ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เรื่องนี้พอเข้าใจครับ แต่ที่ไม่เข้าใจคือมันจะส่งผลกับตลาดอย่างไร

 

ผมมองว่าจะมีการทำอาบี้ของสินค้าเดียวกันใน 2ตลาด ทำให้ราคาทั้ง 2ตลาดมีspreadน้อยลง ----> ราคาเหมืองขึ้น ----->ราคาทองคำลง ในระยะสั้น แล้วค่อยวิ่งไปเคียงกัน

ถูกแก้ไข โดย kimtyo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แปลความเห็น(+น้ำจิ้ม)ของ ฮาร์วีีีย์ ออร์แกน ที่ให้คุยกับ คริส มาร์เทนสัน มาฝากครับ

ผมคิดเหมือนแกมากๆ

 

.... และในที่สุด เกมทุบราคาทองคำจะจบลงเมื่อ ทองก้อนสุดท้ายได้ถูกส่งออกจากลอนดอน -- ไม่ใช่ CRIMEX เพราะใช้เวลาแป๊ปเดียว ทองก็จะถูกย้ายกลับมาที่นี่

 

(สมัยก่อนก็มีการสุมหัวตั้ง London Gold Pool เพื่อทุบราคาทองคำ ก่อนที่จะเจ๊งไปในที่สุด)

 

ปัญหาในลอนดอนก็คือ มี derivative ของทองคำในอัตราส่วน 50-100:1

นั่นหมายความว่าถ้าผมเอาทองคำออกมา 1 ออนซ์ อัตราส่วน derivative จะสูงขึ้นเรื่อยๆ

เรื่อยๆ จนกว่าที่จะถึงเวลาฟองสบู่แตก

 

และ นั่นก็คือสิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเรา

ตอนนี้ คนมักจะถามกันว่า ราคาทองจะสูงขึ้นไปได้ซักเท่าไหร่

ผมจะบอกให้ ว่าซักวันหนึ่ง คุณจะเข้านอนที่ราคา $1670 และ

วันรุ่งขึ้นที่คุณตื่นขึ้นมาจะเป็น bank holiday (ธ.ปิด เพื่อกันคนแห่กันถอนเงิน)

แล้วทองจะมีคน bid ที่ $3,000 แต่ไม่มี offer เพราะจะไม่มีใครส่งมอบทองคำได้

 

คุณจะต้องถือของจริงอยู่ในมือ

ถ้าสิ่งที่คุณมีในมือคือกระดาษ

คุณก็จะมีแค่กระดาษแผ่นนั้นเท่านั้นแหละ

 

เพราะฉะนั้น ก็ออกไปเยาวราช แล้วเอากระดาษไปแลกของจริงมาเก็บไว้กับตัว

และจงดีใจไว้เถิดว่าคุณได้ซื้อทองคำราคาถูกในวันนี้

 

http://www.chrismartenson.com/blog/harvey-organ-get-physical-gold-silver/73933

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณจะต้องถือของจริงอยู่ในมือ

ถ้าสิ่งที่คุณมีในมือคือกระดาษ

คุณก็จะมีแค่กระดาษแผ่นนั้นเท่านั้นแหละ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ.....เหลือเงินกระดาษนิดหน่อย....ต้องแปรธาตุเป็นทอง.....หนวดกุ้ง....ซะแล้ว.......

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แปลความเห็น(+น้ำจิ้ม)ของ ฮาร์วีีีย์ ออร์แกน ที่ให้คุยกับ คริส มาร์เทนสัน มาฝากครับ

ผมคิดเหมือนแกมากๆ

 

 

 

http://www.chrismart...ld-silver/73933

 

ขอบคุณค่ะ อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจสำหรับคนติดดอย แต่อยากถามว่า เมื่อเวลานั้นมาถึงจะมีสัญญาณอะไรบอกหรือเปล่าคะ จะได้รีบเปลี่ยนจากทองกระดาษ เป็นทองแท่งจริงๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจสำหรับคนติดดอย แต่อยากถามว่า เมื่อเวลานั้นมาถึงจะมีสัญญาณอะไรบอกหรือเปล่าคะ จะได้รีบเปลี่ยนจากทองกระดาษ เป็นทองแท่งจริงๆ

 

ผมก็มีติดดอยเหมือนกัน ร้อนๆแบบนี้ อยู่ดอยอากาศดีนะครับ ^_^

 

