richy 24 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 17, 2011 ขอบคุณคุณงูดินมาก ๆ เลยค่ะที่สามารถถ่ายทอด TA ออกมาได้อย่างเข้าใจง่าย และเห็นภาพอย่างชัดเจนที่สุด หลังจากที่เพียรพยายามศึกษามาอย่างเต็มที่ก็ยังไม่กระจ่างเท่านี้ ที่เหลือ ก็มีแต่ต้องฝึกจิตใจให้เป็นไปตามระบบแหละค่ะ.. ขอบคุณมากนะคะ ไม่อยากให้กระทู้ดี ๆ อย่างนี้ตกหล่นไปจากหน้าแรกเลยค่ะ... :wub: อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ngoodin 12,920 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 17, 2011 (มีการแก้ไข) ขอบคุณคุณงูดินมากครับ คุณงูดินครับ กราฟ set ที่เป็น MT4สามารถหาใช้ได้จากค่ายไหนครับ และมีกราฟ Tfex ในMT4บ้างไหมครับ mt4 ของ set หาได้จาก http://www.brocompany.com/ ส่วน Tfex ไม่มีครับ มีแต่ set50 หาได้จาก http://www.mpf.co/ สำหรับ mt4 ของหุ้นรายตัว หาได้จาก https://www.exness.com/ ถูกแก้ไข ตุลาคม 17, 2011 โดย ngoodin 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
fung 40 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 17, 2011 ขอบคุณครับคุณงูดินที่สอนหลักการที่พิจารณาสัณญาณและรูปแบบที่สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางครับ !01 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Dee-Dee 0 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 17, 2011 ขอบคุณ คุณงูดินมากครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
jinna 1 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 18, 2011 อ่านหน้าแรกๆ แล้วชอบมาก ขอบคุณมากคะ ขอ print ออกมาอ่านแล้วเก็บไว้เลยนะคะ อ่านจากคอมไม่ไหว ปวดตตตตตตตตาา อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Harnsin 362 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 18, 2011 เป็นคำแนะนำที่เยี่ยมมากๆครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
kai5976 17 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 20, 2011 ขอยกกระทู้ครับ.. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
tutoo 31 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 20, 2011 อยากจะได้อ่านกระทู้นี้ทุกวัน..คุณงูดินเข้ามาอัพเดทบ่อยๆนะคะ...ขอบคุณค่ะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ngoodin 12,920 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 5, 2011 (มีการแก้ไข) พอดีมีเพื่อน ๆ สนใจลงทุนในกองทุนด้วยระบบ ราคา nav ตัด ma9 และสอบถามขอคำแนะนำ ผมตอบไปแล้วเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ก็เลยนำมาลงไว้เป็นข้อมูลที่นี่ด้วยครับ ข้อควรคำนึงในการลงทุนตามระบบ สิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้ได้ตามระบบที่วางไว้ ถ้า nav ตัด ma9 ขึ้นก็ต้องซ์้อ ถ้า nav ตัด ma9 ลง ก็ต้องขาย ห้ามต่อรองเด็ดขาด แม้ว่าในรอบนั้นเราจะขาดทุนก็ตามนะครับ ให้คิดไว้ว่าการคิดกำไรขาดทุน เราไม่คิดเป็นรอบ แต่เราจะรวมคิดตลอดทั้งปี เอากำไรขาดทุนในแต่ละรอบมาหักกลบลบกันในตอนปลายปี ก็จะรู้ถึงกำไรขาดทุนสุทธิของการลงทุนของเรา อีกเรื่องคือ ห้าม over trade หมายถึงกำหนดพอร์ตไว้แค่ไหน ก็ต้องจำกัดการลงทุนไว้แค่นั้นเท่านั้น ห้ามใส่เงินเพิ่มเด็ดขาด ไม่ใช่ว่ารอบที่แล้วได้กำไร พอมีสัญญาณซ์้อรอบใหม่ก็ลงทุนเพิ่มเข้าไป ถ้าเกิดรอบนี้ขาดทุนก็จะกินไปถึงกำไรของรอบที่แล้วด้วย