โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[MOR LEK 2,835]

ไม่อยากให้เฟสสุดท้ายมาเร็วๆเลยครับ

 

อิอิ มาเร็วๆหน่อยก็ดีครับ ผมไม่มีตังค์ใช้แล้ว

 

มาเนียเฟสมาแล้วผมว่าน่าจะอยู่นานนะครับ ไม่น่าร่วงเหมือนสมัยก่อนเพราะธนาคารกลางของแต่ละประเทศคงไม่ขายทองทิ้งอีกแน่ๆ

ระบบการเงินใหม่ยังไงก็ต้องมีทองค้ำ

 

ส่วนเรื่องกราฟที่ผมอ่านจากลุงโฉลกมา ลุงบอกว่าเวฟนี้น่าจะอยู่เป็น10ปี(ถ้าผมจำไม่ผิด อิอิ )

[sugarcane 10]

10ปี.....รวยจนงง

 

ที่แน่ๆ ต้องคอยเพิ่มพอร์ต

[JohnCM 939]

อิอิ มาเร็วๆหน่อยก็ดีครับ ผมไม่มีตังค์ใช้แล้ว

 

มาเนียเฟสมาแล้วผมว่าน่าจะอยู่นานนะครับ ไม่น่าร่วงเหมือนสมัยก่อนเพราะธนาคารกลางของแต่ละประเทศคงไม่ขายทองทิ้งอีกแน่ๆ

ระบบการเงินใหม่ยังไงก็ต้องมีทองค้ำ

 

ส่วนเรื่องกราฟที่ผมอ่านจากลุงโฉลกมา ลุงบอกว่าเวฟนี้น่าจะอยู่เป็น10ปี(ถ้าผมจำไม่ผิด อิอิ )

 

หวังว่าจะไม่มีใครทำ end game ไปก่อนนะครับ ผลหละกลัวจริงๆ

[mdaddy 2,443]

ลุงโป๊งเหน่งคร้าบ

อาทิตย์หน้ามาพูดอีกซัก 2 วันนะคร้าบ ผมไหว้หล่ะ 555

 

ขำก๊าก โดนมากครับคุณหมอ

[leo_attack 579]

อิอิ มาเร็วๆหน่อยก็ดีครับ ผมไม่มีตังค์ใช้แล้ว

 

มาเนียเฟสมาแล้วผมว่าน่าจะอยู่นานนะครับ ไม่น่าร่วงเหมือนสมัยก่อนเพราะธนาคารกลางของแต่ละประเทศคงไม่ขายทองทิ้งอีกแน่ๆ

ระบบการเงินใหม่ยังไงก็ต้องมีทองค้ำ

 

ส่วนเรื่องกราฟที่ผมอ่านจากลุงโฉลกมา ลุงบอกว่าเวฟนี้น่าจะอยู่เป็น10ปี(ถ้าผมจำไม่ผิด อิอิ )

 

ว่าแต่ตอนนี้นี่กี่ปีแล้วนะครับ เสี่ยหมอเล็ก

 

เราควรเริ่มนับเวปตั้งแต่ปีไหนดีครับ !38

[MOR LEK 2,835]

ว่าแต่ตอนนี้นี่กี่ปีแล้วนะครับ เสี่ยหมอเล็ก

 

เราควรเริ่มนับเวปตั้งแต่ปีไหนดีครับ

 

เพิ่งจะปีแรกมังครับ ผมเคยเอามาโพสต์ในกระทู้นี้ แต่ยังไม่ได้หาว่าอยู่หน้าใหน

รู้สึกว่าจะยาวไปถึงปี 2020ครับ(ถ้าจำไม่ผิดหรือผมตีความผิด)

ถูกแก้ไข เมษายน 30, 2011 โดย MOR LEK

[MOR LEK 2,835]

เอาลิงค์รูปสวยๆแต่เศร้าๆของเมกาที่โดนทอร์เนโดเมื่อไม่กี่วันก่อนมาฝากครับ

 

http://fwmail.sodazaa.com/11139.html

[JohnCM 939]

