ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

วรวรรณ ธาราภูมิ

 

5 ชั่วโมงที่แล้ว

แนวโน้มราคาทองคำปีนี้ จะเป็นอย่างไร

---------------------------------------

 

บลจ.บัวหลวง จำกัด

 

19 พฤษภาคม 2556

 

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 นี้มีความอ่อนแอมากที่สุดนับจากที่เคยเป็นขาขึ้นตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ปัจจัยที่เคยส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนทองคำนั้นจะยังคงมีอยู่ แต่ไม่ได้มีความ ‘สดใหม่’ เหมือนแต่ก่อน จึงไม่ส่งผลดีต่อทองคำ

 

ในทางกลับกัน ปัจจัยเหล่านั้นมีโอกาสที่จะส่งผลน้อยลงในอนาคต ดังนี้

 

1. นโยบายอัดฉีดเศรษฐกิจของธนาคารกลาง

 

ขณะนี้ระบบการเงินโลกกำลังอยู่ท่ามกลางนโยบายอัดฉีดเม็ดเงินอย่างมาก ทั้งนโยบาย QE3/QE4 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ทั้งเม็ดเงินอัดฉีดจากธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมทั้งการที่ธนาคารกลางเหล่านี้ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำมากอย่างต่อเนื่อง

 

นโยบายเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยบวกต่อทองคำทั้งสิ้น แต่ราคาทองคำได้สะท้อนประเด็น ‘การมีอยู่’ ของนโยบายเหล่านี้ไปมากแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่าราคาทองคำไม่ตอบรับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้มากเท่ากับในอดีต ตัวอย่างเช่น การประกาศใช้ QE4 ของสหรัฐ หรือการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป ที่ไม่สามารถช่วยให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นได้เหมือนก่อน อีกทั้งผลของการใช้ QE ในครั้งก่อนของ FED ก็ไม่ได้ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นแต่อย่างใด ทำให้บทบาทของนโยบายอัดฉีดเศรษฐกิจนั้นงผลต่อราคาทองคำน้อยลง

 

ในทางกลับกัน การฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ลายฝ่ายคาดการณ์ว่า FED มีโอกาสจะลดปริมาณการทำ QE เร็วกว่ากรอบเวลาที่กำหนดไว้เดิม (กลางปี 2015) แสดงว่ามีโอกาสจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางลบมากกว่าทางบวกต่อทองคำ

 

2. อัตราเงินเฟ้อ

 

สำหรับปี 2556 นี้ หลายฝ่ายคาดกันว่าอัตราเงินเฟ้อจะไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวล ด้วยเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้ฟื้นตัวแรงและนโยบายอัดฉีดเม็ดเงินก็ไม่ได้ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อเท่าใดนัก

 

ดังนั้น ภาพรวมอัตราเงินเฟ้อในปีนี้จึงน่าจะอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งธนาคารกลางทุกแห่งที่ใช้นโยบายอัดฉีดเม็ดเงินก็ประกาศชัดเจนว่าต้องการควบคุมให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับไม่สูงจนเกินไป และถ้ามีทีท่าว่าจะเร่งตัวขึ้นก็จะหยุดใช้มาตรการอัดฉีดเงินทันที

 

ประเด็นเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมากจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2013 ราคาทองคำไม่น่าจะได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นเงินเฟ้อ

 

3. ปัญหาขาดดุลการคลังและหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ รวมทั้งประเทศยูโรโซน

 

จะเป็นปัจจัยบวกเดียวที่เหลืออยู่สำหรับทองคำในปี 2013 ซึ่งปัญหาดังกล่าวคงจะไม่คลี่คลายลงได้ในเร็ววัน และจะนำมาซึ่งความเชื่อถือเงินดอลลาร์ที่ลดลงในระยะยาว อาจจะทำให้ผู้ถือสินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์ต้องการกระจายความเสี่ยงไปถือทองคำมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่าประเด็นปัญหาขาดดุลการคลังนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ จึงอาจจะไม่ได้ส่งผลให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นได้มากในระยะเวลาสั้นๆ ในทางกลับกัน ประเทศที่มีหนี้สาธารณะจำนวนมากบางประเทศอาจจะขายทองคำออกมาเพื่อใช้หนี้ อย่างที่เกิดขึ้นกับประเทศไซปรัส