สัญญาณน่าจะมีนะ แต่ชาวบ้านอย่างเราๆคงมองไม่เห็นเท่านั้นเอง

และต่อให้เห็น ถ้าไม่ใช่ระดับเทพ หรือดวงดีจริงๆ ก็คงไม่สามารถกะเวลาได้ถูกต้องครับ

 

อย่างตอนที่ ชาเวส เรียกทองคำแท่งกลับ เวเนซูเอลา ตอนนั้น ใครๆก็คิดว่าทองน่าจะ

พุ่งขึ้น แต่พอกระแสเบาๆไปหน่อย ก็ขึ้นแบบก้าวกระโดด แบบที่ฮาร์วีั ออร์แกน ว่าไว้

 

ถ้าก่อนหน้านั้นผมเอากระดาษกองทีเหลืออยู่ไปซื้อๆเก็บไว้ ตอนนี้ก็ไม่น่าจะติดดอย

:_02

 

 

โชคดีกับการลงทุน ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เดือนมีนา เม็กซิโก(16.81ตัน) รัสเซีย(16.55ตัน) และตุรกี (11.48ตัน)นำโด่งในการซื้อทองเพิ่ม

 

goldcore_bloomberg_chart3_24-04-12.png

 

http://www.goldcore....orth-gold-march

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คืนนี้ประมาณตี 1 ตี 2

คณะกรรมการพิมพ์เงินแห่งสหรัฐฯ จะออกมารายงานผลการประชุม

 

แทงขึ้น หรือ แทงลงดีครับคราวนี้ ^_^

 

pic : jsmineset.com

post-2564-0-96752300-1335353538.jpg

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต้องยืมคำของคุณ next มา ที่บอกว่า "พูดอีก ก็ถูกอีก"

 

......

เรารู้ว่าพวกเขาจะทำอะไร ในที่สุดพวกเขาก็จะต้องพิมพ์เงิน เศรษฐกิจไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น และสิ่งที่เฟดพูดก็เป็นสิ่งที่ผิด

น่าตกใจไหมล่ะ ที่เฟดพูดอะไรผิดๆออกมา คุณจำได้หรือเปล่า ที่ตาโป๊งเหน่งบอกว่าปัญหาวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ได้ถูกควบคุมไว้แล้ว

 

คนงี่เง่าพวกนี้ไม่ีรู้อะไรทั้งนั้น พวกเขาเป็นต้นตอของปัญหา

แล้วทำไมพวกเราถึงอยากจะคอยฟังว่า ไอ้พวกงี่เง่าพวกนี้คิดอย่างไรกับสภาพเศรษฐกิจในตอนนี้

เราจะไปสนใจทำไมว่าคนพวกนี้ ที่คิดว่าตัวเองฉลาดนัก ออกมาพูดว่า เอาอยู่

คุณรู้หรือเปล่าว่าผมทำอะไรอยู่ตอนนี้คณะกรรมการพิมพ์เงินเผยแพร่รายงานการประชุม และตาโป๊งเหน่งออกมาพูด

 

ตอนนั้นผมเล่นเทนนิสอยู่

 

.....

http://www.tfmetalsreport.com/blog/3717/well-was-interesting

http://kingworldnews.com/kingworldnews/KWN_DailyWeb/Entries/2012/4/25_Fleckenstein_-_Fed_Idiots_Wrong,_Big_Problems_in_Europe_%26_US.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาเนื้อหาจาก บทความ และ บทสัมภาษณ์ จิม ริคเคิร์ดส มาฝากครับ

 

... เวลาที่คุณถามคนในตระูกูลที่ร่ำรวยมาเป็นร้อยๆปี ว่ารักษาความมั่งคั่งมาได้นานอย่างนี้ได้อย่างไร คุณมักจะได้คำตอบว่า

"หนึุ่งในสาม หนึ่งในสาม และ หนึ่งในสาม"

 

หนึ่งในสาม = ที่ดิน

หนึ่งในสาม = ทองคำ

หนึ่งในสาม = งานศิลปะ (ชั้นสูง)

 

แน่นอนว่าคุณจะต้องมีเงินกระดาษไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ ความมั่งคั่งส่วนใหญ่

จะถูกเก็บไว้ในสูตรข้างบนนี้ เนื่องจากของทั้งสามอย่าง มีมูลค่าในตัวมันเอง ไม่ว่า

เวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม

 

งานศิลปะ : เวลาเกิดกลียุค ทรราชปล้นเมือง คุณก็เพียงถอดภาพเขียนราคาแพงออกจากกรอบ ม้วนเก็บดีๆ ใส่กระเป๋าออกจากบ้านได้