ทำให้ผลรวมขาดทุนไปได้ ขอให้จำกัดพอร์ตการลงทุนไว้คงที่อย่างน้อย 1 ปี เช่น กำหนดพอร์ต kset50 ไว้ 20,000 บาท เมื่อมีสัญญาณซ์้อ เราก็ซื้อ 20,000 บาท เมื่อมีสัญญาณขาย เราก็ขายทั้งหมด ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน พอมีสัญญาณซ์้อมาอีก เราก็ซื้อ 20,000 บาท อีก ทำอย่างนี้ให้ได้ทุกรอบจนกว่าจะครบ 1 ปีนะครับ ในระยะเริ่มแรกที่ลงทุนตามระบบ ให้จัดสรรเงินลงทุนไว้แค่ 10-20% ของเงินลงทุนทั้งหมดนะครับ เช่น เรามีเงินที่จะลงทุนทั้งหมด 100,000 บาท แต่เราจะเอามาทำพอร์ตการลงทุน kset50 แค่ 20,000 บาท พอครับ ส่วนที่เหลือเก็บไว้ในกองทุนตราสารหนี้พวก kmoney เอาไว้คอยสับเปลี่ยน เพราะการสับเปลี่ยนกองทุนจาก ket50 กลับไป kmoney จะต้องใช้เวลา 3-4 วัน ดังนั้น ถ้าในช่วงนั้นเกิดสัญญาณซื้อขึ้นอีก เราจะได้มีเงินสำรองไว้สับเปลี่ยนจาก kmoney เข้าไปซื้อ kset50 ได้ โดยไม่ต้องรอให้เงินเดิมเข้ามาก่อน สำหรับกองทุนที่มีความผันผวนสูงมากอย่างกองทุนน้ำมัน หรือ koil เรายิ่งต้องจำกัดพอร์ตการลงทุนให้ต่ำลงอีก เพราะพวกนี้วิ่งขึ้นวิ่งลงวันละ 5-6% ก็ยังมีให้เห็น ถ้าลงทุนมาก เกิดร่วงไป 2 วัน 10% คิดเป็นจำนวนเงินมาก เราก็จะฝ่อ แถมยังไม่มีเงินเหลือพอจะลงทุนต่อไปอีก ดังนั้น พวกกองทุนน้ำมัน ขอให้จัดพอร์ตให้น้อยที่สุดก่อนครับ เช่น ของผมปกติจัดพอร์ตทั่วไปอย่างกองทุนหุ้น กองทุน aud ไว้พอร์ตละ 100,000 บาท แต่สำหรับ ktoil ผมกำหนดพอร์ตเพียง 10,000 บาท เท่านั้น ในช่วงขาขึ้น พอร์ตน้ำมันขึ้นไป 10% ในขณะที่พอร์ตหุ้นขึ้นไปแค่ 2-3% เท่านั้น แต่พอคิดคำนวณเป็นเงินแล้วก็ใกล้เคียงกัน ในทางกลับกันถ้าช่วงขาดทุน พอร์ตน้ำมันก็ขาดทุนมากกว่าเช่นกัน หักกลบกันตอนปลายปีแล้วก็พอ ๆ กันครับ อันนี้จะช่วยให้การ balance พอร์ตของเรามีความเสถียร ไม่หวือหวามากเกินไป ลองดูครับ เอาใจช่วยให้ทำตามระบบให้ได้ตลอดปีครับ ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 8, 2011 โดย ngoodin อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
cocriko 12 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 5, 2011 ขอบคุณมากครับ ^_______^ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
cocriko 12 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 5, 2011 พออ่านมาหลังๆ คุณงูดิน ปรับจุดเข้าซื้อขายเป็น macd กับ จุดต่ำยกสูงรึเปล่าครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ngoodin 12,920 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 5, 2011 พออ่านมาหลังๆ คุณงูดิน ปรับจุดเข้าซื้อขายเป็น macd กับ จุดต่ำยกสูงรึเปล่าครับ ใช่ครับ ผมเปลี่ยนมาลงทุนในระยะที่ยาวขึ้นครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ngoodin 12,920 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 5, 2011 (มีการแก้ไข) ระยะสั้น กลาง ยาว ก็แล้วแต่เราจะกำหนด แต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับผมเล่นตาม macd ตัดเส้นสัญญาณขึ้นหรือลง เป็นหลักในการนิยามคำว่าระยะกลาง คือถ้าตัดเส้นสัญญาณขึ้นก็เป็นการเริ่มขาขึ้นระยะกลาง ซึ่งดูตามกราฟจะเห็นว่ารอบหนึ่งกินเวลา 1-3 เดือน ส่วนระยะยาวผมถือเอา macd ตัดขึ้นเหนือ 0 หรือตัดลงต่ำกว่า 0 เป็นระยะยาวของผม รอบหนึ่งน่าจะเกิน 3 เดือน ขึ้นไป ครับ ลองดูกราฟแล้วกะดูนะครับ สำหรับระยะสั้น ผมถือเอาราคาทำจุดต่ำยกสูง หรือทำ higher high เป็นการเริ่มขาขึ้นระยะสั้นครับ หรือถ้าดูตาม