 

สรุป เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมของปัจจัยต่างๆ ในครึ่งหลังของปี 2556 จะเห็นว่าปัจจัยที่เคยส่งผลบวกต่อราคาทองคำกำลังมีน้ำหนักน้อยลง และน่าจะยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามา

 

ดังนั้น ประเด็นการลงทุนในทองคำสำหรับช่วงนี้จึงควรเป็นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของ Portfolio เป็นหลัก ด้วยการกระจายสัดส่วนไปถือทองคำบ้างเพื่อป้องกันความไม่แน่นอนของโลกการเงินในอนาคต โดยต้องมองกรอบลงทุนในระยะยาวมากๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วรวรรณ ธาราภูมิ

 

6 ชั่วโมงที่แล้ว

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง .. มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน

 

20 พฤษภาคม 2556

 

General News

----------------

 

• รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนพ.ค.อยู่ที่ 83.7 จุด เพิ่มขึ้นจาก 76.4 จุดในเดือนก่อน ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี แสดงว่าผู้บริโภคสหรัฐลดความกังวลเกี่ยวกับมาตรการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางแล้ว และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในอนาคตจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก

 

• ก.พลังงานสหรัฐ อนุญาตให้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ผลิตในประเทศไปญี่ปุ่นและประเทศอื่นที่ไม่ได้ทำข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐได้ โดยคาดว่า LNG ต้นทุนต่ำน่าจะส่งไปญี่ปุ่นได้อย่างเร็วที่สุดในปี 2560

 

• สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งยุโรป (ACEA) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในยุโรปเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนซึ่งเป็น 1.08 ล้านคัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 19 เดือนที่ยอดขายในยุโรปเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากแรงหนุนของการขยายตัว ในอังกฤษและเยอรมนี โดยยอดขายในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือน เม.ย.หลังจากที่ลดลง 5 เดือนติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ในเดือนม.ค.-เม.ย.ยอดขายรถในยุโรปลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

• ราคาบ้านใหม่ในจีนเพิ่มขึ้น 1% ในเดือน เม.ย. ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ขยายตัว 1.2% เนื่องจากมาตรการคุมเข้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลรอบใหม่ที่ประกาศใช้ในเดือนมี.ค.เริ่มส่งผล

 

อย่างไรก็ตาม ราคาบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยปักกิ่งที่ราคาบ้านสูงขึ้นถึง 10.3% แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานคำนวณที่ต่ำกว่าปกติในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์จาก UBS คาดว่า ตลาดบ้านในจีนจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

 

• จีนจะสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์จากต่างประเทศในพื้นที่ทางตะวันตก โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติจะได้สิทธิพิเศษทางภาษีนับตั้งแต่ 10 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากเดิมที่จีนได้ยกเลิกการส่งเสริมการลงทุนประเภทนี้ไปตั้งแต่เดือน ม.ค.2554 จากปัญหากำลังการผลิตล้นเกินความต้องการ

 

• เงินฝากสกุลหยวนในสถาบันการเงินไต้หวันเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 6.02 หมื่นล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 54.5% จากสิ้นเดือน ก.พ. หลังจากที่ภาคการธนาคารไต้หวันได้รับอนุญาตให้ทำธุรกรรมในรูปเงินหยวน ไม่ว่าจะเป็น เงินฝาก การปล่อยกู้ หรือการโอนเงิน ได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา

 

ซึ่ง ธ.สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า ไต้หวันจะมีเงินทุนสกุลหยวน 1.0-1.5 แสนล้านหยวนภายในสิ้นปีนี้ อันเป็นความคืบหน้าของการส่งเสริมให้ใช้เงินหยวนในระดับสากล โดยปัจจุบันไต้หวันเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากฮ่องกงที่ชำระบัญชีการทำธุรกรรมต่างๆ ในรูปเงินหยวนได้

 

• ยอดส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ในเดือน เม.ย.ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงต่อเนื่องหลังจากที่หดตัวลง 4.8% ในเดือน มี.ค. ซึ่งมีสาเหตุจากยอดส่งออกสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ที่ลดลง 9% ในเดือน เม.ย. เนื่องจากการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ 3 แห่งได้แก่ สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และ มาเลเซีย ลดลง