 

ทองคำ : เวลาเกิดกลียุค ทรราชปล้นเมือง คุณก็สามารถเอาติดตัว ซ่อนไว้ในสัมภาระ หรือเย็บติดกับเสื้อ/เข็มขัด ออกจากบ้านได้ (เคยได้ยินเรื่องเราจากผู้ใหญ่ที่ผ่านยุคสงครามโลกครั้งที่สองมา ว่าท่านก็รอดมาได้ เพราะทองที่เอาติดตัว ติดเสื้อ ออกมา)

 

ที่ดิน : ถึงแม้ว่า เวลาทรราชปล้นเมือง คุณจะไม่สามารถเอาที่ิดินติดตัวไปได้ แต่ถ้าคุณมีโฉนดที่เป็นหลักเป็นฐานอยู่กับตัว เมื่อทรราชหมดอำนาจ มันมีความเป็นไปได้ที่คุณจะสามารถเรียกร้องที่ดินของคุณกลับมาได้ ในยุโรปตะวันออก ก็เคยมีการเรียกร้องที่ดินคืนแบบนี้ และ ชาวคิวบา ที่อพยพมาอยู่ในฟลอริดา ก็มีความหวังว่า หลังจากคาสโตรหมดลม พวกเขาจะสามารถเรียกร้องที่ดินที่ถูกคาสโตรยึดคืนกลับมาได้

 

.....

http://www.usnews.com/opinion/blogs/economic-intelligence/2012/04/16/the-three-ways-old-money-holds-on-to-its-riches

 

 

  • จิม ไม่แนะนำให้ใน port มีทองคำเกินกว่า 10-15% โดยมีเหตุผลหลักๆอยู่สองเหตุผลคือ 1 ) แม้ว่าทองคำจะมี upside เยอะ แต่รัฐบาลกลาง ก็น่าจะรับมือได้โดยการ ยึดทองคำคืน, คิดภาษีกำไรจากทองคำ, หรือ คิดภาษีในการซื้อขายทองคำแพงๆ เพื่อลด upside ของทองคำ อย่างที่เคยทำในช่วงที่ผ่านมา 2 ) ทองคำไม่เหมาะสำหรับคนธาตุอ่อน เพราะ ทองคำมีความผันผวนมาก
  • ถ้าคุณมีเงินไม่มาก การบริหารทองคำก็เป็นเรื่องไม่ยาก อย่างเช่นถ้ามีเงินไม่กี่แสนเหรียญ ก็หาที่เก็บ และขนย้ายไปมาไม่ยาก แต่ถ้าคุณมีเงินเป็นร้อยๆล้านเหรียญอย่างที่ลูกค้าของจิมบางคนมี การบริหารทองคำกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนทีเดียว ทั้งเรื่องทีเก็บ การรายงานทางด้านภาษี ฯลฯ
  • จิม บอกต่อว่า แต่สำหรับใครก็ตาม ที่คิดจะลงทุนในทองคำแล้ว ขอให้เตรียมรับมือกับความผันผวนไว้ให้ดี

 

wcg วิแคะ จิม ต่ออีกที

  • จากหนังสือ Currency Wars ของเขา เขามองว่า เมื่อระบบเงินกระดาษในปัจจุบันล้มไปแล้ว มันควรจะมีระบบเงินกระดาษใหม่ ที่มีทองคำมาหนุนในส่วนหนึ่ง (ไม่ใช่ 100% หนุนโดยทองคำ)
  • การที่เขาออกมาแนะนำว่าให้ถือทองคำไม่เกิน 10-15% โดยให้เหตุผลทางด้านการปล้นความมั่งคั่งจากรัฐบาลกลางนั้น ก็คือว่าเป็นเหตุผลที่ใช้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเขาเชื่อว่าทองคำจะมีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในฐานของสกุลเงินที่จะเกิดใหม่ ทำไมเขาไม่แนะนำให้ถือทองคำมากกว่านี้
  • จิม มีความสัมพันธ์กับนักการเมือง ทหาร และ นายแบงค์พอสมควร หลังจากหนังสือของเขาออกมา เขาได้รับเชิญจากนักการเมือง และหน่วยงานต่างๆ ให้ไปคุย ไปพูด ทั้งเป็นการส่วนตัว และอย่างเป็นทางการ เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะโดนแรงกดดันมา ไม่ให้เชียร์โลหะมีค่าออกหน้าออกตานัก

http://jessescrossroadscafe.blogspot.com/2012/04/jim-rickards-is-interviewed-by.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อยากให้มีwcg วิแคะ บ่อยๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต่างประเทศ