เอาลิงค์รูปสวยๆแต่เศร้าๆของเมกาที่โดนทอร์เนโดเมื่อไม่กี่วันก่อนมาฝากครับ

 

http://fwmail.sodazaa.com/11139.html

ขอบคุณครับ น่าเศร้าใจ ที่เห็นเพื่อนมนุษย์ต้องประสบชะตากรรมแบบนี้นะครับ

[MOR LEK 2,835]

ก็อปส่วนนึงมาฝากครับ ของลุงโฉลก

 

 

 

ปัญหาเงินเฟ้อเริ่มรุนแรงขึ้น อินเดียประกาศขึ้นดอกเบี้ยเป็น 6.5% เป็นอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2008

พรรค Republican ฝ่ายค้านที่ครองเสียงข้างมากในสภา ไม่ยอมรับนโยบายของ Obama ที่จะพิมพ์เงิน Dollar เพิ่มขึ้นอีกอย่างไม่จำกัดปริมาณ ความหายนะของระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมสามานย์อเมริกากำลังจะเกิดขึ้น

ทุกสิ่งทุกอย่างนำไปสู่ข้อสรุปว่าทองคำจะขึ้นต่อไปอีก ประวัติศาสตร์ได้สอนเราไว้ว่าราคาผลิตผลไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแปรผันของการผลิตและความต้องการของตลาด แต่ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของกลุ่มทุน ซึ่งมีระยะเวลานานหลายสิบปีต่อ 1 รอบ ราคาทองคำเริ่ม Bull market ในปี 1960 และขึ้นสูงสุดใน 20 ปีต่อมา ในปี 1980 หลังจากนั้นก็อยู่ในขาลงนาน 20 อีกปี จนมาเริ่มขาขึ้นใหม่อีกในปี 2000 ซึ่งขาขึ้นครั้งนี้ก็น่าจะยาวนานไปอย่างน้อย 20 ปี จนถึงปี 2020 ทองคำยังจะขึ้นต่อไปอีกมาก จากวงจรระยะยาวของราคา จาก Inflation ที่นักการเมืองสร้างขึ้น และจากความเสียหายทางภัยธรรมชาติที่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกวัน การลดลงของราคาทองคำในระยะนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนที่ตกรถจะได้มีโอกาสเข้าซื้อทองคำ อันเป็นการป้องกันภาวะเงินเฟ้อ Inflation ที่ดีที่สุดในสถานะการณ์อย่างในปัจจุบันนี้

แต่การซื้อทองคำในขณะที่ตลาดกำลังลงนี้มีความเสี่ยงมาก เพราะไม่สามารถกำหนด Stop loss ได้ นอกจากผู้ที่ต้องการซื้อทองคำเพื่อการลงทุนระยะยาว การลงครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในรอบชีวิตของเรา

สาเหตุสำคัญที่สุดที่จะทำให้ทองคำมีราคาสูงขึ้นอีกคือความล่มสลายของเศรษฐกิจอเมริกาที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ นักการเมืองอเมริกันกู้หนี้ยืมสินจำนวนมหาศาลเพื่อนำเงินมาใช้ในโครงการประชานิยมเพื่อซื้อเสียง เมื่อเงินไม่พอก็พิมพ์เงินเพิ่มโดยเรียกชื่อให้ประชาชนสับสนว่าเป็น Quantitative Easing หนี้สินจำนวนมากนี้ไม่มีทางที่รัฐบาลจะหาเงินมาใช้หนี้ได้ ทางออกที่กำลังจะตามมาคือการ ชักดาบ – ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ผู้ที่รับกรรมคือประชาชนที่ลงทุนในพันะบัตรรัฐบาล ที่ราคากำลังลดลงอย่างรวดเร็ว และกำลังจะลดลงอีกมาก

 

 

ราคาพันธบัตรรัฐบาลอเมริกัน ลดลง 11.44% ในเวลา 4 เดือน และยังไม่มี bullish divergence ซึ่งแปลว่าราคายังจะลดลงต่อไปอีก เมื่อพันธบัตรลดลง อัตราดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้น

 

เหตุผลที่ 2 ที่จะทำให้ทองคำมีราคาสูงขึ้นคือการพยายามลดค่าเงินของทุกชาติ currency war เริ่มต้นขึ้นแล้ว และจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อเกิดความสับสนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินขึ้น เงินจำนวนหนึ่งก็จะใหลเข้ามาสู่ทองคำ