ma เมื่อก่อนผมเล่นเจ๊อู๊ดระยะสั้น ก็ใช้ราคาตัด ma5 ขึ้นหรือลงครับ สำหรับทองคำแท่ง ก็อยู่ที่ว่าเราจะเล่นถือยาวแค่ไหน ถ้าจะถือยาวแบบไม่ขายเลย ก็ไม่ต้องดูกราฟเลย ซื้อเข้าอย่างเดียวแบบอาคุงหมอเล็ก ถ้าถือแบบเล่นรอบซื้อมาขายไป ก็ต้องถามตัวเองว่าอยากถือยาวแค่ไหน ถ้าถือระยะกลางในรอบ 1-3 เดือน ก็เข้าซื้อขายตาม macd ตัดเส้นสัญญาณแบบผมก็ได้เหมือนกัน ถ้าจะเอายาวกว่านั้น ก็รอ macd ตัดขึ้นเหนือ 0 ค่อยเข้าซื้อ แ้ล้วรอขายเมื่อ macd ตัดลงต่ำกว่า 0 อีกครั้ง ยิ่งถือยาวเท่าไหร่ก็ยิ่งกำไรมาก หรือไม่ก็ขาดทุนมากเท่านั้น ตามหลัก high risk high return แต่ถ้าเล่นสั้นแบบพี่น้องรีหรือคุณเด็กขายของ ซื้อเช้าขายบ่าย ซื้อบ่ายขายเช้า ก็เป็นหลัก low risk low return เสี่ยงน้อย กำไรน้อย แต่กำไรบ่อย ๆ รวม ๆ แล้วก็รวยเหมือนกัน อันนี้แล้วแต่จะชอบ และการจัดสรรเวลาของแต่ละคน สำหรับผมไม่มีเวลาไปซื้อขายบ่อย ๆ ก็เลยเล่นตาม macd เป็นหลักครับ ซึ่งความจริง macd ก็คือ ma นั่นเอง จะใช้ ma12 ตัดกับ ma26 ก็จะได้จุดเข้าออกเหมือน macd ตัดขึ้นเหนือ 0 หรือตัดลงต่ำกว่า 0 เป็นจุดเดียวกัน และก็ใกล้เคียงกับราคาตัด ma50 ขึ้น หรือตัด ma50 ลงอีกด้วย จะเห็นว่าทฤษฎีทุกอย่างมันก็มาจากกระป๋องเดียวกันทั้งนั้น มันอยู่ที่เราจะเอามาใช้ยังไง ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 5, 2011 โดย ngoodin อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ngoodin 12,920 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 5, 2011 เอากราฟมาแสดงให้เห็นสำหรับคนที่เล่นตาม macd ระยะยาว คือรอ macd ตัดขึ้นเหนือ 0 ก็เข้าซื้อ รอ macd ตัดลงต่ำกว่า 0 ก็ขาย จะเห็นว่าจุดที่ macd ตัดกับ 0 ก็คือจุดที่ใกล้เคียงกับราคาตัด ma50 (เส้นสีน้ำเงิน) และใกล้เคียงกับจุดที่ ma12 ตัดกับ ma26 (เส้นสีแดงตัดกับเส้นสีเขียว) นั่นเอง เราจะใช้อะไรก็ได้ มีผลใกล้เคียงกัน ถ้าจะเล่นยาวกว่านั้นคือซื้อขายกันระดับปี ก็อาจจะใช้ ma200 เป็นจุดเข้าซื้อขายก็ได้ แต่ผมว่ามันยาวเกินไป ซื้อปีนี้ขายปีหน้า ถ้าออก sideway ก็ไม่ได้อะไรเลย อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ngoodin 12,920 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 5, 2011 สำหรับเพื่อน ๆ ที่เริ่มลงทุนตามระบบ ผมแนะนำว่าให้ทดลองเล่นระบบสั้น ๆ เงินลงทุนน้อย ๆ ก่อน เช่น ลงทุนตาม ma5, ma9 เพราะจะมีรอบให้เล่นหลาย ๆ รอบ ทำให้เราสามารถฝึกจิตใจให้ทำตามระบบได้ง่าย และรอบสั้น ๆ ความแตกต่างผันผวนของราคามีไม่มาก ทำให้สามารถอดทนได้ถ้าขาดทุน เพราะจะขาดทุนไม่มาก สามารถตัดใจ stop loss ได้ง่าย แต่กำไรก็ได้น้อยเช่นกัน ตามหลัก low risk low return หากฝึกลงทุนตามระบบในระยะสั้นได้แล้ว มีจิตใจมั่นคงสามารถทนดูราคาขึ้น let profit run ได้โดยไม่รีบขายไปก่อน หรือสามารถทนเห็นการขาดทุนไปเรื่อย ๆ ไม่รีบหนีจนกว่าจะมีสัญญาณขายหรือถึงจุด stop loss ที่กำหนดไว้ ดังนี้ ก็ค่อยปรับระบบไปลงทุนในระยะที่ยาวขึ้นได้ เพราะยิ่งระยะยาว การแกว่งตัวของราคาก็กว้างขึ้น หากกำไรก็กำไรได้มาก แต่หากขาดทุน ก็ขาดทุนได้มากเช่นกัน หากเพื่อน ๆ ลองศึกษารูปกราฟตาม macd จะเห็นว่าในบางรอบ บางตลาด เข้าซื้อตาม macd แล้วถือไว้ 3-5 เดือน สุดท้ายกลับไม่ได้กำไร หรือขาดทุนไปเลยก็มีถ้าตลาดแกว่งตัว side way แต่หากตลาดมีเทรนด์ขาขึ้น ก็จะได้กำไรบานเบอะทีเดียวกว่าจะมีสัญญาณขายออกมา อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น