 

 

ปัดฝุ่น "มาตรฐานทองคำ" สกัดมะกันพิมพ์แบงก์ไร้สติ

 

 

 

 

0Share

โดย...ลภัสรดา ภูศรี

 

นับแต่วิกฤตการเงินในสหรัฐเมื่อปลายปี 2551 ที่ชาติมหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐต้องเผชิญกับวิกฤตการเงินและสภาพเศรษฐกิจ อ่อนแอเข้าขั้นโคม่าครั้งรุนแรงอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นต้องงัดไม้เด็ดออกมาตรการทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกันอย่าง จ้าละหวั่น

ไม่ว่าจะเป็นการหั่นดอกเบี้ยลงเหลือ 0% ไปจนถึงการเดินหน้าพิมพ์ธนบัตรอัดเงินเข้าสู่ระบบ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ มาตรการการเงินแบบผ่อนปรนเชิงนโยบาย (คิวอี) ถึง 2 ครั้งเมื่อปี 2551 และเมื่อปี 2553 รวมแล้วมีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

กระนั้นถึงเฟดจะเร่งปั๊มธนบัตรออกมามากเพียงใด ปริมาณเงินที่ปล่อยออกมาถูกนำไปใช้เพื่อการเก็งกำไรมากกว่าที่จะถูกนำไป กระตุ้นเศรษฐกิจในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง

ยิ่งไปกว่านั้น ปริมาณเงินดังกล่าวได้ไหลเข้าสู่ระบบการเงินของสหรัฐเป็นจำนวนมหาศาล จนส่งผลให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง และเป็นแรงกดดันให้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงหนักกลายเป็นปัญหาที่กระทบทั้ง สหรัฐ และทั่วโลก ดังเมื่อช่วงการใช้นโยบายคิวอี 2 ระหว่างเดือน พ.ย. 2553-มิ.ย. 2554

นักลงทุนแห่เบนเข็มไปลงทุน หรือถือครองสินทรัพย์อื่นๆ ที่มีความปลอดภัย และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งทองคำ และน้ำมันดิบ

การปั๊มธนบัตรเองของสหรัฐเพื่อกระตุ้นระบบการเงินและเศรษฐกิจในช่วงที่ ผ่านมานอกเหนือจากจะไม่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐในระยะยาวแล้ว ยังเป็นตัวการที่เพิ่มปัญหาทางการเงินให้รัฐบาลสหรัฐได้ปวดหัวกันอีกหลาย ระลอกกันอีกด้วย

นั่นเป็นเพราะสหรัฐเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลให้เงินเหรียญสหรัฐกลายเป็นเงินสกุลสากลที่ถูกใช้เป็นสื่อกลางของโลก จึงทำให้สหรัฐกลายเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่จำเป็นต้องยึดเอาทุนสำรอง ระหว่างประเทศ หรือทองคำ มาเป็นหลักประกันเพื่อพิมพ์ธนบัตรอีกต่อไป

495930033F7649B3A631F3B91A3AB13B.jpg

โดยสหรัฐจะปล่อยให้เงินเหรียญสหรัฐเป็นสื่อกลางในการค้าขาย ที่มีอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นลงตามกลไกอุปสงค์และอุปทานของตลาดโลก

ด้วยเหตุนี้เอง ธนาคารกลางสหรัฐจึงสามารถพิมพ์ธนบัตรเข้าสู่ระบบได้อย่างไม่จำกัด และเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐสามารถถลุงงบประมาณอย่างไม่จำกัดเช่นกัน

ดังที่เห็นได้จากยอดขาดดุลงบประมาณเมื่อเดือน ก.พ. สูงถึง 2.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับว่าเป็นการขาดดุลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่ยอดหนี้สาธารณะทำสถิติทะลุระดับ 15 ล้านล้านเหรียญสหรัฐไปแล้ว หรือคิดเป็น 100% ของจีดีพีทีเดียว

ปัญหาทางการเงินต่างๆ นานา อันเป็นผลกระทบมาจากการปั๊มเงินตามอำเภอใจของสหรัฐ ส่งผลให้บรรดานักวิเคราะห์และนักการเมืองหลายคน ไม่ว่าจะเป็น รอน พอล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเทกซัส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐ และจิม แกรนท์ บรรณาธิการนิตยสารแกรนท์ อิสเทอร์เรสเรท ออฟเซิร์ฟเวอร์ เริ่มหันกลับมามองหนทางการแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการกลับมาใช้ “ระบบมาตรฐานทองคำ” (Gold Standard) หรือมาตรฐานการผูกมูลค่าเงินเหรียญสหรัฐกับราคาทองคำ ซึ่งจะเป็นตัวกำจัดความสามารถในการพิมพ์ธนบัตรของประเทศนั้นๆ ซึ่งสหรัฐยกเลิกการใช้ระบบดังกล่าวไปตั้งแต่ปี 1971

