลของประเทศนั้น โดยไม่มีดอลล่าร์เข้ามาเกี่ยวข้อง อิหร่านขายน้ำมันแลกหยวนหรือรูปีของอินเดียหรือทองโดยไม่เอาดอลล่าร์ กลุ่มประเทศ BRICS เริ่มวางกลไกค้าขายกันเองโดยไม่ผ่านดอลล่าร์ ตัวเลขการค้าของจีนแซงหน้าสหรัฐฯไปแล้ว

 

จีนเองก็มีการตุนทอง ตัวลเขสำรองทองคำที่ประกาศเป็นทางการมีอยู่1,000ตัน แต่จริงๆแล้วจีนอาจจะมีทองถึง7,000ตันแล้วตอนนี้ เพื่อเตรียมลอยตัวหยวนโดยมีทองคำหนุนหลัง

 

ถ้าจีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนลอยตัวเมื่อใด เงินหยวนจะเป็นที่ต้องการของบรรดาธนาคารกลาง รวมทั้งกองทุนต่างๆและนักลงทุนทั่วโลกทันที เพราะเงินหยวนจะมีเสถียรภาพมากกว่าดอลล่าร์และเงินยูโรที่เป็นเงินกระดาษไม่ มีอะไรทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง

 

ทราสำคัญ จะเป็นการปฏิวัติระบบการเงินกลับไปสู่มาตรฐานทองคำ และล้มระบบเงินกระดาษFiat Currency Systemที่สหรัฐฯเอามาใช้ตั้งแต่ปี 1971

 

ผลที่ตามมาคือเงินหยวนจะแข็ง มีอำนาจซื้อเพิ่ม คนถือเงินหยวนจะได้กำไร

 

ในขณะเดียวกันเงินดอลล่าร์ และเงินยูโรจะอ่อนค่า คนถือจะขาดทุน เพราะทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปกำลังตกต่ำ มีปัญหาหนี้สินล้นพ้นทั้งภาคการเงินและภาครัฐบาล ในที่สุดความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของสหรัฐฯจะถูกท้าทายหรือถูกทดแทน

 

ถ้าหยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลก จีนจะมีกำลังซื้อ การส่งออกจะลดความสำคัญลง

 

แล้วสหรัฐฯจะปล่อยให้จีนก้าวขึ้นมาท้าทายความเป็นมหาอำนาจอย่างง่ายๆหรือเปล่า?

 

สมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่

 

 

 

 

 

ระเบียบโลกใหม่ภายใต้กลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้

 

(2) กลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้กำลังรวมตัวกัน

 

ในระหว่างวันที่ 6-7 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา มีการประชุมครั้งที่ 12 ของผู้นำประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Economic Organization) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง

 

ทำให้อนาคตขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ถูกผู้คนจับตามมองมากขึ้นว่าจะมี บทบาทเพิ่มขึ้นในเวทีโลกอย่างไร และจะสามารถนำมาโลกไปสู่ระเบียบใหม่แทนระเบียบเก่าได้หรือไม่

 

สมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ มีประชากรหนึ่งในสามของโลก

 

กลุ่มองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ก่อตั้งขึ้นที่เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2544 โดยปัจจุบันมีสมาชิกถาวรประกอบด้วย จีน คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน รัสเซีย ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน

 

มีประเทศผู้สังเกตการณ์ (Observer States) 5 ประเทศคือ อัฟกานิสถาน อินเดีย อิหร่าน มองโกเลีย และปากีสถาน

 

นอกจากนี้ยังมีประเทศหุ้นส่วนในการเจรจา (Dialogue Partners) 2 ประเทศคือ เบลารุส และศรีลังกา

 

ปรากฎว่าประเทศไทย และประเทศอาเซี่ยนอื่นๆยังไม่ได้เข้าร่วมหรือมีบทบาทอะไรในกลุ่มองค์การความ ร่วมมือเซี่ยงไฮ้นี้ ซึ่งกำลังเพิ่มบทบาทในเวทีโลก เพื่อที่จะท้าทายหรือปฏิเสธระเบียบโลกเก่า (old order) ผ่านการสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นมา (new order)

 

การปรากฎกายของนาย วลาดิมีร์ ปูตินผู้นำรัสเซีย เคียงคู่นายหู จิ่นเทาประธานาธิบดีของ ระเทศเจ้าภาพตอกย้ำให้เห็นถึงสัมพันธภาพที่เหนียวแน่นยิ่งขึ้นระหว่างประเทศ มหาอำนาจทั้งสองที่จะต่อกรกับมหาอำนาจโลกปัจจุบันคือสหรัฐอเมริกา อังกฤษและพันธมิตรในโลกตะวันตก