 

เหตุผลที่ 3 คืออันตรายจากการล่มสลายของกองทุนยักษ์ใหญ่หลายบริษัท ผู้บริหารที่มีอายุน้อยมักจะรับความเสี่ยงที่สูงเกินไป ถ้ามีกองทุนใดกองทุนหนึ่งขาดทุน การถอนทุนจะตามมาอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ตลาดจะรับได้ กองทุนต่างๆจะถอนเงินออกมา และส่วนหนึ่งก็จะใหลเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

 

 

เหตุผลประการที่ 4 คือนโยบายการพิมพ์พันธบัตรเพิ่มของอเมริกา ถึงแม้ Congress จะพยายามขัดขวางนโยบายบ้าคลั่งนี้ แต่ Obama ก็ยังมีอำนาจผ่าน Bernake ในการพิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อ Bond ของรัฐ เงินที่พิมพ์เพิ่มขึ้นจะทำให้ทองคำมีราคาสูงขึ้นอีก

เหตุผลที่ 5 คือความอ่อนไหวของค่าของเงิน US Dollar ที่อาจจะถึงกับมีการยกเลิกสกุลเงิน Dollar ไปเลยก็เป็นไปได้ เหมือนที่เกิดขึ้นกับ Russia ในปี 1917 ถึงแม้ทางออกนี้อาจจะยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง แต่การใหลออกของเงินทุนจากเงินสกุล US Dollar ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

เหตุผลที่ 6 คือความเป็นไปได้ที่หลายประเทศอาจจะต้องยอมรับนโยบายรัดเข็มขัด ตัดรายจ่ายภาครัฐ ฯลฯ ซึ่งนักการเมืองสามานย์จะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น แต่สิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นเพราะการปฏิวัติ การดำเนินนโยบายทางการเงินที่ถูกต้อง จะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้นอีก เพราะทองคำอาจจะกลับมาเป็นมาตราฐานใหม่อีกครั้งหนึ่ง

 

เหตุผลที่ 7 คือการที่นักลงทุนหันมาให้ความสำคัญแก่ทองคำในฐานะของ Asset class ที่สำคัญในการจัด Portfolio การที่ทองคำมีราคาสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ performance ของกองทุนที่ลงทุนในทองคำ ได้รับความนิยมมากขึ้น กองทุนต่างๆจะพากันหันมาเก็บทองคำเพิ่มขึ้น

 

เหตุผลที่ 8 คือความนิยมการสั่งสมทองคำที่เพิ่มมากขึ้นในจีนและอินเดีย เศรษฐกิจที่ดีขึ้นในจีนและอินเดียทำให้ความต้องการทองคำเพื่อนำมาแสดงสถานะทางสังคมเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประเทศที่กำลังมีอำนาจการซื้อเพิ่มขึ้น ได้แก่ Brazil Russia และ South Africa เป็นต้น โดยเฉพาะจีนที่แก้กฏหมายอนุญาตให้ประชาชนซื้อทองคำได้

 

เหตุผลที่ 9 คือ Supply and Demand อันเกิดจากการยุติการขายของธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ไม่ว่าธนาคารกลางจะทะยอยเอาทองคำออกมาขายเท่าไหร่ก็ตาม ราคาทองคำก็ไม่ลดลง แต่ปริมาณทองคำกลับมีน้อยลง ในขณะที่ความต้องการทองคำมีมากขึ้น

 

เหตุผลที่ 10 คือการผลิตทองคำจากเหมืองทองคำต่างๆทั่วโลกมีกำลังการผลิตที่ลดลงทั้งๆที่ความต้องการมีเพิ่มขึ้น แสดงว่าจุดสูงสุดของกำลังการผลิตได้ผ่านไปแล้ว

 

เหตุผลที่ 11 คือต้นทุนการผลิตทองคำมีต้นทุนที่สูงขึ้น ค่าพลังงานที่เพิ่มขึ้น ค่าแรงงาน และค่าบริหารงาน ต้นทุนเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวในรอบสิบปีที่ผ่านมา

 