 

• เวิล์ดแบงก์ คาดการณ์ว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะมีสัดส่วนการลงทุนทั่วโลกเพิ่มเป็น 3 เท่า สู่ระดับ 60% ของมูลค่าการลงทุนโดยรวมทั่วโลกในปี 2573 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนไม่ถึง 1 ใน 3 โดยจีนจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการลงทุนด้วยสัดส่วน 30% ของมูลค่าโดยรวมทั่วโลก ขณะที่บราซิล อินเดีย และรัสเซีย จะมีส่วนหนุนการลงทุนรวมกันมากกว่า 13%

 

• ก.คลัง เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน มี.ค.อยู่ที่ 5.12 ล้านล้านบาท หรือ 44.16 % ของ GDP ซึ่ง สศค.ประเมินว่า หนี้สาธารณะของไทยยังคงอยู่ในระดับต่ำ และยังอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลัง ที่กำหนดให้ไม่เกิน 60 % ของ GDP แสดงว่าภาคการคลังของไทยยังคงมีเสถียรภาพ

 

• ส.อ.ท.รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.อยู่ที่ 92.9 จุด ลดลงจาก 93.5 จุดในเดือนก่อนหน้า และลดต่อเนื่อง 4 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งแข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับค่าเงินของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็มีแนวโน้มที่จะนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศที่มีราคาถูกกว่า ซึ่งส่งผลต่อผู้ผลิตอุตสาหกรรมต้นน้ำภายในประเทศ

 

• นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้จะมีโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประชาชนยังต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐ รวมถึงความต้องการด้านที่อยู่อาศัยยังมีอยู่สูงนั้นจะส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ขยายตัวได้ 5-10%

 

ส่วนผลจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วันทั่วประเทศ และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับราคาสูงขึ้น 1-2% คาดว่จะทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 3-7%

 

Equity Market

---------------

 

• SET Index ปิดที่ 1,627.96 จุด เพิ่มขึ้น 10.07 จุด หรือ +0.62% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55,303 ล้านบาท โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในต่างประเทศ แม้ว่าจะไม่มีปัจจัยใหม่ โดยหุ้นที่มีผลต่อการปรับตัวขึ้นของตลาดมากที่สุดได้แก่หุ้นกลุ่มสื่อสาร (ผู้ในบริการโทรศัพท์) รวมทั้งหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ในขณะที่มีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

 

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม (ล้านบาท)

-----------------------------------------------------

 

นักลงทุนสถาบัน +267.40

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +277.30

นักลงทุนต่างชาติ +497.44

นักลงทุนทั่วไป -942.14

 

Fixed Income Market

------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุ โดยเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง -0.02% ถึง 0.00% ซึ่งเป็นการลดลงของผลตอบแทนเป็นวันที่ 3

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แป๊ปเดียวทุบลงมาอีก 20 เหนียญแล้ว

1339

วันนี้แวว test low เดิมแถว 1320 แน่เลย

จะไป1200 เร็วๆนี้ไหมครับเนี่ย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เดาว่า1321 อาจจะต้านไม่อยู่(น่ามีเด้งบ้างก่อนทะลุ1321)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:_cd

ทุบกันเข้าไป เอาให้ถึงสิ้นเดือนนะจ๊ะ ...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงนี้หนาวจับใจครับพี่น้อง

 

:_cd :_cd

 

รอให้คนกลัวสุดๆ ก่อนตอนนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ปราศรัยกับผู้บริหารองค์กรธุรกิจ ว่ายุทธศาสตร์การเจริญเติบโตใหม่นี้จะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนภายในประเทศอย่างเข้มข้นในสามปีข้างหน้า โดยจะกำหนดเป้าหมายสำหรับการลงทุนภาคเอกชนภายในประเทศปีละ 70 ล้านล้านเยน ตัวเลขดังกล่าวเป็นระดับตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการเงินโลกปี 2551 และเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบัน 10%