 

กล่าวได้ว่าสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเป็นแกนนำของพวก แองโกล-แซกซั่น (Anglo-Saxon) ที่กำลังควบคุมและมีอำนาจเหนือระเบียบโลกปัจจุบันที่เราเรียกว่าทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย ผ่านกลไกและสถาบันต่างๆที่มีพัฒนาการช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมากลไกที่พวกแอ งโกล-แซกซั่นได้วางไว้คือแบ่งแยกแล้วปกครอง (divide and rule) หรือระเบียบผ่านความไร้ระเบียบ (order

through chaos) อันนำไปสู่การค้าเสรี การเงินเสรีและเปิดประเทศเสรีเพื่อผลักดันทุกประเทศเข้าสู่ขบวนการประชาภิ วัฒน์ และอยู่ภายใต้การควบคุมของระบบของการควบคุมที่วางไว้อย่างแยบยล

 

ส่วนสถาบันที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับกลไกนี้ได้แก่แสนยานุภาพทางทหารของ สหรัฐฯและพันธมิตรนาโต้ องค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ องค์การค้าโลก ศาลโลก ธนาคารพานิชย์ที่คุมระบบการเงินโลก บรรพษัทข้ามชาติที่ครอบครองทรัพยากรของโลก บริษัทน้ำมันที่มีอำนาจเหนือบ่อน้ำมันในตะวันออกกลาง ตลาดเงิน/ตลาดทุน สื่อ social media ฮอลลี่วู๊ด ฯลฯ

 

แต่ระบบโลก หรือระเบียบปัจจุบันกำลังเสื่อมลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ยุโรป เพราะภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจ ธนาคารที่อ่อนแอ หนี้สินภาครัฐที่ล้นพ้น ภาวะการตกงานที่แพร่กระจาย และการความสิ้นหวังของประชาชนจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม ถ้าเงินยูโรหรือเศรษฐกิจยุโรปมีอันต้องเป็นไปจะลากระบบการเงินและเศรษฐกิจ ของของสหรัฐอเมริกาไปด้วย ผลกระทบจะลามไปทั่วโลก

 

ประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ จึงกำลังก่อตัวอย่างเด่นชัดขึ้นมาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและท้าทายอำนาจเก่า ของพวกแองโกล แซกซั่น ซึ่งก็กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ของตนเอง (New World Order) เพื่อที่จะรักษาสถานภาพของการเป็นผู้นำโลกอีกต่อไป

 

(3) ท้าทายระเบียบโลกปัจจุบัน

 

ภาพที่ปรากฎ กลุ่มบริกส์ อันประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้กำลังผงาดมาท้าท้ายระเบียบโลกปัจจุบัน แต่ที่จริงแล้ว ไส้ในจะเป็นกลุ่มเจ้าพ่อเซียงไฮ้ด้วยเหตุผลทางภูมิศาสตร์ บราซิล และแอฟริกาใต้อยู่กันคนละทวีป

 

เมื่อปีที่แล้ว ในฐานะเจ้าภาพนายหู จิ่นเทาได้กล่าวให้คำมั่นว่าจีนจะปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศสมาชิกในกลุ่มเอส ซีโอในวงเงิน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 300,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก นายหูกล่าว และกระตุ้นด้วยว่าประเทศสมาชิกจำต้องทำงานอย่างหนักในการสร้างสาธารณูปโภค ขั้นพื้นฐาน เช่น ทางรถไฟ ถนน การเดินทางทางอากาศ โทรคมนาคม และโครงข่ายพลังงานเพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงภายในภูมิภาค

 

ประธานาธิบดีจีนยังเรียกร้องให้มีการก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนา กลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร กลุ่มพลังงาน ธนาคารเมล็ดพันธุ์ และการอำนวยความสะดวกในการค้าและการลงทุนในหมู่ประเทศสมาชิกอีกด้วย ขณะเดียวกันก็ระบุว่า ประเทศสมาชิกจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความสามารถในการแข็งขันทางเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งรวมถึงความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยี วัฒนธรรม การศึกษา และการแพทย์

 

ที่สำคัญในขณะที่จีนกำลังถูกสหรัฐฯปิดล้อมในทะเลจีนใต้และมหาสมุทรแปซิ ฟิคองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการใช้กำลังทหารโจมตีอิหร่านและซีเรียทุกรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่า จะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลก แถลงการณ์นี้มีขึ้นหลังสิ้นสุดการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ที่กรุง ปักกิ่ง ซึ่งประธานาธิบดี มะห์มูด อาห์มาดิเนจัด แห่งอิหร่าน ก็เดินทางเข้าร่วมด้วย