เหตุผลที 12 คือเมื่อเปรียบกับอัตราเงินเฟ้อแล้ว ทองคำยังถูกกว่าอัตราที่ควรเป็น ถ้าใช้ Money supply M1 เป็นตัวบ่งชี้ราคาทองคำ วันนี้ทองคำควรมีราคาที่ $7000 ทองคำมีราคาที่เพิ่มขึ้นช้ากว่า Asset classes อื่นๆ

 

เหตุผลข้อสุดท้ายคือตลาดขาขึ้นของทองคำในรอบนี้เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เรายังมีเวลาอีกอย่างน้อยกว่า 10 ปี จนกว่าทองคำจะจบรอบของการขึ้น Correction ในตลาดทองคำจึงถือเป็นโอกาสสำคัญของนักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุนระยะยาวทุกครั้งที่ตลาดเกิดสัญญาณซื้อ

http://www.chaloke.c...7-00-11-58.html

 

 

 

ว่าแต่ตอนนี้นี่กี่ปีแล้วนะครับ เสี่ยหมอเล็ก

 

เราควรเริ่มนับเวปตั้งแต่ปีไหนดีครับ

 

 

หาบทความเจอแล้วครับ แต่กราฟยังไม่เจอ

 

 

[คนหลงอ่าง 51]

บวกหนึ่งครับ...กับความพยายาม...

[kunghdy 3,187]

 

ถ้าลองเทรดมั่วๆไปก่อน พอเป็นแล้วจะยังมีเงินเหลือเทรดหรือเปล่าไม่รู้ ตอนนี้ที่น่าจะทำคือ ปิดสถานะชอร์ต ที่มีอยู่ เลิกเล่นไปก่อน

 

ผมขอโทษคุณ Nexttonothing ด้วยครับ มา flooding กระทู้รกซะเปล่าๆ

 

ตายๆๆๆ ห้าม short ทองเด็ดขาดนะคะ ใครที่มีสถานะ short อยู่ หาโอกาสปิดซะก่อนที่จะหมดตัว จริงๆ เคยพูดไว้นานมากๆ แล้วว่าห้ามถือสถานะ short สำหรับ GF เพราะ gold is up trend and very bullish ถึงแม้จะมี correction แต่แค่ระยะสั้นๆ แล้วก็จะดีดกลับได้ แต่ตอนนี้ถ้าจะเข้าไป long ก็อาจหนาวได้เหมือนกัน ไม่รู้จะ correction เมื่อไร พุ่งมาไกลจัง คิคิคิ !Announce โชคดีที่ตอนนี้บรรดาขาทุบกำลังวุ่นวายจัดการเจ้าจิ๋ว เลยไม่มีเวลาเหลือบตามาดูพี่เบิ้ม ปล่อยพี่เบิ้มเพ่นพล่าน เด๋วพอพวกนี้เริ่มมีสติอาจออกมาตรการสะกัดพี่เบิ้มอีกเหมือนที่กำลังเล่นงานเจ้าจิ๋วอยู่ตอนนี้ ระวังนิด แต่ก็ดีนะ เป็นโอกาสให้คนที่ตกจรวดเข้าไปเก็บสะสมเพิ่ม

 

อีกอย่างการ trade GF ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เราปิดสถานะ เพราะราคามันจะเหวี่ยงมากๆ ตอนกลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่บรรดาขาทุบเริ่มทำงาน แต่พวกขาดันจะมาทำงานตอนเช้า กลางคืนราคาลง แต่ตื่นเช้าราคาดีดได้เฉยเลย อย่าใช้ความคิดตัวเองว่ามันสูงแล้ว แพงแล้ว เดี๋ยวก็ลง ผิดมากๆๆ "prive moves in trend" ค่ะ อะไรที่ขึ้นอยู่ ก็จะขึ้นแล้ว ขึ้นอีก (แม้จะมี correction แต่ trend ใหญ่ไม่เปลี่ยน) อะไรที่ลงอยู่ก็จะลงแล้วลงอีก (ห้ามดักซื้อ เพราะพรุ่งนี้ มะรืนนี้ อาทิตย์หน้า เดือนหน้า หรืออาจจะปีหน้าก็มีราคาที่ถูกกว่าวันที่เราเริ่มเข้าซื้อ มันจะลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเปลี่ยน trend)

 