ยุทธศาสตร์การเติบโตจะให้ความสำคัญกับการส่งออกโครงสร้างพื้นฐาน 3 เท่าภายในปี 2563 และเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตร ประมงให้ได้ 1 ล้านล้านเยน ทั้งยังตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นปีละ 20 ล้านคน จาก 8 ล้านคนในปัจจุบัน เพิ่มการส่งออกสินค้าวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์อย่างการ์ตูนญี่ปุ่นเป็นสามเท่าภายในห้าปี

นายอาเบะสัญญาว่าจะเป็น "เซลส์แมนชั้นยอด" ให้กับการส่งออกโครงสร้างพื้นฐานของญี่ปุ่นและเรียกร้องให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับ "อาเบะโนมิกส์" โดยส่งผ่านผลกำไรไปสู่คนทำงานในรูปของการจ้างงานและการขึ้นค่าตอบแทน

มาตรการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนี้เป็น "ศรดอกที่สาม" ในชุดนโยบายของนายอาเบะ โดยศรสองดอกแรกคือ มาตรการผ่อนคลายทางการเงินขนาดใหญ่ และการโหมใช้จ่ายของภาครัฐเพื่อผลักดันญี่ปุ่นให้พ้นจากภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อ 15 ปี และสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน

นายอาเบะต้องการเผยรายละเอียดยุทธศาสตร์การเติบโต ก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 8 ที่ไอร์แลนด์เหนือในวันที่ 17-18 มิ.ย.

http://www.bangkokbi...1%E0%B9%88.html

 

Nikkei+Long+Term+Chart.PNG

 

ถ้าญี่ปุ่นฟื้นตัวจากเงินฝืด 15 ปี จะมาแทนที่เมกาได้รึเปล่านะ

เมื่อถึงจุดสูงสุดก็ต้องลง เมื่อถึงจุดต่ำสุดแล้วก็ต้องขึ้น

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นขึ้น....ทองลง ลงสุดเมื่อไหร่....สงสัยต้องรอให้หุ้นลงก่อน....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จะลงสุดแถวไหนค่ะคุณส้มโอมือ

หุ้นขึ้น....ทองลง ลงสุดเมื่อไหร่....สงสัยต้องรอให้หุ้นลงก่อน....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Jimmy SiriThe Gold War Phase II...by Jimmy Siri

ติดตาม · 20 ชั่วโมงที่แล้ว

 

อย่างที่บอกไปแล้วครับว่า หาก ปธน.อับราฮัม ลินคอล์น คือผู้ที่พยายามปฏิเสธการก่อตั้งระบบธนาคารกลางหรือ FED ในยุคแรกๆจนถูกยิงเอาดื้อๆในโรงละคร ปธน.จอห์น เอฟ เคเนดี้ หรือ JFK ก็ได้พยายามทำในสิ่งเดียวกัน นั่นก็คือพยายามเปิดโปงและต่อต้านเพื่อจะล้มระบบธนาคารกลางที่เข้าครอบงำระบบการเงินของอเมริกาโดยอ้างชื่อรัฐบาล(แต่มีเจ้าของเป็นเอกชน)

 

แต่ในสมัยของ JFK กลับเป็นอะไรที่ยากกว่าในยุคของลินคอล์นอย่างหนักหนาสาหัส นั่นก็เพราะเจ้าเชื้อร้ายเหล่านี้เกาะกินแทบทุกระบบของอเมริกาไปจนแทบจะหมดสิ้นแล้ว โดยเฉพาะการทหารที่มุ่งสร้างสงครามเพื่อผลกำไรอย่างมหาศาลไม่ด้อยไปกว่าระบบการเงิน การธนาคาร เพราะนั่นหมายถึงการเข้ารุกรานประเทศน้อยใหญ่เพื่อเข้ายึดครองดินแดน ทรัพยากร และแผ่ขยายอิทธิพลทางการทหารในคราเดียวกัน และฟางเส้นสุดท้ายที่เป็นชนวนนำไปสู่เหตุการณ์ลอบสังหารสะท้านโลก ก็คือความพยายามในการถอนทหารและยุติสงครามเวียดนามของ JFK ที่ไปขัดประโยชน์กับ "War Profiteer" หรือกลุ่ม "พ่อค้าสงคราม" เข้าอย่างจังนั่นเองครับ

 

หากแต่ JFK ยังรุกต่อเนื่องด้วยการประกาศต่อสาธารณะชนที่จะเปิดโปง กลุ่มคนเหล่านี้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด โดยเฉพาะในระบบการเงินและการธนาคารของอเมริกาในขณะนั้น โดยคำกล่าวสุนทรพจน์ที่ว่า