เอียน แมคแอวิตี บรรณาธิการประจำจดหมายข่าวเดลิเบอเรชันส์ ออน เวิลด์ มาร์เก็ต กล่าวว่า ข้อดีของการใช้มาตราทองคำนั้น จะช่วยสร้างระเบียบวินัยด้านการเงินของรัฐบาล เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลพิมพ์ธนบัตรออกมาใช้จนล้นตลาด และก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อที่ไม่สามารถควบคุมได้ตามมา

อย่างไรก็ตาม การกลับมาใช้มาตราทองคำนั้น ไม่ได้สวยหรูและง่ายดายอย่างที่คิด เพราะข้อเสียที่เด่นชัดที่สุดของการกลับมาใช้มาตราทองคำในปัจจุบัน คือ บนโลกนี้ไม่มีปริมาณทองคำเพียงพอที่จะรองรับขนาดเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ได้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐที่พองตัวขึ้นมากกว่า 30 กว่าปีก่อนมาก

ดังที่เห็นได้จากปริมาณทองคำที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และโรงกษาปณ์สหรัฐถืออยู่ในมือนั้นมีอยู่เพียง 248 ล้านออนซ์ หรือคิดเป็นมูลค่าราว 4.05 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จึงไม่สามารถรองรับปริมาณความต้องการเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจที่มีตัว เลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปัจจุบันซึ่งคิดเป็นมูลค่าถึง 15 ล้านล้านเหรียญสหรัฐได้

และถึงแม้ว่าสหรัฐจะโกยเอาทองคำทั้งหมดบนโลกนี้ที่มีอยู่ราว 1.7 แสนตัน หรือ 6,050 ล้านออนซ์ มาเป็นของตัว ปริมาณทองคำทั้งหมดนั้นก็มีมูลค่าตีเป็นเงินได้ราว 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้นเอง ซึ่งไม่เพียงพอที่จะรองรับขนาดเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างแน่นอน

แฟรงก์ โฮมส์ ประธานบริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ยูเอส โกลบอล กล่าวว่า มาตราทองคำเป็นระบบการเงินที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้จริงอีกต่อไป ย้อนกลับไปเมื่อปี 1933 ขณะนั้นมีประชากรบนโลก 2,000 ล้านคนเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเรามีประชากรมากถึง 7,000 ล้านคน

ยิ่งไปกว่านั้น การกลับมาใช้มาตราทองคำของสหรัฐอีกครั้งอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาการปั๊มเงินสู่ ระบบมากเกินไปของสหรัฐได้ เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะเข้าแทรกแซงการควบคุมราคาทองคำเพื่อ เอื้อประโยชน์ต่อการพิมพ์ธนบัตรอยู่ดี

แมคแอวิตี ยังมองว่า สหรัฐอาจกลับมาใช้ระบบเงินตราแบบสองระบบ หรือการใช้เงินเหรียญสหรัฐและทองคำเป็นเงินตราที่เป็นที่ยอมรับ ที่เปิดทางให้ประชาชนสามารถเลือกใช้เงินตราได้ทั้งสองแบบแทน ซึ่งเคยถูกทดลองใช้ในช่วงสงครามกลางเมืองระหว่างปี 18611865 แต่ต้องถูกยกเลิกไป หลังฝ่ายสหภาพ ซึ่งชนะสงคราม ให้การสนับสนุนการใช้เงินเหรียญสหรัฐอย่างเดียว เพื่อแก้ปัญหาการพิมพ์ธนบัตรจนล้นตลาดได้

สุดท้าย แลนซ์ โรเบิร์ต หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เว็บไซต์สตรีตทอล์ก แอดไวเซอร์ มองว่า ไม่ว่าสหรัฐจะประกาศใช้มาตรฐานทางการเงินแบบใด ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะสร้างมาตรฐานที่เชื่อถือได้ขึ้นมา

ระบบที่แท้จริงที่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่มีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาแทรกแซงให้ระบบปั่นป่วนได้เหมือนในปัจจุบัน!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...