Silver (ช่วงนี้มี correction) ถูกเตะสะกัดอยู่เนื่องจากมีการเพิ่ม เงินค้ำประกันของสัญญา ที่ร้ายมากคือมันเพิ่มเฉพาะกับนักลงทุนทั่วไปแต่ไม่ยอมเพิ่มเงินค้ำประกันกับพวกขาทุบตัวแสบ นักลงทุนทั่วไปเลยเหมือนโดนบังคับให้ปิดสถานะ long ที่มีอยู่ แต่ถ้าไม่ออกมาสะกัดจรวดจิ๋ว พวกบรรดาขาทุบที่ถือ short จำนวนมหาศาลอาจย่อยยับได้ (ตอนนี้ก็น่าจะนอนกันไม่ค่อยหลับ แก้เกมส์กันไม่ถูกแล้ว) เพราะราคาที่พุ่งทะยานเหมือนจรวดของเจ้าจิ๋ว ทำเอาพวกนี้หนาว หาผ้าห่มมาห่มกันแทบไม่ทัน !_cd เลยต้องออกมาตรการเอาเปรียบรายย่อย 2 ครั้ง ในรอบสัปดาห์ เพราะไม่รู้จะทำยังไงที่จะทุบราคา silver ลงมาได้ ร้ายกาจจริงๆ ขนาดออกมาตรการแบบนี้ก็ทำได้แค่ชะลอ ไม่ให้ราคามันวิ่ง แต่ไม่มีผลทำให้ราคาถูกกดลงเท่าไร สมน้ำหน้า คิคิคิ !ghost

 

[kunghdy 3,187]

สำหรับคนทั่วไป ที่ดู TA ไม่เป็นเอาซะเลย และนิ่งไม่พอ ลงทุนแบบ VI ดีกว่าค่ะ VI นี่หมายถึง value investor นะคะ (ไม่ใช่ VI = ไว พวกซื้อไว ขายไว) นั่นคือลงทุนแบบท่านมหาเศรษฐี NEXT, MOR LEK หรือคนที่มี silver เป็น 100 โล (จำไม่ได้ละว่าใคร) ดีกว่าค่ะ ซื้อแล้วถือยาวๆ กำไรอย่างน้อย 10 %/ปี ดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร เผลอๆ ถ้าเป็น mania phase อาจได้ bonus ไม่รู้กี่เท่า คิคิคิ

 

การ trade ในตลาด future โอกาสเสียมากกว่าได้ เพราะเวลาอยู่ในสนามรบ ท่านต้องเอาชนะความโลภและความกลัวให้ได้ ถามตัวเองว่าทำใจให้นิ่งเวลาที่ราคามันลงมาเยอะๆ ได้หรือป่าว และเอาชนะความโลภได้หรือป่าว (พอเห็นราคามันขึ้น ก็เที่ยวได้ไล่ซื้อเพิ่มจำนวนสัญญาไปเรื่อยๆ พอ correction ทีก็โดนเอาคืนหมด) ถ้าทำไม่ได้ถอยออกมานั่งดู แล้วซื้อ physical เก็บดีกว่าถ้าไม่อยากหมดตัวค่ะ หวังดีนะคะ คิคิคิ

[ส้มโอมือ 4,910]

ผมเอาข่าวเก่าที่ผมเคยลงในกระทู้คุณseam888 มาให้อ่านกันอีกครั้ง

 

จีนประสบปัญหาพิมพ์ธนบัตรหยวนไม่ทัน

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 มกราคม 2554 13:50 น.

 

 

 

 

 

 

 

 

เอเอฟพี - ธนาคารกลางจีนพิมพ์ธนบัตรหยวนไม่ทันใช้ในภาวะที่มีการปล่อยเงินกู้กันครึกโครมและการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ที่ล้นทะลักแดนมังกร

 

นายหม่า เต๋อหลุน รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนระบุในเว็บไซต์ของธนาคารกลางเมื่อวันอังคาร (11 ม.ค.) ว่า แม้จีนเป็นชาติที่มีการพิมพ์ธนบัตรมากที่สุดในโลก แต่ธนบัตรหยวนก็ยังมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ทั้งที่ได้จ้างคนพิมพ์ธนบัตรหยวนกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งทำงานล่วงเวลาด้วยซ้ำ โดยความต้องการธนบัตรหยวนโตถึงร้อยละ20ในแต่ละปี นอกจากนั้น ธนาคารกลางยังแบกรับภาระกวาดล้างธนบัตรปลอม ซึ่งปลอมได้แนบเนียนมากขึ้นทุกที