 

กลุ่มแองโก-แซกซั่นก็ต้องการสร้างระเบียบโลกใหม่เหมือนกันโดยเพื่อจะคุมเกมต่อไปภายใต้เงินSDR

 

โลกเราจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จะเป็นการแข่งกันแจ้งเกิดของระเบียบโลกใหม่(New World Order) ของแองโก-แซกซั่น และของจีน รัสเซียผ่านความขัดแย้งและสงคราม

 

ทางฝ่ายจีน รัสเซีย อินเดีย อิหร่าน เยอรมัน ประเทศมุสลิมและประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายคงจะไม่ยอม เพราะว่าโดนเอารัดเอาเปรียบปล้นทรัพยากรมาหลายร้อยปีแล้ว ถึงเวลานี้กำลังคิดจะปลดแอก

 

แล้วไทยและอาเซี่ยนจะเลือกอยู่ฝ่ายใหน?

 

 

ยุโรปอยู่ในมือหมีขาวปูติน

 

จีนจะเผชิญหน้าโดยตรงกับสหรัฐฯในเอเซีย ส่วนในยุโรป รัสเซียจะคุมเชิงพวกนาโต้

 

ยุโรปอ่อนแอมากตอนนี้ เศรษฐกิจติดลบ การว่างงาน12% หรือ20ล้านคน จุดอ่อนที่สุดของยุโรปคือต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย

 

รัสเซียเป็นมหาอำนาจทางน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีสำรองฯมากที่สุดในโลก ในขณะที่ซาอุดิ อาระเบียโดนสูบน้ำมันจนเกือบจะเกลี้ยงแล้ว รัสเซียรวยไม่รู้เรื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ถ้าระบบการเงินยุโรป และสหรัฐฯมีปัญหาราคาทองและน้ำมันจะพุ่ง

 

ปูตินจะยิ่งรวยเละ

 

สหภาพยุโรปพึ่งพาน้ำมันจากรัสเซีย30%ของความต้องการทั้งหมด ปีๆหนุึ่งสหภาพยุโรปใช้็าซธรรมชาติเพื่อพลังงานไฟฟ้า ให้ความอบอุ่นจากความหนาว 485 พันล้านลูกบาตรเมตร ในจำนวนนี้เป็นของรัสเซีย 150พันล้านลูกบาตรเมตร

 

และต้องพึ่งพาแบบนี้ไปอีกนาน อย่างน้อย30ปี ทำให้ยุโรปต้องไปป่วนตะวันออกกลางและแอฟริกาเพื่อล่าแหล่งพลังงาน เพราะรู้ดีว่าอยู่ใต้อุ้งมืหมีขาวแบบนี้ไม่สนุกแน่

 

ในยามวิกฤติการเมืองหรือทหาร ปูตินแค่ขู่ปิดท่อก๊ซส่งน้ำมัน ยุโรปจะเป็นอัมพาต หนาวตาย

 

จะเห็นได้ว่ารัสเซียมีอำนาจต่อรองเหนือยุโรปมาก หมูในอวย

 

เยอรมันมีสัมพันธ์ทีดีมากกับรัสเซีย เกี่ยวเอาพลังงานน้ำมันและก๊าซมาก่อน ถ้ามีเรื่องต้องซัดกันไม่ว่ากับฝรั่งเศสหรืออังกฤษคู่แค้นเจ้าเก่า เยอรมันจะเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย

 

รัสเซียก็กำลังช่วยมิให้ซีเรียล้ม จากการแทรกแซงภายนอกจากโลกตะวันตกและพันธมิตรอิหร่าน ตุรกี การ์ต้า เพราะถ้าซีเรียล้ม เป้าต่อไปคืออิหร่าน และอิหร่านได้เป็นพันธมิตรกับรัสเซียแล้ว ถ้าปกป้องไม่ได้ รัสเซียจะถูกปิดล้อมทางตอนใต้

 

บ่อน้ำมันของตะวันออกกลางยังหอมหวานอยู่ เป็นที่หมายปองของทุกฝ่าย

 

ปูตินกำลังจับมือกับจีนเพื่อล้มอังกฤษกับอเมริกา

(5) รูเบิ้ลกับหยวนกับรูปีอนาคตแจ่มใสกว่ายูโรดอลล่าร์

 

รัสเซียก็ต้องการให้รูเบิ้ลเป็นเงินสกุลสำคัญของโลกต่อไป จีนก็ต้องการผงาดพร้อมๆกับเงินหยวน อินเดียเป็นเสือซุ่มรอวันผงาดเหมือนกันด้วยรูปีแต่จะไม่หวือหวา