 

"There's a plot in this country to enslave every man, woman and child. Before I leave this high and noble office, I intend to expose this plot" ....JFK

 

เพียง 7 วันหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์นี้ ปฏิบัติการลอบสังหารสะท้านโลก สังหาร ปธน.เคเนดี้ อย่างเหี้ยมโหดต่อหน้าสาธารณะชนในรัฐเท็กซัสจึงอุบัติขึ้นทันที

หลายปีต่อมีการเปิดเผยชื่อบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์และมีหลักฐานมากมายที่จะกล่าวว่ามีส่วนสำคัญในการวางแผนปฏิบัติการปลิดชีพครั้งนี้ โดยเฉพาะการจัดฉากผู้ต้องหาและการปิดบัง ทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญต่างๆ อีกทั้งยังสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอในเวลาต่อมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนๆนี้ยังเป็นแกนนำระดับสูงคนสำคัญของกลุ่มอิลลูมินาติ, CFR และอีกมากมาย และชื่อของเค้าก็คือ "GHWB" นั่นเอง

 

-------------------------------------------------------------------------------------------->>>

 

และหากรู้แล้วว่า "GHWB" เป็นใคร ก็อาจใช้ google ค้นหาต่อไป ด้วยการเติมคำว่า "new world order" ต่อท้าย จนได้คำว่า "ghwb new world order" เพื่อหาข้อมูลต่อไปได้ด้วยตัวคุณเองเลยนะครับ......

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความต้องการทองในจีนไตรมาสแรกปีนี้พุ่งทำสถิติ blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤษภาคม 2556 06:22 น.

 

 

blank.gif ไชน่าเดลี - ความต้องการทองคำบนแดนมังกรพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ สวนทางกับความต้องการในตลาดโลก ที่ตกลงร้อยละ 13

556000006202701.JPEG blank.gif รายงานของสภาทองคำโลก ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสฯ ( 16 พ.ค.) ระบุว่า มูลค่าการซื้อทองรูปพรรณในจีนทะยานแตะสถิติใหม่ถึง 60,300 ล้านหยวนในไตรมาสแรก เนื่องจากประชาชนแห่ซื้อทอง ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมในช่วงเทศกาลตรุษจีน และเพื่อเป็นของขวัญ ท่ามกลางบรรยากาศความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ที่แข็งแกร่งของจีน

 

นอกจากนั้น การลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำในไตรมาสแรกของจีนยังพุ่งสูงทำสถิติใหม่ ด้วยเช่นกัน โดยความต้องการเพิ่มถึง 109.5 เมตริกตัน เทียบกับความต้องการเฉลี่ยแต่ละไตรมาสในระยะ 5 ปี ซึ่งอยู่ที่ 43.8 ตัน

 

ทั้งนี้ จีนและอินเดียมีความต้องการซื้อทองรูปพรรณรวมกันคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 62 ของความต้องการซื้อทองรุปพรรณในโลกในไตรมาสแรก โดยนอกจากเทศกาลตรุษจีนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้การซื้อทองคึกคักในเดือนม.ค. แล้ว การซื้อทองในช่วงที่เหลือของไตรมาสแรกยังได้แรงสนับสนุนจากภาวะอ่อนแอของ ตลาดหุ้นในประเทศ ทำให้นักลงทุนชาวจีนเกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนในทองคำมากกว่า

 

นอกจากนั้น การประกาศของรัฐบาลปักกิ่งเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลจะออกมาตรการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเร็ว ๆ นี้ ยังส่งผลให้ทองคำกลายเป็นทางเลือก ที่น่าสนใจในการลงทุนอีกด้วย

 

รายงานยังระบุว่า นักลงทุนรายย่อยในจีน อินเดีย และสหรัฐฯ เป็นพวกแถวหน้า ที่แห่ซื้อทองเก็งกำไรในช่วงไตรมาสแรก

 

สำหรับความต้องการทองคำในตลาดโลกไตรมาสแรกมีทั้งสิ้น 963 ตัน ซึ่งลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13

 

blank.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณส้มโอมือ และคุณคนหลงอ่างนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...