 

ถ้อยแถลงดังกล่าวบ่งชี้ถึงปัญหาท้าทาย ที่รัฐบาลจีนกำลังเผชิญในขณะที่พยายามควบคุมค่าเงินหยวน และลดปริมาณเงิน ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

 

ทั้งนี้ จีนมีเงินหยวนหมุนเวียนในระบบจำนวน 4.23 ล้านล้านหยวน (640,000 ล้านดอลลาร์) ซึ่งไม่รวมเงินฝากในธนาคารเมื่อสิ้นเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มเกือบร้อยละ 80 จากจำนวน 2.4 ล้านล้านหยวนเมื่อสิ้นปี 2548 นายหม่าระบุ

 

การขยายตัวของปริมาณเงินเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่การส่งออกของจีนโตขึ้น การเข้ามาลงทุนโดยตรงของต่างชาติเพิ่มขึ้น รัฐบาลจีนมีการใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาล และธนาคารพาณิชย์ระดมปล่อยกู้ในช่วงวิกฤตการเงินโลก

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเงินสกุลต่างชาติเข้ามาในจีน ธนาคารกลางกำหนดให้ต้องแปลงเป็นเงินหยวนทันที ซึ่งทำให้ควบคุมค่าเงินหยวนได้ แต่ชาติคู่ค้าวิจารณ์ว่าทำให้เงินหยวนอ่อนค่าเกินจริงโดยระเบียบปฏิบัตินี้ทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มสูง และเพิ่มปริมาณเงินหยวนในระบบเศรษฐกิจในประเทศ อันเป็นการเร่งเงินเฟ้อ ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในขณะนี้

[mdaddy 2,443]

สำหรับคนทั่วไป ที่ดู TA ไม่เป็นเอาซะเลย และนิ่งไม่พอ ลงทุนแบบ VI ดีกว่าค่ะ VI นี่หมายถึง value investor นะคะ (ไม่ใช่ VI = ไว พวกซื้อไว ขายไว) นั่นคือลงทุนแบบท่านมหาเศรษฐี NEXT, MOR LEK หรือคนที่มี silver เป็น 100 โล (จำไม่ได้ละว่าใคร) ดีกว่าค่ะ ซื้อแล้วถือยาวๆ กำไรอย่างน้อย 10 %/ปี ดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร เผลอๆ ถ้าเป็น mania phase อาจได้ bonus ไม่รู้กี่เท่า คิคิคิ

 

การ trade ในตลาด future โอกาสเสียมากกว่าได้ เพราะเวลาอยู่ในสนามรบ ท่านต้องเอาชนะความโลภและความกลัวให้ได้ ถามตัวเองว่าทำใจให้นิ่งเวลาที่ราคามันลงมาเยอะๆ ได้หรือป่าว และเอาชนะความโลภได้หรือป่าว (พอเห็นราคามันขึ้น ก็เที่ยวได้ไล่ซื้อเพิ่มจำนวนสัญญาไปเรื่อยๆ พอ correction ทีก็โดนเอาคืนหมด) ถ้าทำไม่ได้ถอยออกมานั่งดู แล้วซื้อ physical เก็บดีกว่าถ้าไม่อยากหมดตัวค่ะ หวังดีนะคะ คิคิคิ

 

ตอนที่เริ่มสนใจการลงทุนเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้คุยกับเพื่อนที่ลงทุนเป็นอาชีพ อย่างแรกที่เตือนไว้คือ อะไรที่มีคำว่า future / option อย่าไปยุ่ง เอาไว้สำหรับคนที่รู้เรื่องจริงๆเท่านั้น จนบัดนี้ยังไม่กล้าแตะเลย เพราะไม่เข้าใจหลักการของมันจริงๆ

 

วันนี้สั่งซื้อเงินมาเก็บไว้บ้างแล้วละครับ

[xp_man1 0]

หาบทความเจอแล้วครับ แต่กราฟยังไม่เจอ

 

 

+1 คุณ Mor Lek ใจดีจริงๆ ครับ