 

ขณะนี้สหรัฐ อังกฤษ และญี่ปุ่นร่วมกันทำ สงครามการเงินอยู่ผ่านQEพิมพ์เงิน สหรัฐฯพิมพ์ไปเกือบ$3ล้านล้านแล้ว อังกฤษ $600,000-$700,000ล้าน ญี่ปุ่น$1.4ล้านล้านจากนี้ถึงสองปีข้างหน้า เป้าหมายคือปั๊มตัวเองให้ฟื้น อุ้มแบงค์ตัวเอง และสร้างฟองสบู่ในประเทศอื่นๆ เป้าหลักคือจีนและพันธมิตร ไทยเราและตลาดเกิดใหม่เจอหางเลขด้วย

 

พอได้จังหวะจะกระชากเงินกลับให้ฟองสบู่แตก ล้มโต๊ะ แล้วสร้างระเบียบการเงินใหม่ เริ่มนับหนึ่งใหม่ โดยที่สหรัฐฯจะเขียนกฎกติกโลกใหม่

 

แต่คงไม่ง่าย เพราะมันไม่เหมือนช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ทุกประเทศอ่อนแอ บอบช้ำหมด มีแต่สหรัฐฯแข็งแรงแต่เจ้าเดียว จึงก้าวมาเป็นมหาอำนาจอย่างง่ายดาย

 

มาวันนี้สหรัฐฯ อังกฤษ และสหภาพยุโรปเปลี้ยะ เริ่มหมดแรง เพราะฟองสบู่แตกก่อน ฐานะการเงิน การคลังแย่ เข้าขั้นล้มละลาย จะเปิดโดกาสใหเงินสกุลใหม่เข้ามาท้าทาย

 

ถ้าระบบพัง รัสเซียอยู่ได้ เพราะพลังงาน อาหารมีเพียบ จีนก็พร้อม อินเดียก็อยู่ได้ เอเซียก็อยู่ได้ แต่ยุโรปจะอยู่ลบาก สหรัฐฯที่เคยสบายจะอยู่ลำบาก

 

เฟด, Bank of England ,Bank of Japanทำคิอีที่ผ่านมา อาจโดนย้อนศรก็ได้

 

ยูพิมพ์มา ไอพิมพ์กลับ ใหนๆก็ใหนๆ ให้มันเป็นฟองสบู่ ลูกโป่งใหญ่เท่าดวงจันท์แล้วให้มันแตกไปเลย หลังจากนั้นดูซิว่า ใครจะยินหยัดได้

 

ก่อนจะแตกฝ่ายจีน รัสเซียจะทิ้งassetsทุกอย่างที่เป็นดอลล่าร์ รัเซียกลับไปอิงทอง น้ำมันของตนเอง จีนอิงทอง อินเดียก็มีทองเยอะ อิงทองหมด

 

แล้วตอนนั้นภาพคงจะชัดว่าใครยืนอยู่ได้ ใครจะล้ม

 

(6) เราจะยื่นข้อเสนอให้คุณ โดยที่คุณไม่สามารถจะปฏิเสธได้

 

ดูแผนที่ของกลุ่มเจ้าพ่อเซียงไฮ้ก็แล้วกัน พื้นที่สีเขียวเข้มเป็นสมาชิกหลักประกิบด้วย รัสเซีย จีนและประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของโซเวียต

 

สีเขียวอ่อนคือประเทศที่กำลังจะตามเข้ามาทีหลัง หลักๆคืออินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน โมงโกเลีย

 

สีชมพู คือกลุ่มประเทศอาเซี่ยน รวมทั้งไทยด้วย เขาเปิดประตูรอดูท่าทีกลุ่มนี้อยู่ว่าจะยินดีเข้าร่วมหรือเปล่า

 

ใครดูหนังเรื่องThe Godfatherคงจะจำคำพูดเด็ดได้ ว่าเราจะยื่นข้อเสนิให้คุณ โดยที่คุณมิอาจปฏิเสธได้

 

เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้กำลังจะกลับมาแล้ว

 

https://www.facebook.com/groups/135029796643588/298217190324847/

 

ส่วนบนของฟอร์ม

 

ส่วนล่างของฟอร์ม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Jimmy Siri

Dennis Gartman (The Gartman Letter) คนนี้มีข้อมูลอินไซด์ในวงการทองคำเยอะครับ บ่อยๆที่เค้าจะระบุเลยว่าให้เข้า-ออก ที่จุดไหน

 

 

--------ใครฟังออกช่วยสรุปให้หน่อยก็ดีครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...